Chance of Meatballs
แฟนหนังมะกันติดใจ Meatballs ครองแชมป์ 2 สมัยติด (สยามดารา)
ปักหลักฉายเรียกความสนใจอยู่เพียงเรื่องเดียวในบรรดาภาพยนตร์ที่ยืนโรงอยู่ในช่วงเวลานี้ Chance of Meatballs มีรายรับลดลงจากสัปดาห์แรกเพียงแค่ 17% ทำให้รวมระยะเวลาฉาย 10 วันหนังทำเงินไปแล้ว $60.4 ล้าน ถือว่าดีกว่าแอนิเมชั่นอย่าง Open Season, Meet the Robinsons และ Chicken Little แต่สุดสัปดาห์ที่ 3 คงเจองานหนักหน่อยเพราะดิสนีย์จะเริ่มทยอยส่งผลงานฮิตในอดีตของ พิคซาร์ สตูดิโอ
การ์ตูนอันดับ 1 ของฮอลลีวูดออกฉายในระบบ 3D ประเดิมด้วย Toy Story ที่มากันแบบ 2 ภาครวดกันเลย "เราได้พบว่าไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชมกลุ่มครอบครัวเท่านั้นที่ออกมาดูหนังเรื่องนี้ แต่พวกวัยรุ่นก็ให้การต้อนรับที่ดีเช่นกัน" รอรี่ บรูเออร์ ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายโซนี่ แสดงความพอใจในความสำเร็จของแอนิเมชั่นเรื่องที่ 3 ของสตูดิโอที่ใช้ทุนสร้างไปราว $100 ล้าน "การที่รายรับตกลงเพียง 19% ก็มีแค่หนังที่สามารถเข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่มจริง ๆ เท่านั้น"
Surrogates
ในขณะที่นักวิเคราะห์ฮอลลีวูดบางรายคาดการณ์ว่าผลงานล่าสุดของผู้กำกับฯ โจนาธาน มอสโตว์ (Terminator 3: Rise of the Machines) Surrogates จะเปิดตัวในอันดับ 1 จากการมีพระเอกรุ่นใหญ่ วิลลิส รับบทนำในเรื่องราวของโลกอนาคตที่หุ่นยนต์กลายเป็นตัวแทนการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ กลับทำได้ไม่ถึง 1 ใน 3 ของทุนสร้าง $80 ล้านด้วยซ้ำ ถือว่าใกล้เคียงกับหนังแนวเดียวกันอย่าง I, Robot ที่มี วิลล์ สมิธ แสดงนำเมื่อปี 2004 แต่ไม่ได้ดีกว่า The Island, Paycheck, The 6th Day หรือ Virtuosity หากวัดที่ยอดผู้ชมจริง ๆ
ทำให้ ชัค เวียน ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายดิสนีย์ แทบจะหาเหตุผลมาอธิบายไม่ถูก "ช่างเป็นเรื่องโชคร้ายเหลือเกิน ผมไม่คิดว่านี่เป็นสุดสัปดาห์ที่ดีสำหรับการออกมาดูหนัง และนั่นก็คงเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด ผมผิดหวังที่เราไม่ได้อันดับ 1 แต่ก็ยังมีความสุขที่เราชนะหนังเรื่องอื่น ๆ ที่เปิดตัวพร้อมกัน"
Fame
แต่ที่เปิดตัวน้อยกว่าในอันดับ 3 Fame รีเมกหนังเพลงยุค 80 ที่เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นไฮสกูลในโรงเรียนศิลปะทำรายรับ $10.01 ล้าน ไม่ได้สร้างความเสียหายให้ เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอ ผู้สร้างเท่าไรนักจากการที่ใช้ทุนสร้างไปแค่ $18 ล้าน และการตกลงขายลิขสิทธิ์การฉายในประเทศอื่นๆล่วงหน้า ก็สร้างกำไรให้พวกเขาไปแล้ว
"แน่นอนว่าเราอยากจะทำรายรับให้ได้เยอะกว่านี้แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครต้องขาดทุน" เอริค โลมิส ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายเอ็มจีเอ็ม พูดอย่างสบายใจ โดย Fame เป็นการร่วมทุนสร้างกับยูเอ และเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์
Pandorum
สำหรับตำแหน่งผู้แพ้ประจำสุดสัปดาห์นี้ตกอยู่กับ Pandorum หนังไซไฟสยองขวัญที่ทำออกมาในระดับที่ควรจะถูกส่งฉายทางเคเบิลทีวีหรือออกขายเป็นดีวีดีมากกว่า โดยเดนนิส เคว็ด ในบทกัปตันยานอวกาศที่พอจะมีเครดิตมากที่สุดในการเรียกคนดู ช่วยให้หนังทำเงินไป $4.4 ล้านจากการฉาย 2,506 โรง ทำเอาโอเวอร์เจอร์ ฟิลม์ส ที่ซื้อลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายในสหรัฐฯ ต่อจาก คอนสแตนติน บริษัทสร้างหนังสัญชาติเยอรมัน ด้วยเงิน $10 ล้านต้องผิดหวังไม่น้อย
ในขณะที่รายรับตลาดต่างประเทศสุดสัปดาห์นี้ ดิสนีย์กลายเป็นผู้ชนะตัวจริงหลังจากผลงาน 4 เรื่องของพวกเขาสามารถทำรายรับรวมเกือบ $34 ล้าน ไล่จาก Up ที่ครองอันดับ 1 เป็นสัปดาห์ที่ 2 ด้วยตัวเลข $12.3 ล้านใน 25 ประเทศ ตามติดมาในอันดับ 2 Surrogates ที่ถึงจะเปิดตัวในสหรัฐฯ ได้ไม่น่าพอใจ แต่ชื่อของป๋าบรูซยังขายได้ในระดับอินเตอร์เสมอ แค่เปิดตัว 10 ประเทศก็ทำเงินไปแล้ว $12.2 ล้าน
G-Force
อีก 2 เรื่องที่เหลือก็มี G-Force รั้งอันดับ 5 ร่วมกับ The Ugly Truth หนังโรแมนติกคอมเมดี้ของโซนี่ ที่ทำรายรับ $5.8 ล้านเท่ากันและ The Proposal ของ ซานดร้า บูลล็อก เจ้าแม่หนังรักที่เพิ่งเข้าฉายในบ้านเราเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ได้แรงหนุนจากการเปิดตัวอันดับ 1 ในประเทศฝรั่งเศส $2.1 ล้านมาช่วยจนทำให้รายรับสุดสัปดาห์นี้อยู่ที่ $3.6 ล้านใน 37 ประเทศรวมทั้งหมดก็โกยไปแล้ว $140.8 ล้าน
สรุปรายรับรวมบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ สุดสัปดาห์นี้ จะอยู่ที่ $100.5 ล้านลดลง 4.5% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี Eagle Eye หนังแอ็กชั่นฟอร์มยักษ์เปิดตัวในอันดับ 1 $29.2 ล้าน คงต้องรอลุ้นว่าสัปดาห์หน้ารายรับจะตีกลับมาได้หรือไม่กับผลงานใหม่ที่จะเปิดตัวอย่าง The Invention of Lying ของ ริคกี้ เกอร์เวส ดาวตลกชาวอังกฤษที่ควบตำแหน่งแสดงนำ-กำกับ, โซนี่ จะเสี่ยงกับการให้ วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน แสดงนำเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีกับ Zombieland หนังแนวล่าซอมบี้เบาสมอง และดิสนีย์ จะส่งเวอร์ชั่น 3 มิติของ Toy Story ออกฉายเป็นครั้งแรกในแบบควบ 2 ภาครวด
ดูหนัง หนังใหม่ โปรแกรมหนัง หนังตัวอย่าง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
