x close

แวมไพร์ New Moon สูบเลือดทั่วโลก $274 ล้าน

twilight movie

The Twilight Saga New Moon



แวมไพร์ New Moon สูบเลือดทั่วโลก $274 ล้าน (สยามดารา)

          การฉายในสหรัฐฯ New Moon กลายเป็นผลงานเรื่องที่ 2 ของซัมมิต เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่ครองแชมป์ยูเอส บ็อกซ์ออฟฟิศ ในปีนี้ หลังจากปูพรมฉาย 8,500 จอใน 4,024 โรงทั่วประเทศ จนทำลายสถิตินับไม่ถ้วน โดยเริ่มต้นด้วยรายรับรอบมิดไนท์ในคืนวันพฤหัสบดี ($26.3 ล้าน) ตามด้วยรายรับในวันแรกที่เข้าฉาย ($72.7 ล้าน) ของ The Dark Knight เมื่อซัมเมอร์ 2008 และถึงจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ Twilight ภาคแรกที่รายรับจากวันศุกร์-เสาร์ ลดลง 42% แต่หากวัดเฉพาะตัวเงินจะเห็นว่าภาคนี้ทำได้สูงกว่า 2 เท่าทั้ง 2 วัน

          ทำให้พอสิ้นสุดวันอาทิตย์ ผลงานที่สร้างจากนิยายของ สเตเฟนี่ เมเยอร์ นักเขียนสาวชาวอเมริกัน กลายเป็นหนังที่ทำรายรับเปิดตัวสูงสุดในสหรัฐฯ ของปี 2009 และอันดับ 3 ตลอดกาลรองจาก The Dark Knight และ Spider-Man 3 เท่านั้น นอกจากนี้ยังทำลายสถิติเปิดตัวของเดือนพฤศจิกายน, หนังแวมไพร์, รายรับวันศุกร์, เข้าสู่หลัก $100 ล้านเร็วที่สุด (2 วันเท่ากับ Dark Knight แต่รายรับรวมมากกว่า) หรือแม้กระทั่งหนังรักวัยรุ่น และกลายเป็นว่าที่หนังแวมไพร์ที่จะทำรายรับสูงสุดตลอดกาลแทนที่ภาคแรกหลังจากไล่ตามอยู่เพียง $ 50 ล้านเศษเท่านั้น

          "เราได้เห็นสัญญาณที่ดีของรายรับตั้งแต่การฉายรอบมิดไนต์" ริชชี่ เฟย์ ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายของซัมมิต แสดงความยินดีกับความสำเร็จของหนังใช้ทุนสร้างไปเพียง $50 ล้านสูงกว่าภาคก่อนแค่ $13 ล้าน "การต้องเผชิญสถานการณ์อย่างที่ผ่านพ้นมาในวันเสาร์ถือเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดา แต่เป็นสิ่งที่พูดได้ว่าเรามีความสุขมาก"

          การสานต่อเรื่องราวของความรักต้องห้ามระหว่างนักเรียนสาวไฮสกูล เบลล่า สวอน (เคิร์สเท่น สจ๊วร์ต) กับแวมไพร์ผู้ไม่มีวันตาย เอ็ดเวิร์ด คัลเล่น (โรเบิร์ต แพททินสัน) สร้างความสนใจให้แฟนหนังโดยเฉพาะพวกสาววัยรุ่นได้มากขึ้น ด้วยการดัน เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ในบท เจค็อบแบล็ค ให้ขึ้นมาโดดเด่นกว่าภาคแรกและเรียกคะแนนสงสารจากการตกเป็นมือที่ 3 ในความรักของ เบลล่า-เอ็ดเวิร์ด จนทำให้ 80% ของกลุ่มคนดูชาวอเมริกันเป็นผู้หญิง โดยเกินกว่าครึ่งอายุน้อยกว่า 21 ปีและซัมมิตยังมีสัญญาณที่ดีอีกอย่างคือตัวเลขกลุ่มคนดูผู้ชายที่สูงขึ้นก่อนเข้าสู่ The Twilight Saga: Eclipse ที่จะเข้าฉายวันที่ 30 มิถุนายน ปีหน้า

          ในส่วนของรายรับตลาดต่างประเทศอย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก ถึงจะเห็นอยู่แล้วว่า New Moon มีกระแสแรงแค่ไหนแต่ไม่น่าเชื่อว่าการเข้าฉายเพียง 25 ประเทศ จะทำรายรับได้สูงกว่า $118.1 ล้าน โดยทำรายรับเป็นสถิติเปิดตัวสูงสุดของออสเตรเลีย ($13.3 ล้าน) และนิวซีแลนด์ ($ 9 ล้าน) รวมทั้งครองแชมป์ในสหราชอาณาจักร ($18.7 ล้าน), อิตาลี ($13 ล้าน), ฝรั่งเศส ($17 ล้าน) และสเปน ($13.7 ล้าน)

2012 วันสิ้นโลก

2012 วันสิ้นโลก



          ความสำเร็จของ New Moon ส่งผลให้ 2012 วันสิ้นโลก หนังมหาภัยพิบัติของ โรแลนด์ เอ็มเมอริช ผู้กำกับคนดังที่สัปดาห์ก่อนเปิดตัวสั่นสะเทือนทั่วโลก สูญโอกาสทำเงินที่ควรจะได้มากกว่านี้ไป โดยที่สหรัฐฯ ต้องกระเด็นไปอยู่อันดับ 3 หลังจากทำรายรับสุดสัปดาห์ที่ 2 เพิ่มได้แค่ $26.4 ล้าน ลดลง 60% และสถานการณ์ในตลาดต่างประเทศก็ไม่แตกต่างกันตกมาอยู่อันดับ 2 ด้วยตัวเลข $100.5 ล้าน ลดลง 40% แต่โซนี่ สตูดิโอของหนังพอจะสบายใจได้หากดูรายรับรวมทั่วโลกที่ $456 ล้านสูงกว่า 2 เท่าจากทุนสร้างไปเรียบร้อย

The Blind Side

The Blind Side



          ที่สอดแทรกเข้ามาในอันดับ 2 แทนที่หนังทุนสร้างสูงและกระแสคลั่งไคล้แวมไพร์ ถือเป็นเซอร์ไพรส์ของ The Blind Side ที่สามารถเปิดตัว $34.11 ล้าน ทั้งที่มี ซานดร้า บูลล็อค เป็นนักแสดงนำที่พอจะเรียกผู้ชมได้เพียงคนเดียว แต่หนังอเมริกันฟุตบอลดราม่าเรื่องนี้อาศัยความรู้สึกประทับใจจากชีวิตจริงของ ไมเคิ่ล โอเฮอร์ แท็กเกิลของบัลติมอร์ เรฟเวนส์ที่ถูกครอบครัวมีฐานะรับเป็นลูกบุญธรรม ต่อสู้จนก้าวมาเป็นผู้เล่นระดับออลล์ อเมริกา และได้รับการดราฟต์ตัวเข้าสู่ศึกเอ็นเอฟแอล ในรอบแรก

          บูลล็อคที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่หนังโรแมนติกคอมเมดี้ ก็คงไม่อยากเชื่อตัวเองเช่นกันว่านี้จะเป็นผลงานแสดงนำที่เปิดตัวสูงสุดของเธอ ด้วยการเฉือนชนะ The Proposal ที่ทำได้ $33.6 ล้าน เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง หลังจากเธอทำให้หนังมีกลุ่มคนดูผู้หญิงมากถึง 59% และ 75% มีอายุสูงกว่า 25 ปี

          บรอเดริค จอห์นสัน ประธานร่วมของอัลค่อน เอนเตอร์เทนเมนต์ สตูดิโอผู้สร้าง The Blind Side ภายใต้การจัดจำหน่ายของวอร์เนอร์ให้ความเห็นว่า "เป็นสิ่งที่สวยงามจริง ๆ หลังจาก 10 ปีที่เข้าสู่ธุรกิจนี้ อัลค่อน สามารถมีหนังฮิตแบบนี้ เราทำงานอย่างหนักมากเพื่อมาสู่จุดนี้"

Planet 51

Planet 51



          แต่อีกเรื่องที่เสี่ยงเปิดตัวเป็นทางเลือกและต้องล้มเหลวไปอย่างน่าเห็นใจ Planet 51 อนิเมชั่นที่เป็นการร่วมทุนสร้างระหว่าง 2 สตูดิโอจากฝั่งยุโรป อิลออน แอนิเมชั่น กับแฮนด์เมด ฟิล์มส์ ที่มีไทร์สตาร์ สตูดิโอลูกของโซนี่ดูแลการจัดจำหน่าย ทำรายรับได้แค่ $12.2 ล้านจากการฉาย 3,035 โรง กลายเป็นการ์ตูนแนวไซไฟที่ล้มเหลวที่สุดนับตั้งแต่ Titan A.E. เมื่อปี 2000 ทั้งที่ได้นักแสดงชื่อดังอย่าง "เดอะ ร็อก" ดเวย์น จอห์นสัน, เจสซิก้า บีล และแกรี่ โอลด์แมน มาให้เสียงพากย์แคแรกเตอร์ในเรื่องแท้ ๆ

          อย่างไรก็ตาม New Moon ทำให้รายรับรวม $260 ล้านของยูเอส บ็อกซ์ ออฟฟิศสุดสัปดาห์นี้สูงสุดเป็นอันดับ 2 สำหรับช่วงสุดสัปดาห์ที่ไม่ได้เป็นวันหยุดพิเศษ เป็นรองเพียงสุดสัปดาห์ที่ 18 กรกฎาคม 2008 ที่มี The Dark Knight เปิดตัวเท่านั้น

          สำหรับการแข่งขันในสุดสัปดาห์ จะต้องเข้มข้นมากขึ้น หลังจากชาวอเมริกันจะมีเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ในวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน นี้ ทำให้สตูดิโอต่าง ๆ เลื่อนกำหนดเปิดตัวหนังใหม่เร็วขึ้น โดยวอร์เนอร์จะย้อนกลับสู่หนังแอ็กชั่นแนวศิลปะป้องกันเอเชีย Ninja Assassin, ดิสนีย์ เจาะกลุ่มแฟนหนังตลกผู้ใหญ่ กับ Old Dogs ที่มีจอห์น ทราโวลต้า มาสร้างเสียงฮากับ โรบิน วิลเลี่ยมส์, ไวน์สตีน คอมปานี ฝากความหวังกับ The Road หนังทริลเลอร์ที่ดัดแปลงจากนิยายของ คอร์แม็ค แม็คคาร์ธี่ ผู้แต่ง No Country for Old Men หนังยอดเยี่ยมออสการ์ 2007 และทเวนตี้ เซ็นจูรี่ฟ็อกซ์จะมีโอกาสพิสูจน์ว่า The Fantastic Mr. Fox หนังสต็อปโมชั่นของผู้กำกับ เวส แอนเดอร์สัน ที่มีกระแสตอบรับดีตลอดการฉายแบบจำกัดโรงในช่วง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาว่า จะทำได้ดีจริงหรือไม่เมื่อเปิดตัวในวงกว้างระดับ 2,000 โรง



  ดูหนัง หนังใหม่ โปรแกรมหนัง หนังตัวอย่าง คลิกเลย


  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แวมไพร์ New Moon สูบเลือดทั่วโลก $274 ล้าน อัปเดตล่าสุด 2 ธันวาคม 2552 เวลา 14:08:58 1,124 อ่าน
TOP