รวม 8 ฉากย้อนวันวานจาก Jurassic World: Fallen Kingdom พากลับสู่ความทรงจำที่ทุกคนคิดถึงใน Jurassic Park
รู้หรือไม่ว่า นอกจาก เจ.เอ. บาโยน่า (J.A. Bayona) จะเลือกปล่อย Jurassic World: Fallen Kingdom ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับวันครบรอบ 25 ปีของ Jurassic Park แล้ว ผู้กำกับคนเก่งยังตั้งใจสร้างหนังภาคต่อเรื่องนี้ให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายเก่า ๆ ที่เชื่อว่าคอหนังที่ติดตามมาตั้งแต่ต้นได้ชม จะต้องย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่ได้รู้จักโลกไดโนเสาร์จูราสสิค พาร์คบนจอยักษ์ครั้งแรกอย่างแน่นอน (หวนสู่ความทรงจำ 25 ปี กับ 10 เรื่องเบื้องหลัง Jurassic Park)
เนื่องในโอกาสที่เราได้เห็นโลกในฝันกลับมาบนจอยักษ์อีกครั้ง กระปุกดอทคอม เลยรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ Screen Rant พาทุกคนไปพบกับ 8 ฉากสำคัญใน Jurassic World: Fallen Kingdom ที่ทำให้นึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ใน Jurassic Park และถือเป็นฉากที่แสดงออกถึงความตั้งใจของทีมผู้สร้างว่า แม้แฟรนไชส์ Jurassic World จะมีการนำเสนอความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นหลัก แต่ก็ยังไม่ลืมสอดแทรกความคลาสสิกของโลกจูราสสิค พาร์คที่ยังตราตรึงอยู่ในใจของทุกคนมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
1. คนงานผู้เคราะห์ร้าย
ย้อนรอยโลกจูราสสิคกันตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยทีเดียว สำหรับฉากเปิดเรื่อง Falllen Kingdom ที่เริ่มต้นด้วยภารกิจเคลื่อนย้ายไดโนเสาร์แล้วจบด้วยการสังเวยชีวิตของคนงานผู้เคราะห์ร้ายให้กับคมเขี้ยวของไดโนเสาร์ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้กับผู้ชมได้เตรียมตัวรับมือกับการบุกรุกและการออกล่าเหยื่อของเหล่าสัตว์ดึกดำบรรพ์ในเรื่องต่อไป
นอกจากนี้ ฉากการวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากนักล่าคนดัง ไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus) ในสภาพอากาศย่ำแย่ไม่เป็นใจ โดนกระหน่ำด้วยพายุฝนที่พัดแรงเพิ่มความตึงเครียดและน่าตื่นเต้น ยังชวนให้นึกถึงฉากแรกของ Jurassic Park ที่เปิดเรื่องด้วยการค้นพบรถจี๊ปที่มีร่องรอยการโจมตีจาก เจ้าที-เร็กซ์ อีกด้วย
2. ไดโนเสาร์ตัวจริงเสียงจริง
ถ้าให้พูดถึงฉากประทับใจจากแฟรนไชส์จูราสสิค หนึ่งในฉากที่แฟน ๆ จำได้ไม่มีวันลืมก็คงเป็นฉากเปิดโลกดึกดำบรรพ์ที่ ดร.อลัน แกรนท์, ดร. เอลลี แซตต์เลอร์ และ ดร.เอียน มัลคอล์ม ได้เห็นไดโนเสาร์ตัวเป็น ๆ ด้วยตาของพวกเขาครั้งแรก และ Fallen Kingdom ก็พาเราย้อนกลับไปสู่โมเมนต์อันน่าตื่นตาตื่นใจนั้นอีกครั้ง ในฉากที่ เซีย โรดริเกซ สัตวแพทย์สัตว์ดึกดำบรรพ์ ได้เห็นแบรคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ตัวจริงครั้งแรก และเชื่อว่าความปลื้มของเธอนั้นเป็นตัวแทนความรู้สึกของคนดูที่ได้เห็นพี่คอยาวของเราครั้งแรกใน Jurassic Park เช่นเดียวกัน
3. วิ่งกันป่าราบไปกับฝูงไดโนเสาร์
ฉากที่ โอเว่น เกรดี้, แคลร์ เดียริง และแฟรงคลิน เว็บบ์ วิ่งหลบลูกหลงจากฝูงไดโนเสาร์ที่กำลังแตกตื่นจากเหตุภูเขาไฟระเบิดบนเกาะอิสลา นูบลาร์ โดยใช้ท่อนไม้ใหญ่เป็นโล่กันภัย สำหรับคนดูทั่วไปคงเป็นฉากระทึกใจธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับแฟนตัวยง ต้องนึกถึงฉากใน Jurassic Park ที่ ดร.อลัน แกรนท์ พร้อม ทิม เมอร์ฟี และเล็กซ์ เมอร์ฟี หลานทั้งสองของ จอห์น แฮมมอนด์ หลบจากแกลลิไมมัส (Gallimimus) ฝูงใหญ่ที่กำลังวิ่งอย่างแตกตื่นอย่างแน่นอน
4. ห่วงโซ่ของนักล่า
ต้องหนีจากลาวาที่ปะทุจากภูเขาไฟไม่พอ ทีมพระเอก Fallen Kingdom ของเรายังโดนไดโนเสาร์พันธุ์ดุอย่าง คาร์โนทอรัส (Carnotaurus) ล็อกเป้าทำร้ายขณะเตรียมหลบหนีขึ้นพาหนะทรงกลมไจโรสเฟียร์ (Gyrosphere) ทำให้อดนึกถึงฉากที่ทีมรถจี๊ปของ ดร.อลัน แกรนท์ โดนเจ้าที-เร็กซ์ บุกใน Jurassic Park ไม่ได้ แถมฉากที่ที-เร็กซ์พุ่งมาฝังคมเขี้ยวลงไปยังตัวของคาร์โนทอรัสต่อหน้าต่อตาทีมโอเว่น เกรดี้ ยังเหมือนกับฉากที่ ที-เร็กซ์ วิ่งมาคว้าตัวแกลลิไมมัสไปเป็นอาหารต่อหน้าต่อตาทีม ดร.อลัน แกรนท์ อีกด้วย
ทั้งนี้ นอกจากฉากดังกล่าวจะถือเป็นฉากเชื่อมโยงหนัง 2 แฟรนไชส์เข้าด้วยกันแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำอีกว่าไม่ว่าจะมีการสร้างหนังออกมาอีกสักกี่ภาค เจ้าเร็กซี่ ก็จะยังเป็นพี่เบิ้มขวัญใจของทุกคนและจะเป็นดาวเด่นประจำโลกจูราสสิคแบบนี้ตลอดไป
5. เกมซ่อนแอบกับพี่ยักษ์
เชื่อว่าแฟนตัวยงของโลกจูราสสิค พาร์คต้องสัมผัสได้ว่า Fallen Kingdom พยายามใส่รายละเอียดความเป็นหนังสไตล์วิทยาศาสตร์-ระทึกขวัญแบบ Jurassic Park ไว้ในหนังให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะฉากการเล่นซ่อนแอบกับไดโนเสาร์ ที่คราวนี้ผู้เล่นตัวหลักของเราเปลี่ยนมาเป็นหนูน้อยเมซี่ ล็อกวูด กับเจ้าอินโดแร็พเตอร์ในคฤหาสน์ล็อกวูด
นับตั้งแต่ฉากที่เมซี่
ไปพบเข้ากับอินโดแร็พเตอร์ในกรงขังก่อนถูกตามล่าจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เหมือนกับทิม เมอร์ฟี และเล็กซ์ เมอร์ฟี
ที่ถูกเวโลซีแร็พเตอร์ออกไล่ล่าในห้องครัวใน Jurassic Park ซึ่งฉากที่อิงมาเหมือนกันเป๊ะ ๆ
เลยก็คือตอนที่เหล่าเด็กน้อยหลบเข้าไปในช่องส่งอาหาร และปิดประตูหนีได้ตอนวินาทีสุดท้ายที่ไดโนเสาร์กำลังจะเข้าถึงตัวพอดิบพอดี
6. การจากลาของพี่คอยาว
แม้จะเป็นฉากสะเทือนใจที่ทำเอาน้ำตาซึมและมีแฟน ๆ หลายคนรับไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉากที่แบรคิโอซอรัสร้องอย่างทรมานเพราะถูกภัยธรรมชาติทำร้ายก่อนล้มตายบนเกาะอิสลา นูบลาร์ นั้น ทำให้ทุกคนย้อนกลับไปนึกถึงจากที่ได้เห็นพี่คอยาวของเราครั้งแรกในสวนสนุกจูราสสิคเมื่อ 25 ปีที่แล้ว โดยผู้กำกับเจ.เอ. บาโยน่า ก็ออกมายอมรับแล้วว่า ตั้งใจเลือกคร่าชีวิตแบรคิโอซอรัส เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของโลกไดโนเสาร์ที่ทุกคนรู้จักและตั้งใจให้เป็นตัวแทนของแฟรนไชส์ Jurassic Park ที่ปิดฉากได้ตราตรึงใจทุกคนจนถึงปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม: ผกก. Jurassic World 2 เผยความนัย ฉากบีบหัวใจที่ทำคนดูน้ำตาซึม
7. จุดจบของมนุษย์หน้าเงิน
เพราะเป็นหนังที่เรื่องราวของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์หายาก นอกจากต้องวางพล็อตให้มีตัวละครฝ่ายดีคอยช่วยเหลือปกป้องแล้ว ก็ต้องมีตัวละครฝ่ายร้ายที่เป็นตัวแทนของความเห็นแก่ตัวและหน้าเงินของมนุษย์ และแน่นอนว่าตัวละครเหล่านั้นก็จะได้รับบทลงโทษจากการกระทำของพวกเขาในที่สุด
อย่างใน Jurassic Park ก็มี โดนัลด์ เจนเนโร่ ทนายความของ จอห์น แฮมมอนด์ ผู้ก่อตั้งสวนสนุกจูราสสิค รับหน้าที่เป็นตัวร้าย ส่วน Fallen Kingdom ก็ส่งต่อด้านมืดของมนุษย์ให้กับคนใกล้ตัวอีกครั้งคือ อีไล มิลล์ส ผู้ดูแลทรัพย์สินของ เบนจามิน ล็อกวูด ผู้ร่วมก่อตั้งสวนสนุกจูราสสิค ที่สุดท้ายแล้วการโกงกินและลักลอบประมูลไดโนเสาร์ไฮบริดของเขาก็ถูกทำลายทิ้ง พร้อมบทลงโทษจากเหล่าพี่เบิ้มที่เจ้าตัวหาผลประโยชน์ด้วย เรียกว่าประโยคดัง "คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด" ถือเป็นอะไรที่อยู่คู่กับโลกจูราสสิคของเราเลยจริง ๆ
8. เทอโรแด็กทีลัส (Pterodactylus) จ้าวเวหาคู่โลกจูราสสิค
ใน Jurassic Park หลังจากตัวละครมีชีวิตรอดปลอดภัยจากหายนะในสวนสนุกไดโนเสาร์ ฉากที่ทุกคนจำได้ขึ้นใจหลังจากนั้น ก็คงเป็นภาพของฝูงไดโนเสาร์พันธุ์เทอโรแด็กทีลัสกำลังบินท่ามกลางวิวทิวทัศน์กว้าง ซึ่งนับเป็นฉากที่ปิดท้ายหนังได้อย่างสวยงาม
แน่นอนว่า Fallen Kingdom ก็ไม่พลาด ไหน ๆ ก็เลือกเปิดหนังด้วยฉากที่คล้ายกับ Jurassic Park แล้ว เลยขอส่งท้ายการผจญภัยและภารกิจกู้ภัยไดโนเสาร์ของ โอเว่น เกรดี้, แคลร์ เดียริง และหนูน้อยเมซี่ ล็อกวูด ด้วยภาพของฝูงเทอโรแด็กทีลัสบินเคียงคู่ไปกับรถยนต์ของพวกเขาบนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jurassic World, เว็บไซต์ทางการ Jurassic World
เนื่องในโอกาสที่เราได้เห็นโลกในฝันกลับมาบนจอยักษ์อีกครั้ง กระปุกดอทคอม เลยรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ Screen Rant พาทุกคนไปพบกับ 8 ฉากสำคัญใน Jurassic World: Fallen Kingdom ที่ทำให้นึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ใน Jurassic Park และถือเป็นฉากที่แสดงออกถึงความตั้งใจของทีมผู้สร้างว่า แม้แฟรนไชส์ Jurassic World จะมีการนำเสนอความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นหลัก แต่ก็ยังไม่ลืมสอดแทรกความคลาสสิกของโลกจูราสสิค พาร์คที่ยังตราตรึงอยู่ในใจของทุกคนมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
1. คนงานผู้เคราะห์ร้าย
ย้อนรอยโลกจูราสสิคกันตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยทีเดียว สำหรับฉากเปิดเรื่อง Falllen Kingdom ที่เริ่มต้นด้วยภารกิจเคลื่อนย้ายไดโนเสาร์แล้วจบด้วยการสังเวยชีวิตของคนงานผู้เคราะห์ร้ายให้กับคมเขี้ยวของไดโนเสาร์ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้กับผู้ชมได้เตรียมตัวรับมือกับการบุกรุกและการออกล่าเหยื่อของเหล่าสัตว์ดึกดำบรรพ์ในเรื่องต่อไป
นอกจากนี้ ฉากการวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากนักล่าคนดัง ไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus) ในสภาพอากาศย่ำแย่ไม่เป็นใจ โดนกระหน่ำด้วยพายุฝนที่พัดแรงเพิ่มความตึงเครียดและน่าตื่นเต้น ยังชวนให้นึกถึงฉากแรกของ Jurassic Park ที่เปิดเรื่องด้วยการค้นพบรถจี๊ปที่มีร่องรอยการโจมตีจาก เจ้าที-เร็กซ์ อีกด้วย
ถ้าให้พูดถึงฉากประทับใจจากแฟรนไชส์จูราสสิค หนึ่งในฉากที่แฟน ๆ จำได้ไม่มีวันลืมก็คงเป็นฉากเปิดโลกดึกดำบรรพ์ที่ ดร.อลัน แกรนท์, ดร. เอลลี แซตต์เลอร์ และ ดร.เอียน มัลคอล์ม ได้เห็นไดโนเสาร์ตัวเป็น ๆ ด้วยตาของพวกเขาครั้งแรก และ Fallen Kingdom ก็พาเราย้อนกลับไปสู่โมเมนต์อันน่าตื่นตาตื่นใจนั้นอีกครั้ง ในฉากที่ เซีย โรดริเกซ สัตวแพทย์สัตว์ดึกดำบรรพ์ ได้เห็นแบรคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ตัวจริงครั้งแรก และเชื่อว่าความปลื้มของเธอนั้นเป็นตัวแทนความรู้สึกของคนดูที่ได้เห็นพี่คอยาวของเราครั้งแรกใน Jurassic Park เช่นเดียวกัน
ฉากที่ โอเว่น เกรดี้, แคลร์ เดียริง และแฟรงคลิน เว็บบ์ วิ่งหลบลูกหลงจากฝูงไดโนเสาร์ที่กำลังแตกตื่นจากเหตุภูเขาไฟระเบิดบนเกาะอิสลา นูบลาร์ โดยใช้ท่อนไม้ใหญ่เป็นโล่กันภัย สำหรับคนดูทั่วไปคงเป็นฉากระทึกใจธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับแฟนตัวยง ต้องนึกถึงฉากใน Jurassic Park ที่ ดร.อลัน แกรนท์ พร้อม ทิม เมอร์ฟี และเล็กซ์ เมอร์ฟี หลานทั้งสองของ จอห์น แฮมมอนด์ หลบจากแกลลิไมมัส (Gallimimus) ฝูงใหญ่ที่กำลังวิ่งอย่างแตกตื่นอย่างแน่นอน
ต้องหนีจากลาวาที่ปะทุจากภูเขาไฟไม่พอ ทีมพระเอก Fallen Kingdom ของเรายังโดนไดโนเสาร์พันธุ์ดุอย่าง คาร์โนทอรัส (Carnotaurus) ล็อกเป้าทำร้ายขณะเตรียมหลบหนีขึ้นพาหนะทรงกลมไจโรสเฟียร์ (Gyrosphere) ทำให้อดนึกถึงฉากที่ทีมรถจี๊ปของ ดร.อลัน แกรนท์ โดนเจ้าที-เร็กซ์ บุกใน Jurassic Park ไม่ได้ แถมฉากที่ที-เร็กซ์พุ่งมาฝังคมเขี้ยวลงไปยังตัวของคาร์โนทอรัสต่อหน้าต่อตาทีมโอเว่น เกรดี้ ยังเหมือนกับฉากที่ ที-เร็กซ์ วิ่งมาคว้าตัวแกลลิไมมัสไปเป็นอาหารต่อหน้าต่อตาทีม ดร.อลัน แกรนท์ อีกด้วย
5. เกมซ่อนแอบกับพี่ยักษ์
เชื่อว่าแฟนตัวยงของโลกจูราสสิค พาร์คต้องสัมผัสได้ว่า Fallen Kingdom พยายามใส่รายละเอียดความเป็นหนังสไตล์วิทยาศาสตร์-ระทึกขวัญแบบ Jurassic Park ไว้ในหนังให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะฉากการเล่นซ่อนแอบกับไดโนเสาร์ ที่คราวนี้ผู้เล่นตัวหลักของเราเปลี่ยนมาเป็นหนูน้อยเมซี่ ล็อกวูด กับเจ้าอินโดแร็พเตอร์ในคฤหาสน์ล็อกวูด
6. การจากลาของพี่คอยาว
แม้จะเป็นฉากสะเทือนใจที่ทำเอาน้ำตาซึมและมีแฟน ๆ หลายคนรับไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉากที่แบรคิโอซอรัสร้องอย่างทรมานเพราะถูกภัยธรรมชาติทำร้ายก่อนล้มตายบนเกาะอิสลา นูบลาร์ นั้น ทำให้ทุกคนย้อนกลับไปนึกถึงจากที่ได้เห็นพี่คอยาวของเราครั้งแรกในสวนสนุกจูราสสิคเมื่อ 25 ปีที่แล้ว โดยผู้กำกับเจ.เอ. บาโยน่า ก็ออกมายอมรับแล้วว่า ตั้งใจเลือกคร่าชีวิตแบรคิโอซอรัส เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของโลกไดโนเสาร์ที่ทุกคนรู้จักและตั้งใจให้เป็นตัวแทนของแฟรนไชส์ Jurassic Park ที่ปิดฉากได้ตราตรึงใจทุกคนจนถึงปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม: ผกก. Jurassic World 2 เผยความนัย ฉากบีบหัวใจที่ทำคนดูน้ำตาซึม
เพราะเป็นหนังที่เรื่องราวของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์หายาก นอกจากต้องวางพล็อตให้มีตัวละครฝ่ายดีคอยช่วยเหลือปกป้องแล้ว ก็ต้องมีตัวละครฝ่ายร้ายที่เป็นตัวแทนของความเห็นแก่ตัวและหน้าเงินของมนุษย์ และแน่นอนว่าตัวละครเหล่านั้นก็จะได้รับบทลงโทษจากการกระทำของพวกเขาในที่สุด
อย่างใน Jurassic Park ก็มี โดนัลด์ เจนเนโร่ ทนายความของ จอห์น แฮมมอนด์ ผู้ก่อตั้งสวนสนุกจูราสสิค รับหน้าที่เป็นตัวร้าย ส่วน Fallen Kingdom ก็ส่งต่อด้านมืดของมนุษย์ให้กับคนใกล้ตัวอีกครั้งคือ อีไล มิลล์ส ผู้ดูแลทรัพย์สินของ เบนจามิน ล็อกวูด ผู้ร่วมก่อตั้งสวนสนุกจูราสสิค ที่สุดท้ายแล้วการโกงกินและลักลอบประมูลไดโนเสาร์ไฮบริดของเขาก็ถูกทำลายทิ้ง พร้อมบทลงโทษจากเหล่าพี่เบิ้มที่เจ้าตัวหาผลประโยชน์ด้วย เรียกว่าประโยคดัง "คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด" ถือเป็นอะไรที่อยู่คู่กับโลกจูราสสิคของเราเลยจริง ๆ
ใน Jurassic Park หลังจากตัวละครมีชีวิตรอดปลอดภัยจากหายนะในสวนสนุกไดโนเสาร์ ฉากที่ทุกคนจำได้ขึ้นใจหลังจากนั้น ก็คงเป็นภาพของฝูงไดโนเสาร์พันธุ์เทอโรแด็กทีลัสกำลังบินท่ามกลางวิวทิวทัศน์กว้าง ซึ่งนับเป็นฉากที่ปิดท้ายหนังได้อย่างสวยงาม
แน่นอนว่า Fallen Kingdom ก็ไม่พลาด ไหน ๆ ก็เลือกเปิดหนังด้วยฉากที่คล้ายกับ Jurassic Park แล้ว เลยขอส่งท้ายการผจญภัยและภารกิจกู้ภัยไดโนเสาร์ของ โอเว่น เกรดี้, แคลร์ เดียริง และหนูน้อยเมซี่ ล็อกวูด ด้วยภาพของฝูงเทอโรแด็กทีลัสบินเคียงคู่ไปกับรถยนต์ของพวกเขาบนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน
สำหรับใครที่คิดว่า Jurassic World: Fallen Kingdom
ยังสานต่อโลกดึกดำบรรพ์ได้ไม่หนำใจ ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดภาคต่อ Jurassic
World 3 เด็ดขาด เพราะการันตีมาแล้วว่า หนังภาคสุดท้ายในไตรภาคต่อ Jurassic
World
นี้จะพาทุกคนกลับไปพบกับชีวิตในธรรมชาติของเหล่าไดโนเสาร์อย่างแท้จริงเหมือนกับที่
Jurassic Park เคยทำไว้ในอดีต เบื้องต้น Jurassic World 3
มีกำหนดฉายแล้ววันที่ 11 กรกฎาคม 2021 (คลิก: Jurassic World 3 จะไม่มีไดโนเสาร์ไฮบริดอีกต่อไป)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jurassic World, เว็บไซต์ทางการ Jurassic World