เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก united international pictures
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม สำนักข่าวซินหัว ประเทศจีน รายงานว่า ทางผู้ผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อเกิดกระแสโจมตีภาพยนตร์เรื่อง “กังฟูแพนด้า 2” ที่เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ในจีนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บิดเบือนวัฒนธรรมจีน และเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ในช่วงใกล้ถึงวันเด็ก
โดยกระแสต่อต้านดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นจาก นายจ้าว ปันตี้ ศิลปินกลุ่มหัวก้าวหน้าที่ต่อต้านภาพยนตร์เรื่องกังฟูแพนด้าตั้งแต่ภาคที่แล้ว เนื่องจากเห็นว่า แพนด้าเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของจีน แต่ทางฮอลลีวู้ดกลับนำไปทำภาพยนตร์แสวงหาผลกำไรเข้ากระเป๋า จึงถือเป็นการบุกรุกทางวัฒนธรรมนั่นเอง
สำหรับการต่อต้านภาพยนตร์เรื่องกังฟูแพนด้า 2 นี้ นายจ้าว ปันตี้ ได้ริเริ่มวิ่งเต้นเพื่อต่อต้านภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนภาพยนตร์จะเข้าฉาย โดยใช้เงินส่วนตัวลงโฆษณาหนังสือพิมพ์ในปักกิ่งและกวางโจว เรียกร้องให้ชาวจีนคว่ำบาตรหนังเรื่องนี้ เช่นเดียวกับที่เคยทำในปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่ภาพยนตร์เรื่องกังฟูแพนด้าภาคแรกจะเข้าฉายในตอนนั้น รวมถึงได้ส่งจดหมายถึงผู้จัดการโรงภาพยนตร์หลายแห่งว่า วันเด็กควรจะเป็นวันที่บริสุทธิ์ อย่าเปลี่ยนให้มันเป็นวันทำเงินสำหรับฮอลลีวู้ด ดังนั้น อย่าเอาวัฒนธรรมแบบอเมริกันมามอมเมาเยาวชนจีน
ส่วนทางด้าน ศาสตราจารย์กง ชิงตง อาจารย์ภาษาจีน มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ก็ออกมากล่าวสนับสนุนการต่อต้านภาพยนตร์เรื่องกังฟูแพนด้าเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า สมบัติของจีนกลายเป็นสินค้าเพื่อการโฆษณาให้กับวัฒนธรรมอเมริกัน ซึ่งถือว่าเป็นการบุกรุกทางวัฒนธรรม
ในขณะที่ นายเกา ฮุย ผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทเสิ่นเจิ้นโกลบอลดิจิตอลครีเอชั่น กล่าวโต้แย้งว่า แทนที่จะคว่ำบาตร ผู้สร้างภาพยนตร์ของจีนน่าจะเรียนรู้จากหนังเรื่องนี้มากกว่า ในการสร้างเสน่ห์ให้กับสมบัติและเอกลักษณ์ของจีน
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งกระแสต่อต้านในจีน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังมีชาวจีนจำนวนมากให้ความสนใจต่อคิวซื้อบัตรเข้าชมกันอย่างล้นหลามไม่แพ้ภาคแรกที่เข้าฉายปี 2551 ซึ่งกวาดรายได้ไปทั่วโลกมาแล้วกว่า 631 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเลยทีเดียว
