x close

จริงหรือที่ไวรัสไม่มีทางหายไป หาคำตอบได้ใน Contagion







Contagion

Contagion



จริงหรือที่ไวรัสไม่มีทางหายไปได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ ค้นหาคำตอบได้ใน Contagion - สัมผัสล้างโลก (Warner Bros. Pictures)


          ก่อน สก็อตต์ ซี. เบิร์นส จะเริ่มสร้างผลงานจากบทภาพยนตร์เรื่อง Contagion เขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านโรคติดต่อ และกำหนดให้ตัวเองต้องศึกษาข้อมูลเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความถูกต้องของเนื้อเรื่องที่เขาและโซเดอร์เบิร์กต้องการถ่ายทอด "ผู้คนเหล่านี้" เขากล่าวอย่างประหลาดใจว่า "ดูกระตือรือร้นจนพวกเราส่วนใหญ่ต้องตกใจ"

          ในบรรดาผู้ให้ความช่วยเหลือและมอบความรู้ให้พวกเขาตลอดเวลาคือนายแพทย์ ดับบลิว. เอียน ลิปกิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรคที่ Columbia University และผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ประสาทวิทยาและพยาธิวิทยา นายแพทย์แลร์รี่ บริลเลียนต์, MPH, board-certified ด้านยาป้องกันและผู้บริหาร Skoll Global Threats Fund; เจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาที่ฝึกฝนโดย CDC นายแพทย์มาร์ค สโมลินสกี, MPH และ Skoll Global Threats; นาธาน โวล์ฟ, MA, DSc, ผู้อำนวยการแห่ง The Global Viral Forecasting Initiative และหนึ่งในสมาชิกของทีมงานที่ค้นพบ Hantavirus และนักเขียนเรื่องวิทยาศาสตร์ลอว์รี่ แกร์เร็ตต์, นักวิจัยอาวุโสแห่ง Global Health ที่ Council on Foreign Relations และผู้แต่ง The Coming Plague

          พวกเขาไม่ได้แบ่งปันความรู้เฉพาะของพวกเขาในฐานะที่ปรึกษาเฉพาะทางเท่านั้น พวกเขายังเปิดโอกาสให้ผู้สร้างภาพยนตร์และนักแสดงให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ช่วยสร้างผลงานพวกเขาให้เป็นรูปร่างได้ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ลิปกินก็ปรากฏตัวในฉากอย่างต่อเนื่องด้วย แชมเบิร์กกล่าวว่า "เมื่อเราเชิญผู้ชมเข้าสู่ห้องแล็บระดับสูงในภาพยนตร์แนวนี้ เราต้องการเครื่องมือที่ดูเหมาะสม เราต้องการระเบียบขั้นตอนและคำพูดที่ดูน่าเชื่อถือ และเหล่านักแสดงต้องถูกควบคุมในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นอย่างเข้มงวด" 

          จากการอ้างอิงมาจากบทภาพยนตร์ที่ถูกเสนอมาของภาพยนตร์ ลิปกินออกแบบเชื้อโรคที่มีความรุนแรงในเรื่อง "Contagion" ให้เป็นไวรัสในจินตนาการที่เขาสมมุติว่า "มีความเป็นไปได้ทางชีววิทยา" โดยอ้างอิงเชื้อสายมาจากหลักวิทยาศาสตร์ของจริง ซึ่งคล้ายกับ Coronavirus ที่มีอยู่ แต่มีผลกระทบที่รุนแรงยิ่งกว่า และเขาถึงกับสร้างโมเดล 3 มิติของมันขึ้นมาเพื่อภาพยนตร์ด้วย

          "เป็นเวลากว่า 10-20 ปีในอดีต ระดับความถี่ที่เราได้เห็นการรายงานเกี่ยวกับโรคติดต่อที่ปรากฏให้เห็นมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ" เขากล่าว "มีตัวเลขปัจจัยที่สนับสนุนการเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการเคลื่อนย้ายของประชากรไปสู่บริเวณต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องมีการติดต่อกับสัตว์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่อาจกระทบต่อการจัดสรรของพวกแมลงต่าง ๆ และเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากรของมัน ทำให้มันนำเชื้อโรคทั้งหลายเข้าสู่พื้นที่ที่เหมาะสมยิ่งกว่า นอกจากนั้นสำหรับประชากร พวกเรายังมีการเคลื่อนย้ายสินค้าไปทั่วโลก มันจึงเป็นการผสมผสานกันของสิ่งต่าง ๆ "


Contagion

Contagion




          การได้รับความรู้ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Contagion" ทำให้ตอนนี้โซเดอร์เบิร์ก กล่าวว่า "ผมทั้งกังวลและป้องกันมากขึ้น รู้สึกกังวลกับคนที่เราคุยด้วย โดยรู้สึกว่ามันอาจมีเชื้อโรค ณ จุดใดจุดหนึ่งที่ก้าวล้ำและป้องกันมากขึ้นโดยเห็นจากระดับความรู้ และความสามารถของคนที่เป็นแถวหน้าของการป้องกันหากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ถึงแม้เราไม่เคยรับรู้ถึงความกล้าหาญของพวกเขา แต่เขาก็คือผู้กล้า เวลามีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาก็นั่งเครื่องบินและบินไปจัดการกับมันทันที 

          "เมื่อพวกเราเริ่มทำโปรเจ็กต์นี้ ความรู้ที่มีเกี่ยวกับภารกิจที่พวกเขาทำเป็นเรื่องผิวเผินไปเลย" ผู้กำกับกล่าวต่อ "เรารู้ว่ามันมีเรื่องวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวกับ แต่เราไม่เคยคิดถึงเรื่องความซับซ้อนของรัฐบาล ในทางปฏิบัติและ เกี่ยวข้องกับเรื่องของมนุษย์ที่พวกเขาเผชิญหน้าทุกครั้ง พวกเขาต้องสู้รบกับโรคติดต่อ ต้องอยู่ในห้องวิกฤติของพวกเขา และได้เห็นความแตกต่างที่พวกเขาต้องติดตามทุกรายละเอียด สิ่งน่าสงสัยที่ไม่ชอบมาพากลในหมู่บ้านที่ห่างไกลทั่วโลก… มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง ผมหวังว่าต่อไปผู้คนจะรับฟังสิ่งที่มาจาก CDC หรือ WHO พวกเขาจะรู้ว่ามีคนนับพันที่ยอมอุทิศตัว ผู้คนที่มีความกระตือรือร้นที่อยู่เบื้องหลังโดยให้สัมภาษณ์เหล่านั้น ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อรักษาความปลอดภัยให้พวกเรา"

          "สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ ความเกี่ยวข้องระหว่างเรากับไวรัสไม่มีทางหายไปได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้" เบิร์นสกล่าว "วิทยาศาสตร์ ยารักษาโรคและการติดต่อสื่อสารต้องมีการปรับปรุงขึ้น แต่มันก็มีความเสี่ยงที่มากขึ้น เพราะเรามีการเดินทางจากทวีปหนึ่งไปอีกทวีปหนึ่งอย่างรวดเร็ว นั่นคือสิ่งที่สตีเฟ่นกับผมอยากถ่ายทอดด้วยหนังเรื่องนี้ว่า เรามีส่วนเชื่อมต่อเช่นไร มันมีโครงสร้างในพื้นที่ที่ช่วยเหลือเรา แต่ในท้ายที่สุดมันก็ขึ้นอยู่กับการป้องกันของแต่ละฝ่ายโดยส่วนใหญ่"

          "และมันยังเป็นเครื่องเตือนใจว่า มนุษยชาติของเรามีความเปราะบางแค่ไหน" แม็ตต์ เดม่อน กล่าว "ผมได้ยินการรายงานเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ของเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา และพวกเขาประมาณการประชากรในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่พวกเขาจะเรียกว่าวันสิ้นโลก ไม่ใช่เพราะการเสียชีวิตเท่านั้น แต่เพราะพวกเขาได้ให้เวลากับมันก่อนที่โครงสร้างทางสังคมจะเสื่อมสลายลงด้วย และหนังเรื่องนี้ก็เคลื่อนที่ไปในช่วงเวลาเดียวกัน"

          ระหว่างการถ่ายทำ แทบไม่มีนักแสดงและทีมงานคนไหนไม่กังวล ภาพยนตร์เรื่อง Contagion กระตุ้นความกังวลในปฏิสัมพันธ์ทุกวันของพวกเขา และมันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาบางอย่างไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ และมันยังส่งผลด้านอารมณ์ขันบ้าง บวกกับการทักทายจนกลายเป็นมาตรฐานการทักทาย แต่เบื้องลึกทั้งหมดคือความตื่นตัวขั้นใหม่โดยไม่เคยคาดคิดมาก่อน  

          Contagion - สัมผัสล้างโลก 29 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก 
  



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จริงหรือที่ไวรัสไม่มีทางหายไป หาคำตอบได้ใน Contagion อัปเดตล่าสุด 26 กันยายน 2554 เวลา 09:23:00 1,061 อ่าน
TOP