(**เนื้อหาสปอยล์) เจ.เอ. โบยาน่า พูดถึงฉากสะเทือนอารมณ์ใน Jurassic World: Fallen Kingdom ตั้งใจให้ตราตรึงและเรียกน้ำตาที่สุด
คำเตือน: หลังจากนี้จะมีการพูดถึงเนื้อหาใน Jurassic World: Fallen Kingdom หากยังไม่ได้รับชมและกลัวว่าจะถูกสปอยล์ก็ขอให้ข้ามข่าวนี้ไปก่อน
โดย เจ.เอ. โบยาน่า กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่เลือก แบรคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ให้เป็นไดโนเสาร์ผู้โชคร้ายที่ไม่สามารถหนีจากเหตุภูเขาไฟระเบิดบนเกาะอิสลา นูบลาร์ เอาไว้ว่า แบรคิโอซอรัส เป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์แรก ๆ ที่ปรากฏตัวตั้งแต่หนังภาคแรก เขาจึงอยากให้มันเป็นสายพันธุ์สุดท้ายที่ทุกคนได้เห็น ซึ่งตั้งใจให้มันเป็นสัญลักษณ์แทน Jurassic Park ที่ปิดฉากลงได้อย่างน่าประทับใจ ตราตรึงใจ และฝังอยู่ในความทรงจำของแฟน ๆ ตลอดไป "ฉากนั้นแสดงให้เห็นถึงจุดจบของความฝันที่เคยเริ่มต้นเอาไว้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ทั้งจุดจบของเกาะเกาะนั้นและจุดจบของความฝันนั้นอีกด้วย.."
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่านักแสดงในเรื่องก็ผูกพันกับหนังอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะผู้กำกับคนเก่งเผยว่า ระหว่างถ่ายทำฉากนั้น คริส แพรตต์ (Chris Pratt) และไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด (Bryce Dallas Howard) ก็รู้สึกสะเทือนใจไม่ต่างกัน "ผมเปิดเพลง Jurassic Park เวอร์ชั่นที่มีเมโลดี้หวาน ๆ ปนเศร้าคลอไปด้วย และอารมณ์ของมันส่งไปถึงนักแสดงทุกคน โดยเฉพาะไบรซ์.. การได้ยืนอยู่ตรงนั้น บอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้น พร้อมกับฟังเพลงจาก จอห์น วิลเลียมส์ พวกเขาเลยรู้สึกสะเทือนใจและอ่อนไหวกันทุกคน" เจ.เอ. โบยาน่า กล่าว
นับเป็นการจากลาที่ถึงแม้จะเศร้าทำเอาหลาย ๆ คนน้ำตาคลอ
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งในฉากที่สวยงามมากที่สุดเพราะมันทำให้เราได้ย้อนกลับไปนึกถึงตอนที่
แซม นีล (Sam Neil) และลอว์รา เดิร์น (Laura Dern)
เปิดโลกไดโนเสาร์อันน่าตื่นตาตื่นใจให้ทุกคนผจญภัยไปด้วยกันเป็นครั้งแรกในปี
1993 แล้วเพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับฉากนี้บ้าง
อย่าลืมแชร์ให้กระปุกดอทคอมรู้กันด้วยนะ !
สำหรับหนังชุด Jurassic World หลังจากนี้ เตรียมปิดฉากอำลาโลกไดโนเสาร์อย่างแท้จริงในภาคต่อ Jurassic World 3 (กำหนดฉาย 11 กรกฎาคม 2021) ที่ได้ตัวคอลิน เทรเวอร์โร (Colin Treverrow) หวนคืนสู่เก้าอี้ผู้กำกับ และคอนเฟิร์มว่าจะพาแฟน ๆ กลับไปพบกับกลิ่นอายของหนังแนววิทยาศาสตร์-ระทึกขวัญและธรรมชาติที่แท้จริงของเหล่าสัตว์ดึกดำบรรพ์เหมือนกับโลกจูราสสิค พาร์ค ในอดีต ทั้งยังมีลุ้นด้วยว่าเราอาจได้เห็นตัวละครรุ่นบุกเบิกอย่างทีม ดร.อลัน แกรนท์ กลับมาร่วมปิดตำนานในครั้งนี้ด้วย (คลิก: ดร.อลัน แกรนท์ อาจหวนคืนโลกไดโนเสาร์ ใน Jurassic World 3 !?)
สำหรับแฟนตัวยงที่ได้ชม Jurassic World: Fallen Kingdom มาแล้ว นอกจากจะตื่นตาตื่นใจไปกับไดโนเสาร์ไฮบริดและระทึกไปกับภารกิจลี้ภัยจากภูเขาไฟระเบิด เชื่อว่าต้องมีหลาย ๆ คนสะเทือนใจไปกับฉากการสูญเสียครั้งใหญ่ของไดโนเสาร์สายพันธุ์โปรดที่เกิดขึ้นบนเกาะอิสลา นูบลาร์ อย่างแน่นอน และล่าสุดนี้ ผู้กำกับเจ.เอ บาโยน่า (J.A. Bayona) ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Hollywood Reporter ถึงฉากดังกล่าวว่า เขาตั้งใจสร้างฉากนั้นขึ้นมาให้เป็นตัวแทนของแฟรนไชส์ภาคต้น Jurassic Park ที่แม้จะจบไปเนิ่นนานแล้วแต่ก็จะตราตรึงอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป
คำเตือน: หลังจากนี้จะมีการพูดถึงเนื้อหาใน Jurassic World: Fallen Kingdom หากยังไม่ได้รับชมและกลัวว่าจะถูกสปอยล์ก็ขอให้ข้ามข่าวนี้ไปก่อน
โดย เจ.เอ. โบยาน่า กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่เลือก แบรคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ให้เป็นไดโนเสาร์ผู้โชคร้ายที่ไม่สามารถหนีจากเหตุภูเขาไฟระเบิดบนเกาะอิสลา นูบลาร์ เอาไว้ว่า แบรคิโอซอรัส เป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์แรก ๆ ที่ปรากฏตัวตั้งแต่หนังภาคแรก เขาจึงอยากให้มันเป็นสายพันธุ์สุดท้ายที่ทุกคนได้เห็น ซึ่งตั้งใจให้มันเป็นสัญลักษณ์แทน Jurassic Park ที่ปิดฉากลงได้อย่างน่าประทับใจ ตราตรึงใจ และฝังอยู่ในความทรงจำของแฟน ๆ ตลอดไป "ฉากนั้นแสดงให้เห็นถึงจุดจบของความฝันที่เคยเริ่มต้นเอาไว้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ทั้งจุดจบของเกาะเกาะนั้นและจุดจบของความฝันนั้นอีกด้วย.."
สำหรับหนังชุด Jurassic World หลังจากนี้ เตรียมปิดฉากอำลาโลกไดโนเสาร์อย่างแท้จริงในภาคต่อ Jurassic World 3 (กำหนดฉาย 11 กรกฎาคม 2021) ที่ได้ตัวคอลิน เทรเวอร์โร (Colin Treverrow) หวนคืนสู่เก้าอี้ผู้กำกับ และคอนเฟิร์มว่าจะพาแฟน ๆ กลับไปพบกับกลิ่นอายของหนังแนววิทยาศาสตร์-ระทึกขวัญและธรรมชาติที่แท้จริงของเหล่าสัตว์ดึกดำบรรพ์เหมือนกับโลกจูราสสิค พาร์ค ในอดีต ทั้งยังมีลุ้นด้วยว่าเราอาจได้เห็นตัวละครรุ่นบุกเบิกอย่างทีม ดร.อลัน แกรนท์ กลับมาร่วมปิดตำนานในครั้งนี้ด้วย (คลิก: ดร.อลัน แกรนท์ อาจหวนคืนโลกไดโนเสาร์ ใน Jurassic World 3 !?)
ภาพจาก เว็บไซต์ Jurassic World