(สปอยล์) 7 คำถามชวนสงสัย ประเด็นค้างคาใจ หลังรับชม Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald
เรียกได้ว่า Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald เป็นการปูทางไปสู่เรื่องราวอันเข้มข้นของโลกพ่อมด-แม่มด ผู้วิเศษอย่างแท้จริง ก็แหม หลังจากที่มักเกิ้ลอย่างเรา ๆ ดูจบ เป็นอันต้องงงกันเป็นไก่ตาแตก แถมยังพากันตั้งคำถามถึงเรื่องนั้น เรื่องนี้มากมาย แม้ว่าจะไม่มีวี่แววคำตอบใด ๆ หลุดรอดออกมาจากปาก เจ.เค. โรว์ลิ่ง บ้างเลยก็ตาม อ๊ะ ๆ ๆ ว่าแต่เรื่องราวในหนังทิ้งร่องรอยอะไรไว้บ้าง ? มีประเด็นอะไรน่าสนใจ ชวนสงสัยมากน้อยแค่ไหน ? แล้วจะปูทางไปสู่เรื่องราวในอนาคตอย่างไร ? ตามมาวิเคราะห์ เจาะลึกข้อมูลแห่งโลกเวทมนตร์คร่าว ๆ กันเลยดีกว่า ทว่าก่อนอื่นต้องขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า หลังจากนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาและข้อมูลสำคัญในหนังเพียบ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่กลัวการสปอยล์และรับชมมาแล้วเท่านั้น !
คำเตือน: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาภายในเรื่อง
ครีเดนซ์ และ ดัมเบิลดอร์ มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
แน่นอนว่าปริศนาชวนคิดที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดในเรื่องก็คือ การเปิดเผยความจริงว่า ครีเดนซ์ แบร์โบน คือ ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์ น้องชายของ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ผู้ทรงพลังที่สุดแห่งฮอกวอตส์ในยุคของแฮรี่ พอตเตอร์ ทว่าความจริงที่ว่านี้กลับออกมาจากปากของ กรินเดลวัลด์ พ่อมดตัวร้ายที่ต้องการจะหลอกใช้ ครีเดนซ์ ให้กำจัด อัลบัส เสียอย่างนั้น งานนี้จึงทำให้หลายคนพากันสงสัยว่าเรื่องนี้จะใช่เรื่องจริงหรือไม่ ? ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าจากรูปการณ์แล้วมีความเป็นไปได้สูง เพราะถ้าหากจะเล่นประเด็นโกหกก็คงจะเปล่าประโยชน์ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อหนังทั้งแฟรนไชส์ได้อีก ฉะนั้นจึงมั่นใจได้เกือบ 100% เลยว่า เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องจริงชัวร์ หรือไม่อย่างน้อย ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องจริงในมุมมองของใครบางคน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์ จะไม่ใช่ลูกของ เคนดรา และ เพอร์ซิวาล ดัมเบิลดอร์ (พ่อ-แม่ของอัลบัส) ซะทีเดียว เนื่องจาก เคนดรา ตายไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1899 โดยข้อมูลระบุว่าเธอมีลูก 3 คน ได้แก่ อัลบัส อาเบอร์ฟอร์ธ และ แอรีอานนา ไม่มีวี่แววของ ออเรเลียส เลย ฉะนั้นหลายคนจึงปักใจเชื่อว่าทั้งสองอาจจะเป็นแค่พี่น้องที่มีพ่อคนเดียวกัน เพราะแม้ว่าพ่อของอัลบัสจะถูกขังและตายในคุกแห่งอัซคาบัน (ตามความคิดของอัลบัส) แต่บางทีเขาอาจจะหลบหนีออกมาได้ หรือไม่ก็แอบมีลูกในคุกโดยที่ผู้คุมวิญญาณไม่รู้ก็ได้
นอกจากนี้ก็ยังมีการคาดเดากันอีกว่า กรินเดลวัลด์ อาจจะเชื่อว่า ออบสคูรัส (Obscurus) ที่อยู่ในตัว ครีเดนซ์ เป็นตัวเดียวกันกับที่อยู่ในตัว แอรีอานนา โดยมันเลือกที่จะมาสิงอยู่ในร่างของเขาหลังจากที่เธอตายไปแทนก็ได้ นี่จึงยิ่งทำให้ปริศนาเรื่องตัวตนของครีเดนซ์เป็นที่น่าสนใจและน่าจับตามองยิ่งขึ้นไปอีก เพราะแต่ละการทฤษฎีก็ดูมีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว
ภาพสะท้อนในกระจกเงาแห่งแอริเซด (Mirror Of Erised) ของ ดัมเบิลดอร์ สื่อถึงอะไร ?
นอกจากเรื่องความเชื่อมโยงต่าง ๆ อีกหนึ่งวัตถุสำคัญที่ปรากฏทั้งในเรื่อง Harry Potter และ Fantastic Beasts ก็คือ กระจกเงาแห่งแอริเซด กระจกทรงพลังที่สามารถแสดงถึงความปรารถนาลึกภายในใจของผู้ที่กำลังยืนส่องได้ โดยในเรื่องนี้เมื่อดัมเบิลดอร์มองเข้าไปในกระจก เขาเห็นเป็นภาพสะท้อนระหว่างการทำพันธสัญญาเลือดของเขากับกรินเดลวัลด์ ก่อนที่กรินเดลวัลด์ในวัยหนุ่มจะเปลี่ยนไปเป็นกรินเดลวัลด์ในวัยปัจจุบัน ซึ่งดูแล้วเหมือนว่ากระจกจะทำหน้าที่คล้ายกับอ่างเพนซิฟ (Pensieve) อย่างไรอย่างนั้น เพราะถ้าหากดัมเบิลดอร์รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปจริง ๆ กระจกก็น่าจะสะท้อนภาพการทำลายพันธสัญญา หรือไม่ก็ภาพของกรินเดลวัลด์ที่ไม่ใช่พ่อมดสุดร้ายกาจมากกว่า
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นน่าสนใจที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า แท้จริงแล้วกระจกต้องการจะสื่ออะไร ? ดัมเบิลดอร์ต้องการอะไรกันแน่ ? โดยว่ากันว่าบางทีสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดอาจจะเป็นแค่เรื่องธรรมดา ๆ เช่น เวลาที่เขาได้รู้สึกใกล้ชิดกับใครสักคนจริง ๆ หรือเวลาที่มีคนเข้าใจหรือรักเขาจริง ๆ นั่นเอง
ดัมเบิลดอร์ จะทำลายพันธะสัญญาเลือดอย่างไร ?
หลังจากตัวอย่างภาพยนตร์ถูกปล่อยออกมา หลายคนเคยตั้งคำถามว่า ทำไมดัมเบิลดอร์ถึงต้องส่งนิวท์ไปจัดการกับกรินเดลวัลด์ด้วย ? ล่าสุดในเนื้อหาภาพยนตร์ก็เฉลยแล้วว่า เพราะทั้งสองไม่สามารถต่อสู้กันได้ เนื่องจากมีพันธสัญญาเลือดผูกมัดเอาไว้นั่นเอง แต่ก็อย่างที่เรารู้กันดีว่าในปี ค.ศ. 1945 มีเหตุการณ์ต่อสู้สุดโด่งดังแห่งโลกเวทย์มนตร์รอเราอยู่ ฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรทั้งสองคนก็ต้องเผชิญหน้ากันในที่สุด ซึ่งก็แน่นอนว่าการต่อสู้ของทั้งคู่เป็นไคลแม็กซ์สำคัญของแฟรนไชส์ Fantastic Beasts เลยทีเดียว ดังนั้นประเด็นการทำลายพันธสัญญาเลือดจึงเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจว่า ดัมเบิลดอร์จะทำลายมันอย่างไร เพราะเท่าที่เรารู้คือสัญญาเลือดมีความคล้ายคลึงกันกับปฏิญาณไม่คืนคำ ซึ่งเป็นการให้สัญญาที่ไม่สามารถทำลายลงได้นั่นเอง บอกเลยว่าตอนนี้ยังไม่มีใครเดาได้เลยล่ะ
นากินีไปลงเอยกับโวลเดอร์มอร์ได้อย่างไร ?
นากินี ถือเป็นอีกหนึ่งปริศนาชวนงงที่หลายคนต้องพูดถึง เพราะเราต่างรู้กันดีว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอคืองูร้ายข้างกายลอร์ดโวลเดอมอร์ใน Harry Potter ทว่าในเรื่องนี้กลับเห็นได้ชัดว่าเธอต้องการให้ครีเดนซ์อยู่ฝั่งเธอมากกว่าฝั่งกรินเดลวัลด์ แถมยังไม่มีท่าทีว่าจะสนใจศาสตร์มืดเลยสักนิด งานนี้จึงทำให้แฟน ๆ คิดไม่ตกว่าอะไรกันนะที่ทำให้เธอไปลงเอยกับลอร์ดโวลเดอมอร์ได้ ? ซึ่งในหนังก็ไม่ได้มีข้อมูลบอกใบ้สักนิดเลยด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้มักเกิ้ลอย่างเราทำได้แค่เพียงรอติดตามต่อไปอย่างเดียวเลยล่ะ
ควีนนี่ จะย้ายฝั่งกลับมาอย่างไร ?
จากสถานการณ์ล่าสุดที่ ควีนนี่ เลือกย้ายข้างไปอยู่ฝั่งกรินเดลวัลด์ เพราะเห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องอิสระทางความรัก ก็สร้างความค้างคาใจให้กับหลาย ๆ คนว่าหนังจะดำเนินต่อไปอย่างไร ? โดยมีบางคนเชื่อว่าควีนนี่น่าจะย้ายฝั่งกลับมาและครองรักกันกับเจคอปได้อีกครั้ง ทว่าบางคนกลับมองว่าเรื่องนี้อาจจะจบแบบเศร้า ๆ เพราะหากควีนนี่ย้ายข้างกลับมา อาจจะส่งผลให้เธอหรือเจคอปต้องตายก็เป็นได้
นกฟีนิกซ์ ในเรื่องใช่ ฟอกส์ (Fawkes) หรือไม่ ?
นอกจากนกฟีนิกซ์จะเป็นสัตว์เลี้ยงประจำตัวของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ และเป็นสัญลักษณ์แทนคาถาผู้พิทักษ์ของเขาแล้ว ล่าสุดในเรื่องนี้ก็ยังเปิดเผยอีกว่า นกฟีนิกซ์มีความเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลดัมเบิลดอร์ทั้งตระกูล โดยเชื่อกันว่ามันจะปรากฏตัวในเวลาที่พวกเขาต้องการเสมอ ซึ่งในฉากสุดท้ายตอนที่กรินเดลวัลด์เฉลยตัวตนของครีเดนซ์ ก็มีนกฟีนิกซ์ตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้วย แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือผู้คนต่างพากันสงสัยว่านกตัวนี้ใช่ฟอกส์หรือไม่ ? และแน่นอนว่าคำตอบก็สามารถออกได้หลายหน้า เพราะนกตัวนี้อาจจะเป็นนกฟีนิกซ์ตัวอื่น หรือไม่ก็อาจจะเป็นฟอกซ์จริง ๆ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนมาเป็นสัตว์ของอัลบัสภายหลัง หลังจากที่ ออเรเลียส เสียชีวิตก็เป็นได้
นิวท์มีดีอะไร ? ทำไมดับเบิลดอร์ถึงเลือก ?
แม้ว่าเรื่องนี้จะเริ่มต้นด้วย นิวท์ สคามันเดอร์ และเหล่าสัตว์วิเศษ แต่อย่างไรตอนจบก็ต้องเป็นเรื่องราวการต่อสู้ของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค อัลบัส ดัมเบิลดอร์ และ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ แน่ ๆ ฉะนั้นหลายคนจึงไม่แปลกที่จะมีคนสงสัยว่าทำไมเนื้อเรื่องถึงต้องมาดำเนินที่นิวท์ ? นิวท์มีดีอย่างไร ? และทำไมดัมเบิลดอร์ถึงเลือกให้ช่วย ? ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็ได้ เอ็ดดี้ เรดเมย์น ผู้รับบทเป็นนิวท์ มาเฉลยว่า
"ผมรู้สึกว่าความสามารถของนิวท์ค่อนข้างพิเศษไม่เหมือนใคร ไม่ใช่แค่กับสัตว์ แต่หมายถึงความโอบอ้อมอารีด้วย เขาสามารถรับรู้และช่วยเหลือผู้คนที่มีสภาพจิตใจย่ำแย่ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นความสามารถที่พิเศษมาก และดัมเบิลดอร์เองก็มองเห็นมันมาตลอด ซึ่งผมว่ามันก็ค่อนข้างซับซ้อนนะ คุณรู้ไหมถ้าหากทั้งสองจะต้องมีการต่อสู้ประลองกัน ดัมเบิลดอร์จะต้องชวนนิวท์เข้าร่วม เพราะความสามารถของเขาสามารถช่วยได้แน่"
ข้อมูลจาก Screen Rant, CinemaBlend