x close

เบื้องหลังการสร้าง The Possession


the possession

the possession




เบื้องหลังการสร้าง : "จงกลัวปีศาจที่ไม่กลัวพระเจ้า" (สหมงคลฟิล์ม)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  เฟซบุ๊ก ทางการภาพยนตร์ The Possession 

          ฉากไคลแม็กซ์ในการต่อสู้กับปีศาจ ถูกถ่ายทำในสถานที่ที่มีความหลอนเกิดขึ้นจริง นั่นก็คือโรงพยาบาลโรคประสาทริเวอร์วิว ที่ถูกทิ้งให้ร้าง ด้วยอาคารเก่าที่ทรุดโทรม ประวัติศาสตร์ของความวิกลจริต กลัว และการรักษาคนไข้ที่โหดร้าย ทุกอย่างยังคงอยู่ใน บริติช โคลัมเบีย โดยสร้างตั้งแต่ปี 1913 และใช้งานนานถึง 70 ปี โดยปัจจุบันก็ถูกทิ้งร้างไว้ที่มอบบรรยากาศที่น่าขนลุกให้กับละแวกนั้น

           เมอร์รี่ แม็คเคย์ ผู้จัดการสถานที่เล่าถึงการเลือกสถานที่ว่า "ริเวอร์วิวมีประวัติศาสตร์ที่น่ากลัว ภายในอาคารก็เป็นเหมือนกับโลกอีกใบหนึ่งเลย เพราะมันถูกทิ้งให้ร้างมานาน คุณจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ยังคงอยู่ที่นั่น ฉันคิดว่ามันทำให้ทีมงานทุกคนมีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องที่เรากำลังเล่า"


The Possession


           การถ่ายทำในสถานที่แห่งนี้ ทำให้ทีมงานและทีมนักแสดงรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา บางคนปฏิเสธที่จะเข้าไปในห้องที่ตัวเองรู้สึกไม่ดี แต่ผู้เขียนบท จูเลีย สโนว์เด็น และ สไตล์ ไวท์ ก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับการได้ใช้สถานที่จริง มาใช้ในการสร้างความตึงเครียดสูงสุด ไวท์ เล่าว่า "มันมีความน่ากลัวเป็นสองเท่า ในการถ่ายทำในสถานที่ที่หลายคนบอกว่ามีผีสิง มันมีความน่ากลัวที่เกิดขึ้นอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่เราสร้างขึ้น"

           ส่วนที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกัน ระหว่างชีวิตครอบครัวและการต่อสู้กับปีศาจร้าย ก็เป็นหน้าที่ของผู้กำกับภาพ แดน เลาส์เซ็น ที่พยายามเล่นกับแสงเงาตลอดทั้งเรื่อง และพยายามแหกกฎของหนังสยองขวัญ เขาเผยว่า "ความน่ากลัวไม่ได้ต้องการแต่ความมืดเพียงอย่างเดียว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็อาจเกิดขึ้นในตอนที่มีแสงสว่างมากที่สุด"





ฉาก ฝูงมอธ ใน The Possession

           ผู้ครอบครองกล่องไม้คนปัจจุบัน ได้เล่าถึงเรื่องราวสยองขวัญมากมาย อันหนึ่งก็คือการเรียกแมลงจำนวนมหาศาลออกมา ซึ่งก็รวมถึง แมงป่อง และแมลงสาบ เมื่อผู้กำกับ โอเล่ เบอร์เนดัล เข้ามาทำ The Possession เขาก็ได้ตัดสินใจว่าจะใช้แมลงชนิดหนึ่งที่ไม่ค่อยเห็นกันมากนัก ซึ่งก็คือตัวมอธ เขาเล่าว่า "มอธมีความแปลกและเป็นแมลงที่อยู่มานานที่สุดชนิดหนึ่ง และมันมีเรื่องเหนือธรรมชาติหลายอย่างที่เกี่ยวกับมัน รวมถึงพฤติกรรมของมัน ไม่ว่าจะเป็นการกระพือปีกที่น่ากลัว และการที่มันบินเข้ามาคุณโดยไม่ทราบสาเหตุ"

           ความต้องการของ เบอร์เดนัล ที่ทำให้ทีมงานทุกคนต้องตกใจ นั่นคือการที่เขาตัดสินใจใช้ตัวมอธของจริงในการถ่ายทำฉากสำคัญ นั่นก็คือฉากที่ เอ็ม พ่นมอธจำนวนมหาศาลออกมาทั่วทั้งห้อง เขาเล่าว่า "การมีนักแสดงที่แสดงร่วมกับความรู้สึกว่า มีแมลงมอธของจริงกำลังเกาะไต่ตามตัว และหน้าของคุณ คุณก็ไม่ต้องที่จะแสดงความกลัวเลย เพราะมันเกิดขึ้นจริง"





           การถ่ายทำฉากฝูงมอธต้องใช้แมลงถึง 2,000 ตัวที่จะบินอยู่ในห้องนอนของ เอ็ม เพื่อทำให้ตัวมอธมีความพร้อมในฉากนี้ พวกเขาต้องนำเข้าพวกมันในสภาพดักแด้ และก็ออกมาเป็นตัวมอธในเวลาที่ไล่เลี่ยกันมากที่สุด ซึ่งผู้ควบคุมกระบวนการนี้ก็คือ แบรด แม็คโดนัลด์ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง 

           ผู้อำนวยการสร้าง โรเบิร์ต ทาเพิร์ต เผยถึงสาเหตุในการทำฉากนี้ว่า "พวกเราสามารถสร้างตัวมอธได้ด้วยซีจีไอทั้งหมด แต่ โอเล่ ก็ยืนยันว่าเขาต้องการใช้ของจริง ดังนั้นผมจึงต้องหาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องตัวมอธเข้ามา และท้ายที่สุดแล้วก็ทำให้นี่เป็นฉากที่น่าขนลุกและน่าจดจำมากที่สุดสำหรับผม"

           ทีมงานทุกคนต่างก็ต้องปรับการทำงานของตัวเองให้เข้ากับธรรมชาติของตัวมอธ โดยผู้ออกแบบงานสร้าง เรเชล โอทูล ก็ออกแบบกำแพงของห้องนอน ด้วยสีที่มอธจะสามารถเกาะติดเองโดยธรรมชาติ ในขณะที่ผู้กำกับภาพ แดน เลาส์เซ็น ก็ต้องให้แสงสว่างกับฉาก โดยที่ตัวมอธจะไม่ถูกรบกวนโดยแสงไฟ และท้ายที่สุดก็คือผู้ดูแล วิชวลเอฟเฟ็ค อดัม สเติร์น ก็ได้เสริมสร้างเพิ่มความน่ากลัวให้กับฝูงมอธ




           สิ่งที่สำคัญที่สุดในฉากนี้ก็คือนักแสดง ที่ต้องรับมือกับความกลัวในการที่มีแมลงเกาะทั่วทั้งตัว เจฟฟรี่ย์ ดีน มอร์แกน สารภาพว่า "ผมไม่ใช่คนที่ชื่นชอบแมลงนัก และเราก็มีมอธตัวใหญ่มากมายอยู่ในฉาก ในวันที่เราถ่ายทำฉากนี้ มีตัวนึงเข้าไปในเสื้อของผม และผมก็บอกได้เลยว่ามันไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่าพิสมัยนัก"

           นาตาชา คาลิส ที่ต้องเป็นจุดศูนย์กลางของตัวมอธจำนวนมหาศาล ก็เล่าถึงประสบการณ์ว่า "ฉันชอบความท้าทาย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน มันมีทั้งสีดำและส้ม และมีอยู่มากมายจนฉันมองอะไรไม่เห็น มันเหมือนกับเวลาที่คุณไปเล่นบันจีจัมพ์ ตอนแรกคุณจะรู้สึกตื่นเต้น แต่เมื่อคุณมองลงไปด้านล่างความรู้สึกก็จะเป็นตรงกันข้าม ตัวมอธบางตัวก็มีหนามเล็ก ๆ บนเท้าที่สามารถเจาะเข้าไปในผิวหนังของคุณ"


The Possession


กล่องไม้โบราณ และ ปีศาจดิ๊บบัค

           เพื่อที่จะทำให้กล่องไม้ดิ๊บบัคของจริงอยู่ไกลจากทีมงานมากที่สุด ผู้กำกับ โอเล่ เบอร์เนดัล ตัดสินใจที่จะสร้างกล่องไม้จำลองขึ้นมา ที่มีหน้าตาและสภาพเหมือนกับชิ้นนี้ถูกประมูลในอีเบย์ โดยกล่องไม้ในหนังจะต้องมีความเรียบง่ายมากพอที่จะเสริมสร้างความน่าสงสัย แต่ก็น่าพิศวงที่จะทำให้ใครก็ตามอยากเปิดมัน

           ผู้อำนวยการสร้าง เจอาร์ ยัง อธิบายว่า "มันสำคัญที่เราจะต้องสร้างกล่องไม้ที่ทำให้คุณเชื่อว่า มีอะไรบางอย่างที่ควรอยู่ในนั้นตลอดไป เรเชล โอทูล ผู้ออกแบบงานสร้างของเรามีไอเดียมากมายในการทำ พวกเรายังลงรายละเอียดไปถึงสิ่งที่บรรจุอยู่ในกล่องไม้ของจริง ซึ่งรวมถึงกระดูกนก ปอยผม และไม้แกะสลักปริศนา"

           สำหรับตัวปีศาจ ดิ๊บบัค ทีมงานก็ได้หันไปหาผู้ดูแลเมคอัพเอฟเฟกต์ บิล เทเรซาคิส โดย ยัง ก็ได้กล่าวว่า "พวกเราคิดว่า คุณจะมอบรูปลักษณ์ให้ปีศาจตัวนี้ยังไง อะไรที่ถือว่าเป็นหน้าตาของความชั่วร้าย บิล และ โอเล่ ได้ร่วมกันออกแบบว่ามันจะมีรูปร่างแบบไหน วิสัยทัศน์ของพวกเขาก็คือ ไม่ใช่ว่าเราจะแสดงให้คนดูเห็นได้มากแค่ไหน แต่คือการแสดงให้เห็นน้อยแค่ไหนแต่ก็ยังทำให้คุณช็อกได้"


the possession


           หน้าตาของ ดิ๊บบัค ถือเป็นความลับสุดยอดของหนัง เทเรซาคิส กล่าวว่า "โอเล่ ต้องการบางสิ่งที่ให้ความรู้สึกถึงความคลาสสิกและหน้าประวัติศาสตร์ และผมคิดว่าพวกเราทำกันสำเร็จ" ผู้ดูแลวิชวลเอฟเฟกต์ อดัม สเติร์น เสริมว่า "พวกเราต้องการสร้างบางสิ่งที่ไม่เพียงแต่น่ากลัว แต่ก็ยังยึดติดกับความสมจริงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย"





           สำหรับ โรเบิร์ต ทาเพิร์ต ความหวังในการสร้างหนังที่จะติดอยู่ในความทรงจำของทุกคน และจะทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหลังจากภาพสุดท้าย ก็คือแรงผลักดันหลักที่จะทำให้ The Possession ออกมาดีที่สุด เขากล่าวสรุปว่า "พวกเราต้องการให้คนดูในโรงรู้สึกแบบนั้น เมื่อหนังสยองขวัญที่คุณเพิ่งได้ดูอ้างอิงมาจากเรื่องจริง และก็อาจเกิดขึ้นกับคุณได้ เรื่องราวของกล่องไม้ดิ๊บบัคคือสิ่งที่พวกเราคิดว่า จะทำให้คนดูต้องรู้สึกกลัวไม่ใช่แค่ในโรงภาพยนตร์ แต่ยังรวมถึงหลังจากพวกเขากลับไปถึงบ้านด้วย"

            สยองทะลุพิกัดหวีด กับกล่องกักผี ที่นรกยังต้องผวา The Possession มันอยู่ในร่างคน 30 สิงหาคมนี้  
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เบื้องหลังการสร้าง The Possession อัปเดตล่าสุด 21 สิงหาคม 2555 เวลา 14:24:32
TOP