เติมเต็มความฝัน แรงบันดาลใจ ไปกับหนังแนว Feel Good ที่จะทำให้หัวใจได้พองโต
สิ่งที่ได้จากการดูหนังไม่ใช่แค่เพียงความสนุกอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหนังหลายเรื่องยังแทรกข้อคิดพร้อมกับเรื่องราวดี ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าคนดู แถมยังสามารถสร้างพลังใจให้กับเราได้อย่างเหลือเชื่อ ในวันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอหยิบลิสต์หนังแนวฟีลกู้ดมาใหได้เลือกไปชมกัน เชื่อว่าคอหนังหลาย ๆ คนอาจจะมีลิสต์รายชื่อหนังเหล่านี้อย่างน้อยสักเรื่องที่เป็นหนังในดวงใจอย่างแน่นอน
1. About Time
หนังพูดถึงเรื่องราวของ ทิม ชายหนุ่มธรรมดาที่ได้รู้ความจริงจากพ่อว่าลูกชายในตระกูลจะมีความสามารถย้อนเวลาได้ ซึ่งจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นและเคยเกิดขึ้นมาแล้วในชีวิตของเขาได้ เขาจึงตัดสินใจใช้พรสวรรค์นี้ในการหาแฟนสักคน และย้อนเวลาเพื่อแก้ไขสิ่งต่าง ๆ จนสามารถเอาชนะใจหญิงสาวได้ About Time เป็นหนังฟีลกู้ดอีกเรื่องหนึ่งเลยที่อยากแนะนำให้ได้ลองชมกัน เพราะมีทั้งข้อคิดดี ๆ และเรื่องราวความรักของครอบครัวและการใช้ชีวิตเข้าไปด้วยกัน ทำให้เราได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วการย้อนเวลาก็ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง
2. The Pursuit of happyness
ชีวิตต้องสู้ของคุณพ่อใน The Pursuit of Happyness สร้างจากเรื่องจริงของ คริส การ์ดเนอร์ มหาเศรษฐีผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคในชีวิต หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยข้อคิดเรื่องการใช้ชีวิตและความหวังมากมาย และประโยคที่สร้างกำลังใจให้ใครหลายคนคงหนีไม่พ้น "อย่าให้ใครมาบอกว่าลูกทำอะไรไม่ได้ เมื่อเรามีความฝันเราต้องปกป้องมัน และเมื่อเราต้องการอะไรก็จงคว้ามันมาให้ได้" ทำให้เห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากกำลังใจจากครอบครัวและคนที่คุณรักจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ผลักดันให้ก้าวต่อไป
3. Love Actually
ถ้าพูดถึงหนังฟีลกู้ดคงจะไม่มี Love Actually หนังรักโรแมนติกระดับตำนานไม่ได้ เพราะหนังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ ภายใต้บรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสที่ทั้งน่ารัก ซึ้ง และเศร้า เคล้ากันไป ซึ่งตอนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงเป็นฉากสารภาพรักหน้าประตูบ้านด้วยแผ่นกระดาษแทนการพูด โดยตัวหนังแสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะมีอุปสรรค แต่ "ความรักก็คือความรัก" ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และในทุกความรักไม่ได้มีแต่คำว่า "แฮปปี้เอนดิ้ง" ซึ่งทุกคนก็ต้องเรียนรู้กันไป
4. Wonder
หนังดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนติดอันดับ 1 New York Times Bestselle ผลงานการเขียนโดย อาร์.เจ. ปาลาซิโอ ถ่ายทอดชีวิตของเด็กชายวัย 10 ขวบ ออกัสต์ พูลล์แมน เด็กชายผู้ป่วยเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ตั้งแต่แรกเกิด เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งเพื่อให้มีชีวิตรอด และผลจากการผ่าตัดคือทำให้เขามีแผลบนใบหน้า อ๊อกกี้ ใช้เวลาทั้งหมดอยู่แต่ในบ้าน แต่เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งเขาต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยการไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน มันไม่ง่ายเลยที่เด็กคนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองแตกต่างจะต้องเข้าสังคม อ๊อกกี้ ต้องเอาชนะความกลัวของตัวเองและต่อสู้กับสิ่งที่คนภายนอกคิด ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนแต่แข็งแกร่ง พร้อมแรงซัพพอร์ตของครอบครัว ส่งต่อให้คนรอบข้างเปลี่ยนมุมมองต่อการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี
5. The Secret Life Of Walter mitty
เป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้เหล่าคนทำงานอยากออกไปตามฝันในการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากสำหรับ The Secret Life Of Walter mitty ที่นำเสนอเรื่องราวของ วอลเตอร์ มิตตี้ บรรณาธิการภาพนิตยสารท่องเที่ยว ที่ใช้ชีวิตสุดน่าเบื่อไปวัน ๆ และมักจะฝันกลางวันไปถึงการผจญภัยอันแสนยิ่งใหญ่ แต่เหตุการณ์พลิกชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อภาพถ่ายที่ต้องใช้ขึ้นปกสุดท้ายหายไป การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อตามหาภาพถ่ายคืนมาจึงเริ่มต้นขึ้น เรียกได้ว่าการเดินทางของ มิตตี้ เป็นเหมือนตัวแทนของคนที่อยากออกจากเซฟโซนเพื่อตามหาความฝันของตัวเองได้เป็นอย่างดี
6. The Intouchables
เป็นหนังที่สร้างกำลังใจได้อย่างดีสำหรับ The Intouchables กับเรื่องจริงของมหาเศรษฐีที่ต้องนั่งเก้าอี้เข็นตลอดชีวิตเพราะอุบัติเหตุ จึงต้องหาพยาบาลส่วนตัวมาดูแล และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้พบกับคนดูแลที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างคาดไม่ถึง มิตรภาพของทั้งสองคนค่อย ๆ เติบโตขึ้นผ่านเสียงหัวเราะและน้ำตา ซึ่งการทะเลาะถกเถียงกันในหลาย ๆ เรื่องกลับทำให้เขาทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันเป็นอย่างดี ทั้งคู่เป็นเหมือนส่วนผสมที่แตกต่างแต่สามารถรวมกันได้อย่างลงตัว หนังเรื่องนี้สอนให้เรากลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ใครที่ต้องการเติมเต็มช่องว่างในจิตใจหนังเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์คนดูได้อย่างแน่นอน
7. The Intern
เรื่องราวของชายวัยเกษียณที่ยังปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่ว่างงานไม่ได้และยังมีไฟในการทำงาน จนโชคชะตาพาให้เขาได้เจอกับประกาศรับสมัครงานพนักงานฝึกหัดอาวุโสของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่แห่งนั้นเขาได้เริ่มทำงานกับเด็กรุ่นใหม่และพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อให้สามารถเข้ากับบริษัทได้ การบาลานซ์กันของวัยเก๋าที่มากไปด้วยประสบการณ์ ใจเย็น และให้ความเคารพผู้อื่น ทั้งหมดนั้นทำให้เขากลายเป็นแรงผลักสำคัญที่สอนให้คนรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งนั่นเป็นจุดประสงค์หลักที่หนังเรื่องนี้ต้องการสื่อให้กับคนดูได้เข้าใจ หนังเรื่องนี้นับว่าเล่าเรื่องความลงตัวระหว่างคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ได้อย่างน่าติดตาม
8. Forrest Gump
หนังสร้างจากนิยายเรื่อง Forrest Gump ที่แต่งโดย วินส์ตัน กรูม ได้รับการจัดอันดับเป็นภาพยนตร์อเมริกันที่ดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มไอคิวต่ำกว่ามาตรฐาน จากแอลละแบมา ที่มีนิสัยน่ารักและมีจิตใจดี ในภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1950-1970 จากคนร่างกายพิการไปเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล เป็นทหารในสงครามเวียดนาม โดยมีประโยคเด็ดโดนใจใครหลายต่อหลายคนที่ว่า "I maybe stupid but i knows what love is ผมอาจจะโง่ แต่ผมรู้ว่าความรักคืออะไร"
9. Notting Hill
หวานฉ่ำไปกับรักชวนฝัน.. เรื่องราวความรักของซุปตาร์สาวและหนุ่มขี้อายเจ้าของร้านหนังสือ หนังโทนเย็น ๆ ที่ทำให้เราเห็นความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยมนตร์เสน่ห์แห่งเมืองน็อตติ้งฮิลล์ ด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดินความรักของทั้งคู่จะลงเอยกันได้อย่างไร ต้องลองติดตามกันดู ส่วนเพลงประกอบภาพยนตร์อย่าง When You Say Nothing At All ของ โรแนน คีทติ้ง ก็ฮิตติดลมบนจนถึงทุกวันนี้
10. Military Wives
เป็นหนังฟีลกู้ดอีกเรื่องที่อยากให้คอหนังได้ชมกัน กับ Military Wives ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของการรวมตัวนักร้องประสานเสียง ในนาม Military Wives Choir ของเหล่าแม่บ้านทหารที่พยายามจะหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยความหวังที่จะคลายความทุกข์และความโดดเดี่ยว ส่งต่อกำลังใจด้วยเสียงเพลงบรรเลงจากพวกเธอ
และทั้งหมดนี้คือหนัง Feel Good ดี ๆ ที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ดู เพราะนอกจากที่จะช่วยเติมเต็มความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ และเพิ่มกำลังใจให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีเป้าหมายแล้ว การได้นั่งดูหนังดี ๆ สักเรื่องก็ยังสามารถทำให้เราผ่อนคลายได้ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดแบบนี้อีกด้วย "Stay Safe at HOME" นะทุกคน
