เตรียมตัวให้พร้อมก่อนดู Star Wars : The Force Awakens กับ 10 เรื่องน่ารู้ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Star Wars : Episode 7 รับประกันความสนุกที่จะทำให้คุณนั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะในภาคนี้เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงที่ผสมผสานทั้งความเก่าและใหม่ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนดู Star Wars : The Force Awakens เรารวบรวม 10 เรื่องน่ารู้จากเว็บไซต์ Cinemablend, Screen Rant และ Cineworld มาให้คุณเตรียมพร้อมก่อนดื่มด่ำความสนุกในโรงภาพยนตร์ ไปดูกันเลยว่าเรื่องไหนน่าสนใจบ้าง
ที่มาของชื่อเรื่อง
นับจากนี้ Star Wars : The Force Awakens จะถูกจดจำในฐานะชื่อทางการของหนังภาค 7 ซึ่งถ้าหากแปลตรงตัว The Force Awakens จะหมายความว่า การตื่นขึ้นของพลังอำนาจ แต่อันที่จริงชื่อตอนดังกล่าวสามารถสื่อถึงการตื่นขึ้นอีกครั้งของแฟรนไชส์ Star Wars หลังหลับใหลมานานได้เหมือนกัน
เรื่องราวเกิดขึ้น 30 ปีหลังจาก Star Wars : Episode 6
แม้ยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับ Star Wars : The Force Awakens คือการเล่าเรื่อง 30 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน The Return of the Jedi และด้วยไทม์ไลน์ที่ผ่านมานานถึงเพียงนี้ ตัวละครที่เคยมีบทบาทจึงต้องมีอายุตามไปด้วย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนักแสดงต้นฉบับอย่าง แฮริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) หรือคนอื่น ๆ ได้กลับมาอีกครั้งในภาคนี้
การถ่ายทำ Star Wars : The Force Awakens เกิดขึ้นในหลากหลายโลเคชั่น อาทิ ทะเลทรายในเมืองอาบูดาบี เกาะสเกลลิคไมเคิลในไอร์แลนด์ และไพน์วูดสตูดิโอในอังกฤษ โดยกินเวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน 2014 อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญเกิดขึ้นเมื่อนักแสดงนำอย่าง แฮริสัน ฟอร์ด ประสบอุบัติเหตุในกองถ่ายและจำเป็นต้องพักฟื้น (อ่านข่าว แฮร์ริสัน ฟอร์ด ดาราฮอลลีวูด ขับเครื่องบินเล็กตก ล่าสุดปลอดภัยแล้ว) ความร้ายแรงของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้หนังเลื่อนกำหนดเข้าฉายออกไปเป็นเดือนพฤษภาคม 2016 ซึ่งช้ากว่าเดิม 5 เดือน แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดีและกำหนดการทุกอย่างถูกคงไว้ตามเดิม
ผู้กำกับ เจเจ เอบรัมส์ (J.J. Abrams) ต้องการถ่ายทำโดยใช้เทคนิคพิเศษบนคอมพิวเตอร์ให้น้อยที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการสร้างฉากการใช้หุ่นเชิด โมเดลจำลอง หรือให้คนมาแต่งกายเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทต่าง ๆ โดยใช้เทคนิคเดียวกับที่ จอร์จ ลูคัส (George Lucas) เคยทำมาแล้วในภาคก่อน ๆ วิธีการเหล่านี้ส่งผลให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างจับต้องได้มากกว่าการถ่ายทำด้วยฉากเขียว และทำให้หนังเวอร์ชั่น 2015 กับเวอร์ชั่นเก่าของ จอร์จ ลูคัส มีความใกล้เคียงกันโดยปริยาย
นำทัพโดยนักแสดงชุดเก่า
32 ปีหลังจาก Star Wars : Episode 6 - Return of the Jedi ทีมนักแสดงรุ่นเก๋ากลับมาสวมบทในตำนานอย่างพร้อมหน้า อาทิ มาร์ค ฮามิลล์ (Mark Hamill) ในบท ลุค สกายวอล์คเกอร์, แฮริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) ในบท ฮัน โซโล, แคร์รี่ ฟิชเชอร์ (Carrie Fisher) ในบท เจ้าหญิงลีอา, แอนโธนี แดเนียลส์ (Anthony Daniels) ในบท C-3PO รวมไปถึง ปีเตอร์ เมย์ฮิว (Peter Mayhew) ในบท ชูเบคก้า (อ่านข่าว ชูเบคก้า อาจกลับมาอีกครั้งใน Star Wars : Episode VII)
เสริมความเข้มข้นโดยทีมนักแสดงรุ่นใหม่
เรย์ (เดย์ซี่ ริดลีย์) และฟินน์ (จอห์น โบเยก้า) กำลังวิ่งหนีจากการไล่ล่าของ สตอร์มทรูปเปอร์ แห่ง เดอะ เฟิร์ส ออร์เดอร์
เดซี่ ริดลีย์ (Daisy Ridley), จอห์น โบเยก้า (John Boyega), ออสการ์ ไอแซค (Oscar Isaac) นำทีมนักแสดงรุ่นใหม่เสริมทัพความมันส์ใน Star Wars 7 โดย เดซี่ ริดลีย์ รับบท "เรย์" เด็กกำพร้าที่เติบโตมาเพียงลำพังบนดาวแจ๊กกู, จอห์น โบเยก้า รับบท "ฟินน์" สตอรมทรูปเปอร์ผู้สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง และออสการ์ ไอแซค รับท "โพ" นักบินผู้เยี่ยมยอดที่สุดในกาแล็กซี
เดซี่ ริดลีย์ รับบท "เรย์"
จอห์น โบเยก้า รับบท "ฟินน์"
ออสการ์ ไอแซค รับท "โพ"
กำกับโดย เจเจ เอบรัมส์ แฟนตัวยงของ Star Wars
ผู้กำกับ เจเจ เอบรัมส์ และผู้เขียนบทร่วม ลอว์เรนซ์ แคสแดน (ภาคจักรวรรดิเอ็มไพร์โต้กลับ) พูดคุยกันขณะที่อยู่ในฉากฐานทัพสตาร์คิลเลอร์ของ เดอะ เฟิร์ส ออร์เดอร์ บทหนังบนกระดาษสีแดงที่อยู่ในมือของทั้งสองคน เพื่อป้องกันการก๊อบปี้
ความน่าสนใจของ Star Wars คือการนั่งแท่นกำกับโดยคนคุณภาพอย่าง เจเจ เอบรัมส์ (J.J. Abrams) ผู้อยู่เบื้องหลังความเจ๋งของซีรีส์ Lost, เวอร์ชั่นรีบูทของ Star Trek และนั่งแท่นโปรดิวเซอร์ในแฟรนไชส์ Mission : Impossible เขาคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มือทองที่อยู่เบื้องหลังหนังทำเงินมาแล้วมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเขาคือแฟนตัวยงของ Star Wars อีกด้วย "ในฐานะเด็กคนหนึ่ง ผมเคยชื่นชอบ Star Wars มากกว่า Star Trek เสียอีก"
เต็มไปด้วยพลังของผู้หญิง
เรย์ (เดย์ซี่ ริดลีย์) พยายามตัดตาข่ายเพื่อช่วยเหลือ บีบี-8 จากนักค้าเศษเหล็กที่อยู่บนสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวมหึมา
ในประวัติศาสตร์ของหนังเรื่อง Star Wars มีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่มีบทบาทสำคัญต่อเนื้อเรื่อง เช่น เจ้าหญิงลีอา แต่สำหรับ Star Wars : The Force Awakens ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อ แคธลีน เคเนดี้ (Kathleen Kennedy) ประธานแห่งค่าย Lucasfilm ให้สัญญาว่าจะมีตัวละครหญิงเพิ่มเข้ามาอีกเป็นชุด หนึ่งในนั้นคือคาแรคเตอร์ เรย์ ซึ่งรับบทโดย เดซี่ ริดลีย์
นักบินยานเอ็กซ์วิงคนนี้จะมีบทบาทอย่างไรในภาคนี้ คงมีแต่ผู้กำกับ เจเจ เอบรัมส์ เท่านั้นที่รู้
เจเจ เอบรัมส์ ขึ้นชื่อเรื่องสร้างเซอร์ไพรส์กับผู้ชมมาแต่ไหนแต่ไร เห็นได้จากการเปิดตัว เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ (Benedict Cumberbatch) ในบท ข่าน รวมถึงการนำ เลียวนาร์ด นิมอย (Leonard Nimoy) กลับมาสวมบท สป็อค ในหนังเรื่อง Star Trek Into Darkness และถึงแม้ข่าวลือเกี่ยวกับ Star Wars 7 จะหลุดออกมามากเพียงใด แต่ขอให้รู้ไว้เลยว่าไม่มีใครสามารถคาดเดาอะไรได้ทั้งนั้น
นี่เป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่แห่งโลก Star Wars
Rogue One : A Star Wars Story
แม้ผลตอบรับของ Star Wars : The Force Awakens จะยังไม่ปรากฏจนกว่าจะเข้าฉาย แต่ถึงอย่างนั้น Disney และ Lucasfilm ก็ตัดสินใจสร้างหนังภาคต่อและภาคแยกตามมาอีกเป็นชุด เริ่มตั้งแต่หนังภาคแยก Rogue One : A Star Wars Story ในเดือนธันวาคม 2016 (อ่านข่าว Star Wars : Rogue One เผยพล็อตเรื่องพร้อมรายละเอียดตัวละคร), หนังภาคต่อ Star Wars : Episode 8 ในเดือนพฤษภาคม 2017, หนังภาคแยกของ ฮัน โซโล ในเดือนพฤษภาคม 2018 ปิดท้ายด้วย Star Wars : Episode 9 ในปี 2019 ยิ่งไปกว่านั้น Lucasfilm เพิ่งประกาศว่าจะปล่อยหนัง Star Wars ออกมาทุกปีแบบไม่สิ้นสุดอีกด้วย (อ่านข่าว Star Wars ไม่ยอมจบ วางแผนสร้างปีละ 1 เรื่อง) จึงน่าจับตาว่าเรื่องราวของ Star Wars 7 จะเชื่อมโยงสู่ภาคอื่น ๆ ในอนาคตอย่างไร
ได้ทราบข้อมูลที่น่าสนใจกันไปแล้ว อย่าลืมเตรียมพร้อมสำหรับ Star Wars : The Force Awakens ที่เตรียมเข้าฉายในบ้านเรา 17 ธันวาคม 2015 แล้วอย่าลืมมาคุยให้เราฟังด้วยว่าคุณคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Star Wars, Star Wars.com