สี่แพร่ง (2551)
กำหนดฉาย: 24 เมษายน 2551
แนว: ดราม่า | ระทึกขวัญ
นำแสดง: เญอมาลย์ บุณยศักดิ์ (Last Fright), มณีรัตน์ คำอ้วน (เหงา), อภิญญา สกุลเจริญสุข (ยันต์สั่งตาย), วิทวัส สิงห์ลำพอง (ยันต์สั่งตาย), ชล วจนานนท์ (ยันต์สั่งตาย), ปลาย ปรเมศร์ (Last Fright), ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ (คนกลาง), พงศธร จงวิลาศ (คนกลาง), วิวัฒน์ คงราศรี (คนกลาง), กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข (คนกลาง)
กำกับ: ยงยุทธ ทองกองทุน, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ, บรรจง ปิสัญธนะกูล
ความกลัวมีหลายรูปแบบ…
กลัวเมื่อได้รับข้อความจาก "คนตาย"
กลัวเมื่อต้องโดน "คนตาย" เอาคืน
กลัวเมื่อต้องนอนติดกับ "คนตาย" และ
กลัวเมื่อต้องร่วมเดินทางไปกับ "ศพ"
คุณจะทำอย่างไร ?! เมื่อความกลัว จู่โจมจากทุกทาง !!!
เรื่องย่อหนัง สี่แพร่ง
หนัง สี่แพร่ง ตอน เหงา
นำแสดง: มณีรัตน์ คำอ้วน, วิโรจน์ เงาอำพันไพฑูรย์
ในวันต่อมาปิ่นได้ไปเจอกระทู้หนึ่งเขียนเกี่ยวกับการทำบุญศพ 100 วัน ในกระทู้เล่าถึงสาเหตุการตายของผู้ตาย และได้มีการใส่โทรศัพท์ลงในโลงของผู้ตายอีกด้วย ทำให้เธอเกิดความกลัวมากขึ้น จากนั้นก็มี SMS เข้ามาว่า คุณกลัวอะไร ทำให้เธอกลัวมากขึ้น และคนแปลกหน้าในโทรศัพท์ก็บอกว่าจะมาหาเธอ ไฟค่อย ๆ ดับมาเรื่อย ๆ และไฟในห้องของเธอก็ดับลง เธอใช้โทรศัพท์ส่องและร้องไห้ ในขณะนั้นเองมีวิญญาณของผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาและผลักเธอลงจากตึก 7 ชั้น ปิ่นเสียชีวิต หลังจากนั้นได้มีการเล่าย้อนเหตุการณ์ต่าง ๆ ว่าปิ่นนั่งรถแท็กซี่กลับอพาร์ตเมนต์ แต่มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งอกหักวิ่งกระโดดให้รถชน คนขับควบคุมรถไม่ได้จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ทำให้ปิ่นได้รับบาดเจ็บ ฉากสุดท้ายเป็นรูปถ่ายของเธอ แล้วมีวิญญาณของผู้ชายอยู่ในรูปนั้นด้วย
หนัง สี่แพร่ง ตอน ยันต์สั่งตาย
นำแสดง: วิทวัส สิงห์ลำพอง, อภิญญา สกุลเจริญสุข, ชล วจนานนท์
หนัง สี่แพร่ง ตอน คนกลาง
นำแสดง: ณัฏฐพงศ์ ชาติพงศ์, กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข
วัยรุ่น 4 คนออกไปล่องแก่งกลางป่าแห่งหนึ่ง ในคืนหนึ่งพวกเขาเล่าเรื่องผีจน ชิน ไม่กล้านอนริม จึงเถียงกับ เต๋อ และ เผือก จน เอ รำคาญ เขาเลยพูดว่า ถ้าเกิดกูตายนะเว้ย กูจะกลับมาหลอกคนนอนกลางคนแรกเลย
ในวันต่อมาทั้ง 4 คนก็มาล่องแก่ง แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเรือล่มลงกลางแก่ง ทำให้เต๋อจมน้ำ เอเข้าไปช่วยแต่ดันจมน้ำหายไปแทนเต๋อ คืนนั้นทั้ง 3 คนกังวลเรื่องเอมาก จนไม่มีใครกล้านอนตรงกลางเลย ตอนหนึ่งซิปของเต็นท์ถูกรูดขึ้น ปรากฏว่าเป็นเอ ทั้ง 3 คนดีใจมาก แต่แปลกที่ว่าทั้งจมน้ำและแอ่งมีโขดหินเยอะขนาดนั้น เอกลับไม่มีแม้แต่แผลเลย มีแค่ความเปียกเท่านั้น คืนนั้นชินฝันว่าเอเป็นผีแต่ยังไม่รู้ตัวว่าตายแล้ว จึงสะดุ้งตื่นและไม่กล้าหลับอีกเลย เต๋อกับเอเดินไปปัสสาวะด้วยกัน เต๋อเห็นศพของเอลอยอยู่จึงตกใจมาก จึงนำเรื่องทั้งหมดมาเล่าให้ชินและเผือก
เมื่อทั้ง 3 คนเห็นว่าเอน่าจะกลายเป็นผีแล้วจึงตกใจและวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต จนในที่สุดก็วิ่งมาเจอกัน เต๋อตะโกนเรียกเอ บอกว่าให้ไปสู่สุคติ ทั้ง 3 คนเห็นเออยู่ฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำ เอจึงเล่าความจริงให้ฟังว่าที่จริงแล้วทุกคนตายตั้งแต่ที่เรือล่มแล้ว แต่เอเพิ่งมาเห็นศพและโชว์ศพให้ทั้ง 3 คนดู พอเห็นศพทั้ง 3 คนก็ตกใจที่รู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว
หนัง สี่แพร่ง ตอน Last Fright | เที่ยวบิน 422
นำแสดง: เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, Nada Lesongan, ปรเมศร์ น้อยอ่ำ
พิม แอร์โฮสเตสสาว ได้รับโทรศัพท์จากแอร์โฮสเตสรุ่นพี่ว่ามีไฟลต์พิเศษของ เจ้าหญิงโซเฟีย และเธอต้องเดินทางไปคนเดียว เนื่องจาก ตุ้ย แอร์โฮสเตสที่เป็นเพื่อนกันต้องไปงานศพ เต๋อ (ในตอน คนกลาง) ซึ่งเป็นน้องชาย และหาคนแทนไม่ได้แล้ว เมื่อพิมแนะนำตัวต่อเจ้าหญิง หล่อนไม่สนใจ แต่พิมกลับเห็นแหวนเปอร์เซียที่เจ้าหญิงสวมอยู่เป็นแหวนเหมือนกับของเธอ พิมพยายามถอดแหวนออกแต่ถอดไม่ได้ เธอได้นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแต่เจ้าหญิงกลับดันให้แก้วกาแฟหกราดแขนของเธอ พิมโกรธมาก ถึงขนาดถอดรองเท้าส้นสูงมาคนกาแฟถ้วยใหม่ให้ (แต่เจ้าหญิงไม่ได้ดื่ม) เจ้าหญิงถามถึงแขนเธอและเห็นแหวนจึงให้เธอถอดออกมาให้ดู แต่คราวนี้พิมกลับถอดแหวนได้ เจ้าหญิงบรรยายถึงการลงโทษของคนที่ลักลอบเป็นชู้กับสามีคนอื่นว่าจะถูกเปลื้องผ้าในที่สาธารณะ และให้ชาวบ้านขว้างปาหินใส่จนเสียชีวิต แต่ก่อนตายเธอจะต้องมากราบขอโทษภรรยาของสามีที่เธอลักลอบเป็นชู้ด้วย
ในเวลาเสิร์ฟอาหารเจ้าหญิงไม่ต้องการที่จะรับประทานอาหารที่สำนักพระราชวังจัดเตรียมมาให้ แต่ต้องการอาหารของพิม พิมพบว่าเจ้าหญิงนั้นแพ้กุ้ง เธอพยายามจะหยิบออกให้แต่เจ้าหญิงเรียกเธอก่อน จึงหยิบออกไปได้แค่ 4 ตัว เมื่อเจ้าหญิงรับประทานแล้วก็เกิดอาการแพ้จึงลุกไปเข้าห้องน้ำ พิมได้เห็นรูปของเธอและเจ้าชายอัลเบิร์ต (สามีของเจ้าหญิงโซเฟีย) ที่ลักลอบเป็นชู้กัน เมื่อหันมาก็พบเจ้าหญิงที่ตาแดงก่ำมองเธอด้วยสายตาพยาบาทเคียดแค้น
เมื่อเครื่องถึงสนามบินภูเก็ต ก่อนเข้ารับการรักษาเจ้าหญิงมองพิมเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาที่น่ากลัว อาฆาต วันต่อมาพิมพบว่าเจ้าหญิงสิ้นประชนม์แล้วจากข่าวทางทีวีว่าให้ส่งพระศพกลับภายใน 15 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถโหลดพระศพลงใต้เครื่องได้จึงต้องให้พระศพอยู่บนเครื่อง พิมจึงต้องดูแลพระศพตอนเครื่องขึ้น ศพของเจ้าหญิงไหลมาหาเธอ เธอกลัวมาก แล้วศพก็หยุด ด้วยความกลัวเธอจึงพยายามเข้าไปอยู่ในห้องของกัปตัน แต่ก็อยู่ได้แค่พักเดียว พอเดินกลับมาพิมก็ไม่เห็นศพอยู่บนที่นั่งแล้ว
เธอกลัวมาก แล้วความน่ากลัวก็เริ่มมากขึ้นจนทำให้เธอหัวแตก พิมจึงเริ่มบ้าและพยายามขู่ให้กัปตันเอาเครื่องลง และนำขวานไปทุบกระจกของเครื่องบินเพื่อจะหนีแต่ไม่สำเร็จ เมื่อกัปตันมาจับตัวเธอมัดไว้อยู่ใกล้กับศพเจ้าหญิง เธอร้องไห้และพยายามกล่าวขอโทษ ทันใดนั้นผ้าพันศพของเจ้าหญิงก็หลุดออกมาเห็นเป็นใบหน้าอันอัปลักษณ์ ตาแดง มาอ้วกต่อหน้าเธอ พิมหันหน้าหนี เมื่อหันมาอีกทีก็ไม่พบศพเจ้าหญิง เธอจึงเริ่มมองหา เมื่อหันกลับมาอีกทีผีเจ้าหญิงก็พุ่งเข้ามาหาเธอ พิมกรี๊ดสุดเสียง… เมื่อถึงที่หมาย พนักงานภาคพื้นดินชาวต่างประเทศ 2 คนเข้ามาในเครื่องบินแล้วพบว่าศพของพิมคอหัก และทำมือลงก้มกราบเท้าของเจ้าหญิงโซเฟีย