ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับสุดติสต์ จากซีรีส์ Wednesday ย้อนดูหนัง Tim Burton

ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับโกธิกแห่ง Wednesday กับสไตล์ความชอบส่วนตัว ที่เปลี่ยนทุกสิ่งให้เป็นลายเซ็นสุดดาร์ก สร้างสรรค์ผลงานโดดเด่นไม่เหมือนใคร

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Tim Burton

ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง นับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ กับผลงานที่ผสมผสานแนวแฟนตาซีเข้ากับความมืดหม่นสไตล์โกธิก ทำให้ตัวละครของ ทิม เบอร์ตัน มีความโดดเด่นและแตกต่างจากตัวละครอื่น ๆ เมื่อรวมกับมุมมองใหม่ ๆ ที่ถูกหยิบมานำเสนอในแบบเฉพาะตัว ยิ่งทำให้หนังของเขามีเสน่ห์และสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Edward Scissorhands, Batman, Planet of the Apes, Charlie and the Chocolate Factory หรือ Corpse Bride เป็นต้น

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Tim Burton

ล่าสุดก็เพิ่งส่งผลงานซีรีส์สุดแนวอย่าง Wednesday มาทวงบัลลังก์ความขลังฉบับเจ้าพ่อแห่งความมืดมิด ที่แม้ว่า ทิม เบอร์ตัน จะรับหน้าที่กำกับแค่ 4 ตอนแรกของซีรีส์ แต่ก็ได้หยิบยกเอาสไตล์เฉพาะตัวเข้ามาใส่จนทำให้ใครหลายคนติดหนึบอยู่กับเรื่องราวจนไม่สามารถละสายตาได้ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงไม่ขอพลาดที่จะนำหนังสไตล์มืดหม่นฉบับ ทิม เบอร์ตัน มาให้แฟน ๆ ที่ยังคงติดใจกับเรื่องราวแนวนี้ได้ไปเลือกชมกัน ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันเลย

ประวัติ ทิม เบอร์ตัน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Tim Burton

ทิม วิลเลียม เบอร์ตัน (Tim William Burton) เกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 1958 เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้สร้าง และนักเขียน ชาวอเมริกัน ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในแวดวงภาพยนตร์ ได้รับรางวัลมากมายตลอดชีวิตการทำงาน ทั้งออสการ์, แบฟตา, ลูกโลกทองคำ และรางวัลจากสถาบันอื่น ๆ รวมทั้งเป็นประธานคณะกรรมการของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ เมื่อปี 2010 อีกด้วย

เขามีชื่อเสียงกับผลงานในรูปแบบหม่น ๆ แปลก ๆ ที่คอหนังหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Beetlejuice (1988), Edward Scissorhands (1990) รวมไปถึงหนังแฟนตาซีสีสันจัดจ้านที่มาพร้อมเรื่องราวของการผจญภัยอย่าง Charlie and the Chocolate Factory (2005), Alice in Wonderland (2010), Dark Shadows (2012), Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children (2016)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Tim Burton

รวมไปถึงผลงานอีกหลายเรื่องที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานสร้าง ไม่ว่าจะเป็น The Nightmare Before Christmas (1993) หรือภาคต่อของหนัง Batman Forever (1995), Abraham Lincoln: Vampire Hunter (2012) หรือ Alice Through the Looking Glass (2016) ที่ผสมผสานแฟนตาซีและความดาร์กเข้ากับอารมณ์ขันได้อย่างแหวกแนว

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Frankenweenie

หนัง ทิม เบอร์ตัน

1. Edward Scissorhands (1990)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Edward Scissorhands

ผลงานกำกับลำดับที่ 2 ของ ทิม เบอร์ตัน ที่ได้ร่วมงานกับ จอห์นนี เดปป์ นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ในเวลานั้น บอกเล่าเรื่องราวของ เอ็ดเวิร์ด มนุษย์ดัดแปลงที่คนสร้างถูกฆ่าตายเสียก่อนที่จะสร้างมือให้เขาเสร็จ เอ็ดเวิร์ดเลยต้องใช้กรรไกรเป็นมือแทน แถมยังต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้เจอกับหญิงสาวที่เป็นจุดที่ก่อให้เกิดความรักและการเปลี่ยนแปลงในชีวิตไปโดยสิ้นเชิง โดยผลงานเรื่องนี้ได้รับคำชมจากเหล่านักวิจารณ์ทั้งหลายในแง่บวก ด้วยความที่เป็นหนังครบเครื่องทั้งโรแมนติก ตลก ขมขื่น สยองขวัญ เมื่อบวกกับการแสดงอันทรงพลังของจอห์นนี เดปป์ ที่ต้องใช้ความสามารถในการแสดงอารมณ์อย่างสูง ซึ่งผลที่ออกมาก็สร้างความประทับใจให้แก่คนทั่วโลกได้เป็นอย่างดีอีกเช่นกัน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Edward Scissorhands

2. Beetlejuice (1988)

ภาพจาก : เว็บไซต์ Warner Bros. Entertainment

ขึ้นแท่นผลงานหนังมาสเตอร์พีซของทิม เบอร์ตัน ที่ถูกยกขึ้นหิ้งมาตลอดก็ว่าได้ สำหรับ Beetlejuice ผีขี้จุ๊ย กับเรื่องราวของ อดัมและบาร์บารา คู่ผัวเมียที่เพิ่งตายใหม่ ๆ พอใจที่จะสิงสู่อยู่ในบ้านเดิมของพวกเขา แต่แล้วก็มีครอบครัวใหม่ย้ายเข้ามา ผีมือใหม่พยายามหลอกครอบครัวใหม่ให้กลัว แต่ครอบครัวนั้นกลับมองเป็นช่องทางทำกำไร เปิดบ้านตัวเองเป็นบ้านผีเก็บค่าตั๋วไปซะอย่างงั้น พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจาก บีทเทิลจุ๊ย ผีสุดซ่า ให้ช่วยไล่คนออกจากบ้านของพวกเขา แต่บีทเทิลจุ๊ยกลับสร้างเรื่องวุ่นวายจนทำให้ทั้งโลกมนุษย์และผีต้องปั่นป่วน

ภาพจาก : เว็บไซต์ Warner Bros. Entertainment

3. Sleepy Hollow (1999)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Sleepy Hollow

หนังสยองขวัญสุดคลาสสิกในตำนานของ ทิม เบอร์ตัน ที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์ สาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม มาครอง โดย Sleepy Hollow คนหัวขาดล่าหัวคน บอกเล่าเรื่องราวของ อิคาบอท เครน ตำรวจนักสืบอาชญากรรม ซึ่งถูกส่งตัวไปคลี่คลายคดีสะเทือนขวัญที่เมืองสลีปปี้ ฮอลโลว์ หลังจากมีเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องหลายราย และต้องรักษาชีวิตของตัวเองเป็นอย่างดีในระหว่างการสืบคดี เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเขาจะเป็นฝ่ายที่ถูกฆาตกรรมเสียเอง แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศสไตล์โกธิกที่ผสมผสานกับความมืดหม่นออกมาได้อย่างลงตัว เมื่อรวมกับการแสดงของพระเอกคู่บุญ จอห์นนี เดปป์ ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาลงตัวและสมบูรณ์แบบ

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Sleepy Hollow

4. Charlie and the Chocolate Factory (2005)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Charlie and the Chocolate Factory

หลบจากความมืดหม่นมาเจอสีสันจัดจ้านกันบ้าง สำหรับ Charlie and the Chocolate Factory ที่จะพาทุกคนเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝัน ตื่นตาตื่นใจไปกับโรงงานที่เต็มไปด้วยช็อกโกแลต ของหวานสุดโปรดของคนทั่วโลกไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ พร้อมเล่าเรื่องราวของ วิลลี่ วองก้า ที่ประกาศว่าผู้โชคดีที่ได้รับตั๋วทองในซองช็อกโกแลตจะมีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานช็อกโกแลต และอาจจะมีสิทธิ์ได้รับรางวัลใหญ่จากเขาด้วย ชาร์ลี เด็กชายยากจนผู้ฝันใฝ่อยากเข้าไปโรงงานช็อกโกแลต ด้วยความโชคดีเขากลายเป็นเด็กคนสุดท้ายที่ได้ตั๋วทอง และได้ชวนคุณปู่ซึ่งเคยทำงานในโรงงานช็อกโกแลตเข้าไปเที่ยวชมโรงงานของวิลลี่ วองก้า ด้วย ที่นั่นเป็นสถานที่สุดมหัศจรรย์ เต็มไปด้วยสีสันของขนม ลูกกวาด และสายไหม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Charlie and the Chocolate Factory

5. Corpse Bride (2005)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Corpse Bride

หนึ่งในผลงานสต็อปโมชั่น (Stop Motion) สยองขวัญชิ้นเยี่ยมจากจินตนาการสุดบรรเจิด กับเรื่องราวของ วิกเตอร์ ชายหนุ่มที่กำลังเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าสาวที่พ่อแม่เตรียมให้ ด้วยความประหม่าจึงท่องคำปฏิญาณขอแต่งงานผิด บาทหลวงเลยไล่ออกจากโบสถ์ให้ไปฝึกซ้อมมาใหม่ เขาจึงไปซ้อมพูดคำขอแต่งงานในป่าช้า และบังเอิญไปสวมแหวนแต่งงานให้กับศพหญิงสาวซึ่งดันคิดว่าวิกเตอร์หลงรัก ซึ่งทำให้เขาถลำเข้าสู่โลกหลังความตายในฐานะสามีจำเป็น เขาต้องหาทางกลับมาสู่โลกคนเป็นให้ได้ ในขณะที่เจ้าสาวที่เป็นศพก็มีความหลังเกี่ยวกับความรักที่น่าเศร้า

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Corpse Bride

6. Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street (2007)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Sweeney Todd

เรื่องราวของบาร์เบอร์สุดโหด เบนจามิน บาร์กเกอร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม สวีนีย์ ทอดด์ ช่างตัดผมที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น หลังถูกตัดสินให้ติดคุกอย่างไม่ยุติธรรม เขาสาบานจะแก้แค้นให้ถึงที่สุด เพราะไม่เพียงตัวเขาจะถูกลงโทษอย่างทารุณ หากแต่เกิดผลที่เลวร้ายตามมาถึงภรรยาและลูกสาวของเขาด้วย เมื่อเขาออกจากคุกและเปิดร้านตัดผมของตัวเอง เขากลายเป็นช่างตัดผมที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องด้วยการใช้มีดโกนปาดคอลูกค้าของตัวเอง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Sweeney Todd

7. Alice in Wonderland (2010)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Disney Alice

สร้างจากวรรณกรรรมอมตะที่ทั่วโลกรู้จักดี ว่าด้วยเรื่องราวของ อลิซ หญิงสาววัย 19 ปี ที่หลุดเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ ที่ในวันนี้ดินแดนมหัศจรรย์ตกอยู่ใต้การปกครองของเรดควีน ที่นั่นเต็มไปด้วยความแฟนตาซีสุดหลุดโลก โดยในเรื่องนี้ได้ จอห์นนี เดปป์ มารับบท แมด แฮทเทอร์ ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยของอลิซ ในการกอบกู้ดินแดนมหัศจรรย์ให้พ้นจากเงื้อมมือของราชินีแดง และคืนความสงบสุขให้กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งการแสดงที่โดดเด่นของ จอห์นนี เดปป์ ทำให้กลายเป็นภาพจำของหนังไปเลยก็ว่าได้ โดยหนังมีภาคต่ออย่าง Alice Through the Looking Glass (2016) ถึงแม้ ทิม เบอร์ตัน จะไม่ได้รับหน้าที่กำกับ แต่ก็ยังคงนั่งแท่นโปรดิวเซอร์นั่นเอง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Disney Alice

8. Dark Shadows (2012)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Dark Shadows

แหวกทุกขนบธรรมเนียมแวมไพร์กันไปเลยทีเดียว สำหรับ Dark Shadows ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยตัวละครที่มีสีสันแล้ว ความเพี้ยนก็เกินจะเยียวยาด้วย หนังว่าด้วยเรื่องราวของ บาร์นาบัส คอลลินส์ อดีตหนุ่มเจ้าสำราญที่ดันไปหักอกแม่มด เธอจึงสาปให้เขากลายเป็นแวมไพร์และฝังเขาทั้งเป็น เมื่อเวลาผ่านไป 2 ศตวรรษ เขาตื่นขึ้นมาพบกับความเปลี่ยนแปลง แถมยังต้องมาเจอกับสมาชิกครอบครัวคอลลินส์สุดเพี้ยนที่ยังเหลืออยู่ ถ้าคุณเคยดูหนังที่คนหนีแวมไพร์มาแล้วละก็ หนังเรื่องนี้คงเป็นแนวแวมไพร์หนีตายจากมนุษย์แทนแล้วกัน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Dark Shadows

9. Frankenweenie (2012)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Frankenweenie

เรื่องราวของ วิคเตอร์ เด็กชายคนหนึ่งกับหมาของเขา หลังจากการสูญเสีย สปาร์คกี้ หมาน้อยสุดที่รัก อย่างไม่ทันตั้งตัว หนุ่มน้อยก็เข้าควบคุมพลังแห่งวิทยาศาสตร์เพื่อฟื้นคืนชีพเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของเขาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยการปรับแต่งอะไรเล็กน้อย เขาพยายามที่จะซ่อนผลงานการคืนชีพชิ้นนี้ แต่พอสปาร์คกี้หลุดออกไป เพื่อน ๆ ของวิคเตอร์, คุณครู และชาวเมืองทั้งหลาย ก็ได้รู้ว่าการได้ชีวิตใหม่อาจจะเป็นเรื่องน่าสยองขวัญยิ่งกว่าเดิม

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Frankenweenie

10. Miss Peregrine's Home for Peculiar Children (2016)

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Miss Peregrine's Home for Peculiar Children

เป็นผลงานที่ดัดแปลงจากนวนิยายขายดีของ แรนซัม ริกส์ เล่าการผจญภัยของ เจคอบ เด็กหนุ่มที่ค้นพบความลับที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงและช่วงเวลาคู่ขนาน เขาได้ไปเจอที่ซ่อนลับ ซึ่งมีชื่อว่า บ้านเด็กประหลาดของ มิสเพริกริน หลังจากเจคได้รู้เรื่องราวของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านและพลังพิเศษของพวกเขา เจคจึงตระหนักว่าความปลอดภัยเป็นเพียงสิ่งลวงตา และอันตรายที่ซุ่มซ่อนอยู่ในรูปของศัตรูผู้ทรงพลัง เจคจึงต้องหาคำตอบว่าความเป็นจริงคืออะไร ใครที่เชื่อใจได้ และแท้จริงแล้วตัวเขาเองนั้นเป็นใคร

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Miss Peregrine's Home for Peculiar Children

แน่นนอนว่ารายชื่อหนัง ทิม เบอร์ตัน ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่เขารับหน้าที่กำกับและเป็นโปรดิวเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Batman (1989), Batman Returns (1992), The Nightmare Before Christmas (1993), Planet of the Apes (2001), Big Fish (2003), Big Eyes (2014), Dumbo (2019) เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่จุใจก็สามารถไปตามหาหนังเหล่านี้มาชมกันได้

ส่องผลงานหนังสไตล์ ทิม เบอร์ตัน โกธิกมืดหม่น แต่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์

ประวัติ ทิม เบอร์ตัน

หนัง ทิม เบอร์ตัน

1. Edward Scissorhands (1990)

2. Beetlejuice (1988)

3. Sleepy Hollow (1999)

4. Charlie and the Chocolate Factory (2005)

5. Corpse Bride (2005)

6. Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street (2007)

7. Alice in Wonderland (2010)

8. Dark Shadows (2012)

9. Frankenweenie (2012)

10. Miss Peregrine's Home for Peculiar Children (2016)