x close

รู้ไว้ก่อนไปดู Thor : Love and Thunder และฉาก End Credits ชวนตะลึงพรึงเพริด

กลับมาอีกครั้งกับการผจญภัยครั้งต่อไปของ ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าของ Marvel ใน Thor : Love and Thunder (ธอร์ ด้วยรักและอัสนี) ที่มาพร้อมเครดิตท้ายเรื่องถึง 2 ชุดชวนตะลึง

Thor: Love and Thunder ชื่อไทย คือ ธอร์ ด้วยรักและอัสนี ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในจักรวาลมาร์เวล นับเป็นผลงานอีกหนึ่งเรื่องที่แฟน ๆ หนังซูเปอร์ฮีโร่จากทั่วโลกต่างก็เฝ้ารอที่จะได้ร่วมลุ้นไปกับการผจญภัยครั้งใหม่ของเทพเจ้าสายฟ้า บุตรแห่งโอดิน อย่าง ธอร์ กับเรื่องราวภาคต่อตอนที่ 4 ซึ่งครั้งนี้เป็นฝีมือการกำกับของ ไทกา ไวทีที (Taika Waititi) ผู้กำกับดีกรีออสการ์ที่กลับมารับหน้าที่ต่ออีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงจาก Thor: Ragnarok ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าจับตามองอย่างมาก เพราะเป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างตัวละครเก่าและตัวละครใหม่ ๆ รับประกันว่าตำนานบทใหม่นี้จะต้องตื่นเต้น เป็นที่น่าจับตามอง และโบ๊ะบ๊ะสุด ๆ แถมท้ายด้วยฉาก End Credits ที่เป็นกิมมิกเก๋ ๆ ประจำหนังของมาร์เวลด้วย 

สำหรับแฟน ๆ ที่กำลังจะจองตั๋วไปดูความสนุกตามแบบฉบับของหนังฮีโร่นั้น มารู้จักเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่ารู้ก่อนจะตีตั๋วไปดู Thor : Love and Thunder กันดีกว่าค่ะ 

เรื่องย่อ Thor : Love and Thunder
ธอร์ ด้วยรักและอัสนี
Thor : Love and Thunder

การผจญภัยครั้งใหม่ของ “ธอร์” รับบทโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ เทพเจ้าสายฟ้าที่กำลังฟื้นฟูจิตใจและร่างกายเพื่อค้นหาความสงบสุขภายในจิตใจ หลังผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ใน Avengers : Endgame แต่ความสงบสุขของเขาก็ถูกรบกวนด้วยนักฆ่าข้ามจักรวาล นามว่า กอร์ นักเชือดเทพเจ้า รับบทโดย คริสเตียน เบล ผู้มีเป้าหมายในการปลิดชีวิตเทพเจ้าทั้งมวลเพื่อหวังให้สูญพันธ์ุจนหมดสิ้น ธอร์จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือไปยัง ราชาวัลคีรี (เทซซ่า ทอมป์สัน), คอร์ก (ไทกา ไวทีที) ไปจนถึงแฟนเก่าเมื่อครั้งอดีตอย่าง เจน ฟอสเตอร์ รับบทโดย นาตาลี พอร์ตแมน ที่อยู่ในร่าง “The Mighty Thor” และได้ครอบครองค้อนโยเนียร์ของเขา ทั้งหมดต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งนักฆ่าเทพเจ้าให้ได้ก่อนที่หายนะครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น

ภาพยนตร์เรื่อง Thor : Love and Thunder หรือชื่อภาษาไทย ธอร์ ด้วยรักและอัสนี มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

เกร็ดน่ารู้ก่อนไปดู Thor : Love and Thunder

1. ธอร์ออกผจญภัยไปกับแก๊ง Guardians of the Galaxy

Thor : Love and Thunder

Thor : Love and Thunder

             หลังจากที่เหล่าอเวนเจอร์สเอาชนะธานอสได้ ธอร์ก็มอบอาณาจักรแอสการ์ดให้แก่วัลคีรี โดยแต่งตั้งให้เธอเป็นราชาแห่งแอสการ์ดองค์ต่อไป และเป็นราชาองค์แรกของเอิร์ธแอสการ์ด เนื่องจากอาณาจักรรุ่นก่อนถูกทำลายโดยเฮล่า (ตั้งแต่ Thor : Ragnarok) เมื่อไม่มีหน้าที่ในการปกครองแล้ว ธอร์ก็ได้ออกเดินทางไปสู่จักรวาลต่าง ๆ พร้อมกับลูกเรือที่มีความรับผิดชอบน้อยที่สุดในจักรวาล นั่นคือ Guardians of the Galaxy นั่นเอง

2. การกลับมาของ เจน ฟอสเตอร์

Thor : Love and Thunder

            หลังจากที่ปรากฏตัวในหนังธอร์ทั้ง 2 ภาค ด้วยบทบาทที่เบาบางเหลือเกิน สำหรับ เจน ฟอสเตอร์ หรือ นาตาลี พอร์ตแมน ที่กลับมาด้วยความน่าสนใจสุด ๆ เพราะครั้งนี้เธอต้องประสบปัญหาชีวิตบางอย่าง จนสลัดคราบนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ และได้กลายเป็น The Mighty Thor ที่สาวกคอมมิคถึงกับเอ่ยปากว่าถอดแบบมาจากในการ์ตูนเป๊ะ แถมถือค้อนโยเนียร์ ซึ่งเป็นอาวุธเก่าคู่มือของธอร์ที่ถูกทำลายไปในศึกเอนด์เกมด้วย

3. การเปิดตัวของ คริสเตียน เบล ในบทบาท กอร์ นักเชือดเทพเจ้า

Thor : Love and Thunder

            เป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างมากสำหรับนักแสดงเจ้าบทบาทมากความสามารถในวงการฮอลลีวูดอย่าง คริสเตียน เบล ที่ครั้งนี้เขามาเปิดตัวในฐานะจอมวายร้ายเป็นครั้งแรกในจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ หลังจากที่เคยรับบท แบทแมน จากเรื่อง The Dark Knight Trilogy แบทแมน อัศวินรัตติกาล ของคริสโตเฟอร์ โนแลน โดยในภาคนี้ คริสเตียน รับบทเป็น กอร์ เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวบนดาวเคราะห์ที่ไม่มีใครรู้จักและถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าอย่างไร้ความปรานี เผ่าพันธุ์ของเขาต้องตกอยู่ในความสกปรก เขาถูกขับออกจากเผ่าเพราะเขาไม่เชื่อในพระเจ้า กอร์ไม่เชื่อว่าพวกมันมีอยู่จริงในตอนแรก แต่ความเกลียดชังอันเดือดดาลของเขาก็เกิดขึ้น เมื่อเขาค้นพบว่าไม่เพียงแต่พระเจ้าจะมีอยู่จริงเท่านั้น แต่พวกเขาไม่ใช่ตัวแทนผู้ใจดีของผู้ถูกเหยียบย่ำ และพระเจ้าเหล่านั้นก็เห็นแก่ตัว สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัดให้หมดไปจากโลกใบนี้

4. ความโบ๊ะบ๊ะตามขนบของหนังซูเปอร์ฮีโร่ จากอารมณ์ขันของผู้กำกับ

Thor : Love and Thunder

            เป็นธรรมดาของหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่มักจะสอดแทรกมุกตลก ไม่ว่าจะเป็นประโยคขำ หรือการหยอดมุกแพรวพราวที่ทำเอาแฟน ๆ ต้องหัวร่องอหายไปตาม ๆ กัน ซึ่งหนังเดี่ยวของ ธอร์ ทั้ง 3 ภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Thor : Ragnarok ที่ได้ ไทกา ไวทีที (Taika Waititi) ผู้กำกับชาวนิวซีแลนด์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการมี Sense of Humor หรือมีอารมณ์ขัน รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ ก็การันตีถึงความสนุกขำจนท้องแข็งได้อย่างแน่นอน และในภาค Thor: Love and Thunder ไทกากลับมาสานต่อหนังแฟรนไชส์ในครั้งนี้ และถ่ายทอดความสนุกที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับแฟน ๆ คนดูได้อย่างแน่นอน

5. เพลงประกอบภาพยนตร์ถูกใจชาวร็อก

            แค่เสียงลีดกีตาร์ในทีเซอร์ Thor : Love and Thunder กับเพลงร็อกสุดฮิตตลอดกาลอย่าง Sweet Child O Mine ของวง Guns N Roses ก็ทำเอาแฟน ๆ ต้องกรี๊ดกันแล้ว ต้องยอมรับในเซ้นส์ของการเลือกเพลงประกอบหนังของผู้กำกับ ไทกา ไวทีที เลย เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เคยเลือกใช้เพลง The Immigrant Song ของ Led Zeppelin ในหนังภาค Thor : Ragnarok ซึ่งถือเป็นเพลงของวงร็อกที่โด่งดังทั้งคู่ แน่นอนว่าสำหรับภาคนี้ ส่วนใหญ่ยังเต็มไปด้วยเพลงประกอบร็อกตามสไตล์ของผู้กำกับ ซึ่งช่วยสร้างอารมณ์ให้กับฉากต่าง ๆ ในหนังได้เป็นอย่างดี ส่วนจะมีเพลงอะไรบ้าง ขาร็อกทั้งหลายคงต้องตีตั๋วเข้าไปดู Thor : Love and Thunder แล้วล่ะ

6. ห้ามพลาดฉาก End Credit ท้ายเรื่อง

Thor : Love and Thunder

             เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของหนังมาร์เวลไปแล้ว สำหรับฉาก End Credits ท้ายเรื่อง ซึ่งเป็นการปูเนื้อหาไปสู่หนังเรื่องต่อไปหรือภาคต่อไป ซึ่ง Thor : Love and Thunder ด้วยรักและอัสนี ยังมีเครดิตตอนจบให้ดูถึง 2 วิดีโอ โดยในทางเทคนิคแล้ว ฉากท้ายเรื่องฉากแรกจะเป็นฉากกลางเครดิต และฉายที่สองจะเป็นฉากหลังเครดิตทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าแฟน ๆ ที่อยากรู้เรื่องราวหรือปมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ จำเป็นต้องรอให้จบเครดิตทั้งหมดและไฟในโรงภาพยนตร์สว่างขึ้น ดังนั้นดูหนังจบก็อย่าเพิ่งลุก รอชมเครดิตท้ายเรื่องกันก่อนนะคะ

คำเตือน เนื้อหาต่อจากนี้มีการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนในหนัง
Thor : Love and Thunder

End Credit ตัวแรก

Thor : Love and Thunder

            ความยาวประมาณ 1 นาทีเต็ม โดยผู้ชมจะเห็น ซุส (Zeus) ราชาแห่งทวยเทพ ได้รับบาดเจ็บ และอยู่ภายใต้การดูแลของเหล่าหญิงรับใช้ที่รายล้อมอยู่ ซุสกำลังพูดคุยกับบุคคลที่กล้องไม่ได้แพนไปให้เห็น แต่จับใจความสำคัญได้ว่า ซุสกำลังหาวิธีในการแก้แค้น ธอร์ ซึ่งพอจะอนุมานได้ว่า ซุสกำลังคุยกับ เฮอร์คิวลีส (Hercules) บุตรชายของเขานั่นเอง โดย เฮอร์คิวลีส เคยปรากฏตัวในจักรวาลมาร์เวลมาแล้วในฉบับคอมมิค ตั้งแต่ปี 1965 ซึ่งในขณะนั้นเขาถูกมองว่าเป็นคู่หูชาวกรีกของธอร์เลยทีเดียว

End Credit ตัวที่สอง

Thor : Love and Thunder

            ความยาวประมาณ 45 วินาที ผู้ชมจะได้เห็น เฮมดอลล์ (Heimdall) ในชุดสีขาวเทา กำลังยืนต้อนรับ เจน ฟอสเตอร์ อยู่ที่วัลฮาลลา (Valhalla) ซึ่งทำให้ข้อสรุปเกี่ยวกับดอกเตอร์เจน ฟอสเตอร์ หรือ Mighty Thor กระจ่างขึ้น โดยอิงจากฉบับคอมมิคที่ เจน ต้องเจ็บปวดและทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็ง ซึ่งเธอจะได้รับพลังเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ใช้ค้อนโยเนียร์ จนกลายเป็น Mighty Thor อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เธอกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ มีพลังวิเศษ อาการป่วยจากมะเร็งของเธอก็จะแย่ลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ใช้พลังของค้อนโยเนียร์เป็นครั้งสุดท้ายในการต่อสู้ โดยเธอได้เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องธอร์เอาไว้

           Thor : Love and Thunder ด้วยรักและอัสนี นับเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีแก่นในการสะท้อนมุมมองในเรื่องความหวัง การไม่ตัดสินใครจากการกระทำเพียงอย่างเดียว รวมไปถึง “โลกที่มีสีเทา ๆ” ไม่ได้มีแค่ดีหรือเลว แต่ยังมีความรู้สึกอื่น ๆ เช่น รัก โลภ โกรธ หลง โดยถ่ายทอดออกมาผ่านตัวละคร ทั้งเทพเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ หรือมนุษย์ธรรมดา

ขอบคุณข้อมูลจาก : ginx.tv, bgr.com, screenrant.com, geekculture.co, polygon.com, digitaltrends.com
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Thor, Marvel Studios, เฟซบุ๊ก Marvel, Marvel Entertainment
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้ไว้ก่อนไปดู Thor : Love and Thunder และฉาก End Credits ชวนตะลึงพรึงเพริด อัปเดตล่าสุด 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 13:37:53 12,600 อ่าน
TOP