เปิดเส้นทางออสการ์ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ปิดฉากการรอคอย 22 ปี

          ย้อนเส้นทางสู่ออสการ์ของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง The Revenant บนเวทีออสการ์ครั้งที่ 88

          งานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 88 ปิดฉากลงด้วยความชื่นมื่นพร้อมผลรางวัลที่หลายคนถูกอกถูกใจ โดยสาขาที่กลายเป็นกระแสมากเป็นพิเศษเห็นจะเป็นสาขานักแสดงนำชาย เพราะในที่สุด ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) เจ้าของบทนายพรานผู้ทรหดจากเรื่อง The Revenant ก็คว้ารางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ ถือเป็นรางวัลออสการ์ตัวแรกในชีวิตที่แฟน ๆ ทั้งโลกต่างเอาใจช่วย ไม่เว้นแม้แต่คนดังอย่าง อะเดล (Adele) รวมถึง เลดี้ กาก้า (Lady Gaga) ที่อวยพรให้เขาประสบความสำเร็จด้วยเหมือนกัน  (อ่านข่าว : ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ คว้านำชายยอดเยี่ยม จาก The Revenant)
          เส้นทางสู่รางวัลออสการ์ของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ผ่านการเข้าชิงเป็นจำนวนรวม 5 ครั้ง เริ่มตั้งแต่การเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายจากเรื่อง What\'s Eating Gilbert Grape เมื่อปี 1994 ตามมาด้วยการเข้าชิงสาขานักแสดงนำชายจาก The Aviator ในปี 2005, Blood Diamond ในปี 2007, The Wolf of Wall Street ในปี 2014 จนท้ายที่สุดสามารถคว้ารางวัลจากเรื่อง The Revenant หลังการรอคอยกว่า 22 ปี  (อ่านข่าว : ลีโอนาร์โด คว้าออสการ์ตัวแรก ชาวเน็ตดีใจน้ำตาจะไหล-ผุดกระแสฮาทั่วโลก) โดยแต่ละบทบาทที่เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงมีโฉมหน้าดังต่อไปนี้


• What\'s Eating Gilbert Grape (1993)

          ในเรื่องนี้ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ รับบทเป็นน้องชายผู้บกพร่องทางสติปัญญาของ จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) ส่งให้เขาถูกเสนอชื่อเช้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในสาขานักแสดงสมทบชาย ขณะที่เขามีอายุเพียง 19 ปี โดยคนที่คว้ารางวัลตัดหน้าไปคือ ทอมมี ลี โจนส์ (Tommy Lee Jones) จากเรื่อง The Fugitive
 
• The Aviator (2005)

          บทบาทนักบินผาดโผนรูปหล่อใน The Aviator ทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำชายเป็นครั้งแรก แต่น่าเสียดายที่เขาพ่ายรางวัลให้กับ เจมี่ ฟ็อกซ์ (Jamie Fox) ผู้สวมบทนักดนตรีตาบอดจากเรื่อง Ray

• Blood Diamond (2006)

          การพ่ายรางวัลให้กับ ฟอเรสท์ วิทเทคเกอร์ (Forest Whitaker) จากเรื่อง The Last King of Scotland นับเป็นความน่าเสียดายที่หลายคนยังจดจำ เพราะเรื่องนี้ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ทุ่มสุดตัวกับบทบาททหารรับจ้างผู้ออกตามหาเพชรสีชมพูหายาก

• The Wolf of Wall Street (2013)

          หลายคนคิดว่า ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ มีสิทธิ์คว้ารางวัลออสการ์ตัวแรกในบทโบรกเกอร์จอมโลภจากเรื่อง The Wolf of Wall Street แต่ผลสุดท้ายความแรงของเขาก็ไม่อาจต้าน แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ (Matthew McConaughey) ที่ลงทุนลดน้ำหนักเพื่อสวมบทชายติดเชื้อ HIV ในหนังเรื่อง Dallas Buyers Club

• The Revenant (2015)

          ชัยชนะครั้งสำคัญของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ มาจากบทนายพรานที่ถูกทิ้งให้ตายในป่าเพียงลำพัง โดยเขากวาดรางวัลจากบทเดียวกันมาแล้วจากเวทีลูกโลกทองคำ และ BAFTA จนทำให้หลายสำนักฟันธงว่าปี 2016 คือเวลาของเขาแล้ว

 
          "The Revenant คือผลของความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของนักแสดงและทีมงานที่ผมมีโอกาสร่วมงานด้วย" ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ กล่าวขอบคุณเพื่อนนักแสดงและทีมงานผู้อยู่เบื้องหลัง The Revenant โดยดารารูปหล่อวัย 41 ใช้โอกาสบนเวทีออสการ์ 2016 ฝากให้ทุกคนตระหนักถึงภัยของภาวะโลกร้อน ในฐานะที่หนังเรื่อง The Revenant เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ "ภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในตอนนี้ นี่คือภัยคุกคามอันใหญ่หลวงที่สุดต่อทุกชีวิตบนโลก เราทุกคนต้องร่วมมือกันและเลิกผัดวันประกันพรุ่งเสียที"