เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก M39, รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ทมยันตี ยืนยัน คู่กรรม 2013 เวอร์ชั่น ณเดชน์-ริชชี่ ถ่ายทอดตรงใจมากที่สุด โดยมีรายละเอียดครบทั้งเรื่องรัก สงคราม มโนธรรม ความพินาศ และความตาย ขณะที่เวอร์ชั่นอื่นจะนำเสนอเฉพาะเรื่องรักระหว่างรบ
หลังจากหนัง คู่กรรม 2013 ที่นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยด้านบวกจะบอกว่า ณเดชน์ เปล่งรัศมีความเป็นดาราเจ้าบทบาท ขณะที่ด้านลบคือเรื่องของบทหนัง และการแสดงของ ริชชี่ ที่หลายคนมองว่า เล่นแข็งมากเกินไป จนทำให้หนังเสียอรรถรสนั้น
หลังจากมีกระแสข่าวดังกล่าวออกมา วันนี้ (11 เมษายน) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า คุณหญิงวิมล เจียมเจริญ เจ้าของนามปากกา ทมยันตี ผู้เขียนบทประพันธ์เรื่อง คู่กรรม ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า ภาพยนตร์คู่กรรม 2013 สามารถตีความและถ่ายทอดอารมณ์ของตนได้มากที่สุด ตั้งแต่ที่เคยสร้างเป็นหนังมา โดยเฉพาะฉากต่าง ๆ ในภาพยนตร์ ที่คล้ายกับประสบการณ์จริงของตน ซึ่งเคยผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว ตนอยากให้แยกแยะคู่กรรมที่เป็นหนังและละคร ออกจากกัน ไม่อยากให้นำมาเปรียบเทียบกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากหนังคู่กรรมทุกเวอร์ชั่นที่ถ่ายทำออกมา ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องราวของความรักในช่วงสงคราม ระหว่างโกโบริกับอังศุมาลิน ซึ่งกี่เวอร์ชั่น คนดูก็จะคิดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องรักระหว่างรบ แต่กลับลืมมองความลึกซึ้งอื่น ๆ ที่ตนสอดแทรกเอาไว้ในเนื้อหา นั่นคือเรื่องของความรัก สงคราม มโนธรรม ความพินาศ และความตาย ตนอยากให้คนดูดูให้ครบ เพราะถือเป็นเหรียญ 2 ด้าน ของเรื่องเดียวกัน
คุณหญิงวิมล กล่าวอีกว่า คู่กรรม 2013 ของผู้กำกับ เรียว กิตติกร เลียวศิริกุล ยังถอดรหัสของหนังสือที่ตนตั้งใจจะสื่อได้เป็นอย่างดี โดยด้านหนึ่งคือเรื่องราวความรักใส ๆ ระหว่างหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติ ที่ต้องมาเป็นเหยื่อของสงคราม ขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นมุมของผู้ใหญ่ที่จะสะท้อนให้เห็นว่า แม้จะทำสงครามกันไป ผลสุดท้ายก็หนีพ้นไม่ความพินาศและความตาย โดยทหารมีหน้าที่เพียงรับคำสั่งให้ไปฆ่าศัตรู หรือไม่ก็ถูกฆ่า สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ตนตั้งใจแฝงไว้ในบทประพันธ์
สำหรับ คู่กรรม เวอร์ชั่นนี้ ณเดชน์ เล่นได้ 99 คะแนน จากเต็มคะแนนเต็ม 100 คะแนน สาเหตุที่ตนหัก 1 คะแนน เพราะณเดชน์หล่อเกินไป ในความคิดของตน โกโบริต้องไม่หล่อขนาดนี้ ส่วนน้องริชชี่ที่เป็นอังศุมาลิน ต้องยอมรับว่า บทนี้แสดงยากจริง ๆ ถ้าถามว่าริชชี่แข็งไหม ก็แข็ง เพราะอังศุมาลินเป็นคนแข็งมาก ถ้าใจไม่แข็งและไม่เด็ดเดี่ยวก็คงเป็นนางเอกเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นบทที่เธอรับคือแข็งลูกเดียว ซึ่งเธอก็คงเบื่อเหมือนกันที่มีคนวิจารณ์ว่าเธอเล่นแข็ง แต่นั่นคือบทจริง ๆ ของเธอ ตนตั้งใจจัดให้อังศุมาลินเป็นคนแข็ง เพื่อที่จะได้ดำเนินเรื่องไปกับหนุ่มน้อยโกโบริ
อย่างไรก็ตาม ตนชอบภาพและฉากสงครามต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้มาก เพราะภาพเหล่านั้นทำให้ตนถึงกับน้ำตาซึม เหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กและได้เห็นภาพเหตุการณ์จริงอีกครั้ง ซึ่งผู้กำกับคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้มีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
