รวมมิตร 16 ฉากเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี 2014

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก buzzfeed.com

          พบกับหนัง 16 เรื่องที่มาพร้อมกับฉากเพลงสุดประทับใจแห่งปี 2014 ช่วยเสริมบรรยากาศของหนังและบอกอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม

          ไม่ว่าหนังเรื่องโปรดในปี 2014 จะทำให้คุณชื่นชอบด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่สิ่งที่คุณจะปฏิเสธไม่ได้แน่ ๆ ก็คือ ความไพเราะของเสียงเพลงช่วยสร้างความน่าประทับใจให้หนังแต่ละเรื่องได้ดีเสมอ และถ้าหากเรื่องไหนมีฉากเพลงซึ่งน่าจดจำล่ะก็ หนังเรื่องนั้นก็จะเข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคนได้ไม่ยาก ดังเช่นที่เว็บไซต์ BuzzFeed ได้พูดถึงหนังเด่น 16 เรื่องที่มีฉากเพลงยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2014 ซึ่งแนวเพลงที่ปรากฏในแต่ละฉากก็มีทั้งสนุก เศร้า เหงา รัก ปะปนกันไปตามอารมณ์ของตัวละคร ถ้าอย่างนั้นไปดูกันเลยแล้วกันว่าคุณเคยเห็นฉากเหล่านี้ผ่านตาบ้างหรือเปล่า


1. The Skeleton Twins

          ความน่าสนใจของหนังเรื่อง The Skeleton Twins ไม่ได้อยู่ที่บทดราม่าอันบีบหัวใจ แต่อยู่ที่การสร้างความประทับใจให้ผู้ชมอมยิ้มเป็นพัก ๆ อย่างเช่นฉากที่ ไมโล (บิล เฮเดอร์) พยายามง้อพี่สาวที่อยู่ในอาการโกรธด้วยการลิปซิงค์เพลง Nothing’s Gonna Stop Us Now ของวง Starship และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักพี่สาวของเขาก็ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มและลุกขึ้นเต้นกับน้องชายอย่างสนุกสนาน ถือเป็นอีกหนึ่งฉากเด่นที่หลายคนจะไม่มีวันลืมเลยจริง ๆ


2. Guardians of the Galaxy

          นอกจากความโหด มัน ฮา ที่ขนมาโชว์แบบเต็มพิกัดแล้ว หนังดังแห่งปีอย่าง Guardians of the Galaxy ยังอัดแน่นไปด้วยบทเพลงสุดฮิตจากยุค 80s อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่นฉากเปิดเรื่องของ ปีเตอร์ ควิลล์ (คริส แพรตต์) ที่สร้างรอยยิ้มด้วยการเต้นและร้องเพลง Come and Get Your Love ของวง Redbone ซึ่งต่อมาบทเพลงนี้ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเพลงประกอบหนังที่ดีที่สุดของปี 2014 เลยทีเดียว


3. A Girl Walks Home Alone At Night

          ถึงแม้ว่า A Girl Walks Home Alone At Night จะเต็มไปด้วยบรรยากาศชวนขนลุก แต่หนังเรื่องนี้ก็สามารถใส่ความโรแมนติกผ่านฉากเพลงของ White Lies ที่ชื่อว่า Death ออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเพลงดังกล่าวช่วยสร้างบรรยากาศความรักของแวมไพร์สาวและแฟนหนุ่ม ที่ถึงแม้เธอจะออกไปทำเรื่องน่ากลัวมาเพียงใด แต่เมื่อมาอยู่ในอ้อมกอดของคนที่ตัวเองรัก โลกใบนี้กลับมีแค่เขาเพียงสองคน


4. Get On Up

          หนังชีวประวัติของ เจมส์ บราวน์ (James Brown) ที่มีชื่อว่า Get On Up สร้างความเร้าใจด้วยการเล่าวัยเด็กของ เจมส์ ในขณะที่เขาต่อสู้บนสังเวียนชกมวยในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยคนผิวขาว แต่ในช่วงที่การต่อสู้ทำให้เขาต้องล้มลง สายตาของเขาจับจ้องไปเห็นวงดนตรีกำลังเร่งเพลงแจ๊สอย่างนุ่มนวล ทันใดนั้นเอง เจมส์ ก็กลับมามีแรงสู้อีกครั้งพร้อมเสียงเพลงแจ๊สที่จังหวะเร้าใจยิ่งกว่าเดิม จนในที่สุดเขาก็ปราบคู่ต่อสู้ได้อย่างราบคาบ 


5. Whiplash
 
          หลายคนที่เคยดูหนังเรื่อง Whiplash คงจะทราบดีว่า ดีกรีความโหดของผู้ควบคุมวง ฟรีซเซอร์ (เจเค ซิมมอนส์) คือสิ่งที่บีบหัวใจเรามากที่สุด เพราะไม่ว่าใครจะผิดพลาดอะไรก็ตาม เขามักตอบสนองด้วยอาการเกรี้ยวกราดอยู่เสมอ ดังเช่นฉากที่พระเอก แอนดรูว ฝึกตีกลองด้วยจังหวะเทมโปท่ามกลางคำสั่งว่า "นี่ไม่ใช่เทมโปแบบของฉัน" จนทำเอาผู้ชมลุ้นจนตัวแข็งว่าเขาจะระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อไร เรียกได้ว่าฉากนี้น่ากลัวยิ่งกว่าหนังสยองขวัญหลายเรื่องเสียอีก  


6. Jersey Boys

          ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าหนังที่ดัดแปลงจากละครเพลงอย่าง Jersey Boys จะต้องมีฉากเพลงเจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่เป็นแน่ และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามคาดเมื่อฉากปิดของเรื่องนี้จบลงด้วยเพลง December, 1963 (Oh, What a Night) ของวง The Four Seasons โดยหลายคนชื่นชมว่านี่คือสิ่งที่ดีงามที่สุดที่ปรากฏในหนัง เพราะทุกตัวละครออกมาร้องเต้นกลางถนนร่วมกันอย่างชื่นมื่น สมแล้วที่เป็นหนังดัดแปลงจากละครเพลงชื่อดัง

7. Obvious Child

          ผลงานแนวโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง Obvious Child นำความสนุกสนานของเสียงกลองมาใส่ในฉากที่ ดอนน่า (เจนนี่ สเลต) กำลังจะมีความสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืนกับ แม็กซ์ (เจค เลซี่) หลังจากที่เธอเพิ่งอกหักมาหมาด ๆ โดยเสียงกลองเอาเร้าใจในฉากนี้ช่วยปลุกเร้าให้ตัวละครทั้งสองลุกขึ้นเต้นอย่างสนุกสนาน และที่สำคัญมันทำให้ผู้ชมอยากเคลื่อนไหวร่างกายไปพร้อม ๆ กัน


8. The Lego Movie

          แอนิเมชั่นเรื่องดังอย่าง The Lego Movie ได้รับคำชมว่าเป็นหนังสุดเจ๋งแห่งปี 2014 ซึ่งจะว่าไปความเจ๋งเหล่านั้นก็ปรากฏในฉากเพลง Everything Is Awesome ที่เล่าวิถีชีวิตของชาวเมืองบริกสเบิร์กออกมาได้อย่างน่ารัก ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทาง ร้านกาแฟ หรือชีวิตการทำงาน โดยองค์ประกอบทุกอย่างต่างพร้อมในร่วมแสดงในฉากนี้ได้น่าสนุกเสียจริง ๆ


9. Two Days, One Night

          ทันทีที่เพลง La Nuit N’en Finit Plus ของ เพทูลา คลาร์ก (Petula Clark) ถูกใส่เข้ามาในฉากขับรถของหนังเรื่อง Two Days, One Night ได้กระตุ้นต่อมความเศร้าของคาแรคเตอร์ มานู จนทำให้เขาปิดวิทยุหนีโดยทันที เนื่องจากชื่อเพลงนี้มีความหมายว่า ค่ำคืนที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อหาของมันไม่ค่อยเข้ากับชีวิตอันหดหู่ของเขาเท่าใดนัก แต่ในทางกลับกันภรรยาของเขากลับเปิดวิทยุขึ้นอีกครั้ง เพราะเข้าใจดีว่าชีวิตคนเรามันก็แบบนี้แหละ 


10. Beyond the Lights

          บทเพลงที่ชื่อว่า Blackbird ซึ่งขับร้องโดย นีน่า ซิโมน (Nina Simone) คือเพลงที่ใช้แทนความรู้สึกของตัวละคร โนนี ที่เต็มไปด้วยความเหงา โดดเดี่ยว และโหยหา โดยนักแสดงที่รับบทเป็น โนนี ในวัยเด็กต้องร้องเพลงนี้ในฉากที่เธอแสดงความสามารถบนเวที และหลังจากนั้นอีกไม่นานผู้รับบท โนนี วัยผู้ใหญ่ ก็ร้องเพลงนี้อีกครั้งในช่วงค้นหาตัวเอง


11. Wild

          ตัวละครหลักอย่าง เชอรีล สเตรย์ส (ริส วิทเธอร์สปูน) ฮัมเพลง I’d rather be a hammer than a nail ในฉากเปิดของหนังเรื่องนี้ โดยเพลงดังกล่าวดัดแปลงจากเพลงพื้นบ้านของชาวเปรูที่ชื่อว่า El Condor Pasa ซึ่งความสำคัญของเพลงที่มีต่อหนังเรื่องนี้คือ มันเป็นเพลงโปรดที่แม่ของนางเอกชอบร้องให้ฟังตั้งแต่ยังเด็กนั่นเอง


12. The Book of Life

          ความน่าตื่นตาของแอนิเมชั่นธีมแม็กซิกันอย่าง The Book of Life อยู่ที่การขนบทเพลงคุ้นหูมาเอาใจนักดูหนังทุกเพศทุกวัย แต่ฉากที่ตึงใจหลายคนได้ไม่ลืมน่าจะเป็นช่วงที่ตัวละคร มาโนโล่ ซานเชส หยิบกีตาร์ขึ้นมาแล้วร้องเพลง Creep ของวง Radiohead ที่บรรยายโศกเศร้าและความปรารถนาในใจของ ทำเอาผู้ชมส่วนใหญ่ซาบซึ้งกับฉากนี้ไปตาม ๆ กัน

โพสต์โดย Cinema

13. Snowpiercer

          เรื่องราวของ Snowpiercer เกี่ยวข้องกับมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่อาศัยบนรถไฟซึ่งวิ่งรอบโลก โดยทั้งหมดต้องซ่อนตัวจากอากาศอันหนาวเหน็บและถูกกระจายไปตามโบกี้ต่าง ๆ ตามแต่ละชนชั้น ซึ่งแนวคิดที่ว่านี้ถูกสะท้อนผ่านบทเพลงที่ครูและนักเรียนร้องร่วมกันว่า "เกิดอะไรขึ้นถ้ารถไฟขบวนนี้หยุดวิ่ง ? พวกเราก็จะแข็งตายกันหมดน่ะสิ !" ถือเป็นการเตือนสติว่าบนรถขบวนนี้ใครใหญ่ที่สุด


14. Begin Again

          ความน่าประทับของหนังเรื่อง Begin Again คือเสียงเพลงอันไพเราะที่ถูกถ่ายทอดผ่านนักแสดงเสียงใส โดยฉากที่ทำให้ผู้ชมเริ่มตกหลุมรักหนังเรื่องนี้ ได้แก่ ฉากที่ตัวละคร เกรตต้า (คีร์รา ไนท์ลีย์) ร้องเพลงในผับด้วยกีตาร์เพียงตัวเดียว แต่ในขณะที่ไม่มีใครสนใจการแสดงของเธอเลยสักนิด โปรดิวเซอร์ตกอับอย่าง แดน (มาร์ค รัฟฟาโร่) กลับเล็งเห็นพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ อันเป็นจุดเริ่มต้นของความโรแมนติกที่ทำให้ผู้ชมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง

15. The Equalizer

          ตัวละคร โรเบิร์ต แมคคอล (เดนเซล วอชิงตัน) ใช้เวลาในช่วงทำงานเป็นพนักงานขายวัสดุก่อสร้างร้องเพลง Midnight Train to Georgia โดยฉากนี้เริ่มขึ้นก่อนที่เขาจะกล่าวติดตลกกับเพื่อนร่วมงานว่า เขานี่แหละเคยเป็น Pips แห่งวง Gladys Knight & the Pips ซึ่งเป็นเจ้าของเพลงนี้


16. The Rover

          ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคหลังการล่มสลายของประเทศออสเตรเลีย อาจทำให้หลายคนนึกภาพไม่ออกว่า The Rover จะสร้างความรื่นรมย์ในฉากเพลงได้อย่างไร แต่ในคราวนี้ผู้กำกับ เดวิด มิชอด (David Michôd) ขอแทรกอารมณ์สุนทรีด้วยการให้พระเอก โรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson) ฮัมเพลง Pretty Girl Rock ของ เคอรี ฮิลสัน (Keri Hilson) ในระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปกับตัวละครของ กาย เพียร์ซ (Guy Pearce)

          เห็นหรือยังว่าถึงแม้จะไม่ใช่หนังมิวสิคัลโดยตรง แต่หนังหลายเรื่องก็ใช้เพลงเพื่อสื่อสารกับคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าแต่ละผลงานควรค่าแก่การจดจำมากจริง ๆ