13 ซีรีส์ฝรั่งระดับตำนานที่ไม่ควรพลาด

            ในสถานการณ์ที่การอยู่บ้านเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งแบบนี้ จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถหางานอดิเรกหรือกิจกรรมยามว่างให้ตัวเองไว้แก้เหงาแก้เบื่อได้ และแน่นอนว่าการดูซีรีส์ก็ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่ช่วยตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคอซีรีส์ฝรั่งแล้ว รายชื่อซีรีส์ที่เราหยิบมาฝากกันในวันนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน โดยรายชื่อซีรีส์ฝรั่งยอดฮิตที่รวมไว้มีทั้งเก่าและใหม่มาให้คอซีรีส์ได้เลือกชม และนี่คือซีรีส์ 13 เรื่องที่เรานำมาฝากกัน รับรองว่าหากได้เริ่มต้นดูกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมงอย่างแน่นอน

1. The X-Files แฟ้มลับคดีพิศวง (1993-2018)

Netflix

            ซีรีส์สุดฮิตจากยุค 90 ที่นำเสนอเรื่องราวของเจ้าหน้าที่พิเศษเอฟบีไอสองคน คือ ฟอกซ์ มัลเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา และแดนา สกัลลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และฟิสิกส์ มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับแฟ้มคดี "เอ็กซ์" คดีลึกลับเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ในวัยเด็กของ มัลเดอร์ เขาได้สูญเสียน้องสาวของเขาไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งเธอได้หายไปอย่างลึกลับ และจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเอง ที่ทำให้เขาเชื่อมาตลอดว่า น้องสาวของเขาถูกลักพาตัวไปโดยมนุษย์ต่างดาว จึงทำให้เขามีความเชื่อในเรื่องของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกและหมกมุ่นอยู่กับการตามหาปริศนาในครั้งนี้ ซีรีส์ The X Files มีทั้งหมด 11 ซีซั่น และยังถูกหยิบไปสร้างเป็นฉบับภาพยนตร์ในชื่อ The X-Files: Fight the Future (1998) และ The X-Files: I Want to Believe (2008) อีกด้วย

2. Friends (1994-2004)

Netflix

           ขึ้นแท่นซีรีส์ในดวงใจของใครหลายคน สำหรับซีรีส์ F.R.I.E.N.D.S. ซิตคอมสุดฮิตที่จะพาเราไปตามติดเรื่องราวสนุกสนานของชีวิตขึ้น ๆ ลง ๆ ในช่วงอายุ 20 ของเพื่อนก๊วนหนึ่ง ทั้งเรื่องการงาน ชีวิต และความรัก โดยมีฉากหลังเป็นแมนฮัตตันยุค 1990 ซึ่งแต่ละตอนจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ของแต่ละคน ที่เต็มไปด้วยเรื่องตลก (ร้าย) ขบขัน ผสมความโรแมนติกบ้าง แต่ในทุกตอนก็จะสามารถผูกเรื่องราวให้ชวนติดตามจนไม่แปลกใจเลยที่ซีรีส์เฟรนด์จะครองใจใครหลายคน และกวาดรางวัลไปในหลาย ๆ เวทีอีกด้วย โดยซีรีส์มีทั้งหมด 10 ซีซั่น 

3. CSI: Crime Scene Investigation (2000-2015)

           อีกหนึ่งซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับการไขคดีฆาตกรรม โดย CSI: Crime Scene Investigation เล่าเรื่องราวการทำงานของทีมสืบสวนสอบสวนทางนิติเวช หน้าที่หลักคือค้นหาหลักฐานต่าง ๆ ในสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม ทั้งหมดเป็นทีมสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมของเมืองลาสเวกัส ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมงในการควานหาหลักฐาน โดยอาศัยเครื่องมือทางนิติเวชที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อใช้ในการสำรวจตรวจสอบหลักฐานและค้นหาร่องรอยเล็ก ๆ ในที่เกิดเหตุ เพราะอาจเป็นหลักฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การจับกุมตัวฆาตกรมาลงโทษ เมื่อร่วมกับมันสมองอันเฉียบแหลมของทีมนิติเวชแห่ง CSI ก็ไม่มีคดีปริศนาใดที่เกินความสามารถของพวกเขาไปได้ โดยซีรีส์ CSI: Crime Scene Investigation มีทั้งหมด 15 ซีซัน และจากความแรงของซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนทำให้มีการสร้าง CSI ที่ดำเนินเรื่องในเมืองอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น CSI: Miami (2002-2012) มีทั้งหมด 10 ซีซั่น, CSI: NY (2004-2013) มีทั้งหมด 9 ซีซั่น, CSI: Cyber มีทั้งหมด 2 ซีซั่น, (2015-2016) และ CSI: Immortality (2015) เรียกได้ว่าดูกันให้จุใจไปเลย

4. 24 Hours (2001-2010)

เฟซบุ๊ก 24: The Series

            เรื่องราวของหน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้าย (Counter Terrorist Unit หรือ CTU) ที่มี แจ็ค บาวเออร์ สายลับคนเก่งเป็นหัวหน้าทีม ที่ต้องรับมือกับภารกิจสุดระห่ำที่มีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงในการหยุดการก่อการร้าย โดยซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอตามเวลาจริงเหมือนชื่อเรื่อง เรียกได้ว่าผู้ชมจะได้ลุ้นระทึกไปกับแผนการสุดซับซ้อน ทั้งนี้ ซีรีส์ 24 เปิดตัวซีซั่นแรกในปี 2001 และถือเป็นซีรีส์ยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของช่อง Fox ขนาดพาให้หนุ่ม คีเฟอร์ ซูเธอร์แลนด์ ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำในปี 2002 สาขานักแสดงนำชายในละครชุดประเภทชีวิตยอดเยี่ยม ทำให้มีการสร้างซีซั่นถัดมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปิดฉากเจ้าหน้าที่หนุ่มผู้เสียสละ แจ็ค บาวเออร์ อำลาจอโทรทัศน์ไปด้วยมินิซีรีส์ 24: Live Another Day ปิดท้ายซีซั่นที่ 8 เมื่อปี 2014 ก่อน Fox จะส่งภาคแยก 24: Legacy มาให้แฟน ๆ ได้ดูกันแก้คิดถึงนั่นเอง

5. Desperate Housewives (2004-2012)

เฟซบุ๊ก Desperate Housewives

           อีกหนึ่งซีรีส์ที่เป็นตำนานไปแล้วสำหรับ Desperate Housewives ที่ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นซีรีส์น้ำเน่าธรรมดาแต่ดูไปดูมาเอ้าดีเฉย ตัวซีรีส์ครบเครื่อง มีทั้งคอมเมดี้ ดราม่า สืบสวนสอบสวน และฆาตกรรม โดยซีรีส์เล่าเรื่องราวของกลุ่มแม่บ้านที่อาศัยอยู่ในย่านวิสทีเรีย เลน ในเมืองแฟร์วิว ซึ่งบอกผิวเผินแล้วก็ไม่ได้ดูมีอะไรแตกต่าง แต่เริ่มต้นจากการฆ่าตัวตายปริศนาของแมรี่ อลิซ ยัง แม่บ้านผู้เพียบพร้อม มีครอบครัวที่อบอุ่นจึงไม่มีใครนึกใครฝันว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งสมาคมแม่บ้านก็ช่วยกันค้นหาสาเหตุการตายในครั้งนี้ โดยเรื่องราวก็จะสลับซับซ้อน สุข เศร้า เคล้าน้ำตาไปเรื่อย ๆ เพราะหลายเรื่องที่ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวโยง ทำให้รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดขึ้นนั่นเอง ซีรีส์มีทั้งสิ้น 8 ซีซั่น 

6. House M.D. (2004-2012)

เฟซบุ๊ก House

           เรื่องราวของหมออัจฉริยะ เกรกอรี เฮ้าส์ ผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรค ที่นิสัยไม่ค่อยเหมือนหมอ เพราะเป็นคนที่มีนิสัยกวนประสาทและค่อนข้างปากร้าย หมอเฮ้าส์เป็นแพทย์วินิจฉัยโรคที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา ซึ่งชื่อเสียงของเขาคือการวินิจฉัยโรคที่คนอื่นไม่สามารถหาที่มาที่ไปของโรคได้ พูดง่าย ๆ ก็คือหมอเฮ้าส์ รับหน้าที่รักษาคนที่คนอื่นเขาไม่สามารถรักษาได้นั่นเอง  โดย House M.D. ซีรีส์ฉายต่อเนื่องถึง 8 ซีซั่น ยิงยาวตั้งแต่ปี 2004 ถึง 2012

7. Lost อสุรกายดงดิบ (2004-2010)

           อีกหนึ่งซีรีส์ระดับตำนานที่ทำให้ใครหลายคนดูกันยาว ๆ ชนิดไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะความคาใจในเรื่องราวสุดลึกลับที่ระทึกขวัญกันอยู่ตลอดเวลา และความเจ๋งของซีรีส์เรื่องนี้การันตีด้วยการคว้า 10 รางวัลจากเวทีเอ็มมี่ อวอร์ด ผลงานการสร้างของ เจ.เจ. เอบรัมส์ โดยซีรีส์มีทั้งสิ้น 6 ซีซั่น บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกบนเกาะร้างสุดลึกลับ ซึ่งพวกเขาต้องคอยปรับตัวและร่วมมือกันเพื่อเอาตัวรอดในสภาพความเป็นอยู่ใหม่ พร้อมทั้งยังต้องรับมือกับปริศนาสุดซับซ้อนของเกาะแห่งนี้ไปพร้อม ๆ กันอีกต่างหาก

8. Prison Break แผนลับแหกคุกนรก (2005-2017)

เฟซบุ๊ก Prison Break

            ซีรีส์แหกคุกยอดนิยมที่โดนใจใครหลาย ๆ คนกับความฉลาดของ ไมเคิล สกอฟิลด์ ชายหนุ่มผู้เอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน เขายอมติดคุกเพื่อช่วยเหลือพี่ชายที่ถูกใส่ร้ายและโดนโทษประหาร ด้วยการสักพิมพ์เขียวของคุกซ่อนไว้บนร่างกายเพื่อที่จะไว้นำทางตัวเขาและพี่ชายแหกคุกออกมา แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ เขาต้องใช้ทั้งเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบาย รวมไปถึงการคิดวิเคราะห์แยกแยะเหล่าเพื่อนผู้ต้องขังเพื่อให้แผนของเขาสำเร็จได้ดี เรียกได้ว่าคอซีรีส์คนไหนที่ชอบแนวลุ้นระทึกบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะเอาใจช่วยกับแผนการสุดฉลาดของพระเอกไปทั้งเรื่องเลยทีเดียว โดยซีรีส์มีทั้งสิ้น 6 ซีซั่น

9. Grey's Anatomy (2005-ปัจจุบัน)

เฟซบุ๊ก Grey's Anatomy

           ซีรีส์สุดคลาสสิกที่อยากให้ได้ดูสักครั้งหนึ่ง โดย Grey's Anatomy ฉายกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 16 ซีซั่น กับเรื่องราวของแพทย์อินเทิร์นกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาทำงานในโรงพยาบาลซีแอตเทิลเกรซ (Seattle Grace Hospital) ที่ได้สั่งสมประสบการณ์และเติบโตไปเป็นแพทย์ประจำบ้าน แต่กว่าจะไปถึงขั้นนั้นพวกเขาต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมาย เคสผู้ป่วยหลากหลายและในบางเคสก็อ้างอิงมาจากเรื่องจริง ความกดดันที่จะต้องแข่งขันกันเอง และความผิดพลาดในการรักษาผู้ป่วย ที่จะส่งให้พวกเขาเป็นแพทย์ที่เก่งขึ้นได้ในอนาคต แน่นอนว่าเรื่องราวความรักของหมอ ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสีสันของซีรีส์เรื่องนี้ แถมยังมีเรื่องราวดราม่าของครอบครัว การสูญเสียเพื่อนสนิท ทำให้ซีรีส์ Grey's Anatomy ครบรสสุด ๆ

10. Breaking Bad ดับเครื่องชนคนดีแตก (2008-2013)

เฟซบุ๊ก Breaking Bad

           ซีรีส์แนวอาชญากรรมที่ว่าด้วยเรื่องราวของ วอลเตอร์ ไวท์ ครูสอนวิชาเคมีในโรงเรียนไฮสคูล ที่เกิดตรวจพบว่าตัวเองกำลังเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 ทำให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด จุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาผันเป็นผู้ผลิตและค้ายาไอซ์มือใหม่ ด้วยความตั้งใจว่าจะเก็บเงินก้อนไว้ให้ครอบครัวใช้หากเขาตาย เริ่มต้นแม้จะดูธรรมดาแต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นนักเคมีอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ เขาเคยเปิดบริษัทระดับโลก แต่ด้วยปัญหาบางอย่างทำให้เขากลายมาเป็นครูสอนเคมีธรรมดา ๆ ซีรีส์มีทั้งหมด 5 ซีซั่น

11. Sons of Anarchy (2008-2014)

เฟซบุ๊ก Sons of Anarchy

           อีกหนึ่งซีรีส์แนว American Gangster ที่อยู่ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน กับเรื่องราวของกลุ่มแก๊งมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ที่เริ่มต้นจากครอบครัว เทลเลอร์ รวมถึงสมาชิกคนอื่น ๆ ที่อยู่ในคลับ Redwood Original  ที่เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวพี่น้องชมรมคนรักมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์ พวกเขาทั้งหมดทำการซื้อ-ขายอาวุธปืนเป็นหลัก จนกระทั่งวันหนึ่ง Sons of Anarchy ก็ต้องเผชิญหน้ากับแก๊งอื่นที่เข้ามาในเมืองชาร์มมิ่ง เพื่อหวังยึดครองผลประโยชน์ต่าง ๆ เรื่องราวของการห้ำหั่น แย่งชิง หักหลัง และการแก้แค้น รวมไว้ในซีรีส์เรื่องนี้เรื่องเดียว ซีรีส์มีทั้งหมด 7 ซีซั่น

12. The Walking Dead (2010-ปัจจุบัน)

เฟซบุ๊ก The Walking Dead

             ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อแรกฉาย กับเรื่องราวการเอาตัวรอดจากเหล่าวอล์กเกอร์ หรือ ซอมบี้ที่คอซีรีส์รู้จักกันดีนั่นเอง โดย The Walking Dead ออกฉายแล้วทั้งหมด 10 ซีซั่น และซีซันที่ 11 ที่กำลังจะฉายนี้จะเป็นตอนจบของเรื่องราวมหากาพย์สงครามระหว่างคนกับคนและคนกับซอมบี้ ซีรีส์ในภาคแรกเล่าเรื่องราวของ ริก ไกรมส์ ที่ตื่นขึ้นมาจากอาการโคม่าแล้วพบกับโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ เขาต้องออกเดินทางเพื่อตามหาครอบครัว ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้พบกับผู้คนมากมายและเรื่องราวสุดวุ่นวาย โดยซีรีส์ยังได้ส่งภาคแยกออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกันนั่นคือ Fear the Walking Dead ที่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลอสแอนเจลิส ก่อนที่หายนะซอมบี้จะลุกลามจนสังคมค่อย ๆ ล่มสลาย 

13. Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์ (2011-2019)

HBO

           ที่สุดของซีรีส์ที่ไม่อยากให้พลาด สำหรับ Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์ กับเรื่องราวการชิงบัลลังก์เหล็กแห่งเจ็ดอาณาจักร ระหว่าง 3 ตระกูลหลัก ที่ประกอบไปด้วย ตระกูลสตาร์ค, ตระกูลแลนนิสเตอร์ และตระกูลทาร์แกเรียน พร้อมกับการรุกรานของกองทัพซอมบี้ไวท์วอล์กเกอร์ ที่ดินแดนเหนือจะทำให้สงครามระหว่างตระกูลเปลี่ยนแปลง ซีรีส์มีทั้งหมด 8 ซีซั่น อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวสุดเข้มข้น พร้อมฉากแอ็คชั่นแฟนตาซีสุดตื่นตา เราจะได้เห็นมังกรของคาลิซีเผาเมืองทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลอง แถมยังหักหลังคนดูกันตลอดทุกซีซั่นเลยก็ว่าได้ ... เรียกว่าดูไปกำหมัดไปเพราะขัดใจนี่แหละ !! โดยซีรีส์มีทั้งหมด 8 ซีซั่น ดูแล้วจะรู้สึกตื่นเต้นปนอึดอัดเกือบจะตลอดเวลา เป็นอีกซีรีส์หนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
13 ซีรีส์ฝรั่งระดับตำนานที่ไม่ควรพลาด อัปเดตล่าสุด 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 11:48:05 87,620 อ่าน
TOP
x close