

ในภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music นั้น กัปตัน วอน แทรปป์ เป็นทหารเรือปลดเกษียณชาวออสเตรีย เขาเป็นพ่อม่ายที่มีลูกถึง 7 คน หากเราดูผิวเผิน เราจะเห็นว่า กัปตันวอน แทรปป์ ดูเป็นคุณพ่อเจ้าระเบียบเคร่งวินัย แต่ความรักที่เขามีให้ลูกนั้น สุดแสนจะลึกซึ้งเกินบรรยาย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาต้องพยายามรับมือกับทหารเยอรมัน เขาตกหลุมรักกับพี่เลี้ยงเด็กที่จ้างมาให้ดูแลลูก ๆ และเมื่อเขาและภรรยาใหม่กลับมาจากฮันนีมูน เขากลับพบว่า ประเทศออสเตรียถูกกองทัพนาซีเข้ายึดครอง ทหารนาซีต้องการให้เขารับใช้กองทัพเรือของเยอรมัน แต่ในขณะที่เขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับกองทัพนาซี ภายในจิตใจของเขากลับต่อต้านกองทัพนาซีอย่างรุนแรง เขาวางแผนที่จะหลบหนีพร้อมครอบครัวและทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง แม้ว่าเขาจะเป็นท่านบารอนผู้ร่ำรวยก็ตาม
ด้านแมกซ์ ลูกชายของเขา ได้เชื้อเชิญให้ครอบครัวมาร่วมงานเทศกาลดนตรีที่ซัลซ์บวร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และกัปตันวอน แทรปป์ ก็มองเห็นโอกาสนี้ที่จะหลบหนีจากกองทัพนาซี การพาคน 8 คนรวมทั้งตัวเขาเอง หลบหนีออกจากเวียนนานั้น มีแต่ความไม่แน่นอนและมีแต่อันตรายอย่างยิ่งยวด แต่ด้วยความกล้าหาญและความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเสียสละทุกอย่างที่มี รวมไปถึงความสำเร็จด้านหน้าที่การงานและเงินทอง เพื่อที่จะเสี่ยงชีวิตและไม่ต้องอยู่รับใช้ทหารนาซี ก็ทำให้ กัปตัน วอน แทรปป์ กลายเป็นคุณพ่อที่น่ายกย่อง และครองอันดับ 1 ตัวละครคุณพ่อยอดเยี่ยมตลอดกาล

กุยโด ออริฟิเซ่ ถือเป็นหนึ่งในตัวละครที่เล่นเป็นคุณพ่อ ที่เป็นคนดีตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงท้ายเรื่อง แม้ว่าเขาและลูกชายจะต้องผ่านช่วงเวลาของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว แต่เขาก็ยังพยายามทำให้ลูกชายยิ้มได้ตลอดเวลา เขาพยายามที่จะให้ลูกเป็นคนมองโลกในแง่ดี และพยายามปกป้องลูกชายด้วย เขาจึงเปลี่ยนชีวิตในค่ายกักกัน และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันแสนโหดร้าย ให้กลายเป็นเกมสนุก ๆ แม้ว่ามันจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนถังขยะให้กลายเป็นหลุมหลบภัย และเปลี่ยนทหารนาซีผู้ชั่วร้ายให้กลายเป็นแค่ตัวร้ายจอมปลอมเท่านั้น และแม้ว่าในภาพยนตร์ทั้งเรื่องจะมีแต่ความหดหู่เศร้าหมอง แต่การมองโลกในแง่ดีของกุยโดและความเสียสละต่อครอบครัว ได้ทำให้เขาก้าวข้ามความเห็นแก่ตัว และหวังจะเอาชีวิตรอดเพียงคนเดียว เขาหลอกล่อให้ลูกเชื่อว่า ลูกเป็นส่วนหนึ่งของเกมสนุก ๆ บางคนอาจจะบอกว่า อีกไม่นานลูกก็จะรู้ความจริง แต่แล้วลูกเขาก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ และได้รางวัลชิ้นใหญ่เป็นของตอบแทน กุยโดได้เสียสละทั้งร่างการและจิตวิญญาณ เพื่อที่จะปกป้องลูกชาย จากเหตุการณ์อันโหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

คริส การ์ดเนอร์ ไม่ใช่คนที่ร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จ แต่เขาทดแทนวัตถุต่าง ๆ เหล่านั้น ด้วยคุณธรรมและจริยธรรมในตัวเขาเอง ลูกชายคือทั้งชีวิต และเขาก็ได้ทุ่มเทเสียสละ เพื่อจะส่งผ่านความดีจริยธรรมไปให้ลูกชายของตัวเอง ชีวิตของเขามีแต่เรื่องน่าอายและประสบแต่ความล้มเหลว แต่แทนที่เขาจะยอมแพ้ เขากลับมีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแรงกล้า เขาใช้ความเข้มแข็งที่มีเพื่อที่จะคว้าโอกาสทุกอย่างในชีวิต และสร้างอาชีพที่มั่นคงให้ตัวเอง เพราะการมีการงานที่มั่นคงไม่ได้ส่งผลต่อเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่มันส่งผลไปให้ลูกชายคนเดียวของเขาด้วย และบอกได้เลยว่า คุณคงโชคดีมาก ถ้าคุณไม่ได้ร้องไห้ในฉากที่คริส ใช้เท้ายันประตูห้องน้ำสาธารณะ เพื่อให้ลูกชายของเขานอนหลับในนั้น เนื่องจากเขาต้องกลายเป็นคนจรจัด ไม่มีแม้แต่บ้านที่จะได้อยู่อาศัย

ผลงานการแสดงของ เกรกอรี่ เพ็ค ในภาพยนตร์เรื่อง To Kill a Mockingbird ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายของ ฮาร์เปอร์ ลี นั้น ต้องบอกว่าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แอตติคัส ฟินช์ เป็นผู้ชายที่ยึดถือคุณธรรม แม้ว่ามันจะทำให้เขาสู้ไม่ได้ก็ตาม แอตติคัส ฟินช์ ถือเป็นคุณพ่อตัวอย่างให้กับลูก ๆ และได้มอบบทเรียนชิ้นสำคัญในเรื่องของความเสมอภาค ความกล้าหาญ ความเห็นอกเห็นใจกัน ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน เขายังสามารถปล่อยให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง และเปิดพื้นที่ในการที่ลูก ๆ จะได้คิดไตร่ตรองทุกอย่างด้วยตัวเองอีกด้วย

ผู้ชายคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเพียบพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่างเพื่อจะเป็นคุณพ่อที่ดี แต่ความรับผิดชอบต่อครอบครัวต่างหาก ที่จะเป็นบทพิสูจน์ความเป็นพ่อในตัวของแต่ละคน สำหรับ จอห์น อาร์ชิบาล์ด แล้ว ลูกชายคือโลกทั้งใบของเขา และเมื่อลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการแข่งขันเบสบอล จอห์นก็ไม่มีเงินมากพอที่จะมาจ่ายเงินสำหรับการปลูกถ่ายหัวใจ สำหรับผู้ชายบางคนอาจจะยอมแพ้ แต่ไม่ใช่กับจอห์น คิว หลังจากที่เขาถูกปฏิเสธการรักษามานับครั้งไม่ถ้วน จอห์นจึงตัดสินใจปล้นโรงพยาบาล และจับคนไข้เป็นตัวประกัน แต่เพราะจิตใจที่ดีงาม เขาจึงทำให้เหล่าสื่อมวลชนตกหลุมรักเขา และเหล่าตัวประกันก็รู้สึกเห็นใจเขาเช่นกัน และหลังจากนั้นไม่นาน จอห์น ก็ตัดสินใจมอบหัวใจและชีวิตของเขา ให้กับลูกชายของเขาเอง

จิมมี่ สจ๊วต รับบทบาทชายหนุ่มผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่ และมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า แม้ว่าเขาจะเป็นคนตัวเล็ก ๆ จากเมืองเล็ก ๆ แต่เขาก็ได้เสียสละตัวเอง เพื่อความสุขของครอบครัว เพื่อเพื่อน และเพื่อหมู่บ้านของเขา มากกว่าการที่เขาจะไขว่คว้าหาความสุขให้ตัวเอง ในตอนท้ายของเรื่อง ทุกอย่างรอบตัวเหมือนจะทำลายตัวตน ของเขาจนไม่เหลือซาก โดยเฉพาะจากน้ำมือของนายธนาคาร แต่เพราะความล้มเหลวในชีวิต ทำให้เขาตระหนักได้ว่า การที่เขาได้เกิดมาในเมืองเล็ก ๆ แบบนี้นั้น มันสำคัญแค่ไหน และเขาได้เล็งเห็นถึงคุณค่าของชีวิต และความหมายของตัวเขาเองที่มีต่อเพื่อนและครอบครัว

ในภาพยนตร์เรื่อง Taken เลียม นีลสัน รับบทเป็นพ่อหม้าย ที่มีลูกสาววัย 17 ปีซึ่งห่างเหินกันพอสมควร เขาเป็นสายลับปลดเกษียณ ซึ่งเฝ้าแต่คิดถึงวัยเด็กของลูกสาวตัวเอง เนื่องจากงานที่ยุ่งมาก ทำให้เขาไม่มีเวลาอยู่ใกล้ชิดลูก จนทำให้ชีวิตแต่งงานของเขาต้องล่มไปด้วย และหลังจากที่เขาเกษียณแล้ว เขาก็มาอยู่ในเมืองที่ลูกสาวอยู่ เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับลูกและชดเชยเวลาที่เสียไป อดีตภรรยาของเขาอยากให้ลูกสาวไปอยู่ที่ยุโรป แต่เขากลับต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่เมื่อลูกสาวไปอยู่ที่นั่น กลับเกิดเรื่องร้าย ๆ กับลูก เนื่องจากลูกสาวและเพื่อนถูกจับตัวไปขายเป็นทาส เขาจึงใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมด เพื่อที่จะตามหาตัวโจรที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป และตามหาเธอก่อนที่เธอจะหายสาบสูญไปตลอดกาล ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวใจกล้าของพ่อที่ทำทุกอย่าง เพื่อที่จะรักษาชีวิตของลูกตัวเองเอาไว้

ในภาพยนตร์เรื่อง Father of the Bride จอร์จ แบงค์ คือตัวอย่างที่ชัดเจนของความเป็นพ่อ เขาเป็นคนแน่วแน่ เข้มแข็ง และเป็นแรงหนุนที่ดีของครอบครัว และเขายอมทำตามความปรารถนาทุกอย่างของภรรยา เขาเป็นพ่อของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังหมั้นและกำลังวุ่นวายอยู่กับการวางแผนการแต่งงาน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็อยู่เคียงข้างลูกเสมอ และพร้อมที่จะช่วยเธอไม่ว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะรู้สึกว่าตัวละครนั้น บีบคั้นทั้งทางอารมณ์และสถานะการเงินของเขา แต่เขาก็ยังมีความมั่นคงแน่วแน่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

โดยปกติแล้ว คุณแม่จะต้องเป็นฝ่ายที่อยู่บ้านและคุณพ่อจะออกไปทำงานเพื่อหาเงินเข้าบ้าน แต่ถ้าหากคุณพ่อตัดสินใจที่จะสลับบทบาทกับคุณแม่ และอยู่บ้านดูลูก คอยเลี้ยงลูกจนทำให้ทั้งสองคนสนิทสนมกัน มันจะเป็นอย่างไรกันนะ แจ๊ค บัตเลอร์ ตัดสินใจที่จะอยู่ที่บ้านเลี้ยงลูก และภรรยาของเขาก็ออกไปทำงานนอกบ้านเอง ตอนแรกเขาก็คิดว่ามันคงง่าย อย่างไรก็ตาม เขากลับได้รับรู้ว่า การเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านมันมีอะไรที่มากกว่าการทำอาหารให้ลูกทาน และแจ๊คก็ได้บทเรียนชิ้นสำคัญจากการอยู่บ้านและคอยเลี้ยงให้ลูกเติบใหญ่ แม้ว่าเขาอาจจะถูกล้อเลียนจากการเป็นพ่อบ้านก็ตาม

เดม่อน แม็คเรดดี้ เป็นอีกหนึ่งตัวละครคุณพ่อที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูก และเขาเองก็ทำมากกว่านั้นด้วย เขาไม่ได้ต้องการให้ลูกมีชีวิตอยู่บนโลกแบบเอาตัวรอดไปวัน ๆ เขาต้องการให้ลูกเก่งในการใช้ชีวิต ในมุมมองของเขา โลกทั้งใบควรจะหวาดกลัวและให้ความเคารพต่อลูกของเขา และไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ แต่วิธีการของเขาออกจะแหวกแนวและบ้าระห่ำไปสักหน่อย เขาถึงกับยิงลูกตัวเองเข้าที่หน้าอกด้วยความรัก และในตอนท้าย เขาได้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องลูกสาว และเธอเองก็สานต่อบทบาทหน้าที่และทำงานต่อจากเขา ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงการเป็นพ่อตัวอย่าง จนลูกอยากจะทำตาม
เห็นบทบาทของคุณพ่อในแต่ละเรื่องแล้ว เพื่อน ๆ ชอบใจใครบ้างเอ่ย