10 หนังยอดเยี่ยมประจำปี 2019 การันตีโดยนิตยสารไทม์

          แฟนหนังห้ามพลาด ! นิตยสารไทม์ (Time) เผย 10 อันดับหนังยอดเยี่ยมประจำปี 2019 โดยอันดับ 1 ตกเป็นของ Pain & Glory หนังสเปนเนื้อหาเข้มข้น ที่เตรียมเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ

           เรียกได้ว่าการจัดอันดับหนังยอดเยี่ยม-หนังยอดแย่กลายเป็นธรรมเนียมประจำสิ้นปีไปแล้ว เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายเดือนธันวาคมทีไร สื่อหลายสำนักก็จะเริ่มทยอยปล่อยลิสต์หนังดีในดวงใจออกมากันทุกที ซึ่งแน่นอนว่านิตยสารยักษ์ใหญ่อย่าง Time ก็ไม่พลาดเช่นกัน เพราะล่าสุดเว็บไซต์ Time ได้ประกาศ 10 อันดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 2019 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในปีนี้มาครบทุกแนวและควรค่าแก่การดูทุกเรื่อง เอาเป็นว่าจะมีเรื่องไหนและใครแสดงบ้าง ตามมาลุ้นกันได้เลยค่ะ

10. Hustlers

MonoFilm

          Hustlers ยั่ว สวย รวย แสบ เรื่องราวของคู่หูนักเต้นเปลื้องผ้า ที่ต้องการจะหาเลี้ยงครอบครัวหลังเกิดวิกฤติทางการเงินในปี 2008 จนนำไปสู่การทำผิดกฎหมายเพื่อล่อลวงเอาเงินจากพวกพนักงานวอลสตรีทผู้ร่ำรวย นำแสดงโดย คอนสแตนซ์ วู และ เจนนิเฟอร์ โลเปซ กำกับโดย ลอรีน สกาฟาเรีย ดัดแปลงมาจากบทความ The Hustlers at Scores ของ เจสสิก้า เพลสส์เลอร์ ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร New York เมื่อปี 2015 โดยตัวหนังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ร่าเริง รวมถึงยังย้ำเตือนให้เห็นว่า บ่อยครั้งที่ผู้หญิงต้องเผชิญปัญหาเมื่อเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยผู้ชายพังลง ซึ่งก็มีเพียงแค่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะต่อสู้จนรอดพ้นไปได้

9. A Beautiful Day in the Neighborhood

House Samyan

          A Beautiful Day in the Neighborhood เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งในชีวิตของ เฟรด โรเจอร์ส ทว่าไม่ใช่หนังแนวชีวประวัติเสียทีเดียว แต่เป็นการนำเสนอแนวคิดของเขาแทน โดยเนื้อหาจะบอกเล่าถึงมิตรภาพที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ ระหว่าง เฟรด โรเจอร์ส (รับบทโดย ทอม แฮงค์ส) พิธีกรรายการเด็กสุดใจดี กับ ลอยด์ โวกัล (รับบทโดย แมทธิว รีส) นักข่าวอารมณ์ร้อน ซึ่งถึงแม้ว่าโรเจอร์จะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเป็นมิตร แต่หนังที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามโดยฝีมือของผู้กำกับ มาเรียลล์ เฮลเลอร์ จะชูอีกหนึ่งประเด็นที่ว่า เราต้องให้ความโอบอ้อมอารีแม้กระทั่งกับสิ่งที่ต้องการจะคุกคามเรานั่นเอง

8. Dolemite Is My Name

Netflix

          Dolemite Is My Name โดเลอไมต์ ชื่อนี้ต้องจดจำ เป็นผลงานการกำกับของ เครก บรูเออร์ นำแสดงโดยดาวดัง เอ็ดดี เมอร์ฟีย์ บอกเล่าเรื่องจริงอันน่าประทับใจของ รูดี เรย์ มัวร์ นักแสดงตลกชื่อดัง ผู้ลงทุนสร้างและแสดงหนังต้นทุนต่ำด้วยตัวเอง โดยเขาสร้างบท โดเลอไมต์ ขึ้นมา จนเป็นที่รู้จักโด่งดังและกลายเป็นตำนานอีกหนึ่งคน ซึ่งตัวหนังสื่อถึงความทะเยอทะยานที่จะต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างดีมาก อีกทั้งยังเป็นหนังที่ให้ความสุขแบบบริสุทธิ์ไปในตัวด้วย

7. Knives Out

Mongkol Major

          Knives Out ฆาตรกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ เป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวน ที่เล่าเรื่องราวการแย่งชิงพินัยกรรมกันของคนในครอบครัว หลังจากคุณปู่นักเขียนนิยายชื่อดัง ถูกฆาตกรรมอย่างปริศนาในวันเกิด ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ต้องสงสัยทั้งนั้น โดยได้ ไรอัน จอห์นสัน จาก Star Wars: The Last Jedi และ Looper นั่งแท่นเป็นผู้กำกับ พร้อมทัพนักแสดงชื่อดังคับคั่ง ทั้งแดเนียล เคร็ก, คริส อีแวนส์ และคริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดต้องยกให้กับ อนา เดอ อาร์มาส นางพยาบาลสาวที่ดูเหมือนจะเป็นตัวการการวางแผนร้ายครั้งนี้ โดยต้องบอกเลยว่า Knives Out ไม่ใช่แค่หนังที่สนุกสนานและเข้มข้นเท่านั้น แต่ยังมาถูกจังหวะและเวลาอีกด้วย เพราะทุกวันนี้เรากำลังเข่นฆ่ากันเองอยู่ตลอด ผ่านสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเมตตานั่นเอง

6. Parasite

Mongkol Cinema

          Parasite ชนชั้นปรสิต หนังตลกร้าย-ระทึกขวัญ สัญชาติเกาหลี ของผู้กำกับมากฝีมือ บงจุนโฮ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่งที่หาทางพาตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านของคนรวย พร้อมทั้งสืบค้นจนรู้ถึงสิ่งที่พวกเขามีและไม่มี แล้วก็สรรหาคำโกหกมาหลอกลวงอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือหนังนำเสนอเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง ทั้งยังทำให้หลายคนรู้สึกเอาใจช่วยหรือเห็นอกเห็นใจกลุ่มคนที่หลอกลวงได้อีกต่างหาก จนเรียกได้ว่า Parasite ถือเป็นคำตอบของหนังสไตล์ผู้กำกับ จีน เรอนัวร์ ที่ว่า "สิ่งที่น่ากลัวในชีวิตก็คือเราทุกคนล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง" นั่นเอง

5. Little Women

Sony Pictures

        Little Women สี่ดรุณี เป็นการดัดแปลงนวนิยายอมตะอายุ 150 ปี ของ ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ ให้กลับมามีชีวิตชีวาใหม่อีกครั้ง ผ่านผลงานการกำกับของ เกรต้า เกอร์วิค โดยได้ เซียร์ช่า โรแนน มารับบทเป็น โจ มาร์ช หญิงสาวผู้มีชีวิตชีวาและทะเยอทะยาน พร้อมด้วยเอ็มม่า วัตสัน, ฟลอเรนซ์ พิวจ์ และอีกมากมาย ซึ่งต้องบอกเลยว่า Little Women ฉบับนี้ สามารถเก็บจิตวิญญาณและหัวใจหลักของหนังสือไว้ได้อย่างอยู่หมัด ทั้งยังสื่อถึงแนวคิดของ ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

4. Marriage Story

Netflix

          Marriage Story ได้สองนักแสดงมากฝีมือ อดัม ไดรเวอร์ และ สการ์เลตต์ โจแฮนส์ มารับบทเป็นคู่สามีภรรยาที่กำลังจะหย่าร้างกัน ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวของเรื่อง คือ ความต้องการที่จะแยกทางของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตขึ้นกลายเป็นสิ่งเลวร้าย ชนิดที่พวกเขาเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน จนทำให้นี่ถือเป็นหนังที่มีอารมณ์หม่นที่สุดของผู้กำกับ โนอาห์ บอมบาค เลยก็ว่าได้ ทั้งยังช่วยสื่อให้รู้อีกว่า การยอมกันไม่ใช่สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับชีวิตคู่แต่เป็นตัวคนเราเองต่างหาก

3. Once Upon a Time…in Hollywood

Sony Pictures

          Once Upon a Time…in Hollywood กาลครั้งหนึ่งในฮอลลีวูด ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงในปี 1969 เป็นผลงานการสร้างของผู้กำกับชื่อดัง เควนติน แทแรนติโน เล่าเรื่องราวการผจญภัยในโลกฮอลลีวูดช่วงปลายทศวรรษ 1960 ของ ริค ดัลตัน (รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ดาราซีรีส์ที่ไม่สามารถพัฒนาไปดาราหนังได้ กับ คลิฟฟ์ บูธ (รับบทโดย แบรด พิตต์) เพื่อนและสตั๊นต์แมนคู่ใจของเขา ซึ่งหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของเรื่อง คือ การนำบท ชารอน เทต นักแสดงที่มีตัวตนจริง และถูกฆาตกรรมโดยครอบครัวแมนสัน (แสดงโดย มาร์โก้ต์ ร็อบบี้) มารังสรรค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ตลบอบอวนไปด้วยความละมุนละไมของโลกฮอลลีวูดในอดีต อีกทั้งยังถือเป็นหนังที่มีรายละเอียดมากที่สุดของเควนติน และเต็มไปด้วยความรักที่เขามีต่อโลกฮอลลีวูดมากจริง ๆ

2. The Irishman

Netflix

          The Irishman คนใหญ่ไอริช ผลงานของผู้กำกับมากฝีมือ มาร์ติน สกอร์เซซี่ ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีชื่อ I Heard You Paint Houses ที่บอกเล่าเรื่องจริงสุดโด่งดังในอดีตของ แฟรงก์ ชีแรน (รับบทโดย โรเบิร์ต เดอ นีโร) นักเลงรับจ้างธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่า จิมมี ฮอฟฟา (รับบทโดย อัล ปาชิโน่) อดีตประธานสหภาพแรงงาน ที่หายตัวไปในปี 1975 ซึ่งแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีความยาวมากถึงสามชั่วโมงครึ่ง แต่ 2 ใน 3 ของหนังก็ให้ความบันเทิงได้อย่างมหาศาล ก่อนจะเป็นพลิกผันเป็นเรื่องราวสุดซับซ้อนและจับกุมหัวใจคนดู บอกเลยถึงแม้ยุคนี้จะไม่ใช่ยุคของหนังแก๊งสเตอร์ แต่ The Irishman กลับคุ้มค่าแก่การดูเป็นอย่างยิ่ง

1. Pain & Glory

Sony Pictures Classics

          Pain & Glory เป็นผลงานของ เปโดร อัลโมโดวาร์ ผู้กำกับสุดแซ่บ เจ้าของฉายา "เจ้าป้าแห่งวงการหนังสเปน" เปรียบเสมือนการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขา ผ่านตัวละครชื่อ Salvador Mallo (รับบทโดย อันโตนิโอ บันเดรัส) ผู้กำกับหนังวัย 60 ที่เจอปัญหาโรครุมเร้าและหมดไฟในการทำงาน จนไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานอะไรได้อีก ทว่าวันดีคืนดีหนังเก่าเรื่องหนึ่งของเขาได้รับการนำกลับมาฉายใหม่ ซึ่งนี่ก็เป็นจุดพลิกผันที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ความรักที่เคยจางหายก็กลับคืนมาราวกับความฝัน เรื่องราวในอดีต โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับแม่ (นำแสดงโดย เพเนโลเป้ ครูซ) ก็หลอมรวมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จนเรียกได้ว่า Pain & Glory น่าจะเป็นหนังที่สมบูรณ์ มีรายละเอียด และลึกซึ้งมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ เปโดร อัลโมโดวาร์ เลยก็ว่าได้
          เป็นอย่างไรบ้างคะ มีหนังที่ชอบ เรื่องที่ใช่ ติดอันดับกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย ? อ๊ะ ๆ ๆ ถ้าหากไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะนี่เป็นแค่ความเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ส่วนสำหรับใครที่อยากรู้ว่าหนังเหล่านี้ดีอย่างไร เจ๋งแค่ไหน ก็สามารถตามไปรับชมกันได้ โดยมีบางเรื่องเข้าฉายไปแล้ว บางเรื่องฉายใน Netflix และบางเรื่องรอเข้าฉายปีหน้า ซึ่งเราต้องแอบกระซิบเลยว่า แต่ละเรื่องดีงามสมการการันตีของ Time จริง ๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 หนังยอดเยี่ยมประจำปี 2019 การันตีโดยนิตยสารไทม์ อัปเดตล่าสุด 25 ธันวาคม 2562 เวลา 10:21:42 23,532 อ่าน
TOP
x close