เรื่องย่อ Oculus
"คุณจะได้เห็นในสิ่งที่มันอยากให้เห็น" ผลงานจากผู้สร้าง insidious ทั้งสองภาค และ Parnormal Activity ทุกภาค Oculus เริ่มเรื่องราวด้วยโศกนาฏกรรมในบ้านแสนสุข เมื่อพ่อและแม่ในบ้านถูกฆาตกรรมโหด และ ทิม ลูกชายคนเล็กถูกตัดสินว่าเป็นผู้ลงมือ อีกสิบปีต่อมาหลังจากที่ถูกปล่อยตัวจากสถานกักกัน เคลี่ย์ พี่สาวของเขาที่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นซึ่งไม่มีใครเคยเชื่อ เธอวางแผนมาตลอดสิบปีเพื่อที่จะทำลายตัวการที่แท้จริง
เคลี่ย์ และ ทิม ร่วมมือกันเพื่อทำลาย "กระจกโบราณ" ภายในบ้านหลังเดิมที่พวกเขาเคยอยู่ ซึ่งมันก็คือแหล่งรวมพลังงานชั่วร้ายและเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์สยองมานานหลายศตวรรษ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดนั่นคือพลังของกระจกบานนี้ทรงพลังเกินกว่าที่จะรับมือ และทำให้ต้องเจอกับฝันร้ายที่กลับมาเล่นงานพวกเขาอีกครั้ง
เกร็ดภาพยนตร์
Oculus คือหนังสยองขวัญที่สร้างจากหนังสั้นชื่อเดียวกันปี 2006 ที่ได้รับเสียงชื่นชมและได้รับรางวัลหนังสั้นยอดเยี่ยมจาก ShockerFest และ DragonCon Short Film Festival โดยผู้กำกับ ไมค์ ฟลานาแกน ที่ได้รับไฟเขียวจาก Blumhouse สตูดิโอผู้สร้าง Insidious และ Paranormal Activity ทุกภาค ก็เผยถึงจุดเด่นของหนังสยองขวัญเรื่องนี้ว่า "ผมคิดว่าไอเดียของหนังสยองขวัญเรื่องนี้ไม่มีใครเคยทำมาก่อน แน่นอนที่คุณอาจเคยเห็นวัตถุผีสิงในหนังมาก่อน แต่การเล่าเรื่องของเรานั้นแตกต่างออกไป เพราะเหตุการณ์ในอดีตของครอบครัวรัสเซล และเหตุการณ์ปัจจุบันของสองพี่น้องผู้รอดชีวิต มันเกิดขึ้นพร้อมกันและถูกเล่าแบบทับซ้อนกันในหนัง และยังไม่รวมอำนาจของปีศาจร้ายที่จะคอยเล่นตลกกับจิตของคุณ ผมคิดว่านี่จะเป็นหนังที่ทำให้คนดูตกใจกลัวและทึ่งไปกับแนวทางพร้อม ๆ กัน"
Oculus เข้าฉายรอบ Midnight Madness ในงาน Toronto Film Festival ซึ่งก็ได้เสียงชื่นชมจากทุกคน โดยได้รับการโหวตเป็นหนังยอดนิยมอันดับ 2 ประจำเทศกาล และปัจจุบันก็ยังมีคะแนนอยู่ที่ 100% ในเวปไซด์ Rottentomatoes โดยนักวิจารณ์ เดนนิส ฮาร์วี่ย์ จากนิตยสาร Variety ก็เขียนไว้ว่า "Oculus เป็นหนังที่ท้าทายคุณทั้งความคิดและสภาพจิตใจ ความฉลาดในการเล่าเรื่องและการหักมุมจะทำให้คุณทึ่ง ในขณะที่บรรยากาศและความสยองก็จะท้าทายจิตใจของคุณ" ในขณะที่ ดรูว์ แม็ควีนี่ย์ จากเวปไซด์หนัง Hitflix ก็เขียนไว้ว่า "ผู้กำกับ ไมค์ ฟลานาแกน นำเอาพื้นฐานของหนังสยองขวัญที่ฟังดูแล้วคุ้นเคย มาเขย่าใหม่และใส่รายละเอียดของหนังแนวสืบสวนสอบสวนลงไป ทำให้มันเป็นหนังไฮบริดจ์ที่น่าทึ่งที่สุดประจำเทศกาล"