ชำแหละ Batman v Superman: Dawn of Justice กับ 10 ไข่อีสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ในหนัง ปูทางสู่อนาคตจักรวาล DC Comics หลายคนทราบดีว่า Batman v Superman: Dawn of Justice คือหนังที่ค่าย Warner Bros. และ DC Comics ตั้งใจปูทางสู่จักรวาลของ DC ที่กำลังจะบุกตลาดในอีกหลายปีหลังจากนี้ โดยสิ่งที่สตูดิโอลงมือทำคือการซ่อนเบาะแสต่าง ๆ หรือไข่อีสเตอร์ เพื่อให้ผู้ชมรับทราบว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งวันนี้เรารวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ Screen Rant และ Comic Book Resources ที่จะเปิดเผย 10 ไข่อีสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ใน Batman v Superman: Dawn of Justice มาดูกันเลยว่ามีอะไรซ่อนอยู่บ้าง
จิมมี่ โอลเซน
จิมมี่ โอลเซน คือช่างภาพคู่หูของ ลูอิส เลน
ที่ถูกผู้ก่อการร้ายยิงตายช่วงต้นเรื่อง เขาคนนี้เป็นลูกจ้างของหนังสือพิมพ์
Daily Planet และเป็นเพื่อนสนิทของ คล้าก เค้นท์ ในฉบับหนังสือการ์ตูน
โดยผู้กำกับ แซค สไนเดอร์ (Zack Snyder) ให้สัมภาษณ์ว่า จิมมี่ โอลเซน
จะมีฉากเพิ่มเติมใน Blu-ray และ DVD เวอร์ชั่นพิเศษ
นี่ไม่ใช่ปี 1938 แล้วนะ
ในฉากที่บรรณาธิการ เพอร์รี่ ไวท์ บอกให้ลูกน้องอย่าง
คล้าก เค้นท์ เลิกตามข่าวของเหล่าฮีโร่ได้แล้ว เขาพูดประโยคเด็ดออกมาว่า
"นี่มันไม่ใช่ปี 1938 แล้วนะ" ซึ่งในความจริงปี 1938 ถือเป็นครั้งแรกที่
ซูเปอร์แมน เผยโฉมในหนังสือการ์ตูน Action Comics #1
สตีฟ เทรเวอร์
ในฉากที่ ไดอาน่า ปริ้นซ์ เปิดไฟล์ภาพย้อนยุคที่ บรูซ เวย์น ส่งมาให้
ภาพดังกล่าวเผยให้เห็นชายคนหนึ่งยืนเคียงข้างเธอในปี 1918
ซึ่งชายคนดังกล่าวมีนามว่า
สตีฟ เทรเวอร์ มีสถานะเป็นคนรักของ
วันเดอร์วูแมน โดยพระเอก คริส ไพน์ (Chris Pine) จะสวมบทดังกล่าวเต็ม ๆ
ในหนังเรื่อง Wonder Woman ในปี 2017
เบาะแสของ ริดเลอร์
ฉากที่ แบทแมน กำลังเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับ ซูเปอร์แมน
ในตึกร้างหลังหนึ่ง
หากสังเกตดี ๆ จะพบเครื่องหมายคำถาม "?" พ่นอยู่บนต้นเสา หลายคนน่าจะทราบดีว่าเครื่องหมายดังกล่าวคือร่องรอยของ
ริดเลอร์ ที่ชอบทิ้งปริศนาต่าง ๆ เอาไว้ให้ แบทแมน ตามล้างตามเช็ด
ดังนั้นการใส่เครื่องหมาย "?" เข้ามาในฉากดังกล่าว
อาจเป็นการบอกใบ้ว่าเขากำลังจะกลับมา
วันเดอร์วูแมน และผองเพื่อนเมต้าฮิวแมน
แน่นอนอยู่แล้ว่าการปรากฏตัวของ วันเดอร์วูแมน
คือการปูทางสู่หนังเดี่ยวของเธอในปี 2017
แต่ในเรื่องนี้เราได้เห็นเมต้าฮิวแมนคนอื่น ๆ ร่วมปูทางสู่อนาคตในจักรวาล
DC ด้วยเช่นกัน
เริ่มตั้งแต่ เดอะแฟลช ของดาราหนุ่ม เอซรา มิลเลอร์ (Ezra
Miller) ที่กำลังจะมีหนังเดี่ยวในเดือนมีนาคม 2018 ตามมาด้วย อควาแมน
ที่รับบทโดย เจสัน โมมัว (Jason Momoa)
และเตรียมปล่อยหนังเดี่ยวในเดือนกรกฎาคม 2018 ปิดท้ายด้วย ไซบอร์ก ของ เรย์
ฟิเชอร์ (Ray Fisher) ที่มีกำหนดปล่อยหนังเดี่ยวในเดือนเมษายน 2020 อย่างไรก็ตามแต่ละคนจะเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่อง The Justice League Part 1
ที่เตรียมเข้าฉายในเดือนพฤศจิกายน 2017
เดอะแฟลช ผู้ส่งสารจากอนาคต
ในฉากความฝันของ บรูซ เวย์น
แฟนหนังหลายคนตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของ เดอะแฟลช
ที่เดินทางจากอนาคตมาเตือนว่า ลูอิส เลน
คือสิ่งสำคัญและต้องปกป้องเธอไว้ให้ได้ ยิ่งไปกวานั้นเขายังบอกอีกว่า
"คุณคิดถูกเกี่ยวกับเขามาโดยตลอด" อาจหมายความว่าต่อจากนี้ ซูเปอร์แมน
อาจเป็นอันตรายต่อมวลมนุษยชาติแบบที่ แบทแมน คิดเอาไว้ตั้งแต่แรก
โจ๊กเกอร์
นอกจากเครื่องแบบมนุษย์ค้างคาวที่แขวนอยู่ในบ้านของ บรูซ
เวย์น มีฉากหนึ่งที่เราได้เห็นชุดของ โรบิ้น คู่หูของ แบทแมน
ที่ถูกฆ่าตายไปแล้ว
แถมชุดดังกล่าวยังถูกพ่นด้วยข้อความเยาะเย้ยจากคู่ปรับตลอดกาลอย่าง
โจ๊กเกอร์ นอกจากนี้ในฉากที่ บรูซ เวย์น พบกับ คล้าก เค้นท์
เป็นครั้งแรกในงานเลี้ยงของ เล็กซ์ ลูเธอร์ เขาเล่าให้นักข่าวหนุ่มฟังว่า
เมืองก็อธแธมมีความหลังไม่ค่อยดีเกี่ยวกับคนบ้าในชุดตัวตลก
แน่นอนที่สุดว่าเขาหมายถึง โจ๊กเกอร์ ที่เตรียมปรากฏตัวในหนัง Suicide
Squad ในเดือนสิงหาคมนี้
สัญลักษณ์โอเมก้า
ในฉากความฝันของ บรูซ เวย์น
ฉายให้เห็นภาพเมืองที่กำลังลุกเป็นไฟ หากสังเกตดี ๆ
จะพบว่ามีสัญลักษณ์โอเมก้าปรากฏอยู่ ซึ่งจะสื่อถึงใครไปไม่ได้นอกจาก
ดาร์คไซด์ วายร้ายคนสำคัญของจักรวาล DC ที่กำลังจะมีบทบาทในหนังเรื่อง
Justice League
พาราดีมอนส์
นอกจากสัญลักษณ์โอเมก้าที่เป็นตัวแทนของ ดาร์คไซด์
ในความฝันของ บรูซ เวย์น ยังฉายให้เห็นฉากที่ แบทแมน
ถูกกองทัพสัตว์ประหลาดบินได้เข้าโจมตี
หากใครเป็นแฟนของจักรวาล DC
น่าจะทราบดีว่าพวกมันคือ พาราดีมอนส์ ลูกสมุนและกองทัพจู่โจมของ ดาร์คไซด์
Mother Box
ผู้กำกับ แซค สไนเดอร์ ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า
กล่องไฮเทคที่รวมร่างกับ วิคเตอร์ สโตน จนกลายเป็นเมต้าฮิวแมน ไซบอร์ก
คือไอเทมที่ชื่อว่า Mother Box ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่พวก New Gods
ใช้สำหรับเปิดประตูมิติ ซึ่งเป็นไปได้ว่า Mother Box
จะกลายเป็นสะพานเชื่อมให้วายร้าย ดาร์คไซด์ มาพบกับสมาชิก จัสติสลีก
หากพูดถึงการวางแผนในระยะยาว เรียกได้ว่า Warner Bros. และ DC Comics
สามารถใช้ Batman v Superman ปูทางสู่หนังเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ
ซึ่งต้องรอดูกันยาว ๆ ว่าเบาะแสต่าง ๆ จะกลายเป็นความจริงหรือไม่ภาพจาก
เฟซบุ๊ก Batman v Superman,
เฟซบุ๊ก Suicide Squad,
Warner Bros. Pictures, DC Comics