x close

Brokeback Everest หนังรักร่วมเพศเรื่องแรกในรอบ 60 ปีของเนปาล







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก france24.comfrance24.comfrance24.com

          ถ้าวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด มีภาพยนตร์เกี่ยวกับประเด็นรักร่วมเพศของชายรักชายอย่าง "Brokeback Mountain" ได้ วงการภาพยนตร์ของเนปาลก็สามารถเอาประเด็นรักร่วมเพศมาทำเป็นภาพยนตร์ได้ด้วยเหมือนกัน แถมยังเป็นเรื่องของเลสเบี้ยนอีกด้วย!!

          วงการภาพยนตร์ของเนปาลได้เกิดกระแสฮือฮาขึ้น เมื่อมีผู้กำกับภาพยนตร์รายหนึ่งตัดสินใจฉีกแนวภาพยนตร์ในรอบ 60 ปีของเนปาล ด้วยการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับประเด็นรักร่วมเพศขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า "Snow Flowers" หรือที่รู้จักกันในชื่อของ "Brokeback Everest" กับเรื่องราวความรักของสาวเลสเบี้ยนที่เรียบง่าย แต่ทว่า เต็มไปด้วยความซับซ้อนทางอารมณ์ของคนสองคนที่ตกหลุมรักกัน และต้องเผชิญกับความขัดแย้งและกฎเกณฑ์มากมาย จนต้องทุกข์ทรมานกับความรู้สึกต้องห้ามที่มีต่อกัน




ซูวาร์นา ธาปา ผู้กำกับ


          Snow Flowers เป็นผลงานการกำกับโดย "ซูวาร์นา ธาปา" (Suwarna Thapa ) ผู้กำกับชาวเนปาลที่ได้ไปอาศัยอยู่ที่กรุงปารีส ในประเทศฝรั่งเศส โดยเขานำเอาวัฒนธรรมที่เป็นเรื่องเสรีทางประเทศตะวันตก มานำเสนอกับสิ่งที่ตรงกันข้ามของประเทศตะวันออก พร้อมกันนี้ยังได้สองนักแสดงสาวทั้ง "ดิอา มาสคีย์" (Dia Maskey) และ "นิชา อาธิการี" (Nisha Adhikari) มาร่วมรับบทเป็นคู่รักเลสเบี้ยนในเรื่องนี้

          สื่อมวลชนของเนปาลเรียกภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "Brokeback Everest" ตามแบบของภาพยนตร์รักร่วมเพศของฮอลลีวูดอย่าง "Brokeback Mountain" ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์มาถึง 3 รางวัล และกวาดรายได้ไปมากกว่า 178 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากที่ฉายไปทั่วโลกเมื่อ 6 ปีก่อน เนื่องจากมีลักษณะการดำเนินเรื่องที่คล้าย ๆ กันอยู่พอสมควร จะต่างกันก็คือเรื่องของเพศเท่านั้น 

          นอกจากนี้แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นที่จับตามองของหลาย ๆ สื่อที่ไม่เพียงแต่ในเนปาลเท่านั้น เพราะเป็นที่คาดกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ประสบความสำเร็จในเนปาลเท่าที่ควร เนื่องจากชาวเนปาลโดยส่วนมากยังคงยึดถือแนวคิดอนุรักษ์นิยมกันอยู่ อีกทั้งยังไม่มีความก้าวหน้าด้านแนวคิดเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศอยู่พอสมควร

          เกี่ยวกับภาพยนตร์รักร่วมเพศเรื่องนี้ มีผู้ให้ความเห็นเอาไว้มากมาย เริ่มตั้งแต่ "อาธิการี" นักแสดงนำของเรื่องที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อเอาไว้ว่า "ถ้าในชีวิตของคนเราไม่สามารถเดินตามวิถีทางอย่างที่ต้องการได้ โดยมีเรื่องของเพศมาเป็นตัวกำหนด คำว่า "เสรีภาพ" ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย และหนังเรื่องนี้จะเป็นเสมือนสิ่งที่เปิดหูเปิดตาของผู้ชม ที่เคยมองประเด็นนี้อย่างไม่ละเอียดถี่ถ้วน"

          ด้านนาย "ซูนิล แพนท์" (Sunil Pant) นักการเมืองเนปาลที่ออกมายอมรับอย่างเปิดเผยว่าเป็นเกย์ ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "หนังเรื่องนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่สำหรับสังคมและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่มีขนาดเล็กของเนปาล ชาวเนปาลเป็นคนที่มีความอดทนอดกลั้นได้ดี และเชื่อว่าพร้อมที่จะปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างเท่าเทียม ทุกคนควรมีเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิ์ที่จะได้ชมภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นภาพชีวิตของกลุ่มคนรักร่วมเพศได้อย่างเปิดเผย และผมจะเป็นคนหนึ่งแน่นอน ที่จะต้องดูหนังเรื่องนี้ให้ได้"

          แน่นอนว่าด้วยกระแสที่แรงขนาดนี้ ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยศาสตราจารย์ "ไชทานย่า มิชห์รา" (Chaitanya Mishra) อาจารย์ด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยตรีภูวัน ในกรุงกาฏมัณฑุ ได้แสดงความเห็นเชิงคัดค้านไว้ว่า "ด้วยตัวบทของหนัง รวมถึงข่าวประชาสัมพันธ์จากสื่อต่าง ๆ ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของคนรักร่วมเพศ เป็นสิ่งที่ไม่ควรได้รับการยอมรับหรือได้รับการสนับสนุนมากมายเช่นนี้" 

          "แม้หนังจะแสดงถึงความรักที่ไม่สมหวังของกลุ่มคนรักร่วมเพศ และชี้ให้เห็นว่าในสังคมนี้ยังมีผู้คนที่ต้องประสบปัญหาเช่นเดียวกับพวกเขามากมาย แต่ต้องอย่าลืมว่าเรื่องต่าง ๆ จำเป็นต้องมีขอบเขต ไม่ใช่เพียงแค่บอกคนดูให้หลุดพ้นจากรักไม่ที่ไม่สมหวังแบบนี้" ศาสตราจารย์มิชห์รา กล่าวเสริม

          ทั้งนี้ นายธาปา ผู้กำกับภาพยนตร์ได้กล่าวไว้ว่า ตัวเขาเองไม่ได้ต้องการแค่จะให้คนเนปาลได้ชมภาพยนตร์ที่จะบอกว่า "เลสเบี้ยนเป็นอย่างไร" แค่นั้น หากแต่ต้องการจะนำเสนอความรักในแง่มุมใหม่ ๆ โดยตัวบทของภาพยนตร์ไม่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความตกตะลึงให้ผู้ชมเหมือนกับที่หนังสงครามหรือหนังชวนเชื่อเรื่องอื่น ๆ แต่ก็ยอมรับอยู่เนือง ๆ ว่า "Snow Flowers" หรือ "Brokeback Everest" นี้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้คนในสังคมเนปาลอยู่พอสมควรเลยทีเดียว






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Brokeback Everest หนังรักร่วมเพศเรื่องแรกในรอบ 60 ปีของเนปาล อัปเดตล่าสุด 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา 10:35:26 1,321 อ่าน
TOP