x close

ผู้กำกับเผย จัสติน เหมาะกับบท วิลใ น In time





In Time



ผู้กำกับเผย จัสติน ทิมเบอร์เลค เหมาะแล้วกับบท วิล - ทำงานจนตัวตาย ใน In time : ล่าเวลาสุดนรก (20th Century Fox)

          การค้นหานักแสดงในหนังสักเรื่องที่ทุกคนต้องมีอายุ 25 ปีอาจฟังดูเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ไม่ใช่สำหรับครั้งนี้ แม้ว่าลักษณะภายนอกอายุ 25 ปี แต่ภายในพวกเขาอายุมากกว่านั้น…บางคนอายุ 30, 50, 60 หรือบางคนมากกว่า 100 ปี ซึ่งนั่นต้องมีการแสดงออกด้วยการแสดง โดยไม่มีการแต่งหน้า ใช้เอ็ฟเฟ็กต์ต่าง ๆ หรือเทคนิค CGI

          "นักแสดงทุกคนต้องดูอายุประมาณ 25 ปี เพราะตามเรื่องราวแล้ว นั่นคือช่วงที่ยีนแห่งช่วงอายุจะหยุดทำงาน" นิคโคลอธิบายรายละเอียด อายุที่ระบุนั้นไม่ใช่อายุที่กำหนดขึ้นมาลอย ๆ "มันเป็นช่วงอายุที่เราเติบโตอย่างเต็มที่ เป็นช่วงที่สมองส่วนหน้าพัฒนาถึงขีดสุด" ผู้สร้างภาพยนตร์กล่าวต่อ "มันเป็นสมองส่วนที่ควบคุมพฤติกรรมที่ได้รับการกระตุ้นและไร้การควบคุม บริษัทจัดเช่ารถรู้ดีว่าจะไม่มีการปล่อยรถให้ผู้ที่อายุ 25 ปีเช่า มีตัวละครอีกหลายตัวในหนังที่มีอายุนับ 100 ปี ผมจึงต้องค้นคว้าเรื่อง "จิตใจของผู้สูงอายุ" ด้วย มีเพียงนักแสดงวัยรุ่นเท่านั้นที่สามารถแสดงเป็นผู้สูงอายุในร่างคนอายุ 25 ปี"

          นักแสดงคนหนึ่งที่กระโดดคว้าโอกาสในการรับบทแสดงเป็น "ผู้สูงอายุ" คือจัสติน ทิมเบอร์เลค มันเป็นก้าวแรกสู่การเป็นดาราที่โด่งดังของจัสตินที่ช่วยทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์เชื่อมั่นในความเหมาะสมของเขากับตัวละครของวิล "ผมชอบหลักการทำงานของจัสติน มันเป็นคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งที่เขานำมาร่วมแชร์ไว้ในตัวละครวิล ซาลาส" นิคโคลกล่าว "อันที่จริงมันเหมาะสมสุดๆ ที่จัสตินรับบทแสดงเป็นวิล วิลต้องตื่นขึ้นมาเพื่อไปทำงานทุกวัน ไม่งั้นก็ตาย ซึ่งผมคิดว่าจัสตินเองก็ไม่เคยหยุดทำงานเลยตั้งแต่อายุ 12 ปี ไม่มีเหตุผลไหนเลยที่เขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นพระเอกหนังแอ็คชั่น [อย่างบทของวิล] เพราะดูเหมือนเขาเก่งในทุกสิ่งที่เขาลงมือทำ"

          อีริค นิวแมน กล่าวเสริมว่า "จัสตินเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เขาอายุ 17 ปี ตอนนั้นเขาเป็นซูเปอร์สตาร์ เขาไม่ได้วัยเด็กแบบทั่วไป และเขาต้องรับผิดชอบสิ่งนั้น บุคลิกตัวละครของวิลเป็นคนที่น่าจะไม่มีช่วงชีวิตวัยเด็กเหมือนกัน เพราะในโลกใบนี้เราเกิดขึ้นมาพร้อมนาฬิกาอยู่บนข้อมือ ต้องใช้เวลาช่วง 24 ปีแรกเพื่อรอให้เวลานั้นเริ่มเดิน และเมื่อนาฬิกาเริ่มทำงาน เราก็มีเวลาน้อยกว่า 1 ปีแล้ว เราต้องเผชิญหน้ากับความตายอยู่ตลอดเวลา ผมคิดวาจัสตินทำงานหนักอย่างต่อเนื่องมากกว่าคนอื่น ๆ และเขานำจุดนั้นมาใช้ในการแสดงของเขาได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่าทั้งจัสตินและวิลมีหลัก "ทำงานจนตัวตาย" ที่คล้ายกัน พวกเขาใช้ชีวิตแบบเดียวกันเลย"

          ทิมเบอร์เลคเป็นแฟนภาพยนตร์แอ็คชั่นมาอย่างยาวนาน เขาคว้าโอกาสที่จะได้แสดงบทของตัวละครที่มีความกล้าหาญบนพื้นฐานแห่งชีวิตจริงและมีสีสันแห่งบทบาท "ตอนที่ผมเป็นเด็ก หนังเรื่องโปรดของผมเป็นหนังแอ็คชั่นอย่างเรื่อง First Blood, The Fugitive และ Die Hard" ทิมเบอร์เลคกล่าว "สิ่งหนึ่งที่ผมรักในหนังแนวนี้เป็นพิเศษ คือพระเอกเป็นคนธรรมดาที่ต้องตกมาอยู่เหตุการณ์ไม่ธรรมดา และต้องทำออะไรหลายสิ่งที่ไม่ธรรมดาด้วย"

          ความกล้าหาญของวิลถูกกระตุ้นขึ้นมาจากสาเหตุง่าย ๆ "วิลโตขึ้นมาจากการไม่มีอะไรเลย" ทิมเบอร์เลคกล่าว "เขาตื่นขึ้นมาทุกวันและต้องไปทำงานเพื่อเลี้ยงชีวิต ตลอดเหตุการณ์ต่าง ๆ เขาตัดสินใจว่าเขาจะไม่ทนรับมันอีกต่อไป และถือเป็นภาระส่วนตัวที่จะพยายามเปลี่ยนแนวทางของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้"

          "วิลโตขึ้นมาที่เดย์ตันซึ่งเป็นเหมือนสลัม มันเหมือนกับการประชดกับการใช้คำว่า "วัน" เพราะประชากรส่วนใหญ่แค่เดินไปมาเพื่อใช้ชีวิต ฉะนั้นการใช้ชีวิตแบบวันต่อวันที่เดย์ตันจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนไม่มีเวลาเดินอย่างช้า ๆ เลยต้องคอยวิ่งเกือบตลอดเวลาเพื่อไปยังจุดหมาย และพวกเขาต้องกินข้าวและดื่มน้ำเวลาวิ่งอยู่ตลอด พวกเขาไม่มีเวลาว่างหรือเวลาไร้สาระเลย ทุกอย่างดูบ้าคลั่งและมีชีวิตที่ดูเหมือนอันตรายแต่ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก เมื่อเราถูกต้อนจนมุมและไม่มีทางเลือก เราต้องหาทางแก้ไขและใช้ชีวิตในแบบที่มันควรจะเป็นเพื่อความอยู่รอด" 

          In Time : ล่าเวลาสุดนรก 27 ตุลาคมนี้โรงภาพยนตร์เท่านั้น






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผู้กำกับเผย จัสติน เหมาะกับบท วิลใ น In time อัปเดตล่าสุด 19 ตุลาคม 2554 เวลา 09:31:56 1,049 อ่าน
TOP