ตัวอย่าง The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part I
5 ฉากที่ทุกคนตั้งตารอใน The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1!! (มงคลเมเจอร์)
จากแฟรนไชส์ที่เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2008 สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้รวมไปกว่า 1,800 ล้านเหรียญทั่วโลก และทำให้โลกรู้จักชื่อของ โรเบิร์ต แพททินสัน, คริสเต็น สจ๊วต และ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ ในที่สุดการเดินทางของ "แวมไพร์ ทไวไลท์" ก็เดินทางมาถึงบทสรุปใน Breaking Dawn หนังสือเล่มสุดท้ายของวรรณกรรมชุดแห่งศตวรรษ ที่เล่าถึงเรื่องของการแต่งงานระหว่างสองเผ่าพันธุ์ การเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ การให้กำเนิดบุตรที่เกือบคร่าชีวิตแม่ จุดแตกหักกับกลุ่มแวมไพร์ราชวงค์โวลตูรี่ รวมถึงฝูงหมาป่าแห่งเผ่าควิลยูต
เรื่องราวในหนังสือ Breaking Dawn มีความยาวถึง 754 หน้า ทำให้มันถูกแบ่งออกเป็นสองภาค โดยภาคแรกที่ชื่อ The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1 ก็มีกำหนดฉายในวันที่ 17 พฤศจิกายน นี้ โดยจะเล่าเรื่องราวจนถึงช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของ เบลล่า โดยวันนี้ 3 นักแสดงนำและผู้กำกับ บิล คอนดอน ก็ได้เผยถึงความรู้สึกถึง 5 ฉากที่พวกเขาประทับใจใน Breaking Dawn - Part 1
ฉากแต่งงาน (Wedding Scene)
คริสเต็น สจ๊วต - ฉันอยากแสดงในฉากนี้มานานกว่า 4 ปี จนเมื่อถึงภาคนี้พวกเขาก็ไปถ่ายทำในช่วงสุดท้าย ทำให้ฉันต้องรอนานขึ้นอีกนิดก่อนที่ความฝันจะเป็นจริง แต่เมื่อฉันเห็นสถานที่ถ่ายทำงานแต่งงานเป็นครั้งแรก มันก็เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น ฉันต้องอยู่ในห้องเก็บตัวตลอดทั้งวัน เพราะตัวเองอยู่ในชุดแต่งงานและต้องไม่ให้ชุดเกิดความเสียหาย มันเหมือนกับว่าฉันกำลังจะแต่งงานจริง ๆ
คริสเต็น สจ๊วต - มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันประทับใจที่สุด มีตอนหนึ่งที่ฉันอยู่ในกองถ่าย และได้เห็นนักแสดงตั้งแต่ภาคแรกทุกคนนั่งอยู่บนม้านั่งในโบสถ์ เตรียมสวมบทเป็นแต่ละตัวละคร มันเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ และทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันใจจริง ๆ ฉันแทบอยากขอบคุณพวกเขาสำหรับการมาแทน เบลล่า เลย
เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ - ฉากแต่งงานเป็นฉากที่ผมชอบฉากหนึ่งใน Part I โดยเฉพาะช่วงเวลาฉากที่ เจคอบ ขอ เบลล่า เต้นรำเป็นครั้งสุดท้าย ภายในงานเลี้ยงก่อนพิธีแต่งงาน ถึงแม้ เจคอบ ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย เบลล่า และยังรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเธอส่งบัตรเชิญงานแต่งมาให้ แต่เขาก็ต้องเรียนรู้ที่จะแบกรับความเจ็บปวด ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ไม่เพียงแต่ เจคอบ และ เบลล่า จะรู้สึกเสียใจ แต่มันยังทำให้ทั้งผมและ คริสเต็น มีอารมณ์ร่วมไปด้วย
ฉากฮันนีมูน (Honeymoon Scene)
บิล คอนดอน – นี่คือช่วงเวลาที่มีความสุขของ เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า ก่อนที่การกระทำของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ผมคิดว่ามันสำคัญที่จะมอบความสุขแบบมนุษย์ให้ เบลล่า เป็นครั้งสุดท้าย นี่ยังเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน การไปถ่ายทำที่บราซิลเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม เพราะนั้นคือสถานที่ สเตฟานี่ เมเยอร์ ตั้งใจเขียนเป็นฉากฮันนีมูน และการได้ไปถ่ายทำสถานที่จริงก็เป็นเรื่องที่วิเศษ พวกเราค้นพบและไปถ่ายทำในสถานที่ที่เธอเขียนไว้ในหนังสือ ผมอยากให้แฟน ๆ ทุกคนได้เห็นมันมีชีวิตขึ้นมาจริง
โรเบิร์ต แพททินสัน - ช่วงเวลาที่ผมชอบใน Breaking Dawn - Part I ก็คือตอนที่ เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า ไปฮันนีมูนตามที่ต่าง ๆ ในบราซิล เพราะว่านี่คือการเดินทางที่จะเปลี่ยนชีวิตของ เบลล่า และยังเป็นการเปลี่ยนแปลงสถานะครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ผมว่ามันยอดเยี่ยมที่เรามีแฟน ๆ ทั่วโลก การได้เดินทางไปถ่ายทำในต่างประเทศ ทำให้เราได้เห็นปฏิกิริยาของแฟนที่แตกต่างออกไป สาวกทไวไลท์ในบราซิลจะมีความคลั่งไคล้ที่เข้มข้นกว่า พวกเค้าพยายามเข้ามาในกองถ่ายเพื่อที่จะสัมผัสตัวคุณ (หัวเราะ) แต่มันเป็นประสบการณ์ที่สนุก
ฉากเลิฟซีน (Love Scene)
บิล คอนดอน – ผมรู้ดีว่ามันเป็นฉากที่หลายคนตั้งตารอ และก็อยากรู้ว่าเราทำยังไงกับมัน ผมใช้เวลาตรึกตรองอย่างหนักว่าตัวเองจะถ่ายทอดมันออกมายังไง เพราะคุณต้องทำให้ได้ตามที่แฟน ๆ คาดหวัง แต่มันก็ต้องมีบางอย่างที่ทำให้พวกเขารู้สึกแปลกใจและตื่นเต้นกว่าเดิมเมื่อได้เห็น ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นจะมอบอารมณ์หวานขมให้กับคนดู
โรเบิร์ต แพททินสัน - เชื่อหรือไม่ว่าก่อนถ่ายทำฉากนี้ ทั้งผมและ คริสเต็น แทบไม่ได้เตรียมตัวเลย พวกเราก็เข้ามาแสดงในฉากนี้ด้วยสมองที่ปลอดโปร่งที่สุด นักแสดงหลายคนพูดว่าฉากร่วมรักมักทำให้พวกเขาประหม่า... ซึ่งมันก็เกิดขึ้นผมและ คริสเต็น ถึงแม้ว่าเราจะคบกันในชีวิตจริง แต่เมื่อสวมบทเป็นตัวละครที่แฟน ๆเชียร์ให้รักกันมานานหลายปี มันก็ทำให้คุณรู้สึกกดดันแบบพูดไม่ถูกเหมือนกัน
ฉาก เจคอบ ตั้งวูล์ฟแพ็คใหม่ (New Wolf Pack Scene)
เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ - ถ้าใครอ่าน Breaking Dawn ก็จะรู้ว่าหนังสือถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน โดยส่วนแรกและส่วนสุดท้ายจะเป็นมุมมองของ เบลล่า ในขณะที่ส่วนสองจะถูกเล่าผ่านมุมมองของผม มันเป็นช่วงเวลาที่คนดูจะได้ติดตามเรื่องราวฝั่ง เจคอบ เมื่อกลุ่มหมาป่ารู้ว่า เบลล่า ตั้งท้อง ซึ่งผิดสัญญาที่กลุ่มแวมไพร์ให้เอาไว้ พวกเขาจึงต้องการฆ่าเธอ นั้นคือจุดแตกหักที่ทำให้ เจคอบ แยกออกจากกลุ่ม และออกมาตั้งวูล์ฟแพ็คของตัวเองกับ ลีอาห์ และ เซ็ธ เคลียร์วอเตอร์ และยังร่วมมือกับครอบครัวคัลเลนเพื่อไม่ให้ แซม และวูล์ฟแพ็คมาทำร้าย เบลล่า
เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ - ผมคิดว่านี่จะเป็นช่วงเวลาที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ของ เจคอบ แน่นอนที่เขาต้องดิ้นรนกับสถานะของตัวเอง มันเป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะเขาทุ่มเทความรักให้กับ เบลล่า แต่ก็ต้องหัวใจสลายเมื่อเธอไม่ได้เลือกเขา การกระทำของ เจคอบ แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่เติบโตขึ้น และเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำฝูง ถ้านั้นหมายถึงการที่เขาต้องแยกจากพวกเดียวกันเอง
ฉากกำเนิด เรเนสมี (Birth Scene)
คริสเต็น สจ๊วต - สำหรับฉากเกิดของ เรเนสมี พวกเราอยากทำให้คนดูเห็นจากมุมมองของ เบลล่า ในขณะที่เธอกำลังนอนอยู่ตรงนั้น ทุกสิ่้งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ เราจะเห็นจากสายตาของ เบลล่า เธอมองขึ้น มองลง หรือส่ายหัวด้วยความเจ็บปวด ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ของการคลอดทุกวินาที ยิ่งถ้าคุณได้อ่านหนังสือ คุณก็จะรู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นและบีบหัวใจที่สุด เราต้องการทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่มีเลือดเนื้อ
โรเบิร์ต แพททินสัน - ผมชอบฉากเกิดของ เรเนสมี มันเป็นอะไรที่แตกต่างจากที่เกิดขึ้นใน Twilight ทุกภาค มันไปไกลเกินกว่าที่ทุกคนคาดถึง พวกเราพยายามถ่ายทำให้ออกมาตามที่ สเตฟานี่ เขียนเอาไว้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับแฟนนิยายที่สุด มันไม่มีทางเลือกอื่นเลย ผมจำได้กับการที่เราใช้หุ่นกลแทนทารกจริง ๆ ผมยังรู้สึกผวาอยู่เลยเมื่อนึกถึงสิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง (หัวเราะ)
เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ - ฉากนี้เป็นความท้าทายที่สุดสำหรับผมในการแสดงเป็น เจคอบ โดยผมเข้ามาในห้องแล้วเห็น เบลล่า เสียเลือดจนใกล้ตาย เขาจึงรู้สึกแค้นและต้องการฆ่าทารกที่เพิ่งเกิด แต่ทันทีที่เธออยู่ต่อหน้า เจคอบ ก็เปลี่ยนเป็นการผูกวิญญาณแทน ซึ่งผมต้องถามทั้ง บิล คอนดอน และ สเตฟานี่ย์ ว่าการผูกวิญญาณนั้นเป็นยังไง ผมหวังว่าตัวเองคงทำออกมาได้ตรงตามที่ทุกคนหวังเอาไว้
ดูหนัง หนังใหม่ โปรแกรมหนัง หนังตัวอย่าง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก 
