Doctor Strange คือผลงานลำดับที่ 3 ในเฟส 3 ของจักรวาลหนัง Marvel Cinematic Universe ซึ่งถ้าหากใครที่ได้ชมหนังเรื่องนี้แล้ว เราเชื่อว่าคุณน่าจะเห็นอะไรเด็ด ๆ ที่ซ่อนอยู่ในฉากต่าง ๆ มากพอสมควร โดยกระปุกดอทคอมได้รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ What Culture และ IGN มาเป็น 10 ไข่อีสเตอร์จากหนังเรื่อง Doctor Strange ที่ซ่อนข้อมูลเด็ด ๆ และปูทางสู่อนาคตของจักรวาลมาร์เวล มาดูกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
เช่นเดียวกับหนังเรื่องอื่น ๆ ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนของ Marvel ในเรื่องนี้ สแตน ลี (Stan Lee) นักวาดการ์ตูนและอดีตประธานของ Marvel Comics ร่วมแจมสั้น ๆ เป็นชายที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในรถบัส คันที่ ดร.สเตรนจ์ และมอร์โด ตกมาชนหน้าต่าง โดยเขากำลังอ่านบทความที่ชื่อว่า The Doors of Perception ซึ่งเขียนโดย อัลดัส ฮักซลีย์ (Aldous Huxley) เมื่อปี 1954 ที่กล่าวถึงประสบการณ์ของผู้เขียนในช่วงใช้ยาเมสคาลีน (Mescaline) ซึ่งมีฤทธิ์หลอนประสาท โดยงานเขียนของเขาคือแรงบันดาลใจให้ สแตน ลี เขียนเรื่อง Doctor Strange ออกมาเมื่อปี 1963
นอกจากสวมบทเป็น ดร.สเตรนจ์ ทราบหรือไม่ว่า เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ (Benedict Cumberbatch) แอบเล่นเป็นอีก 1 ตัวละคร ที่มีความสำคัญต่อเรื่องด้วยเหมือนกัน บทนั้นคือ ดอร์มัมมู วายร้ายจากมิติมืด โดยเขาร่วมแสดงด้วยเทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ ส่วนเสียงพากย์เป็นของนักแสดงอังกฤษรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ
ฉากไล่ล่าสุดอลังการในนิวยอร์ก ที่เมืองทั้งเมืองกลับหัวกลับหาง หากสังเกตดี ๆ จะพบว่ามีตึกบัญชาการของ Avengers ที่มีตัวอักษร A อยู่บนเกาะแมนฮัตตันด้วย
ท่านฮาเมียร์
ยังจำท่าน ฮาเมียร์ จอมเวทย์แขนกุดในสำนักที่คามาทาจได้ไหม ? ในฉบับหนังสือการ์ตูนเขาคือพ่อของ หว่อง และเป็นหนึ่งในคนรับใช้เก่าแก่ของ ดิ เอนเชียน วัน โดยหลายคนอาจรู้จักเขาในชื่อ เดอะ เฮอร์มิท (The Hermit), เดอะ ไซเลนท์ วัน (The Silent One) หรือ เดอะ ลิฟวิ่ง ชาโดว์ (The Living Shadow) อย่างไรก็ตามผู้กำกับยืนยันด้วยตัวเองว่าในหนัง เขาไม่ใช่พ่อของหว่อง
ภาพจาก marvel
ดร.นิค เวสต์
ในช่วงต้นของหนังเราได้เห็น ดร.สเตรนจ์ ข่มเพื่อนร่วมงานนามว่า นิค ที่รับบทโดย ไมเคิล สตูลบาร์ก (Michael Stuhlbarg) ซึ่งในฉบับหนังสือการ์ตูนเขาคือ ดร.นิค เวสต์ ผู้เดินทางไปฝึกพลังเวทย์กับ ดิ เอนเชียน วัน เป็นเวลาสั้น ๆ หลังจากรู้สึกผิดที่ไม่สามารถผ่าตัดมือของ ดร.สเตรนจ์ ให้กลับมาเหมือนเดิมได้ แต่น่าเสียดายที่เขากลับออกมาก่อนบรรลุการใช้พลังเวทย์
ภาพจาก marvel.wikia
ทหารผู้บาดเจ็บ
ในฉากที่ ดร.สเตรนจ์ เลือกฟังเคสต่าง ๆ ของคนไข้ก่อนที่เขาจะรถคว่ำ มีการเอ่ยถึงผู้บาดเจ็บรายหนึ่งว่าเป็น "ทหารที่กระดูกสันหลังบาดเจ็บในชุดเกราะทดลอง" แม้หลายคนคิดว่านั่นคือ วอร์แมชชีน จากเรื่อง Captain America: Civil War หรือลูกน้องของ จัสติน แฮมเมอร์ ที่สร้างชุดเกราะในเรื่อง Iron Man 2 แต่ผู้กำกับ สก็อตต์ เดอร์ริคสัน (Scott Derrickson) ยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ทั้งสองคน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ironman
Cloak of Levitation เสื้อคลุมแสนรู้
ใครที่ได้ชมหนังเรื่อง Doctor Strange น่าจะหลงรักเสื้อคลุมของ ดร.สเตรนจ์ ที่ทั้งเก่งและน่าเอ็นดู โดยในฉบับหนังสือการ์ตูน Cloak of Levitation คือผ้าคลุมที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ไม่ได้มีบุคลิกแบบในหนัง เว้นแต่มันจะทำงานตามคำสั่งของผู้สวมใส่ นอกจากนี้เสื้อคลุมดังกล่าวคือรางวัลที่ ดร.สเตรนจ์ ได้จากการเอาชนะ ดอร์มัมมู ไม่ได้มาจากการที่เสื้อคลุมเลือกเขาเหมือนในหนัง
แดเนียล ดรัมม์
แดเนียล ดรัมม์ คือผู้ดูแล แซงทัม แซงทอรัม (Sanctum Sanctorum) ประจำนิวยอร์ก ที่ต่อสู้กับวายร้าย เคซิเลียส จนตัวเองต้องตาย ในฉบับหนังสือการ์ตูนเขามีพี่น้องชื่อ เจริโค ดรัมม์ หรือที่รู้จักในนามจอมเวทย์วูดู (Brother Voodoo) โดยเขาสามารถกลับมาในรูปแบบผีร้าย ผู้มาพร้อมกับความชั่วร้ายที่แฝงอยู่ ซึ่งการตายของเขาในเรื่อง Doctor Strange อาจเปิดทางให้เขา หรือพี่น้องของเขาเข้ามามีบทบาทในอนาคต
ภาพจาก marvel.wikia
สาวกของ Marvel คาดเดาว่าหนังเรื่อง Doctor Strange จะเผย Time Stone หนึ่งในหกอัญมณี Infinity Stone ซึ่งทรงพลังที่สุดในจักรวาล โดยตอนท้ายเรื่อง หว่อง เฉลยออกมาแล้วว่า ดวงตาแห่งอกามอตโต้ (Eye of Agamotto) คือ Time Stone ที่สามารถควบคุมเวลาได้ ตามที่เราได้เห็นไปแล้วว่า ดร.สเตรนจ์ สามารถสร้างลูปเวลาของตัวเอง และสามารถย้อนเวลาเพื่อช่วยชีวิตคนได้
Thor: Ragnarok
ในฉากท้ายเครดิตฉากแรก เราได้เห็น ธอร์ มาเยี่ยม ดร.สเตรนจ์ ถึงแซงทัมในนิวยอร์ก โดยจอมเวทย์ของเราบอกว่าจะช่วยเขาและ โลกิ ตามหาท่านพ่อ โอดิน ที่อยู่ตรงไหนสักแห่งบนโลกมนุษย์ เพื่อที่พวกเขาจะได้กลับไปยังดาวแอสการ์ด ซึ่งฉากนี้อาจเป็นการคอนเฟิร์มว่า ดร.สเตรนจ์ จะร่วมแจมใน Thor: Ragnarok โดยก่อนหน้านี้มีภาพหลุดจากกองถ่าย Thor ที่เผยให้เห็น ธอร์ ถือนามบัตรที่มีชื่อของ ดร.สเตรนจ์
จบไปอีกเรื่องสำหรับ Doctor Strange ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Marvel Cinematic Universe หลังจากนี้เราคงต้องรอว่าเรื่องราวต่าง ๆ จะเดินไปทิศทางไหน แล้วพบกันใหม่ใน Guardians of the Galaxy Vol. 2 ในเดือนพฤษภาคม 2017
