2012 วันสิ้นโลก
2012 วันสิ้นโลก ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศ ทั่วโลก $225 ล้าน (สยามดารา)
ผลงานกำกับของ โรแลนด์ เอ็มเมอริช (Independence Day, The Day After Tomorrow) ที่มีสเปเชียลเอฟเฟกต์สุดอลังการทุนสร้าง $200 ล้าน แต่หนังใช้เวลาเพียง 3 วันโกยเงินคืนมา $225 ล้าน ทั้งที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่งที่ถือว่าเป็นปัญหาพอสมควรสำหรับโรงหนังที่จะจัดรอบฉายให้ลงตัว
2012 ถือเป็นการกลับคืนฟอร์มอีกครั้งของเอ็มเมอริช หลังจากความล้มเหลวของ 10,000 B.C. เมื่อปีที่แล้ว โดยทำสถิติเปิดตัวสูงสุดอันดับ 2 ของหนังแนวภัยพิบัติรองจาก The Day After Tomorrow ผลงานในปี 2004 ของเขาเอง ที่ทำเอาไว้ $68.7 ล้าน และเป็นสถิติเปิดตัวอันดับ 7 ในสหรัฐฯ ของเดือนพฤศจิกายนอีกด้วย
"ผมรู้สึกได้เลยว่าโลกกำลังเคลื่อนตัว" รอรี่ บรูเออร์ ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายโซนี่ แสดงความพอใจ "ผู้ชมมีการตอบรับที่ดีกับภาพเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อที่พวกเขาได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง นี่เป็นหนังที่ยกระดับมาตรฐานการทำงานขึ้นมาอีกครั้ง แม้กระทั่งตัวของ โรแลนด์ เอ็มเมอริช เองก็ตาม"
"โรแลนด์เป็นนักสร้างหนังประเภทที่หว่านแหของเขาออกไปเป็นวงกว้าง เนื้อหาจะมีบางสิ่งที่คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ และนี่ก็เป็นเรื่องของการเอาชีวิตรอดของมวลมนุษยชาติ" ผู้บริหารโซนี่กล่าวโดยเกือบจะแน่นอนแล้วว่า เอ็มเมอริชจะสร้างเรื่องราวหลังจากในหนังออกมาเป็นซีรีส์ในอนาคต
อย่างไรก็ตามรายรับของ 2012 ไม่อาจกระตุ้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ หลังจากสุดสัปดาห์นี้ตัวเลขรวม $140 ล้านลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีหนังเจมส์ บอนด์ Quantum of Solace เปิดตัว แต่ พอล เดอร์การาเบเดี้ยน นักวิเคราะห์ประจำเว็บ Hollywood.com มองว่าการที่มีวันขอบคุณพระเจ้ารออยู่ในอีก 1 สัปดาห์เศษ หนังมหาภัยพิบัติเรื่องนี้จะทำรายรับได้สูงกว่าปกติ "มันให้ความรู้สึกเหมือนกับซัมเมอร์จริง ๆ และพิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าคุณนำหนังแบบซัมเมอร์เข้าฉายในช่วงใดก็ตาม คุณก็มีโอกาสได้รับตัวเลขในแบบเดียวกับซัมเมอร์กลับคืนมา"
A Christmas Carol
แต่การมาในแบบหนังฟอร์มยักษ์ซัมเมอร์ของ 2012 ไม่ส่งผลกระทบมากมายกับ A Christmas Carol แชมป์จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยหนัง 3D ที่ใช้ระบบเพอร์ฟอร์เมนซ์แค็ปเจอร์ของผู้กำกับ โรเบิร์ต เซเมคคิส ทำรายรับ $22.3 ล้านลดลงเพียง 26% และรายรับรวม 10 วัน $63.2 ล้าน ทำให้ดิสนีย์พอจะยิ้มออกหลังจากเปิดตัวต่ำกว่าเป้าจนมีการลาออกของประธานกลุ่มภาพยนตร์ เมื่อสัปดาห์ก่อน และคาดว่าจะทำรายรับลากยาวไปถึงคริสต์มาสที่ตรงกับเนื้อหาจริงของหนังได้อย่างสบาย ๆ
Pirate Radio
นอกจากนี้สุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีผลงานเปิดตัวใหม่ที่แอบฉายแบบเงียบ ๆ Pirate Radio (ชื่อเดิม The Boat That Rocked) ของ ริชาร์ด เคอร์ติส ผู้กำกับชาวอังกฤษที่เคยสร้าง Love Actually ให้กลายเป็นหนังรักในใจของใครหลายคน ลองมาทำหนังเพลงแนวตลกย้อนยุค ด้วยทีมนักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง ฟิลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน, บิลล์ ไนจ์ฮีย์ และ เคนเน็ธ บรานาห์ โดยทำเงินได้ $2.9 ล้านจากการฉาย 882 โรง
Precious: Based on the Novel "Push" by Sapphire
ขณะที่ Precious: Based on the Novel "Push" by Sapphire ผลงานที่สร้างจากนิยายเด็กสาววัยรุ่นอเมริกัน-แอฟริกัน ที่กำลังเป็นกระแสในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมาสู่อันดับ 3 หลังเพิ่มโรงฉายอีก 156 แห่ง ทำรายรับ $5.8 ล้าน กลายเป็นผลงานที่ออกฉายต่ำกว่า 200 โรงที่ทำรายรับช่วงสุดสัปดาห์สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Paranormal Activity หนังผีทุนสร้าง $15,000 ที่เพิ่งทะยานผ่านหลัก $100 ล้านเมื่อวันศุกร์ที่เป็นการฉายครบ 50 วัน (นับรวมการฉายแบบจำกัดโรง) และมีรายรับรวมในวันอาทิตย์ $103.6 ล้าน
Fantastic Mr.Fox
ที่เหนือความคาดหมายจริง ๆ ในสุดสัปดาห์นี้ต้องยกให้ Fantastic Mr.Fox แอนิเมชั่นแบบสต็อปโมชั่นของ เวส อันเดอร์สัน ผู้กำกับจอมพิถีพิถันจาก The Royal Tenenbaums และ The Darjeeling Limited โดยเข้าฉายเพียง 4 โรง แต่สามารถทำรายรับสูงถึง $265,900 เฉลี่ย $66,475 ต่อโรงมากกว่า Precious ที่ว่ากำลังมาแรงด้วยซ้ำ
กระแสตอบรับที่ดีแบบนี้ทำให้ คริส อารอนสัน รองประธานอาวุโสฝ่ายจัดจำหน่ายของทเวนตี้ เซ็นจูรี่ฟ็อกซ์ ออกมาพูดด้วยความมั่นใจก่อนที่ผลงานที่สร้างจากนิยายคลาสสิกของ โรอัลด์ ดาห์ล จะเปิดฉายในวงกว้างวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ "มันเป็นการเปิดตัวที่น่าเหลือเชื่อ เราหวังจะได้คนดูกลุ่มครอบครัวในช่วงบ่ายและเราก็ได้กลุ่มคนดูผู้ใหญ่เท่า ๆ กัน ทำให้สถานะของหนังอยู่ในจุดที่ดีก่อนจะเพิ่มโรงฉายในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าที่เราจะออกฉายในวงกว้างเหมือนกับหนังสำหรับผู้ใหญ่เรื่องอื่น ๆ "
The Twilight Saga New Moon
สำหรับสุดสัปดาห์คงจะลุ้นสนุกทีเดียวว่าคลื่นยักษ์ และแผ่นดินไหวของ 2012 จะจัดการเหล่าแวมไพร์ขวัญใจวัยรุ่นที่จะกลับมาอีกครั้งใน The Twilight Saga : New Moon ได้หรือไม่ หลังจากแฟรนไชส์อันทรงคุณค่าของซัมมิต เอนเตอร์เทนเมนต์ มียอดจองตั๋วล่วงหน้าเป็นสถิติใหม่ ขณะที่โซนี่แอบลุ้นกับ Planet 51 แอนิเมชั่นจากสตูดิโอยุโรปที่ได้นักแสดงดังอย่าง "เดอะ ร็อค" ดเวย์น จอห์นสัน, เจสซิก้า บีล และ แกรี่ โอลด์แมน มาร่วมให้เสียงพากย์ และวอร์เนอร์ ตั้งความหวังกับ ซานดร้า บูลล็อก นางเอกสาวข้างบ้านให้ช่วยเรียกคนดูใน The Blind Side หนังดราม่าอเมริกันฟุตบอลที่สร้างจากเรื่องจริง
ดูหนัง หนังใหม่ โปรแกรมหนัง หนังตัวอย่าง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
