Final Destination
Final Destination
มัจจุราชสยบฆาตกรจอมเชือด Final Destination ครองแชมป์ $27.4 ล้าน (สยามดารา)
ภาคที่ 4 ของแฟรนไชส์ที่มีอายุ 9 ปี นิวไลน์ ซีเนม่า สตูดิโอของหนังที่ใช้ทุนในการสร้าง $40 ล้าน เลือกเปิดตัวในโรงหนัง 3D สูงเป็นสถิติ 1,678 แห่งหรือเกินกว่าครึ่งของโรงภาพยนตร์ทั้งหมดที่เข้าฉาย 3,121 แห่ง โดยตั๋วหนังที่แพงกว่าปกติของการฉายแบบ 3 มิติคิดเป็น 70% จากรายรับรวม จนช่วยให้ลบสถิติเปิดตัวของ Final Destination 3 ที่ทำเอาไว้ $19.1 ล้านเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2006 ก่อนจะมีรายรับสุดท้ายในสหรัฐฯ $54.1 ล้าน
อาจไม่ใช่เรื่องปกติที่หนังแนวสยองขวัญ 2 เรื่องเปิดตัวในสุดสัปดาห์เดียวกันให้เกิดการแย่งคนดูกันเปล่าๆแต่รายรับที่ออกมากลับดีกว่าที่ทุกคนคิดโดย เจฟฟ์ โกลด์สตีน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายของวอร์เนอร์ บรอส พูดถึงความสำเร็จของสตูดิโอลูกกับ The Final Destination "พวกเขาได้รับ $16 ล้าน ส่วนเราได้ $27 ล้าน ถือว่าเป็นการทำธุรกิจที่ดีในระดับหนึ่ง"
ขณะที่ Halloween II ที่มีฉากเลือดสาดน้อยลง และเลือกดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่แล้วจากฝีมือกำกับของ ร็อบ ซอมบี้ อดีตนักร้องเฮฟวี่เมทัลชื่อดังอีกครั้ง อาจผิดหวังที่ไม่สามารถเปิดตัวอันดับ 1 อย่างที่ได้รับการคาดหมาย และแพ้ Halloween ที่ทำได้ $26.4 ล้านในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกันของปี 2007 แต่ไดเมชั่น สตูดิโอลูกของเดอะ ไวน์สตีน คอมพานี ประกาศล่วงหน้าว่าจะมีการสร้างภาค 3 ออกฉายในซัมเมอร์ 2010 และที่สำคัญจะมาในแบบ 3D เหมือนหนังเรื่องอื่นๆเป็นครั้งแรก
"เราทำได้ดีมากๆ มีทุกสิ่งที่สามารถเอาชนะหนังสยองขวัญอีกเรื่อง" บ็อบ ไวน์สตีน บอสใหญ่ของเดอะ ไวน์สตีน คอมพานี ให้ความเห็นหลังจากเทียบกับต้นฉบับในยุค 80 ที่รายรับภาคแรกกับภาคต่อก็ตกลงแบบนี้ "เรามีความสุขมากกับหนังที่ใช้ทุนสร้างไปเพียง $15 ล้าน แต่กลับประสบความสำเร็จสูงกว่าที่คิดหลายเท่า"
Taking Woodstock
อีกผลงานใหม่ที่เปิดตัวในวงกว้างสุดสัปดาห์นี้ Taking Woodstock ของผู้กำกับออสการ์ อัง ลี ที่นำเรื่องราวของเทศกาลดนตรีที่เป็นประวัติศาสตร์มาทำให้ผู้ชมได้ย้อนกลับไปสู่ยุคดนตรีไซคีเดลิค และเหล่าฮิปปี้ เปิดตัวในอันดับ 9 ด้วยรายรับ $3.5 ล้านในการฉาย 1,393 โรง
ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ Harry Potter and the Half-Blood Prince กลายเป็นตอนที่ทำรายรับสูงสุดอันดับ 2 ของแฟรนไชส์ที่สร้างจากนิยายขวัญใจเด็กทั่วโลก หลังทำรายรับเพิ่มอีก $294.3 ล้านจากการฉาย 47 วัน เป็นรองเพียงแค่ Philosopher\'s Stone ภาคแรกเท่านั้น
Inglourious Basterds
มาที่แก๊งสุดแสบ Inglourious Basterds แชมป์เก่าจากสัปดาห์ก่อน ตกมาอยู่อันดับ 2 ทำรายรับ $19.3 ล้านลดลง 49% ทำให้ยากที่จะลบสถิติสูงสุดของหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของ Saving Private Ryan ที่ทำเอาไว้ $216 ล้านเมื่อปี 1998 แต่รายรับ 10 วันที่ทำได้ $73 ล้านทำให้กลายเป็นผลงานของผู้กำกับฯ เควนติน ทารันติโน่ ที่ทำรายรับสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Pulp Fiction ไปเรียบร้อย
แต่รายรับตลาดต่างประเทศ Inglourious Basterds สามารถรักษาแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยทำเงินเพิ่มอีก $19.4 ล้านใน 31 ประเทศ โดยหนังสามารถขึ้นอันดับ 1 ใน 5 ประเทศจาก 9 ประเทศที่เปิดตัวฉายในสัปดาห์นี้ ทำให้รายรับนอกสหรัฐฯ ของหนังเพิ่มเป็น $59.1 ล้าน
ในอันดับ 2 รายรับตลาดต่างประเทศ Ice Age: Dawn of the Dinosaurs กลับขึ้นมาด้วยรายรับ $15 ล้านจากการที่ยืนโรงฉายอยู่ถึง 51 ประเทศจนทำให้รายรับรวมตอนนี้ทะลุไป $635.2 ล้านไปแล้ว และอันดับ 3 The Final Destination $10.1 ล้านจากการฉายใน 4 ประเทศที่รายรับส่วนใหญ่ก็มาจากโรง 3 มิติเช่นเดียวกับในสหรัฐฯ
ถึงตัวเลขรายรับรวมที่แน่นอนของซัมเมอร์ 2009 ยังไม่ออกมา แต่จากการประเมินของพอล เดอร์การาเบเดี้ยน นักวิเคราะห์ประจำเว็บ Hollywood.com เชื่อว่าจะอยู่ในราว $4.26 พันล้านเฉือนชนะซัมเมอร์ 2008 ไปแค่ 1.5% แต่ก็ถือเป็นสถิติใหม่ "เดือนสิงหาคมทำให้เรามีสถิติใหม่ ตามปกติทุกๆ ซัมเมอร์รายรับจะเฉือนชนะปีก่อนแบบฉิวเฉียด แต่ปีนี้เราข้ามผ่านไปอย่างยิ่งใหญ่"
Gamer
ที่สำคัญสตูดิโอต่างๆ ได้ต่อเวลาโกยเงินอีก 1 สัปดาห์ หลังจากปีนี้วันแรงงานของพวกเขาที่ตรงกับวันจันทร์แรกของเดือนกันยายนที่ปกติจะเป็นการปิดฤดูฉายซัมเมอร์อย่างเป็นทางการจะไปอยู่ในสุดสัปดาห์หน้าที่มี Gamer หนังแอ็กชั่นไซไฟของไลออนส์เกต ที่มี เจอราร์ด บัตเลอร์ แสดงนำ, All About Steve หนังโรแมนติกคอมเมดี้ของฟ็อกซ์ที่ได้ตัวแม่อย่าง ซานดร้า บูลล็อก มาประกบ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ และมิราแม็กซ์ จะมี Extract ที่มาในแนวเดียวกับเรื่องที่ 2 โดยมี เจสัน เบ็ตแมน กับเบน อัฟเฟล็ค แสดงนำ
ดูหนัง หนังใหม่ โปรแกรมหนัง หนังตัวอย่าง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
