x close

เปลือยชีวิต ทุกเบื้องลึก เมแกน ฟ็อกซ์

เมแกน ฟ็อกซ์

 



เปลือยชีวิต ทุกเบื้องลึก...เมแกน ฟ็อกซ์ (สยามดารา)

          ในทุกวันนี้ ที่ข่าวมีการแพร่กระจายไปตลอด 24 ชั่วโมง และเต็มไปด้วยบล็อกในอินเทอร์เน็ตที่หิวโหยข่าวฉาว แน่นอนว่าฟ็อกซ์ ก็มีคำพูดที่สร้างกระแสมาให้ได้ฮือฮาอยู่เสมอ อย่างการเปรียบเทียบ ไมเคิ่ล เบย์ (ผู้กำกับฯ ที่แจ้งเกิดเธอจากเรื่อง Transformers) ว่าไม่ต่างอะไรกับจอมเผด็จการอย่าง ฮิตเลอร์ หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เธอเปิดเผยแบบหมดเปลือกว่าได้สักชื่อของแฟนหนุ่มของ เธอเอาไว้บริเวณใกล้ๆ กับของสงวน รวมทั้งการบอกอย่างไม่กลัวโดนสาวๆ รุมถล่ม ว่าเธอนั้น \'\'อยากกิน\'\' พระเอกหนุ่มสุดฮอตอย่าง โรเบิร์ต แพททินสัน ด้วย นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้นนะ...

          แม้ว่าเธอจะออกมาปฏิเสธว่าบางความเห็นนั้นมันเป็นแค่เรื่องแต่งขึ้นมา แต่คำพูดทั้งหมดของเธอเหล่านี้ ก็ถูกเผยไปทั่วโลกผ่านสื่อเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้สาวสวยวัย 23 ปีคนนี้ มีภาพที่ถูกมองจากสาธารณชนว่าใช้ \'\'ความแรง\'\' และเรือนร่าง เป็นตัวสร้างชื่อเสียงให้โด่งดัง ยิ่งผลงานที่สร้างชื่อของเธอ ก็มีแค่หนังอย่าง Transformers 1 และ 2 ที่ตัวละครเอกจริงๆ แล้วก็คือหุ่นยนต์ยักษ์ ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรกับการใช้วิธีแบบนี้ แต่ปัญหาเดียวของเธอก็คือ การโด่งดังเป็นดาวจรัสแสงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอจะทำอย่างไร ในการอยู่ในสถานะนี้ไปได้นานๆ ไม่ใช่เป็นแค่ผีพุ่งไต้ ที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็ว

          และในวันนี้ นับเป็นโอกาสพิเศษสุดของเราที่จะได้เธอมาตอบคำถามทุกอย่าง ทุกข้อสงสัยอย่างหมดเปลือก เธอพาร่างบอบบางแต่สมส่วนมาอยู่ตรงหน้าเรา ด้วยชุดสีเทาแบบสบายๆ ที่ดูเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ไปด้วยในตัว เธอรวบผมสีน้ำตาลเข้มของเธอเอาไว้ พร้อมด้วยแสกตรงกลาง ซึ่งทำให้เธอดูคล้ายสาวอินเดียนอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดจากเธอคือดวงตาสีฟ้าที่คมกริบ ซึ่งดูเซ็กซี่และอันตรายไปในคราเดียวกัน เธอนั่งลงแบบสบายๆ บนเก้าอี้ข้างหน้าเราแล้ว และพร้อมที่จะให้ความกระจ่างชัดกับทุกอย่าง เอาล่ะ เรามาเริ่มกันได้เลย

          Jennifer\'s Body แป้กสนิท

          แม้ว่าหนังเรื่องนี้ จะเป็นผลงานชิ้นแรกที่นำโดยชื่อของฟ็อกซ์อย่างเต็มตัว พร้อมด้วยความเซ็กซี่ที่เป็นจุดขายกันอย่างโต้งๆ ด้วยฟ็อกซ์ในบทสาวไฮสกูลสุดเซ็กซี่ ที่กลายร่างเป็นปีศาจกินมนุษย์เป็นอาหาร และเลือกที่จะเสพสุขกับผู้ชายก่อนที่จะกินเหยื่อเหล่านั้น ซึ่งแม้ว่าหนังจะพยายามโปรโมตฉาก \'\'ขาย\'\' อย่างฉากเลสเบี้ยนความยาว 64 วินาทีของเธออย่างเต็มที่แล้วแต่ผลที่ได้รับกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า โดยหนังเปิดตัวได้แค่อันดับที่ 5 ในบ็อกซ์ ออฟฟิศ โดยกลุ่มผู้ชายซึ่งเป็นเป้าหมายของเรื่อง กลับไม่ซื้อตั๋วเข้าไปอุดหนุนอย่างที่เคยคาดกันเอาไว้ ทำให้ไม่ต้องไปหวังอะไรกับคนดูกลุ่มผู้หญิง ที่ชื่นชอบการดูหนังที่นำแสดงโดยดาราสาวที่ดู \'\'เป็นมิตรกับเพศเดียวกัน\'\' มากกว่าฟ็อกซ์อย่าง แซนดร้า บูลล็อก หรือ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน

          \'\'ผู้คนคาดหวังกันว่า Jennifer\'\'s Body จะต้องทำเงินได้มหาศาล \'\' ฟ็อกซ์กล่าวในเรื่องหนังเจ๊งล่าสุดของเธอ \'\'แต่ฉันก็สงสัยมาตั้งนานแล้วว่า หนังเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกินผู้ชายเป็นอาหาร, เชียร์ลีดเดอร์ที่กินเนื้อคน และมองข้ามกลุ่มเป้าหมายในภาคกลางของอเมริกาไปเลย แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแสดงพลังของเด็กสาว แต่มันก็เกี่ยวด้วยว่าสาวๆ นั้นน่ากลัวขนาดไหน พวกเธอสามารถกลายเป็นฝันร้ายได้เลย"

          \'\'ยิ่งกว่านั้น Jennifer\'s Body ไม่ได้รับเรต PG-13 (เด็กอายุต่ำกว่า 13 ต้องดูโดยมีผู้ปกครอง) อย่างเช่นเรื่อง Twilight แต่มันได้รับเรต R (ห้ามเด็กต่ำกว่า 18 ดูโดยไม่มีผู้ปกครอง) ซึ่งไม่ให้พวกเด็กๆ เข้ามาดู ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะเข้าไปดูเรื่องอื่นๆ และมองข้ามเรื่องนี้ไป ซึ่งหากฉันส่งข้อความไปได้ในตอนนั้น ฉันจะบอกว่ามันเป็นแบบอย่างที่แตกต่างสำหรับเด็กสาว เพราะจริงๆ แล้ว Jennifer\'\'s Body มันจะบอกว่า มันโอเคที่จะเป็นในสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งที่คุณควรจะเป็น ซึ่งฉันคิดว่าใจความเหล่านี้มันอาจหายไปหมดแล้ว"

เมแกน ฟ็อกซ์
เมแกน ฟ็อกซ์



          \'\'ตัวตน\'\' ที่คนมอง

          จากความล้มเหลวของ Jennifer\'s Body ทำให้ฟ็อกซ์และทีมงานอย่างเอเยนต์ และนักประชาสัมพันธ์ พากันวิตกกังวลในเรื่องของภาพลักษณ์ ที่ภาพของเธออาจไม่ดึงดูดใจให้ผู้ชมส่วนใหญ่ตีตั๋วเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ซึ่งพวกเขาจึงทำงานกันอย่างหนัก เพื่อเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของเธอ อย่างการไปออกรายการตลกชื่อดังของอเมริกาอย่าง Saturday Night Live ที่ให้เธอมีโอกาสได้แสดงความสามารถในเชิงตลก หรือจะเป็นการไปออกรายการทอล์กโชว์ต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ภาพของเธอ เปลี่ยนจากเซ็กซ์สตาร์สุดห่าม มาสู่ตัวตนที่แท้จริงที่พวกเขารู้จัก ที่เป็นสาวธรรมดาๆ ที่อยู่กับแฟนคนเดิม (นักแสดงหนุ่ม ไบรอัน ออสติน กรีน) มาเป็นเวลานานแล้ว และก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เป็นเหมือนสาวทั่วๆ ไป

          อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเองก็ยังไม่แคร์กับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก โดยเผยว่า \'\'ผู้หญิงชอบที่จะทำลายคนอื่นๆ ด้วยกันอยู่แล้ว พวกผู้หญิงคิดว่าฉันเป็นพวกสำส่อน แต่ฉันก็รู้ดีว่าตัวเองเป็นยังไง ฉันยังรักษาความสัมพันธ์กับผู้ชายคนเดิมมาตั้งแต่อายุ 18 แล้ว แต่ปัญหาก็คือถ้าหากพวกสาวๆ คิดว่าคุณน่าสนใจต่อพวกผู้ชาย คุณก็อาจถูกมองว่าโง่ หรือสมองทึบไปเลย สัญชาตญาญของพวกสาวๆ คือจะกำจัดใครก็ตามที่โดดเด่นกว่าพวกเธอซะ\'"

          ฟ็อกซ์ เชื่อว่าทุกวันนี้ ฮอลลีวู้ดเต็มไปด้วยการมองภาพแบบเหมารวม และอคติมากมาย จนทำให้เธอเป็นเหมือนพวกคนที่พยายามทำตัวให้เป็นหัวข้อข่าวเพื่อความโด่งดัง \'\'ถ้าหากฉันเป็นเหมือนพวกดาราหญิงทั่วๆ ไป และพูดทุกอย่างอย่างถูกต้องไปซะหมด ฉันก็อาจไม่สามารถขึ้นมาถึงในระดับนี้ก็ได้\'\' เธออธิบาย \'\'ฉันชอบที่จะนั่งลงและให้สัมภาษณ์เหมือนกับคนทั่วๆ ไป และด้วยบางเหตุผล การทำตัวแบบนี้มันกลายเป็นเรื่องที่น่าช็อก ผู้หญิงในฮอลลีวู้ดทุกคนก็เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่าถูกมองเป็นสัญลักษณ์ทางเพศอยู่แล้ว คุณถูกขาย และทุกอย่างทุกวันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเซ็กซ์ทั้งนั้น ซึ่งมันก็ไม่เป็นไร ถ้าหากคุณรู้ว่าจะ \'\'ใช้\'\' มันอย่างไร\'\'

          \'\'นี่มันเป็นปีที่บ้ามากสำหรับฉัน ฉันได้เรียนรู้ว่าการเป็นคนดังมันเหมือนกับคุณกลายเป็นลูกแกะที่ถูกบูชายัญ ในบางจุด มันไม่สำคัญเลยว่าแท่นบูชานั้นจะอยู่สูงขนาดไหน พวกเขาจะพยายามยกคุณลงไปวางตรงนั้นให้ได้ พวกเขาจะฉีกคุณเป็นชิ้นๆ และฉันก็ได้สร้างตัวตนขึ้นมา เพื่อให้ต้องมาเสียสละ ซึ่งฉันจะไม่ยอมให้ตัวตนของฉันนั้นยอมแพ้อย่างเด็ดขาด มันเป็นเหมือนข้อพิสูจน์กับตัวตนที่แท้จริงของฉัน ว่าฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ฉันต้องสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่เพื่อให้ โลกเห็น ความจริงก็คือ ฉันขอซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความบ้าบอทั้งหลาย และจะไม่มีใครที่หาฉันพบได้"

เมแกน ฟ็อกซ์
เมแกน ฟ็อกซ์



          เลียนแบบความสำเร็จ แองเจลิน่า โจลี่?

          ใน ปี 2005 เมื่อบทของหนัง Transformers ถูกส่งไปให้กับเหล่าเอเยนต์ แคแรกเตอร์ของ มิเคล่า เบนส์ นักเรียนสาวไฮสกูลสุดเซ็กซี่ ก็ถูกส่งมาถึงมือของฟ็อกซ์ ผ่านทางเอเยนต์คนใหม่ (ชัค เจมส์) ซึ่งในตอนนั้น เธออายุแค่ 19 ปี และกำลังถ่ายซิตคอมเรื่อง Hope & Faith อยู่ในนิวยอร์ก เมื่อเจมส์ได้อ่านบทนี้ เขาก็รู้ได้ทันที ว่าดาราในความดูแลของเขาจะได้รับบทนี้แน่นอน และบทนี้ จะทำให้เธอกลายเป็น \'\'แองเจลิน่า โจลี่\'\' คนใหม่ด้วย

          ตั้งแต่อดีตมาแล้ว ที่ฮอลลีวู้ดจะพยายามค้นหาคนมาสืบทอดความสำเร็จของดารารุ่นก่อน อย่างในสมัยที่มี จูเลีย โรเบิร์ตส์ แจ้งเกิดมาจากแนวทางโรแมนติก-คอมเมดี้ ฮอลลีวู้ดก็มี แซนดร้า บูลล็อก มารับหน้าที่ต่อ หรือเมื่อ โรเบิร์ต เร็ดฟอร์ด หันไปให้ความสนใจด้านการกำกับหนัง ฮอลลีวู้ดก็ส่ง แบรด พิตต์ มาเป็นคนต่อไปทันที ซึ่งโจลี่ ก็อยู่ในข่ายนี้ เธอมีตัวตนที่เด่นชัดมาตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของอาชีพดารา เธอเป็นส่วนผสมระหว่างรูปร่างหน้าตาที่น่าตะลึง, พรสวรรค์ในการแสดง และพฤติกรรมที่สุดโต่ง เธอมีพฤติกรรมไบเซกชวลอย่างเปิดเผย, มีรอยสักมากมายตามตัว และมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับยา และพฤติกรรมห่ามมากมาย จนกระทั่งเธอได้รับอุปการะลูกชายคนแรก แม็ดด็อกซ์ แล้วนั่นแหละ โจลี่ เป็นที่รักของฮอลลีวู้ด เธอคว้ารางวัลออสการ์, เป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกหลายสมัย และอยู่ในสปอตไลต์ของสื่อตลอดเวลา แล้วจะมีใครให้ เมแกน ฟ็อกซ์ เลียนแบบได้มากกว่านี้อีกล่ะ?

          แม้ว่าฟ็อกซ์ จะไม่ได้แสดงถึงฝีมือทางการแสดงอย่างโจลี่ แต่อย่างอื่นนั้น เธอแทบจะถอดแบบกันมา เธอมีส่วนสัดที่ชวนฝันสำหรับหนุ่มๆ, เธอเป็นสาวผมสีน้ำตาลเข้มที่โดดเด่น ในหมู่สาวผมบลอนด์อันดาษดื่นในฮอลลีวู้ด และเธอยังมีรอยสักทั่วไปหมด 7-8 แห่งตามเรือนร่าง รวมทั้งเธอยังแสดงความเห็นในเชิงยกย่องชื่นชม โจลี่ อยู่บ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเรื่องการไปเป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติของโจลี่ ฟ็อกซ์ก็เตรียมที่จะดำเนินรอยตามอยู่แล้ว

          ฟ็อกซ์ เปิดใจในเรื่องนี้ว่า \'\'เมื่อฉันมานั่งลงให้สัมภาษณ์กับนิตยสารผู้ชาย มันจะแตกต่างออกไป และมันเป็นแคแรกเตอร์ที่ฉันต้องเล่น เธอเป็นเหมือนตัวตนอีกแบบของฉัน เธอไม่มีชื่อของตัวเอง แต่เธอจะมาปรากฏตัวเสมอเมื่อเวลาสัมภาษณ์กับนิตยสารผู้ชาย มันต้องมีบางอย่างที่บ้าๆ บอๆ เกี่ยวกับการใส่กางเกงในตัวเดียวในการสัมภาษณ์กับนิตยสารเหล่านี้ และคุณก็รู้ว่าคำสัมภาษณ์มันจะไปอยู่คู่กับรูปที่เซ็กซี่เหล่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นแคแรกเตอร์ที่ฉันต้องบอกกับพวกเขา\'\'

          อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังเธอก็ไม่ค่อยพอใจกับกระแสข่าวเรื่องการเลียนแบบโจลี่ของเธอ ว่าเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เธอจึงพยายามแสดงให้เห็นว่าเธอมีส่วนที่แตกต่างกับโจลี่ โดยเธอนั้นมีอารมณ์ขัน และการให้สัมภาษณ์ของเธอจะมีอารมณ์ขันมากกว่าเป็นการยั่วยุอารมณ์ \'\'ผู้คนพากันเทียบฉันกับโจลี่ ซึ่งเธอเป็นคนที่จริงจังและสงบนิ่งมาก แต่ฉันเหมือนเป็นด้านตรงข้ามกับเธอเลย เมื่อฉันให้สัมภาษณ์ ฉันจะพูดสิ่งที่ฉันคิดโดยเหมือนกับควบคุมไม่ได้ แต่มันเป็นเพราะฉันต้องอยู่ในโลกแบบนี้ ฉันจึงไม่ได้รับอนุญาตให้มีอารมณ์ขันเลย การเสียดสีเล็กๆ น้อยๆ จะไม่ได้รับตีพิมพ์ลงไปในข่าว รวมทั้งมุกตลกที่เกี่ยวกับการดูถูกตัวเองด้วย ฉันไม่ใช่แม่เสือแบบโจลี่ แน่นอนว่าผู้คนอยากให้ฉันเป็นแบบนั้น แต่ฉันกลับต้องการเป็นด้านตรงข้ามของมันมากกว่า

เมแกน ฟ็อกซ์
เมแกน ฟ็อกซ์



          \'\'เกาเหลา\'\' ชามใหญ่กับ ไมเคิ่ล เบย์

          สำหรับข่าวคราวฮือฮาครั้งล่าสุด ที่เธอเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งของอังกฤษ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเธอตอบคำถามเกี่ยวกับการร่วมงานกับผู้กำกับฯ ดัง ไมเคิ่ล เบย์ ซึ่งแทนที่เธอจะตอบในแนวชื่นชมอย่างที่คนทั่วไปทำกัน เธอกลับไปเปรียบเทียบผู้กำกับฯ ดังรายนี้ กับผู้นำจอมเผด็จการที่บ้าคลั่งอำนาจอย่าง นโปเลียน หรือ ฮิตเลอร์ และยังคิดว่าเบย์ เป็น \'\'ฝันร้าย\'\' สำหรับทุกคนที่ร่วมงานด้วย อีกต่างหาก

          เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความฮือฮาไปทั่ว จนถึงกับมีทีมงานที่ไม่เปิดเผยตัว 3 คนของ Transformers ทำจดหมายมาเปิดโปงฟ็อกซ์บ้าง ว่าเธอเป็นคนที่อกตัญญู, ไม่มีคลาส และไม่น่าชื่นชมอย่างที่สุด โดยมักมายังกองถ่ายสายเป็นประจำ หยาบคายกับทีมงาน และยังแสดงหนังไม่เป็นเอาซะเลย ซึ่งมีบางกระแสข่าวลือว่าจริงๆ แล้ว เบย์ อาจเป็นคนเขียนจดหมายเหล่านี้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามทางพาราเมาท์ ค่ายเจ้าของหนังแฟรนไชส์หุ่นยนต์ยักษ์เรื่องนี้ ก็พยายามลบกระแสดังกล่าวออกไป ก่อนที่การถ่ายทำหนัง Transformers 3 จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ซึ่งเบย์และฟ็อกซ์ จะต้องกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

          ฟ็อกซ์ เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวว่า \'\'ฉันเป็นคนทำให้ตัวเองต้องอยู่ในความยุ่งยากทั้งหมดนี่เอง แต่มันก็ไม่สำคัญอะไร เพราะฉันรู้ดีว่าสิ่งที่กล่าวหาฉันในจดหมายจากทีมงานนั้นมันเป็นเรื่องที่ ไม่จริง แต่มันจริงที่เบย์ไม่พอใจนักกับบางอย่างที่ฉันพูดเกี่ยวกับเขา ฉันรอคอยให้บางคนออกมาปกป้องฉันบ้าง มาบอกว่าเรื่องดังกล่าวมันไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่มีใครออกมาเลย ฉันคิดว่าเพราะฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ทุกคนจึงทอดทิ้งฉัน ปล่อยให้ฉันโดดเดี่ยว\'\'

          \'\'ฉันได้รับคำแนะในเรื่องนี้ บางทีฉันอยากจะเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้มันชัดเจนไปจริงๆ มีคนบอกให้ฉันทำ Twitter เพื่ออธิบายเรื่องราวของตัวฉัน แต่ฉันก็แย้งว่าเรื่องราวที่ปรากฏในข่าว จะไม่บอกเล่าคำพูดของฉันแบบจริงๆ หรอก มันจะแค่เป็นการสร้างข่าวใหม่ให้พวกเขาได้เล่นสนุกกันเท่านั้น มันไม่มีหนทางในการแก้ไขมันเลย มันเป็นเหมือนปีศาจร้ายในตัวของมันเอง คุณต้องรับมือกับมันอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณสามารถกลับมาควบคุมเรื่องต่างๆ ได้อีกครั้ง"

          เส้นทางสู่วงการมายา

          เรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก ก่อนที่จะมาเป็นดาราที่โด่งดังอย่างในทุกวันนี้นั้น ก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากดาราในวงการทั่วไป เธอเกิดและเติบโตมาที่เมืองโอ๊ค ริดจ์ รัฐเทนเนสซี โดยคุณแม่ของเธอ (ที่เธอเคยบอกว่าเหมือนกับเธอเอามากๆ) ได้แยกทางกับคุณพ่อของเธอ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ทัณฑ์บน เมื่อเธอมีอายุได้แค่ 3 ขวบ และจากนั้นก็หย่าขาดจากกันในที่สุด จากนั้นคุณแม่ของเธอก็ไปแต่งงานกับสามีใหม่ ที่มีอายุแก่กว่ามาก และได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่พอร์ท เซนต์ ลูซี่ รัฐฟลอริดา ซึ่งคุณพ่อใหม่ของเธอนั้น เป็นคนที่เข้มงวดมาก เขาเป็นคนที่เคร่งศาสนา และทำให้เธอต้องโตมาโดยเข้าเรียนในโรงเรียนไฮสกูลของคริสเตียน ซึ่งทำให้เธอมีชีวิตที่ช่วงวัยรุ่นที่ค่อนข้างเงียบเหงา

          \'\'ฉันต้องอยู่คนเดียวเสมอ\'\' ฟ็อกซ์ รำลึกความหลัง \'\'ฉันลาออกจากการเรียน แต่ฉันก็ต้องการเป็นดารามาตั้งแต่อายุ 2 ขวบแล้ว แม่ของฉันบอกว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันเคยบอกว่าฉันอยากทำ เมื่อฉันอายุ 4-5 ขวบ ฉันได้ดูหนังเรื่อง \'\'The Wizard of Oz\'\' และจากนั้นเป็นปี ฉันก็ยังบอกแม่ให้เรียกฉันว่า โดโรธี (นางเอกของเรื่อง) อยู่เลย จากนั้นเมื่อแม่ของฉันพยายามอธิบายว่าโดโรธีไม่ได้เป็นเรื่องจริง เพราะมีดาราหญิงเล่นเป็นเธอ จากนั้นฉันก็เลยตัดสินใจจะมาเป็นดารามันซะเลย\'\'

          จากนั้นเธอก็มีงานเป็นนางแบบในแค็ตตาล็อกสินค้าบ้างประปราย จนเมื่อเธอมีอายุได้ 15 ปี เอเยนต์ของเธอตอนนั้น ก็ได้ส่งเธอไปแคสต์งานเป็นตัวประกอบของหนังเรื่อง Bad Boys 2 ที่กำกับโดย ไมเคิ่ล เบย์ เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้มีกองถ่ายอยู่ที่ฟลอริดา บ้านของเธอในขณะนั้น \'\'พวกเขาจัดให้ฉันสวมรองเท้าส้นสูงถึง 6 นิ้ว และบิกินี จากนั้นก็ส่งฉันไปให้กับไมเคิ่ล ซึ่งเขาก็รับรองฉัน โดยให้ฉันไปประกอบฉากใต้น้ำตก ซึ่งคุณจะได้เงิน 500 ดอลลาร์แน่นอนหากคุณยอมที่จะเปียก แต่ฉันก็กลัวที่จะเปียกด้วย ฉันยังเป็นเด็กอยู่ แต่ในช่วงเวลา 2 วันนั้น พวกเขาก็ปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นผู้ใหญ่ ฉันจึงรู้สึกว่าฉันเหมาะกับการเต้นในชุดบิกินีใต้น้ำตกแล้ว \'\'

          ในสมัยที่เธอยังเป็นเด็กแล้ว ที่เธอเป็นคนมักอยู่ไม่ติดที่ เมื่อเธออายุ 14 ปี เธอขโมยรถของแม่ของเธอมาขับเป็นประจำ และมักจะโดนลงโทษอยู่เสมอ ซึ่งกลับทำให้เธอเป็นคนที่หัวรั้นมากยิ่งขึ้น \'\'ฉันมักพยายามจะหนีไปเสมอ ฉันเกลียดพวกคนที่เข้ามามีอำนาจในชีวิต ที่คอยบอกว่าฉันต้องทำอะไรบ้าง พวกเขาต้องการให้ฉันเป็นพวกอนุรักษ์ แต่เมื่อฉันเป็นเด็ก ฉันก็ชอบที่จะมองการแต่งตัวของตุ๊กตาบาร์บี้ ฉันพยายามสวมเสื้อผ้าให้ตัวเล็กที่สุดเท่าที่จะหาได้ แม้ว่าแม่ของฉันห้ามไม่ให้ฉันย้อมผมเป็นสีบลอนด์ แต่ฉันกลับมีผมสีส้มมาถึง 2 ปีแทน ฉันจะบอกยังไงดี? ก็มันเป็นฟลอริดานี่ แต่จริงๆ แล้วแม่ฉันก็ถูกแล้ว เพราะผมสีน้ำตาลเข้มนี้ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันเป็นที่จดจำ ฉันดูไม่เหมือนใคร ดังนั้นฉันจึงไว้ผมสีนี้มาตลอดตั้งแต่นั้น\'\'

          บทบาทการแสดงแรกของเธอ เป็นการแสดงในหนังสำหรับดีวีดีเรื่อง \'\'Holiday in the Sun\'\' เมื่ออายุ 15 จากนั้นเธอก็พยายามโน้มน้าวแม่ของเธอให้ย้ายเธอไปยังลอสแอนเจลีส ซึ่งบรรดาซีรีส์ทางทีวี จะแคสต์ตัวนักแสดงสำหรับฤดูฉายใหม่ ซึ่งเธอก็ย้ายมาจนได้เมื่ออายุ 17 และได้รับบทแรกในหนังใหญ่ของดิสนีย์เรื่อง Confessions of a Teenage Drama Queen โดยเธอรับบทเป็นคู่ปรับของนางเอกสาว ลินด์ซีย์ โลแฮน \'\'แน่นอนว่าฉันเล่นเป็นนางมารร้าย เพราะตามปกติในหนังวัยรุ่น หญิงสาวผมสีอ่อนๆ มักจะเป็นหญิงสาวอ่อนหวาน ในขณะที่หญิงผมสีเข้มจะเป็นนางมารสุดเซ็กซี่ ซึ่งตอนนั้นฉันยังไม่รู้เลยว่าจะเล่นหนังยังไง ฉันแค่เลียนแบบจากพวกตัวละครแนวๆ นี้ จากคนอื่นๆ ที่เล่นในทีวีเท่านั้น"

          ชีวิตรักต่างวัย ?

          เมื่อเธออายุ 18 ปี เธอก็ปีกกล้าขาแข็งพอที่จะอยู่ในฮอลลีวู้ดได้ด้วยตัวเอง โดยแม่ของเธอกลับไปอยู่ฟลอริดาตามเดิมแล้ว และจากนั้นเธอก็ได้ย้ายไปยังนิวยอร์ก หลังจากได้รับบทในซีรีส์ซิตคอม \'\'Hope & Faith\'\' ซึ่งถ่ายทำกันในย่านควีนส์ \'\'ฉันมีบทพูดแค่ 2 บรรทัดในแต่ละตอน แต่ฉันก็ยังมีงานทำ ซึ่งทำให้ฉันมีความสุขแล้วในตอนนั้น\'\' ฟ็อกซ์กล่าว ซึ่งซิตคอมเรื่องนี้ ที่มีอายุฉายได้ 3 ฤดูกาล ก็เป็นที่ที่ทำให้เธอได้พบกับแฟนหนุ่ม ไบรอัน ออสติน กรีน ที่เป็นดาราประจำในซีรีส์ \'\'Beverly Hills, 90210\'\' อยู่ในขณะนั้น ซึ่งมารับบทดารารับเชิญในตอนหนึ่งของซิตคอมที่เธอเล่นด้วย

          \'\'ไบรอัน มาเล่นเป็นตัวเขาเอง ซึ่งเป็นตอนที่ตัวละครของ เคลลี่ ริป้า (ดารานำในซิตคอมชุดนั้น) ลักพาตัวเขาไปด้วยเหตุผลบ้าๆ ตอนแรกฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามาจากซีรีส์ 90210 แต่ฉันก็ชอบเขาในทันทีที่เห็น\'\' ฟ็อกซ์รำลึกถึงความประทับใจครั้งแรก \'\'ทุกคนพากันมาล้อมรอบจอมอนิเตอร์เพื่อดูฉากที่ถ่ายไป และไบรอันก็มาจับโดนขาฉันโดยบังเอิญ ฉันจำได้ว่ามันเหมือนมีแรงไฟฟ้ามาช็อตผ่านตัวฉัน และมันก็มาจากทุกทิศทุกทาง มันเหมือนเป็นเวทมนตร์เลยล่ะ \'\'

          แม้ว่าจะมีอายุแตกต่างกันถึง 13 ปี (ไบรอันมีอายุ 36 ปีแล้ว) แต่ทั้งคู่ก็ยังคบหากันมาได้อย่างยาวนานเป็นเวลาถึง 13 ปีแล้ว ซึ่งฝ่ายชายก็ยังคงประกอบอาชีพเป็นนักแสดงต่อไป และยังอยู่ด้วยกันที่บ้านในย่านฮอลลีวู้ด ฮิลล์ส ซึ่งการอยู่กับแฟนหนุ่มมาอย่างยาวนานนี้ ก็ไม่ได้มีผลกระทบกับภาพลักษณ์เซ็กซ์ซิมโบลของเธอแต่อย่างใด ซึ่งเธอแตกต่างจากดาราอย่าง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ตรงที่เธอมักไม่ค่อยมีข่าวเรื่องการไปออกเดตกับใคร ซึ่งก็ทำให้เธอมักจะออกตามข่าวซุบซิบ ด้วยข่าวพฤติกรรมสุดโต่งของเธอแทน \'\'คุณเหมือนกับโดนแพ็กใส่กล่อง ในวงการนี้พวกเขาจะได้ขายคุณได้ง่ายๆ พวกเขาต้องการขายข่าวบนบล็อก หรือแม็กกาซีน ดังนั้นทุกคนจึงต้องมีอะไรซักอย่าง และถ้าฉันไม่ได้เป็นสาวที่ชอบตะลุยปาร์ตี้ ซึ่งฉันไม่ได้เป็นเลย ฉันก็ต้องโดนพวกเขาซุบซิบเรื่องพฤติกรรมนอกคอกของฉันอยู่ดี"

          เปลี่ยนแนวบ้างไหม?

          แม้ว่าในทุกวันนี้จะเป็นเรื่องไม่ยากนัก หากเธอจะคิดเปลี่ยนแปลงแนวในการรับงานของเธอ โดยการมารับบทในหนังที่สร้างสำหรับกลุ่มผู้ชมสาวดูบ้าง ยกตัวอย่างเช่น โจลี่ ที่พลิกบทบาทจากหนังที่สร้างมาเพื่อกลุ่มผู้ชายเป็นหลักอย่าง \'\'Tomb Raider\'\' มารับบทในหนังแอ็กชั่นปกโรแมนติก-คอมเมดี้ อย่าง \'\'Mr. and Mrs.Smith\'\' อย่างไรก็ตาม ฟ็อกซ์ ก็ยังคิดว่าจะไม่เสี่ยงที่จะสูญเสียแฟนๆ ผู้ชาย ที่เป็นแฟนๆ กลุ่มหลักของเธอไป \'\'มันอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่ให้ผลดีก็ได้ ฉันอาจได้เล่นหนังโรแมนติกกุ๊กกิ๊กบ้าง แต่พูดตรงๆ ว่าฉันกลัวในการทำแบบนั้น ฉันอายุ 23 ฉันคิดว่ายังไม่เหมาะกับหนังแบบนี้หรอก หนังพวกนี้มันเซฟเกินไป มันเหมาะสำหรับผู้ชมในภาคกลางของอเมริกา ซึ่งทำให้หนังพวกนี้มันทำเงินได้มาก แต่ฉันก็ยังไม่ต้องการแสดงมัน\'\'

          สำหรับเสียงวิจารณ์และความวิตกกังวลที่มีมายังเธอ ฟ็อกซ์ก็เข้าใจมันเป็นอย่างดี เธอเข้าใจว่าเธอเหมาะแล้วกับวัฒนธรรมของสมัยนี้ ซึ่งถ้าเธอยอมแพ้และยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองไป เธอก็เสี่ยงกับการจะเป็นเพียงแค่ดาราหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง ที่มาแล้วก็จากไป \'\'แม่ของฉันไม่เคยเชื่อเลยว่าฉันจะประสบความสำเร็จได้ แต่ฉันก็ไม่เคยคาดเดามันเอาไว้อยู่แล้ว ฉันไม่เคยรู้สึกโศกเศร้าหดหู่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย ฉันเป็นของฉันแบบนี้ และฉันไม่เคยรู้สึกว่าจะมีใครมาเหมือนฉันได้"

เมแกน ฟ็อกซ์
เมแกน ฟ็อกซ์



          มาริลีน มอนโร?
      
          น้อยคนจะรู้ว่าที่บริเวณต้นแขนขวาของฟ็อกซ์ มีรอยสักที่ซับซ้อนของ มาริลีน มอนโร อดีตเซ็กซี่สตาร์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งแม้ว่าเธอจะเคยอ่านชีวประวัติของดาราอมตะหลายคนอย่าง เอวา การ์ดเนอร์ หรือ เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ แต่เธอก็ยังรู้สึกหลงใหลไปกับชีวิตและผลงานของมอนโรแต่เพียงผู้เดียว มอนโร สามารถสร้างตำนานขึ้นมาได้ และบุคลิกของเธอ ก็เป็นที่จดจำมาตลอด ซึ่งเธอไม่ได้ถูกจดจำเพราะแคแรกเตอร์ในหนังเหมือนกับ วิเวียน ลีห์ ที่รับบท สการ์เล็ตต์ โอฮาร่า จนเป็นตำนานใน \'\'Gone with the Wind\'\' เพราะมอนโร มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเธอเองเท่านั้น

          \'\'เธอมีชีวิตอยู่ในวงการ เหมือนกับแคแรกเตอร์หนึ่ง ที่ไปสวมบทเป็นอีกแคแรกเตอร์อื่นๆ และนั่นก็เป็นเครื่องมือป้องกันตัวเธอเองอย่างดี แต่ในที่สุดมาริลีน ก็ก้าวพลาด และเสียหนทางของตัวเองไปจนได้ เธอกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้กับตัวตนที่เธอสร้างขึ้นมา ฮอลลีวู้ดมักเต็มไปด้วยผู้หญิงที่มักพยายามจะต่อสู้ดิ้นรนเพื่ออะไรบางอย่าง ซึ่งฉันชอบที่จะศึกษาพวกเธอ ฉันชอบที่จะดูว่าพวกเธอประสบความสำเร็จ และล้มเหลวอย่างไรบ้าง\'\'

          แม้ว่าเธอจะเปิดเผยด้านที่ห่ามๆ ของเธอ เฉพาะเวลาสัมภาษณ์กับนิตยสารสำหรับผู้ชายเท่านั้น เธอก็ยังคาดหวังที่จะรักษาบุคลิกดั้งเดิมของเธอเอาไว้ เมื่อถูกถามว่าเธอจะแต่งเป็น มาริลีน มอนโร ในวันฮาโลวีนหรือไม่ เธอตอบอย่างแทบไม่ต้องคิดว่า \'\'โอ้ ไม่หรอก\'\' แล้วใครที่เธอจะแต่งในวันฮาโลวีนล่ะ? \'\'ฉันจะเป็นมินนี่ เม้าส์\'\' เธอตอบอย่างมั่นใจ \'\'ฉันจะไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังปลอมตัวเป็นคนอื่นอยู่เลยหากฉันเป็นมินนี่ เม้าส์ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันอยากเป็นมินนี่ เม้าส์ จริงๆ นะ \'\'

          \'\'ฉันคิดว่ามันน่ารักมาก เธอไม่ใช่คนที่ทำตัวแย่ๆ ด้วย ในขณะที่คนอื่นๆ พากันไปซื้อชุดแต่งแฟนซีเป็นตัวละครอย่าง โดโรธีในแบบที่ดูเซ็กซี่ในแบบเสื่อมๆ แบบนั้น ฉันจะไปที่ร้านแล้วเลือกชุดสีแดงสำหรับมินนี่ เม้าส์ แทน และมันก็ยังมีเครื่องแต่งกายของสโนว์ไวท์ด้วย ไบรอันก็ชอบมันมาก เขาบอกว่าฉันควรทำอย่างนี้นะ แต่ฉันก็ไม่ต้องการเป็นพวกเธอในแบบที่เสื่อมๆ ไม่ใช่ในปีนี้แน่ๆ แต่ฉันคิดว่ามันคงจะสนุกมากหากฉันได้เป็นมินนี่ โดยพิจารณาจากสิ่งที่ฉันพูดๆ ไปเกี่ยวกับดิสนีย์ ฉันรักดิสนีย์มาก \'\'

          ผลงานในอนาคต

          ส่วนในช่วงเวลาฮาโลวีนของปีนี้ น่าเสียดายที่ฟ็อกซ์ จะไม่ได้อยู่ที่บ้านเพื่อสวมชุดฮาโลวีน เพราะเธอกำลังถ่ายหนังเรื่องใหม่ \'\'Passion Play\'\' ซึ่งจะถ่ายทำกันที่ซานตาเฟ่ รัฐนิวเม็กซิโก หนังเรื่องนี้เลื่อนการถ่ายทำล่าช้าออกมาจากเหตุผลทางด้านต้นทุน และทำให้ตารางของฟ็อกซ์ต้องลากยาวออกไป ในเรื่องนี้ เธอจะได้แสดงประกบพระเอกรุ่นใหญ่อย่าง มิคกี้ รู้ค ที่รับบทนักเป่าทรัมเป็ต ที่ตกอยู่ในห้วงของปัญหาหนัก เมื่อเขาไปร่วมหลับนอนกับเมียของอาชญากรตัวฉกาจ

          ฟ็อกซ์ อธิบายบทบาทของเธอในหนังเรื่องนี้ว่า \'\'ชายคนหนึ่งกำลังหลงทางอยู่กลางทะเลทราย และเขาก็มาพบกับคณะละครสัตว์ร่อนเร่ ซึ่งฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของโชว์ประหลาดๆ ในนั้นด้วย ฉันเล่นเป็นผู้หญิงที่มีปีก ฉันมีปีกที่งอกออกมาจากกลางหลัง ในช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น และฉันก็ต้องกลายมาอยู่ในคณะโชว์ พวกผู้ชายต่างเสียเงินมาดูฉัน และมิคกี้กับฉัน ก็มีเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักกัน ฟังดูพิสดารดีใช่ไหมล่ะ?\'\'

เมแกน ฟ็อกซ์
เมแกน ฟ็อกซ์



          Passion Play เขียนบท และเป็นผลงานกำกับการแสดงครั้งแรกของผู้กำกับฯ มิทช์ เกลเซอร์ ซึ่งฟ็อกซ์ก็กล่าวถึงการร่วมงานกับผู้กำกับฯ รายนี้ว่า \'\'มิทช์ ย้ำอยู่เสมอว่าฉันไม่ได้มีปีกที่ขาวสะอาดเหมือนกับนางฟ้าแบบนั้น\'\' ส่วนการทดลองสวม \'\'ปีก\'\' ที่เธอต้องใช้ในระหว่างแสดงนั้น ในครั้งแรกเธอถึงกับเป็นลมไปเลยทีเดียว \'\'ฉันต้องอยู่ในสภาพเกือบเปลือยต่อหน้าผู้ชายเป็นโหลที่ฉันไม่รู้จัก ฉันร้อนมาก และชุดที่ต้องสวม มันก็ทำให้อวัยวะของฉันได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ฉันหายใจไม่ออกเลย และฉันก็เป็นลมไป\'\'

          นั่นคือหนังเรื่องแรกที่เธอรับบทที่ต้องใช้การแสดงที่ซับซ้อน และในหนังเรื่องถัดมา \'\'Jonah Hex\'\' ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนของค่ายมาร์เวล เธอก็อาจได้รับบทที่เธอถนัดมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ นั่นคือ...บทโสเภณี \'\'ฉันต้องมีฉากเซ็กซ์ครั้งแรกในหนังเรื่องนี้นะ\'\' เธอบอก \'\'แต่ฉันก็ยังใส่กางเกงใน และมีซิลิโคนที่คอยสวมทับหน้าอกของฉันเอาไว้ด้วย ฉันจะไม่มีวันเปลือยกายในหนังอย่างเด็ดขาด แม้บางคนอาจจะเตือนฉันว่าอย่าได้พูดคำว่า \'\'ไม่มีวัน\'\' แต่บางส่วนร่างกายของฉัน เป็นแค่ไม่กี่อย่างที่ยังเหลืออยู่เป็นของฉัน ส่วนอื่นๆ ของฉันนั้น โลกก็ได้รับรู้ ได้เห็นกันไปหมดแล้ว\'\'

          เธอหยุดการสนทนาลงเพียงแค่นั้น...จากที่ได้เห็น มันน่าประหลาดใจไม่น้อย ที่บุคลิกของเธอที่ได้เห็นตามหน้าหนังสือกอสซิปหรือนิตยสารผู้ชายทั่วไป จะเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้ เพราะเธอเปลี่ยนจากสาวสุดซ่าที่ร่าเริง กลายเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดี และแทบจะไม่เอ่ยถึงในเรื่องเซ็กซ์ใดๆ เลย \'\'บางทีฉันอาจต้องถอยหลังมานิดหน่อยแล้ว ฉันมีชีวิตอยู่ในกล่องกระจก และฉันก็อยู่ตามที่ต่างๆ เพื่อให้ผู้ชายจ่ายเงินมาดูฉัน และนั่นมันรบกวนฉันมาก ฉันไม่ต้องการจะมีชีวิตอย่างนั้นหรอก\'\' เธอทิ้งท้ายก่อนจะจากไป....

 


  ดูหนัง หนังใหม่ โปรแกรมหนัง หนังตัวอย่าง คลิกเลย


  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก 
  

 

 

 

 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปลือยชีวิต ทุกเบื้องลึก เมแกน ฟ็อกซ์ อัปเดตล่าสุด 16 กรกฎาคม 2556 เวลา 16:41:19 1,659 อ่าน
TOP