ท่านมุ้ย แจง นเรศวร-สุริโยทัย ไม่ใช่หนังของสหมงคลฟิล์ม

           หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ออกโรงแจง นเรศวร-สุริโยทัย ไม่ใช่หนังของสหมงคลฟิล์ม ลั่นอีกฝ่ายไม่เคยร่วมลงทุนสักบาทเดียว เป็นแค่ตัวแทนจัดจำหน่าย

           ทำเอาโลกออนไลน์แทบลุกเป็นไฟหลังมีข่าวการระงับฉายภาพยนตร์ชื่อดังที่หลายคนต่างเฝ้าคอยอย่าง Fast & Furious 7 จากการที่ค่ายหนังดังอย่าง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ยื่นเรื่องขอศาลแพ่งให้มีการระงับการฉายภาพยนตร์ชื่อดังที่หลายคนต่างเฝ้าคอยอย่าง Fast & Furious 7 ชั่วคราว เพราะไปละเมิดสัญญา การฟ้องร้องเรื่องสัญญาระหว่าง นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง กับ จา พนม นักแสดงชื่อดัง ที่ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวด้วย ไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา

           ในเวลาต่อมาก็มีชาวเน็ตผู้ใช้งานเว็บไซต์พันทิปคุณ สสารนิยม ได้ตั้งกระทู้เชื่อมโยงไปถึง หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย ผู้กำกับมากฝีมือ ที่ผลงานภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวสานหงสา ที่มีคิวจะเข้าโรงฉายเร็ว ๆ นี้แล้ว ในกระทู้ "ท่านคิดว่าถ้าท่านมุ้ยจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราวการแบนหนัง Furious 7 ครับ" จนมีคนเขามาถกถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก  ทั้งแง่ดีและแง่ลบ โดยส่วนใหญ่ได้เรียกร้องให้มีการยกเลิกการระงับฉาย Fast & Furious 7 นอกจากนี้ยังมีคนชี้แจงถึงรายละเอียดว่าค่ายสหมงคลฟิล์มนั้นเป็นเพียงบริษัทตัวเเทนจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไม่ใช่ผู้สร้างภาพยนตร์โปรดอย่านำมาเหมารวม


           ล่าสุด ท่านมุ้ย ก็ได้เข้ามาตอบในกระทู้ดังกล่าวเช่นกัน ว่า...

           "ไม่ว่าจะเป็นสุริโยทัยหรือนเรศวรทุกภาคไม่ใช่หนัง ของสหมงคล สหมงคลไม่เคยลงทุนในหนังเลยแม้แต่ภาคเดียว สหมงคลเพียงแต่เป็นผู้จัดจำหน่ายแล้วชักเปอร์เซ็นต์จากรายได้ สุริโยทัยกับนเรศวรเป็นหนังของพร้อมมิตร ค่าสร้างมาจากเงินที่กู้จากธนาคาร

           ส่วนเงินที่ได้จากการช่วยเหลือจากรัฐบาลไม่ใช่เพียงแต่บริษัทพร้อมมิตรเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับการช่วยเหลือ แต่ยังมีอีกหลายบริษัทที่ได้รับส่วนแบ่ง มีหลายเรื่องที่ได้รับเงินไปแล้วแต่ไม่สร้าง มีหลายเรื่องที่สร้างไปแล้วแต่ไม่ได้ฉาย แต่มีเพียงบริษัทเดียวที่ต้องคืนเงินให้รัฐบาลก็คือบริษัทของผม เงินที่ได้รับช่วยเหลือต้องส่งคืนให้รัฐบาล ที่ได้รับช่วยเหลือก็เพียงแค่ตอนสาม แต่ต้องหักเงินจากตอนสี่กับตอนห้า (และตอนหก) ถึงโดนฟ้องร้องล้มละลายอย่างไรล่ะครับ แล้วเรื่องเกณฑ์เด็กไปดูหนังทางบริษัทไม่มีปัญญาเกณฑ์ให้ใครไปดูได้หรอกครับ แต่ถ้าโรงเรียนต่าง ๆ อยากซื้อตั๋วเหมาเราก็จะจัดการให้ เหมารวมราคาถูก (ทางโรงเขาจะคิดราคาเต็ม) ส่วนเรื่องให้ดูฟรีนั่นก็เพราะทางทหารเคยช่วยเหลือเราในการสร้าง เขาขอร้องให้เราฉายฟรีเพื่อคืนความสุขให้ประชาชนเราก็ยินยอมโดยให้หนังไปฉายฟรี ไม่ใช่เพื่อการพีอาร์หรืออะไรทั้งสิ้น

           ส่วนเรื่องแบนหนัง ff7 เป็นเรื่องของเสี่ยเจียงกับจา พนม เสี่ยเจียงลงทุนไปมากเพื่อให้จา พนม เป็น จา พนม ที่คนรู้จักกันทั้งโลก เมื่อจาไปเล่นหนัง ff7 โดยไม่มาปรึกษาก่อน เสี่ยเจียงก็คงแค้นแทบกระอักเลือด แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่ได้เจอเสี่ยเจียงมาเป็นปีแล้วครับ"