x close

ผู้พันเบิร์ดสุดประทับใจ ศึกนันทบุเรง





ผู้พันเบิร์ดสุดประทับใจ ศึกนันทบุเรง - ให้ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ดีของเรา (พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ)

          พ.ท. วันชนะ สวัสดี "ผู้พันเบิร์ด" เผย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4 ศึกนันทบุเรง มีแง่มุมน่าสนใจมากมาย เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่อยุธยาสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนอย่างยิ่ง เพราะมีทั้งศึกนอก - ศึกใน ถาโถม ในขณะที่เรามีไพร่พลไม่ถึง 1 ใน 10 ของกองทัพนันทบุเรงที่ยกมากว่า 2 แสนคน มุ่งตีอยุธยากลับเป็นเมืองขึ้นให้ได้ดังเดิม โดยมีศึกย่อยหลายสมรภูมิ

          "เอกราชที่สมบูรณ์ของเราได้มาจากศึกครั้งนี้แหละครับ อยากให้ทุกท่านได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางการรบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีการรับศึกและใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิม ใช้คนน้อยรบกับทัพใหญ่ ใช้การข่าวที่ดีทั้งเชิงรุกและรับ รบยื้อเวลาถึงฤดูน้ำหลากจนทัพกษัตริย์หงสาต้องยกทัพกลับไป เป็นยุทธศาสตร์ที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มและปัจจุบันก็ยังใช้กันอยู่







          แล้วยังมีความรุมเร้าของศึกที่เกิดขึ้นรายล้อมอยุธยา นอกเหนือจากทัพพม่าก็ยังมีละแวกที่เป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มแทงอยู่ ส่วนภายในก็มีการแยกตัวเป็นอิสระของพระยาพิชัยและพระยาสวรรคโลกที่สร้างความกดดันและอึดอัดกังวลใจต่อพระมหาธรรมราชาอีกเรื่องหนึ่ง นอกเหนือจากการประกาศอิสรภาพของพระนเรศ

          ฉากที่ผมประทับใจภาคนี้ คือฉากพระแสงดาบคาบค่ายกับฉากดวลทวนกับลักไวทำมูครับ.... พระแสงดาบคาบค่ายถ่ายทำยากมาก ครับ เพราะฉากรบที่ถ่ายตอนกลางคืนมีรายละเอียดต่าง ๆ มากมายในองค์ประกอบทุกด้านของการถ่ายทำ การเตรียมงาน การจัดไฟ เทคนิค มุมกล้อง ความสอดประสานกันของม้าที่วิ่งเข้ามา ธนูไฟที่ยิงออกมาจากกำแพง การพาดพะองหรือบันได ทหารพระนเรศปีนค่าย ทหารพม่าบนกำแพงค่ายใช้อาวุธทำร้ายตกบันได และอีกสารพัดเรื่อง ทั้งยังต้องซ้อมกันหนักมากในตอนที่ตกจากกำแพงค่าย โดยท่านมุ้ยต้องการให้ตกลงมาด้วยความเร็วจริง แต่ใช้อุปกรณ์ช่วย ซึ่งก็ต้องคำนวณความเร็ว พร้อมทั้งหาวิธีการที่จะทำให้เหมือนจริง จึงมีการทดลองเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ หลายแบบให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในที่สุดก็ผสมผสานใช้สลิง รอก กระสวย และใบพัดช่วยกันจนลงตัว 






          ส่วนฉากดวลทวนกับลักไวทำมู ผมว่าเป็นความมหัศจรรย์ของการคิดครับ คือนึกไม่ถึงว่าจะมีการคิดค่ายกลคล้าย ๆ กับที่เคยเห็นในหนังสามก๊ก ซึ่งท่านมุ้ยและ อ. สุเนตรเล่าว่าอยู่ในยุคไล่เลี่ยกันและได้รับการถ่ายทอดเรียนรู้นำมาใช้กันจริง ๆ ... ตอนถ่ายทำฉากนี้รู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ

          ผมได้เรียนรู้ข้อคิดมากมายที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ในภาคนี้  ทั้งเรื่องความสามัคคีของแต่ละคนที่รวมกันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินได้ แต่ในทางกลับกันหากคนเราทำอะไรเพื่อตัวเอง หรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็อาจส่งผลถึงความล่มสลายของชาติได้อย่างไม่คาดคิด  จิตใจของผู้คนมีเรื่องรักโลภโกรธหลงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตกับปัจจุบันก็ไม่แตกต่างกันในหลาย ๆ แง่มุม ประวัติศาสตร์จึงเป็นบทเรียนที่ดีของเรา" ผู้พันเบิร์ด กล่าว

          พร้อมกันนี้ยังเล่าถึงความประทับใจในการทำงานกับ ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล - ผู้กำกับ ว่า "ท่านมุ้ยละเอียดกับงานมากครับ แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พยายามทำให้ทุกอย่างให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุดเท่าที่มีข้อมูลให้เราค้นคว้า และท่านทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่จริง ๆ ครับ"






















เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผู้พันเบิร์ดสุดประทับใจ ศึกนันทบุเรง อัปเดตล่าสุด 1 สิงหาคม 2554 เวลา 15:28:45 2,669 อ่าน
TOP