สูตรสำเร็จของหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง คือการสร้างเป็นภาคต่อขึ้นอยู่กับว่าได้รับความนิยมขนาดไหน หากเรื่องไหนประสบความสำเร็จมากหน่อยก็อาจสร้างทั้งหมด 2 ภาค แต่ถ้าเรื่องไหนมีแววได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ หนังเรื่องนั้นก็อาจกลายเป็นหนังไตรภาค กลายเป็นความสนุกคูณ 3 ที่หลายคนยังประทับใจไม่รู้ลืม ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมหนังไตรภาคในตำนาน 10 เรื่อง มาให้คุณย้อนความทรงจำ มาดูกันว่าเรื่องไหนโดนใจมากที่สุด
หนังไตรภาคในขึ้นหิ้งของผู้กำกับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า (Francis Ford Coppola) ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ มาริโอ พูโซ (Mario Puzo) เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว คอร์เลโอเน ตระกูลเชื้อสายอิตาเลียนที่ต้องการขยายอิทธิพลในอเมริกา ซึ่งเรื่องราวในภาคต่าง ๆ จะพัวพันกับการสืบทอดอำนาจและการรักษาผลประโยชน์ของตระกูล ซึ่งความเจ๋งของ The Godfather คือการเป็นหนังภาคต่อเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Godfather
2. The Matrix
ผลงานของผู้กำกับสองพี่น้องวาโชสกี้ (The Wachowski Brothers) ที่แฝงไปด้วยแนวคิดทางปรัชญาและศาสนา มีเนื้อหาเกิดขึ้นในโลกอนาคตที่มนุษย์และเครื่องจักรต้องทำสงครามกัน ซึ่งนอกจากเนื้อหาที่ล้ำไปไกลแล้ว สิ่งที่หนังชุด The Matrix ได้รับคำชมคือ คือการทิ้งคำถามให้ผู้ชมตีความได้อย่างหลากหลาย โดยหนังภาคแรกเข้าฉายเมื่อปี 1999 ตามมาด้วย The Matrix Reloaded ในปี 2003 ปิดท้ายด้วย The Matrix Revolutions ในปีเดียวกัน นำแสดงโดย คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) ในบท นีโอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Matrix
3. Ocean\'s
หนังไตรภาคตระกูล Ocean\'s เข้าฉายตั้งแต่ปี 2001-2007 เปิดฉากด้วย Ocean\'s Eleven เล่าภารกิจปล้นของ แดนนี่ โอเชี่ยน หัวขโมยเสน่ห์แรงที่รวบรวมลูกทีม 11 ราย มาร่วมแผนการตามความถนัดของแต่ละคน ซึ่งหลังจากหนังประสบความสำเร็จด้านรายได้ Warners Bros. จึงสร้างภาคต่อตามมาในชื่อ Ocean\'s Twelve เมื่อปี 2004 และ Ocean\'s Thirteen เมื่อปี 2007 ล่าสุดมีการประกาศสร้างหนังภาคแยก Ocean\'s Ocho (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ที่เปลี่ยนตัวละครเป็นผู้หญิงทั้งหมด นำแสดงโดย แซนดร้า บูลล็อค (Sandra Bullock) และเคต บลังเชตต์ (Cate Blanchett)
4. Rush Hour
หนังแอ็คชั่นอารมณ์ดีอย่าง Rush Hour เข้าฉายเรียงลำดับในปี 1998, 2001 และ 2007 โดยได้ เฉินหลง (Jackie Chan) มาสวมบทเป็นตำรวจสายสืบฮ่องกง ประกบคู่ คริส ทัคเกอร์ (Chris Tucker) ในบทตำรวจสายสืบจากลอสแอนเจลิส ซึ่งแต่ละภาคพวกเขาต้องทำภารกิจเสี่ยงตายร่วมกัน โดยมีฉากต่อสู้เจ๋ง ๆ และมุขตลกเด็ด ๆ เป็นจุดขาย ล่าสุดความฮาของ Rush Hour ถูกนำมาสร้างในรูปแบบทีวีซีรีส์ ซึ่งกำลังจะออกอากาศในเดือนกรกฎาคม 2016
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rush Hour
5. Jason Bourne
สร้างจากนวนิยายชุดของ โรเบิร์ต ลัดลั่ม (Robert Ludlum) ในเรื่องนี้ แมตต์ เดมอน (Matt Damon) รับบทเป็นนักฆ่าซีไอเอ เจสัน บอนด์ ผู้สูญเสียความทรงจำและต้องหาคำตอบให้ได้ว่าตัวเองเป็นใคร อย่างไรก็ตามนอกจากหนัง 3 ภาคที่นำแสดงโดย แมตต์ เดมอน ยังมี The Bourne Legacy ซึ่งนำแสดงโดย เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner) ในบท แอรอน ครอส และแมตต์ เดมอน ก็กลับมาอีกครั้งในหนังภาคล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า Jason Bourne
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bourne
6. The Lord of the Rings
หลังถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อปี 1978 มาคราวนี้ผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ็คสัน (Peter Jackson) นำนวนิยาย The Lord of the Rings ของนักเขียน อาร์. อาร์. โทลคีน (J. R. R. Tolkien) กลับมาสร้างในแบบหนังไตรภาค ตามติดการผจญภัยของฮอบบิทหนุ่ม โฟรโด แบ็กกินส์ ที่ออกเดินทางพร้อมพรรคพวกไปยังปล่องภูเขาไฟเมาท์ดูม เพื่อทำลายแหวนเอกธำมรงค์ หนังเข้าฉายเรียงลำดับตั้งแต่ปี 2001-2003 โดยถ่ายทำในประเทศนิวซีแลนด์ทั้งหมด 8 ปี จนได้ชื่อว่าเป็นหนังที่ทุ่มทุนสร้างที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์
7. Back to The Future
หนังไซไฟเรื่องดังที่เป็นเสมือนคำทำนายโลกอนาคต เล่าการผจญภัยของนักเรียนหนุ่มมัธยม มาร์ตี้ แม็คฟลาย กับนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ดร. เอ็มเม็ตต์ บราวน์ ที่เดินทางท่องเวลาไปพบเรื่องวุ่นวาย ต่าง ๆ หนังเขียนบทและกำกับโดย โรเบิร์ต เซเมคคิส (Robert Zemeckis) แถมเต็มไปด้วยของไฮเทคต่าง ๆ ที่บางชิ้นกลายเป็นความจริงแล้ว ซึ่งในเวลาต่อมา Back to The Future ถูกดัดแปลงเป็นทั้งแอนิเมชั่น เกม และเครื่องเล่นในสวนสนุก Universal Studios
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Back to The Future
8. Toy Story
แอนิเมชั่นจาก Disney และ Pixar ที่รักษามาตรฐานได้คงเส้นคงวา เล่าความวุ่นวายต่าง ๆ เมื่อของเล่นที่เราคุ้นเคยกลับมีชีวิต โดยมีตัวละครเอกอย่าง วู้ดดี้ และบัซไลท์เยียร์ เป็นหัวโจกท์ในการนำกองทัพของ เล่นออกผจญภัย โดยหนังภาคแรกเข้าฉายเมื่อปี 1995 ตามมาด้วยภาค 2 และ 3 ในปี 1999 และ 2010 ส่วนในเดือนมิถุนายน 2018 กองทัพของเล่นจะกลับมาอีกครั้งใน Toy Story 4 โดยได้ผู้กำกับจากภาค 1-2 อย่าง จอหน์ ลาสเซเตอร์ (John Lasseter) กลับมาทำหน้าที่เดิม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Toy Story
9. The Dark Knight
หนังซูเปอร์ฮีโร่ตระกูล Batman ถูกนำมารีบูตโดยฝีมือของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ซึ่งเปลี่ยนภาพของ แบทแมน ให้กลายเป็นคนธรรมดา ๆ ที่เผชิญโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น แต่ละภาคประกอบไปด้วย Batman Begins ในปี 2005 ตามมาด้วย The Dark Knight เมื่อปี 2008 ปิดท้ายด้วย The Dark Knight Rises เมื่อปี 2012 โดยได้ คริสเตียน เบล (Christian Bale) มาสวมบทเป็น แบทแมน ซึ่งการกลับมาแบบไตรภาคก็ประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างสูง โดยเฉพาะภาค 2 และ 3 ที่ทำเงินทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
10. Infernal Affairs
หนังไตรภาคสัญชาติฮ่องกงเรื่องนี้ อัดแน่นไปด้วยทีมนักแสดงแถวหน้าอย่าง หลิว เต๋อหัว (Andy Lau), เหลียง เฉาเหว่ย (Tony Leung), หวง ชิวเซิน (Anthony Wong), เฉิง จื้อเหว่ย (Eric Tsang) และอีกมากมาย เล่าการเฉือนคมระหว่าง หมิง สายลับมาเฟียที่แฝงตัวเข้ามาทำงานเป็นตำรวจ จนได้พบกับ เหยิน นายตำรวจที่แฝงตัวมาเป็นสายสืบในแก๊งมาเฟีย และเมื่อทั้งสองคนเริ่มสงสัยซึ่งกันและกัน การเปิดโปงความจริงจึงเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการปิดบังตัวตนของตัวเองให้ได้นานที่สุด หนังเรื่องนี้ถูกฮอลลีวูดนำไปรีเมคในชื่อ The Departed นำแสดงโดย แมตต์ เดมอน (Matt Damon) และลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Infernal Affairs
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่หนังแต่ละเรื่องจะถูกสร้างถึง 3 ภาค เพราะสตูดิโอต้องมั่นใจว่าหนังเรื่องนั้นต้องมีคุณภาพ และต้องเป็นที่รักของผู้ชมในคราวเดียวกันด้วย