The Warrior and the Wolf

          เป็นเวลานานกว่าสองพันปีก่อน ที่จักรพรรดิชาวฮั่นได้ส่งกองทัพของพระองค์เดินทางไปยังบริเวณชายแดนด้านตะวันตก ไกลออกไปกว่าทะเลทรายโกบี เพื่อปราบชนเผ่ากบฎกลุ่มหนึ่ง การสู้รบอาจเกิดขึ้นได้ในทุกฤดูกาล ยกเว้นฤดูหนาวที่แสนทารุณ ช่วงเวลาอากาศหนาวเย็นสะท้านหัวใจ ดินแดนแห่งนี้ได้ตกเป็นของเหล่าหมาป่าดุร้าย แม่ทัพจางอันเหลียงมองเห็นแววของขุนพลลู่เชียงกัง จึงลงมือฝึกฝนเขาด้วยตนเอง เพื่อให้ลู่เป็นนักรบผู้กร้าวแกร่งและไร้ความปรานี เมื่อแม่ทัพจางถูกศัตรูจับตัวไป ลู่ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำแทน และตัดสินใจขอเจรจาแลกตัวเชลยศึกระหว่างแม่ทัพจางและเจ้าชายของฝ่ายกบฎ เมื่อได้ตัวแม่ทัพจางที่บาดเจ็บสาหัสคืนมา ลู่จึงส่งตัวเขากลับไปยังเมืองหลวง

          ย่างเข้าฤดูหนาว กองทัพของลู่ต้องถอนกำลังกลับ ระหว่างการเดินทางพวกเขาหลบพายุหิมะบริเวณภูเขาคุนลุ้น ไปอยู่ในหมู่บ้านของชาวเผ่าฮารานที่เลื่องชื่อในเรื่องไสยศาสตร์และคาถาอาคม ลู่ยึดกระท่อมหลังหนึ่งเป็นที่พัก และได้พบกับม่ายสาวลึกลับผู้ซ่อนกายอยู่ในหลุมหลบภัยใต้ดิน ภายหลังการตายของสามี เธอก็ใช้ชีวิตเพียงลำพังมาโดยตลอด ด้วยความเชื่อที่ว่าการมีสัมพันธ์กับชายนอกเผ่าจะทำให้ชีวิตเธอต้องพบกับความวิบัติ ทว่าลู่ได้ใช้กำลังขืนใจเธอ จนกลายเป็นความรักในเวลาต่อมา เมื่อพายุหิมะสงบลง และกองทัพพร้อมเดินทางกลับสู่เมืองหลวง หญิงสาวเสียใจมากถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย แต่ลู่ช่วยชีวิตเธอไว้ทัน เมื่อมวลหมู่ทหารก้าวเข้าเขตทะเลทราย พวกเขาต้องเผชิญกับคลื่นหมาป่าขนาดมหึมา พร้อมกับพายุทรายน่ากลัว ที่พัดกระหน่ำจนลู่ต้องซมซานกลับมาหาหญิงสาวที่หมู่บ้านอีกครั้ง...

          ห้าปีต่อมา กลุ่มกบฏชายแดนถูกปราบอย่างราบคาบ แม่ทัพจางได้รับบัญชาจากองค์จักรพรรดิ ให้เดินทางมาในฐานะราชทูตเพื่อยื่นจดหมายฉบับหนึ่งแก่ผู้นำกลุ่มกบฏ แม่ทัพจางและไพร่พลของเขาต้องปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นก่อนฤดูหนาวมาเยือน แต่เขากลับรู้สึกถึงลางร้าย เมื่อรู้ว่ามีหมาป่าสองตัวคอยจับจ้องมองเขาทุกย่างก้าว...