บรรยากาศสนุกสนานที่เต็มไปด้วยของขวัญ และเสียงเพลงคริสต์มาสที่เริ่มเปิดกันแล้วในช่วงนี้ ทำให้รู้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลคริสต์มาสกันอีกแล้ว อากาศเย็น ๆ ลองหาหนังดี ๆ ที่เข้ากับบรรยากาศที่กำลังจะถึงเทศกาลคริสต์มาสที่แสนสนุกสนานกันดีกว่า ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะดูเรื่องอะไรแล้วละก็ วันนี้เราได้นำ 10 อันดับหนังคริสต์มาสที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษนี้ที่จัดอันดับโดย Forbes มาฝากกันแล้ว ชอบเรื่องไหน อยากดูเรื่องไหน ก็ลองเลือกไปดูกันตามสบายเลยนะจ๊ะ
1. Love Actually (2003)
เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ครองใจอันดับ 1 ของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียวสำหรับหนังเรื่องนี้ มันอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดสำหรับเทศกาลคริสต์มาส เพราะไม่สามารถนั่งดูกับเด็ก ๆ หรือคนแก่ในครอบครัวได้ เพราะมีฉากโป๊เปลือย และฉากต่อต้านพระเจ้าอยู่บางฉาก แต่เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น เหมาะที่จะเปิดดูในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่สุดเลยล่ะ
ใน Love Actually พูดถึงเรื่องราวของคนบางคนที่อาจมองว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แก่งแย่งชิงดี แต่อันที่จริงแล้วเราจะพบว่ามีความรักปรากฏอยู่ในทุกแห่งหน ในคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีหนุ่มคนใหม่ที่เพิ่งเริ่มงานเป็นวันแรก ก็เกิดตกหลุมรักเลขาฯ สาวจอมเปิ่นที่เพิ่งเข้าทำงานเป็นวันแรกเหมือนกัน, เจมี่ นักเขียนหนุ่ม ที่เพิ่งจะพบว่าภรรยาเป็นชู้กับน้องชายของเขา จึงหลบไปรักษาแผลใจที่บ้านพักริมทะเลสาบ และพบรักกับหญิงสาวคนทำงานบ้านซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้, หญิงสาวที่แต่งงานแล้วอย่างคาเรน ซึ่งกำลังสงสัยว่าสามีของเธอกำลังปันใจให้กับเลขาฯ หน้าห้องทำงาน
หรือกระทั่งความรักของเด็กชายซึ่งกำลังพบรักครั้งแรกกับเด็กหญิงเพื่อนร่วมโรงเรียนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยกัน และพ่อม่ายที่ประสบปัญหาการเข้าถึงลูกชายที่เพิ่งจะสูญเสียแม่ไป เมื่อเทศกาลคริสต์มาสกำลังย่างกรายมาถึง เรื่องราวของแต่ละคนในนครลอนดอนจึงบังเกิดขึ้นด้วยความมหัศจรรย์ที่มีรสชาติทั้งหวานและขม ตามแต่จะบังเกิดขึ้นในทุกหัวใจที่มีรัก
2. Elf (2003)
หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่หนังคริสต์มาสที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษ แต่เรียกได้ว่าเป็นหนังคริสต์มาสที่ดีที่สุดตลอดกาลเลยดีกว่า หนังเรื่องนี้ทำให้สัมผัสได้ถึงความจริงใจ และความเป็นมนุษย์โลกที่แท้จริง แถมยังเป็นหนังที่ตลกเหมาะกับทุกเพศทุกวัยด้วย ทำให้หนังเรื่องนี้เหมาะสุด ๆ ในการเปิดดูในเทศกาลคริสต์มาสนี้
Elf พูดถึงเรื่องราวคืนหนึ่งก่อนวันคริสต์มาส ณ สถานเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ทารกน้อยคลานเข้าไปอยู่ในถุงของขวัญของซานตาคลอส และได้ถูกหอบหิ้วกลับไปยังเมืองของซานต้าในขั้วโลกเหนือ แม้เด็กน้อยจะได้รับการเลี้ยงดูอยู่ท่ามกลางเหล่าเอลฟ์ (เทวดาร่างน้อย) แต่ บัดดี้ (วิล เฟอร์เรล) กลับมีรูปร่างที่ใหญ่กว่าเอลฟ์ตนอื่น ๆ ถึง 3 เท่า นั่นทำให้เขาไม่สามารถเข้ากับโลกของเอลฟ์ได้ เขาจึงมุ่งหน้าสู่นิวยอร์กเพื่อค้นหาความเป็นมาของตัวเอง และสัมผัสกับโลกใหม่ที่มีอะไรน่าสนใจมากมายนอกจากสเกตน้ำแข็งและขนมหวานที่เขาเคยเจอมา แต่แล้วเขาก็พบว่าตัวเองก็ไม่เหมาะกับที่นั่นด้วยเช่นกัน
พ่อที่แท้จริงของบัดดี้ คือ วอลเตอร์ (เจมส์ คานน์) ทำงานอยู่ที่สำนักพิมพ์ และเป็นคนบ้างานเอามาก ๆ จนได้เข้าไปอยู่ในรายชื่อ "ตัวแสบ" ของซานต้า บัดดี้ได้พบแม่ใหม่ (แมรี สทีนเบอร์เกน) และน้องชาย (แดเนียล เทล์) วัย 10 ขวบ ผู้ไม่มีความเชื่อในเรื่องของวันคริสต์มาส ไม่ว่าจะเอลฟ์หรือแม้แต่ซานตาคลอสเลย ทุกคนหลงลืมความหมายที่แท้จริงของมันไปแล้ว บัดดี้จึงตัดสินใจที่จะทำให้ครอบครัวกลับมาให้ความสำคัญกับวันคริสต์มาส และพิทักษ์ให้อยู่คู่โลกสืบไป
3. Iron Man 3 (2013)
มาอีกแล้วสำหรับหนังจากผู้กำกับ เชน แบล็ก (Shane Black) ที่มีผลงานตั้ง 2 เรื่องติดโผใน 10 อันดับนี้ บางคนคงสงสัยว่าทำไมเรื่อง Iron Man 3 ถึงมาเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสได้ เพราะหนังเรื่องนี้เป็น A Christmas Carol ในรูปแบบซูเปอร์ฮีโร่ยังไงล่ะ
มาร์เวลส์ "ไอรอน แมน 3" โทนี่ สตาร์ค/ไอรอน แมน อัจฉริยะนักอุตสาหกรรมสุดเกรียน ตกอยู่ภายใต้หลุมพรางของศัตรูผู้ไม่รู้จักขอบเขตของคำว่าโหดร้าย เมื่อสตาร์คพบว่าโลกส่วนตัวของเขาได้ถูกทำลายลงด้วยเงื้อมมือของเหล่าศัตรู เขาจึงออกตามล่าคนที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบพลิกแผ่นดิน ในทุกย่างก้าวของการเดินทางครั้งนี้คือการทดสอบความเข้มแข็งของเขา เมื่อหลังชนฝา สตาร์คเอาตัวรอดมาได้ด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเขาเอง สิ่งที่พึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คือความเป็นนักประดิษฐ์และสัญชาตญาณเพื่อจะปกป้องคนที่เขารัก เมื่อเขาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง สตาร์คจึงได้พบกับคำตอบของคำถามที่คอยหลอกหลอนเขามาโดยตลอดว่า คนสร้างชุดเกราะหรือชุดเกราะสร้างคนกันแน่ ?
1. Love Actually (2003)
เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ครองใจอันดับ 1 ของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียวสำหรับหนังเรื่องนี้ มันอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดสำหรับเทศกาลคริสต์มาส เพราะไม่สามารถนั่งดูกับเด็ก ๆ หรือคนแก่ในครอบครัวได้ เพราะมีฉากโป๊เปลือย และฉากต่อต้านพระเจ้าอยู่บางฉาก แต่เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น เหมาะที่จะเปิดดูในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่สุดเลยล่ะ
ใน Love Actually พูดถึงเรื่องราวของคนบางคนที่อาจมองว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แก่งแย่งชิงดี แต่อันที่จริงแล้วเราจะพบว่ามีความรักปรากฏอยู่ในทุกแห่งหน ในคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีหนุ่มคนใหม่ที่เพิ่งเริ่มงานเป็นวันแรก ก็เกิดตกหลุมรักเลขาฯ สาวจอมเปิ่นที่เพิ่งเข้าทำงานเป็นวันแรกเหมือนกัน, เจมี่ นักเขียนหนุ่ม ที่เพิ่งจะพบว่าภรรยาเป็นชู้กับน้องชายของเขา จึงหลบไปรักษาแผลใจที่บ้านพักริมทะเลสาบ และพบรักกับหญิงสาวคนทำงานบ้านซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้, หญิงสาวที่แต่งงานแล้วอย่างคาเรน ซึ่งกำลังสงสัยว่าสามีของเธอกำลังปันใจให้กับเลขาฯ หน้าห้องทำงาน
หรือกระทั่งความรักของเด็กชายซึ่งกำลังพบรักครั้งแรกกับเด็กหญิงเพื่อนร่วมโรงเรียนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยกัน และพ่อม่ายที่ประสบปัญหาการเข้าถึงลูกชายที่เพิ่งจะสูญเสียแม่ไป เมื่อเทศกาลคริสต์มาสกำลังย่างกรายมาถึง เรื่องราวของแต่ละคนในนครลอนดอนจึงบังเกิดขึ้นด้วยความมหัศจรรย์ที่มีรสชาติทั้งหวานและขม ตามแต่จะบังเกิดขึ้นในทุกหัวใจที่มีรัก
หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่หนังคริสต์มาสที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษ แต่เรียกได้ว่าเป็นหนังคริสต์มาสที่ดีที่สุดตลอดกาลเลยดีกว่า หนังเรื่องนี้ทำให้สัมผัสได้ถึงความจริงใจ และความเป็นมนุษย์โลกที่แท้จริง แถมยังเป็นหนังที่ตลกเหมาะกับทุกเพศทุกวัยด้วย ทำให้หนังเรื่องนี้เหมาะสุด ๆ ในการเปิดดูในเทศกาลคริสต์มาสนี้
Elf พูดถึงเรื่องราวคืนหนึ่งก่อนวันคริสต์มาส ณ สถานเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ทารกน้อยคลานเข้าไปอยู่ในถุงของขวัญของซานตาคลอส และได้ถูกหอบหิ้วกลับไปยังเมืองของซานต้าในขั้วโลกเหนือ แม้เด็กน้อยจะได้รับการเลี้ยงดูอยู่ท่ามกลางเหล่าเอลฟ์ (เทวดาร่างน้อย) แต่ บัดดี้ (วิล เฟอร์เรล) กลับมีรูปร่างที่ใหญ่กว่าเอลฟ์ตนอื่น ๆ ถึง 3 เท่า นั่นทำให้เขาไม่สามารถเข้ากับโลกของเอลฟ์ได้ เขาจึงมุ่งหน้าสู่นิวยอร์กเพื่อค้นหาความเป็นมาของตัวเอง และสัมผัสกับโลกใหม่ที่มีอะไรน่าสนใจมากมายนอกจากสเกตน้ำแข็งและขนมหวานที่เขาเคยเจอมา แต่แล้วเขาก็พบว่าตัวเองก็ไม่เหมาะกับที่นั่นด้วยเช่นกัน
พ่อที่แท้จริงของบัดดี้ คือ วอลเตอร์ (เจมส์ คานน์) ทำงานอยู่ที่สำนักพิมพ์ และเป็นคนบ้างานเอามาก ๆ จนได้เข้าไปอยู่ในรายชื่อ "ตัวแสบ" ของซานต้า บัดดี้ได้พบแม่ใหม่ (แมรี สทีนเบอร์เกน) และน้องชาย (แดเนียล เทล์) วัย 10 ขวบ ผู้ไม่มีความเชื่อในเรื่องของวันคริสต์มาส ไม่ว่าจะเอลฟ์หรือแม้แต่ซานตาคลอสเลย ทุกคนหลงลืมความหมายที่แท้จริงของมันไปแล้ว บัดดี้จึงตัดสินใจที่จะทำให้ครอบครัวกลับมาให้ความสำคัญกับวันคริสต์มาส และพิทักษ์ให้อยู่คู่โลกสืบไป
มาอีกแล้วสำหรับหนังจากผู้กำกับ เชน แบล็ก (Shane Black) ที่มีผลงานตั้ง 2 เรื่องติดโผใน 10 อันดับนี้ บางคนคงสงสัยว่าทำไมเรื่อง Iron Man 3 ถึงมาเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสได้ เพราะหนังเรื่องนี้เป็น A Christmas Carol ในรูปแบบซูเปอร์ฮีโร่ยังไงล่ะ
มาร์เวลส์ "ไอรอน แมน 3" โทนี่ สตาร์ค/ไอรอน แมน อัจฉริยะนักอุตสาหกรรมสุดเกรียน ตกอยู่ภายใต้หลุมพรางของศัตรูผู้ไม่รู้จักขอบเขตของคำว่าโหดร้าย เมื่อสตาร์คพบว่าโลกส่วนตัวของเขาได้ถูกทำลายลงด้วยเงื้อมมือของเหล่าศัตรู เขาจึงออกตามล่าคนที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบพลิกแผ่นดิน ในทุกย่างก้าวของการเดินทางครั้งนี้คือการทดสอบความเข้มแข็งของเขา เมื่อหลังชนฝา สตาร์คเอาตัวรอดมาได้ด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเขาเอง สิ่งที่พึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คือความเป็นนักประดิษฐ์และสัญชาตญาณเพื่อจะปกป้องคนที่เขารัก เมื่อเขาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง สตาร์คจึงได้พบกับคำตอบของคำถามที่คอยหลอกหลอนเขามาโดยตลอดว่า คนสร้างชุดเกราะหรือชุดเกราะสร้างคนกันแน่ ?
ฟิล์มนัวร์สุดยิ่งใหญ่ตระการตา พร้อมทั้งบทบาทและบทสนทนาโต้ตอบกันของตัวละครที่ดีมาก ๆ หนังเรื่องนี้เป็นการพลิกการทำหนังของผู้กำกับที่มีชื่อเสียงอย่าง เชน แบล็ก (Shane Black) ที่ทำออกมาไม่เพียงเฉพาะจะให้หนังออกมาดีเท่านั้น แต่ยังทำให้เหมาะกับเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย
คงไม่มีอะไรที่ดวงชะตาจะเล่นตลกได้เท่านี้อีกแล้ว เมื่อหัวขโมยกลับใจอย่าง แฮร์รี่ ล็อคฮาร์ต ต้องกลายเป็นนักแสดงฮอลลีวูดและรับบทนักสืบร่วมกับเกย์คู่หู แต่ก่อนจะได้แสดงพวกเขาต้องซ้อมด้วยการเป็นนักสืบจริง ๆ เสียก่อน และเมื่อนางเอกสาวของเรื่องเปิดเผยเบื้องหลังที่พี่สาวถูกฆาตกรรม เงื่อนงำของคดีพ้องกับ "การซ้อม" ของพวกเขาอย่างเหมาะเจาะ จากการซ้อมอันแสนธรรมดาจึงนำไปสู่การสืบคดีฆาตกรรมของจริง
5. Rare Exports : A Christmas Tale (2010)
พลิกภาพของซานตาคลอสคุณลุงใจดี กลายมาเป็นซานต้าแบบโหด ๆ ในหนังระทึกขวัญปนลึกลับที่อิงเรื่องราวของคริสต์มาส เชื่อว่าคุณไม่สามารถหาหนังคริสต์มาส หรือหนังที่เกี่ยวกับเทศกาลต่าง ๆ เรื่องไหนได้น่าตื่นเต้นและสนุกได้เท่าเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ระวังจะเก็บเอาไปฝันร้ายนะจ๊ะ
ใน Rare Exports : A Christmas Tale เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเทศกาลคริสต์มาสในเขตชนบทของฟินแลนด์ถูกรบกวนด้วยการขุดค้นทางโบราณคดี บนเทือกเขาใกล้ ๆ หมู่บ้าน การขุดค้นนำไปสู่การค้นพบอันน่าตื่นตะลึง นั่นคือพวกเขาพบหลุมศพของ "ซานตาคลอส" หลังจากนั้นไม่นานเด็ก ๆ ในหมู่บ้านเริ่มหายตัวไป ท่ามกลางความสับสนและปริศนามากมาย จนกระทั่งพวกเขาไปพบเจอชายคนหนึ่งในสภาพอิดโรย ซึ่งพวกเขาคาดว่าน่าจะเป็นซานตาคลอสที่ถูกปลุกขึ้นมาจากการจำศีล โดยไม่มีใครคาดคิดเลยว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเปิดตำนานซานตาคลอสที่จะลบล้างทุกเรื่องราวที่คุณเคยได้ยินมา
หนังเรื่องนี้ทั้งหดหู่และตลกบางครั้งบางคราวสลับกันไป เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความน่ารังเกียจของตัวละครที่กำลังมองหาการไถ่โทษ และหนังเรื่องนี้มีจุดเด่นคือ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองบรูซ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้
เมืองบรูซ เป็นเมืองเก่าแก่ที่ยังคงสภาพความเป็นยุคกลางไว้ได้อย่างดีที่สุดในประเทศเบลเยียม เป็นเป้าหมายของเหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่สำหรับนักฆ่าอย่าง เรย์ (โคลิน ฟาร์เรลล์) และ เคน (เบรนแดน กลีสัน) เมืองนี้อาจจะเป็นจุดหมายสุดท้ายของพวกเขาก็ได้ ทั้งคู่ได้รับคำสั่งในช่วงก่อนคริสต์มาสจาก แฮร์รี่ (เรล์ฟ ไฟน์ส) หัวหน้าของพวกเขาในลอนดอน ให้เดินทางไปยังเมืองบรูซ และคอยอยู่ที่เมืองนี้เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
นักฆ่าทั้งสองรู้สึกแปลกแยก ขณะที่ต้องใช้ชีวิตอย่างนักท่องเที่ยวอยู่ท่ามกลางสถาปัตยกรรมแบบโกธิก คูคลอง และถนนหินกรวด เรย์ซึ่งยังถูกหลอกหลอนจากการฆ่าฟันในลอนดอนรู้สึกเกลียดที่นี่ ในขณะที่เคนพบว่าจิตใจและจิตวิญญาณของเขาเริ่มเปิดกว้างขึ้นด้วยความงามและความเงียบสงบของเมืองนี้
พูดได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุก ๆ คนในครอบครัวอย่างแน่นอน เพราะมันตลกขบขันและแอบติดลามกหน่อย ๆ ด้วย แต่เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ถือได้ว่าดีทีเดียว เพราะพูดถึงการเชื่อมั่นในศักยภาพของคนที่ดี
Bad Santa เป็นเรื่องราวของ 2 หัวขโมยสมองใส ปลอมตัวเป็นซานตาคลอสและเอลฟ์ ออกเดินทางไปห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยใช้ความรู้สึกดี ๆ ของผู้คนที่มีต่อชายแก่ในชุดแดงมาเป็นเครื่องบังหน้าในการแอบย่องเข้าไปฉกสินค้า แผนการทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่งวายร้าย 2 คนต้องมาพานพบกับเด็กวัย 8 ขวบที่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของฤดูแห่งความสุข
หนังแอนิเมชั่นอันน่าตื่นตาตื่นใจ เนื้อเรื่องทั้งสนุกและตลกขบขัน ทำให้ได้ใจเด็ก ๆ ไปเต็ม ๆ แถมหนังเรื่องนี้ยังเป็นหนึ่งในหนังเพียงไม่กี่เรื่องที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับซานตาคลอสอีกด้วยล่ะ
Arthur Christmas เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์มาสของ อาร์เธอร์ ชายหนุ่มที่ช่างสงสัยในสิ่งที่เขาตามหาคำตอบเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส รวมไปถึงการส่งของขวัญของ ซานตาคลอส ที่เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ซานตาคลอสสามารถส่งของขวัญแต่ละบ้านภายในเวลาแค่คืนเดียวได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่มีเด็กในแต่ละบ้าน แต่ละเมือง แต่ละประเทศ แต่ละมุมโลก มากมายขนาดนั้น หนังเรื่องนี้จะพาคุณไปพบกับความลับนั้นในแบบที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน !!
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Arthur Christmas
9. The Polar Express (2004)
ภาพยนตร์ล้ำสมัยสุดคลาสสิกตลอดกาล ที่ทุกขั้นตอนในการทำหนังทำออกมาจากใจจริง ๆ ทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาเพอร์เฟกต์ และดีที่สุดในการเปิดดูกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในเทศกาลคริสต์มาสนี้
ในคืนหิมะตกก่อนวันคริสต์มาส เด็กชายตัวน้อยนอนลืมตาอยู่ในห้องของเขา ทั้งตื่นเต้นและเตรียมพร้อม ลมหายใจแผ่วเบา แทบไม่กระดิกตัว เฝ้าคอย เขากำลังเงี่ยหูฟังเสียงที่เขาหวั่นใจว่าจะไม่มีวันได้ยินเสียงกระดิ่งของรถเลื่อนซานต้า เวลาในขณะนั้นคือ 5 นาทีก่อนเที่ยงคืน ทันใดนั้นเด็กชายก็ต้องสะดุ้งตกใจด้วยเสียงกึกก้องกัมปนาท เมื่อเขาเช็ดถูฝ้าออกจากกระจกหน้าต่างก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้ต้องประหลาดใจอย่างมาก รถไฟสีดำเป็นมันวับที่ส่งเสียงดังสนั่นในขณะที่จอดลงตรงหน้าบ้านของเขาพอดี ไอน้ำที่พลุ่งออกมาจากเครื่องอันทรงพลังทำเสียงฟู่ ๆ ในท้องฟ้ายามราตรี ซึ่งมีเกล็ดหิมะกำลังโปรยปรายลงมาอย่างนุ่มนวล เด็กชายรีบวิ่งออกไปนอกบ้าน ทั้งตัวสวมเพียงชุดนอนและรองเท้าแตะ เขาพบกับนายตรวจตั๋วรถไฟซึ่งดูเหมือนว่ากำลังคอยเขาอยู่เพียงคนเดียว "เอ้า จะไปด้วยกันหรือเปล่า ?" นายตรวจถาม "ไปไหนฮะ ?" "อ้าว ก็ขั้วโลกเหนือน่ะสิ นี่รถด่วนโพลาร์ เอ็กซ์เพรส นะ !"
เมื่อเด็กชายผู้มีความสงสัยได้ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษไปยังขั้วโลกเหนือ และออกเดินทางเพื่อค้นหาให้พบตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามหัศจรรย์แห่งชีวิตนั้น ... ไม่เคยจางหายไปสำหรับผู้ที่มี "ความเชื่อ"
10. A Christmas Carol (2009)
จากนิทานคลาสสิกนำมาสร้างในรูปแบบภาพยนตร์ที่แสนสนุกสนาน หนังเรื่องนี้ถูกคนจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยังไงก็ยังเป็นหนังที่ชวนให้จินตนาการและสนุกสนานเพลิดเพลิน แถมยังคุ้มค่าอีกด้วย ใครที่ยังไม่ได้ดูก็รีบไปหาดูกันนะ
A Christmas Carol บอกเล่าเรื่องราวของ เอเบนีเซอร์ สครูจ (จิม แคร์รี) เริ่มต้นวันหยุดช่วงคริสต์มาสด้วยความรู้สึกดูถูกคนอื่นตามปกติ เขาคำรามใส่เสมียนที่ซื่อสัตย์ของเขา (แกรี่ โอลด์แมน) และหลานชายแสนร่าเริงของเขา (โคลิน เฟิร์ธ) สครูจแสดงออกให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาไม่ได้อยากจะมีความสุขไปกับเทศกาลวันหยุดนี้ และเขาก็ได้กลับบ้านตามลำพังเช่นเคยที่บ้านของเขา เขาได้พบกับวิญญาณของเจค็อบ มาร์ลี่ย์ หุ้นส่วนทางธุรกิจผู้ล่วงลับไปแล้วของเขา มาร์ลี่ย์ ผู้ต้องทนทุกข์หลังความตายเพราะความเลวร้ายของตัวเขาเอง อยากจะช่วยไม่ให้สครูจต้องพบเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับเขา และบอกกับเขาว่าจะมีวิญญาณ 3 ตนมาเยือนเขา แต่เมื่อวิญญาณคริสต์มาสอดีต วิญญาณคริสต์มาสปัจจุบัน และวิญญาณคริสต์มาสอนาคตที่ยังมาไม่ถึง นำพาเฒ่าสครูจสู่การเดินทางที่เผยถึงความจริงที่เขาไม่อยากรับรู้ เขาก็ต้องเปิดหัวใจตัวเองเพื่อแก้ไขในสิ่งผิดพลาดที่เขาทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
มีหนังเรื่องไหนเป็นเรื่องโปรดของเพื่อน ๆ กันบ้างคะ หากใครยังไม่เคยดูหนังเรื่องไหนจากที่กล่าวมา แนะนำว่าให้ลองไปหาดูในช่วงใกล้จะถึงเทศกาลคริสต์มาสนี้ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความสุขและความอบอุ่นใจได้มากเลยทีเดียว
