
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later
แฟรนไชส์หนังสยองขวัญสุดคลาสสิก 28 Years Later กลับมาอีกครั้งในภาคใหม่ล่าสุดกับ 28 Years Later: The Bone Temple กำกับโดย Nia DaCosta (Candyman, The Marvels) และเขียนบทโดย Alex Garland ผู้สร้างสรรค์โลกดิสโทเปียสุดหลอนร่วมกับ Danny Boyle ที่เคยฝากผลงานไว้ใน 28 Days Later และ 28 Years Later
ล่าสุดได้มีการปล่อย ตัวอย่างแรกของ 28 Years Later: The Bone Temple ที่เผยโฉมทั้งบรรยากาศสุดหลอน เรื่องราวการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด และการผงาดของภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้มาจากผู้ติดเชื้อเพียงอย่างเดียว
ตัวอย่างแรกของ
28 Years Later: The Bone Temple
ตัวอย่างหนัง 28 Years Later: The Bone Temple
28 Years Later: The Bone Temple บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ?
The Bone Temple ดำเนินเรื่องต่อจาก 28 Years Later โดยเล่าเรื่องของ สไปก์ (Spike) รับบทโดย Alfie Williams เด็กหนุ่มตัวเอกจากภาคก่อนที่ถูกบีบให้เข้าร่วมลัทธิสุดโหดของ จิมมี่ คริสตัล (Jimmy Crystal) รับบทโดย Jack O’Connell ผู้ติดตามที่แต่งกายและมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน หรือที่เรียกว่า "The Jimmies" พวกเขาเป็นอันธพาลที่โหดเหี้ยมและเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวยิ่งกว่าผู้ติดเชื้อเสียอีก
ขณะเดียวกัน หมอเคลสัน (Dr. Kelson) รับบทโดย ราล์ฟ ไฟนส์ ก็ปรากฏตัวพร้อมความความพยายามหาทางสื่อสารกับ แซมซัน (Samson) รับบทโดย ชิ ลูวิส แพร์รี่ อัลฟ่าผู้ติดเชื้อร่างยักษ์ ซึ่งเป็นเส้นเรื่องใหม่ที่น่าสนใจและอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของโลกหลังหายนะใบนี้

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later
28 Years Later: The Bone Temple จุดที่น่าสนใจ
หาก 28 Days Later และ 28 Weeks Later เน้นไปที่ความสยองขวัญจากไวรัสและการเอาชีวิตรอดจากผู้ติดเชื้อ The Bone Temple จะพาเราไปสำรวจประเด็นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นั่นคือ ธรรมชาติของความชั่วร้ายในตัวมนุษย์เอง ดังที่ตัวอย่างหนังเผยให้เห็นว่าในโลกที่ล่มสลาย ผู้รอดชีวิตอาจกลายเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวยิ่งกว่าผู้ติดเชื้อเสียอีก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เราตั้งคำถามว่า “ใครกันแน่ที่ทำสิ่งที่เลวร้ายกว่ากัน ?”
แม้จะสานต่อจากงานของ Danny Boyle แต่ Nia DaCosta ผู้กำกับหนังภาคนี้ยืนยันว่า เธอต้องการใส่โทนสยองขวัญในแบบฉบับของตัวเอง ทำให้ The Bone Temple มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น ทั้งในด้านการเล่าเรื่อง สไตล์ภาพ และการนำเสนอความสยองที่บิดเบี้ยวเหนือความคาดหมาย ซึ่งตัวอย่างก็สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่นองเลือดมากขึ้นและฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้ภาคก่อน ๆ เลย

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก 28 Years Later