ช่วงซัมเมอร์ของทุกปีในสหรัฐฯ เป็นช่วงเวลาทองที่ค่ายหนังต่าง ๆ จะปล่อยหนังของตัวเองลงสนาม ซึ่งในช่วงซัมเมอร์ 2016 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่องอาศัยช่วงเวลานี้เข้าฉายพร้อมกัน แต่เห็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะมีหลายเรื่องที่ "แป้ก" ทั้งในแง่คำวิจารณ์และรายได้ ซึ่งกระปุกดอทคอมได้รวบรวมรายได้จากเว็บไซต์ Box Office Mojo มาเป็นหนัง 8 เรื่อง ที่ทำรายได้ไม่เข้าเป้าในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา มาดูโฉมหน้าผู้เจ็บหนักพร้อมกันเลย
หนังคลาสสิกแห่งปี 1959 ถูกนำมาสร้างใหม่โดยฝีมือของผู้กำกับ ทิเมอร์ เบ็กแมมบีทอฟ (Timur Bekmambetov) แต่น่าเสียดายที่การกลับมาในฉบับ 2016 กลับประสบความล้มเหลวบน Box Office มากที่สุดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยหนังทำรายได้จากทั่วโลกเพียง 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่ต้องพูดถึงรายได้ในประเทศที่กวาดไปเพียง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บอกเลยว่ามีคนเจ็บหนักแน่นอน
The BFG
ด้วยรายได้ในประเทศ 54 ล้านดอลลาร์ และจากทั่วโลกเพียง 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผลงานเรื่องนี้ของผู้กำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ถูกจัดอยู่ในหมวดหนังแป้กประจำซัมเมอร์ 2016 อย่างไม่เต็มใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นใคร ๆ ต่างคาดว่าการร่วมงานครั้งแรกระหว่าง Disney กับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก จะต้องออกมายิ่งใหญ่ และโกยเงินอย่างมหาศาลแน่นอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The BFG Movie
Alice Through the Looking Glass
ต่อให้คำวิจารณ์จากภาคแรกจะไม่เข้าท่า แต่ค่าย Disney ก็เลือกที่จะไม่สนใจ และคลอดภาค 2 มาสานต่อความสำเร็จที่เคยทำไว้ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผลสุดท้าย Alice Through the Looking Glass กลับทำรายได้ในประเทศเพียง 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายได้รวมจากทั่วโลกหยุดที่ 295 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Disney Alice
Ghostbusters: Answer The Call
การพลิกโฉมทีมนักแสดงเป็นผู้หญิงทั้งหมด ไม่สามารถส่งให้ฉบับรีบูตของ Ghostbusters ประสบความสำเร็จตามที่หวัง เพราะถึงแม้ทำรายได้เปิดตัวอย่างสวยงามในสัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ดิ่งลงเรื่อย ๆ โดยหนังทำรายได้ในประเทศ 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายได้จากทั่วโลกกวาดไปทั้งหมด 217 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งที่ตัวเลขควรจะสูงกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐจึงจะคุ้มทุน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ghostbusters
Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows
ดูเหมือนความสามารถของแก๊งเต่านินจา ยังไม่แกร่งพอที่จะผงาดบนตารางหนังทำเงิน เพราะการกลับมาในภาค 2 ของ Teenage Mutant Ninja Turtles ทำเงินในประเทศเพียง 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผิดจากภาคแรกที่เคยเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จ ส่วนรายได้จากทั่วโลกของภาคนี้คือ 242 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Independence Day: Resurgence
หลังจากภาคแรกกลายเป็นตำนานแห่งปี 1996 ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ID4 ภาค 2 จึงเข้าฉายด้วยความหวังว่าชาวอเมริกันจะต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ แต่กลายเป็นว่าหนังโกยเงินในประเทศเพียง 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าหนังภาคนี้กลับมาอย่างไม่สมศักดิ์ศรี ส่วนรายได้รวมจากทั่วโลกหยุดอยู่ที่ 383 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Independence Day
Star Trek Beyond
หนังภาค 3 ของแฟรนไชส์ Star Trek กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยรายได้ในประเทศ 151 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ อย่างไรก็ตาม Star Trek Beyond กลับต้องเช็ดน้ำตาเพราะทำผลงานในต่างประเทศไม่แรงอย่างที่คิด ส่งผลให้ตัวเลขจากทั่วโลกหยุดอยู่ที่ 244.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า หนังควรทำรายได้ทั่วโลกอย่างต่ำ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงจะคุ้มทุนสร้างและงบโปรโมทต่าง ๆ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Star Trek
Pete’s Dragon
แม้ได้รับเสียงวิจารณ์ด้านบวกค่อนข้างมาก และสร้างกระแสบอกต่อแบบปากต่อปาก แต่ผลสุดท้าย Disney กลับต้องผิดหวังกับรายได้ของ Pete’s Dragon ที่ทำผลงานในประเทศเพียง 55.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าน่าผิดหวังสำหรับหนังรีเมคที่เคยเป็นขวัญใจมหาชน ส่วนรายได้จากทั่วโลกก็หยุดอยู่ที่ตัวเลข 78.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก็ถือว่าต่ำมากอยู่ดี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pete’s Dragon
จากรายชื่อหนังทั้ง 8 เกือบทั้งหมดเป็นหนังภาคต่อ รีเมค ที่ได้รับความนิยมมาก่อนในอดีต ซึ่งการกลับมาอย่างน่าผิดหวังในรอบนี้ คือสัญญาณเตือนว่าความสำเร็จในอดีตไม่สามารถการันตีอนาคตได้เสมอไป เพราะเดี๋ยวนี้คนดูมีทางเลือกอื่น ๆ ให้เลือกชมกันอีกเยอะ