นอกจากเกมภาคหลักสุดมันส์และอนิเมะที่น่าตื่นเต้นแล้ว ทางโปเกมอนยังมีช่อง YouTube น่ารักอีกช่องที่มีคอนเทนต์น่าสนุก ดูได้ทุกเพศทุกวัย นั่นก็คือช่อง Pokémon Kids TV ซึ่งถึงแม้จะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา แต่จำนวนยอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านคนภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี โดยช่องนี้เน้นนำเสนอคอนเทนต์มากมายสำหรับเด็กเล็ก เช่น เพลงกล่อมเด็ก เพลงโปเกมอน และคอนเทนต์เพื่อการศึกษา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามทั่วโลก
และสำหรับแฟน ๆ โปเกมอนต้องไม่พลาดกับซีรีส์ Pokémon Sweets Paradise ที่จะมาลงให้ชมกันทาง Pokémon Kids TV โดยซีรีส์นี้เป็นซีรีส์หนังสั้น 3 ตอน ที่มาจากการจับมือกันระหว่างบริษัทโปเกมอน กับ Cat's Kitchen ซึ่งเป็นทีมสร้างวิดีโอชื่อดังจากจีน โดยในแต่ละตอนจะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวันแสนอบอุ่น และการทำขนมของผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันกับเหล่าโปเกมอน ซึ่งเหล่าโปเกมอนที่มาร่วมทำอาหารกับ Cat’s Kitchen มีทั้งพิคาชู, ฮิโตคาเงะ, พูริน และ โคดัก มั่นใจได้เลยว่าเสียงน่ารักของโปเกมอน รวมทั้งเพลงประกอบที่เคล้ากับเสียงทำอาหาร จะสามารถทำให้ผู้ชมอบอุ่นหัวใจได้ทุกคนแน่นอน
ซีรีส์ชุดนี้ได้รับความความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศจีน จึงได้จะถูกนำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ และเผยแพร่ในช่อง Pokémon Kids TV ด้วย โดยในแต่ละตอนมีกำหนดการเผยแพร่ในเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคมของปีนี้ นอกจากการแปลเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษแล้ว จะมีการเพิ่มคำบรรยายเป็นภาษาไทย ภาษาอินโดนีเซีย และภาษาฮินดีด้วย เพื่อที่เด็ก ๆ และผู้ปกครองจากหลากหลายภูมิภาคจะได้มีโอกาสสัมผัส และเข้าถึงโปเกมอนได้ง่ายขึ้น
Cat's Kitchen (หรือที่เป็นที่รู้จักในชื่อภาษาจีนว่า 日食记) เป็นทีมสร้างวิดีโอชื่อดังจากประเทศจีน ที่เน้นทำคอนเทนต์เกี่ยวกับอาหารโฮมเมด Cat's Kitchen เริ่มเปิดตัวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ในประเทศจีน และปัจจุบันมีจำนวนยอดผู้ติดตามกว่า 60 ล้านคน
เพลง พิ พิ พิ พิ☆พิคาชู ! (ภาษาไทย)
นอกจากการเผยแพร่ซีรีส์ Pokémon Sweets Paradise เป็นภาษาอังกฤษ หรือการเพิ่มคำบรรยายเป็นภาษาท้องถิ่นแล้ว ช่อง Pokémon Kids TV ยังมีแผนที่จะเจาะตลาดท้องถิ่นมากขึ้น โดยการเผยแพร่เพลงโปเกมอนเป็นภาษาต่างๆ เช่น ภาษาไทย ภาษาอินโดนีเซีย หรือภาษาฮินเดีย ตัวอย่างแรกเห็นได้จากเพลง Pi-Pi-Pi-Pi☆Pikachu ซึ่งเป็นเพลงแรกของช่องที่ได้ถูกแปล และเผยแพร่เป็นภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษ เตรียมติดตามรอชมกันว่าจะมีคอนเทนต์เป็นภาษาท้องถิ่นอะไรอีกในอนาคต