ในช่วงปีที่ผ่านมากระแสภาพยนตร์ไทยค่อยข้างคึกคัก มีทั้งค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ทยอยเข้าฉายให้ผู้ที่ชื่นชอบในภาพยนตร์ไทยได้เลือกดูกัน โดยในวันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้รวบรวม 20 อันดับหนังที่กวาดรายได้มากที่สุดในปี 2555 มาให้คอหนังได้ทราบกัน ไปดูกันซิว่า... ภาพยนตร์เรื่องไหน ทำรายได้เท่าไหร่กันบ้าง
สำหรับ 20 อันดับภาพยนตร์ไทยทำเงินมากที่สุด ประจำปี 2555 มีดังนี้
อันดับ 1 : ATM เออรัก เออเร่อ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก GTH
ภาพยนตร์เรื่อง : ATM เออรัก เออเร่อ
วันที่เข้าฉาย : 19 มกราคม 2555
รายได้ : 153,564,029 บาท
เรื่องย่อ
เสือกับจิ๊บพนักงานธนาคาร JNBC แอบลักลอบคบกันเป็นเวลาเกือบ 5 ปีโดยที่ไม่มีใครรู้ เพราะธนาคารนี้มีกฎเหล็ก "ห้ามพนักงานเป็นแฟนกัน" ความอดทนมันมาถึงขีดจำกัดตรงที่ว่าถ้าจะแต่งงาน ใครซักคนก็ต้องยอม "ลาออก แต่งานนี้ไม่มีใครยอมลาออกง่าย ๆ
จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อตู้เอทีเอ็มที่ชลบุรีเกิด "เออเร่อ" จ่ายเงินเกินไป 130,000!!! คู่รักจึงต้องกลายมาเป็นคู่แข่ง ในเดิมพันไล่ล่าตามหาตัวมือมืดที่ได้เงินเกินไปจากเอทีเอ็ม โดยมีเงื่อนไขว่าใครตามเงินได้ครบก่อน อีกฝ่ายต้องยอมลาออก! สงครามระหว่างหนุ่มสาวออฟฟิศคู่นี้จึงเริ่มต้นขึ้นโดยมีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นเดิมพัน!!
อันดับ 2 : รัก 7 ปี ดี 7 หน
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก GTH
ภาพยนตร์เรื่อง : รัก 7 ปี ดี 7 หน
วันที่เข้าฉาย : 26 กรกฎาคม 2555
รายได้ : 66,628,071 บาท
เรื่องย่อ
หนังเรื่องนี้เป็นโปรเจกต์เฉลิมฉลองวาระครบรอบปีที่ 7 ของค่ายหนัง GTH โดยผู้กำกับ 3 รุ่น 3 สไตล์ที่จะมาถ่ายทอดความหมายของคำว่า "Love & Life" ในแต่ละช่วงวัยทั้ง 3 เรื่อง
เริ่มจาก "14" โดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ห้าแพร่ง) ความรักของ ป่วน (จิรายุ ละอองมณี) และ มิลค์ (สุทัตตา อุดมศิลป์) ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ฉับพลันที่ป่วนตัดสินใจเปลี่ยน Status ใน Facebook เป็น "In Relationship" ป่วนโพสต์คลิปเผยแพร่ความรักของตัวเองลงใน YouTube อย่างละเอียดยิบด้วยความภาคภูมิใจและเนิร์ดแฟน หลากหลายคอมเมนต์ ความอยากรู้อยากเห็น และยอด Views ที่พุ่งอย่างไม่หยุดยั้ง ดึงป่วนให้ถลำลึกลงไปในโลกของฟีดแบ็คจากคนที่เขาไม่รู้จัก ส่วนคนที่เขารักนั้น ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งมีค่าน้อยกว่ายอดคลิก Like ในหน้า Wall Facebook ของเขา
ต่อด้วย "21/28" ผลงานของ อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (รถไฟฟ้ามหานะเธอ) เรื่องราวรักนอกจอของอดีตสองซุปเปอร์สตาร์ที่เคยมีหนังร้อยล้านร่วมกันเมื่อ 7 ปีก่อน ปัจจุบันฝ่ายหญิง แหม่ม (คริส หอวัง) ในวัย 28 ยังกระเสือกกระสนหาทางกลับไปยืนแป้นนางเอกอีกครั้ง โอกาสมาถึงเมื่อสตูดิโอเจ้าของหนังประกาศสร้างภาคสอง แต่นั่นหมายถึงต้องได้พระนางคู่เก่าคืนจอ ปัญหาอยู่ที่ จอน (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) นั้นสาปส่งวงการหนีไปเป็นผู้ดูแลสัตว์น้ำใน Siam Ocean World ไปแล้ว แหม่มจึงต้องบากหน้าไปตื๊อแฟนเก่าทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่าย "ดังแล้วทิ้ง" เพียงเพื่อจะพบว่าอดีตพระเอกเจ้าของกล้ามซิกแพ็คได้แปรสภาพเป็นไอ้อ้วนหนัก 80 ที่เกลียดเธออย่างกับขี้ไปซะแล้ว
และเรื่องสุดท้าย "42.195" งานกำกับชิ้นแรกในรอบ 7 ปีของผู้กำกับมือรางวัล จิระ มะลิกุล (15 ค่ำเดือน 11, มหา\'ลัยเหมืองแร่) ซึ่งจับเอาเรื่องราวของชีวิตและการวิ่งมาราธอนมาเปรียบล้อกัน เรื่องราวของ หล่อน (สู่ขวัญ บูลกุล) ผู้ประกาศข่าวสาววัย 40 ที่กำลังหลงแผนที่ชีวิต หล่อนประสบกับความสูญเสียใหญ่หลวงและไม่รู้จะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร จนกระทั่งหล่อนได้พบกับ เขา (นิชคุณ หรเวชกุล) นักวิ่งหนุ่มที่ชวนให้หล่อนเข้าแข่งขันมาราธอน ลมหายใจของหล่อนก็เหมือนจะกลับมามีความหมายอีกครั้ง
อันดับ 3 : วาเลนไทน์ สวีทตี้
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก M๓๙
ภาพยนตร์เรื่อง : วาเลนไทน์ สวีทตี้
วันที่เข้าฉาย : 2 มกราคม 2555
รายได้ : 60,476,315 บาท
เรื่องย่อ
เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากได้ "สภาวะทิ้งตัว" ทุกคนอยากได้ ใครซักคนที่เรารัก ใครซักคนที่รักเรา ใครซักคนที่พึ่งพิงได้ และใครซักคนที่เราสามารถทิ้งทั้งตัวและหัวใจไว้กับเค้าได้ เรื่องราวความรักของคนเหล่านี้ เริ่มต้นขึ้นในคืนวันคริสมาสอีฟ และจบลงในคืนวันวาเลนไทน์
หลายครั้งที่เราสรุปว่า นี่คือตอนจบของความรัก แต่เชื่อเถอะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่จุดจบ แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นด้วยซ้ำ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เราเชื่อได้ว่า ความรักจะจบลงเมื่อไหร่ก็ได้ และความรักจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้เช่นกัน คนรักของเราอาจจะเป็นคนนี้ก็ได้ เป็นคนใหม่ก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนเก่าก็ได้ ความรักเป็นเรื่องที่ไม่ได้สวยงามอย่างเดียว มันมีเรื่องที่เลวร้ายรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อเราเลือกที่จะมีคนรักแล้วล่ะก็ เราควรจะยอมรับทั้งส่วนที่สวยงามและส่วนที่เลวร้ายของคนรักเราด้วย
อันดับ 4 : ยักษ์
วันที่เข้าฉาย : 4 ตุลาคม 2555
รายได้ : 50,649,749 บาท
เรื่องย่อ
เรื่องราวการผจญภัยของ เจ้าเผือก หุ่นกระป๋องจอมซ่าส์ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ และ น้าเขียว หุ่นยักษ์บิ๊กเบิ้มมองโลกแบบบวก ๆ ที่ผ่านการหลับใหลมานานกว่าหลายล้านวัน หลังจากมหาศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่ระหว่าง หุ่นกระป๋องฝ่ายราม กับ หุ่นยักษ์ฝ่ายทศกัณฐ์ ที่จบลงแบบล้างเผ่าพันธุ์ โดยทั้งคู่ต่างตกอยู่ในสภาวะความจำเสื่อมไม่จำอดีต ไม่รู้อนาคต มีเพียงโซ่พิเศษที่ตัดเท่าไหร่ก็ตัดไม่ขาดผูกล่ามให้ทั้งคู่ต้องออกเดินทางและใช้ชีวิตร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง
จากที่ดูเหมือนต่างเป็นส่วนเกินของกันและกัน ค่อย ๆ เรียนรู้มิตรภาพความผูกพัน ช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของทั้งคู่ จนกระทั่งวันหนึ่งที่พวกเขาพร้อมจะเป็นเพื่อนสนิทด้วยความเต็มใจ แต่กลับต้องรู้ชะตากรรม และต้นกำเนิดที่แท้จริงของกันและกัน อันนำไปสู่การตัดสินใจที่ต้องเลือกว่าระหว่าง มิตรภาพ กับ หน้าที่ และ ความเป็นมิตร หรือ ศัตรู
โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครคลาสสิคในมหากาพย์ รามายณะ หนุมาน และ ทศกัณฐ์ ฯลฯ จุดประกายไอเดียถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือให้โลดแล่นเป็นการ์ตูนโดย ประภาส ชลศรานนท์ พร้อมร่วมเดินทางสร้างสรรค์จินตนาการภาพ และเสียงให้เคลื่อนไหวอย่างมหัศจรรย์ จากหลากหลายศิลปินแห่งยุคในแขนงต่าง ๆ เอ็กซ์ - ชัยพร, เสนาหอย, หนุ่ม - สันติสุข, โน้ตอุดม, เหมี่ยว - ปวันรัตน์, ตั๊ก - บริบูรณ์, สแตมป์, ROOM39, นิ้วกลม และอีกหลายร้อยชีวิตที่ไม่ได้เอ่ยนามมาร่วมเนรมิตยักษ์ที่เรารักให้แผลงฤทธิ์บนผืนโลกใบนี้
อันดับ 5 : รักฉันอย่าคิดถึงฉัน (I Miss You)
ภาพยนตร์เรื่อง : รักฉันอย่าคิดถึงฉัน (I Miss You)
วันที่เข้าฉาย : 31 พฤษภาคม 2555
รายได้ : 42,772,719 บาท
เรื่องย่อ
เรื่องราวของแพทย์สาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า บี (รับบทโดย อภิญญา สกุลเจริญสุข) ซึ่งได้เข้ามาทำงานในแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาล และมีหมอธนาเป็นที่ปรึกษา (รับบทโดย เจษฎาภรณ์ ผลดี) นั่นได้ทำให้หมอบีได้รู้ว่า มีเรื่องราวความรักความผูกพันอันลึกซึ้งของหมอธนา กับ หมอนก (รับบทโดย ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) ซึ่งต่อมาได้กลับกลายเป็นความเศร้า เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่คร่าชีวิตหมอนก ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งคู่เตรียมจะแต่งงานกัน ในขณะที่หมอธนายังคงนึกถึงความสุขในความทรงจำเก่า ๆ อยู่เสมอมา
เรื่องราวของแพทย์สาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า บี (รับบทโดย อภิญญา สกุลเจริญสุข) ซึ่งได้เข้ามาทำงานในแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาล และมีหมอธนาเป็นที่ปรึกษา (รับบทโดย เจษฎาภรณ์ ผลดี) นั่นได้ทำให้หมอบีได้รู้ว่า มีเรื่องราวความรักความผูกพันอันลึกซึ้งของหมอธนา กับ หมอนก (รับบทโดย ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) ซึ่งต่อมาได้กลับกลายเป็นความเศร้า เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่คร่าชีวิตหมอนก ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งคู่เตรียมจะแต่งงานกัน ในขณะที่หมอธนายังคงนึกถึงความสุขในความทรงจำเก่า ๆ อยู่เสมอมา
อันดับ 6 : สาระแน โอเซกไก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก M๓๙
ภาพยนตร์เรื่อง : สาระแน โอเซกไก
วันที่เข้าฉาย : 18 ตุลาคม 2555
รายได้ : 39,477,785 บาท
เรื่องย่อ
เมื่อ วิลลี่ & หอย แห่ง สาระแน ได้ต้มตุ๋นดารามาเป็นเวลายาวนานถึง 15 ปีแล้ว จึงทำให้ทั้งคู่เริ่มรู้สึกอยากหาแรงบันดาลใจ และวิธีการใหม่ ๆ ในการแกล้ง ซุป’ตาร์ อย่าง สนุกสนาน และเมามันส์มากกว่านี้ ... วิลลี่ & หอย จึงออกเดินทางไป ประเทศญี่ปุ่น อาณาจักรที่เป็นสุดยอดต้นตำรับการแคนดิดแห่งมวลมนุษยชาติ เมื่อทั้งคู่เดินทางไปถึงกรุง โตเกียว ก็ได้พบกับ สำนักโยชิโมโต้ เทพเจ้าแห่งการแคนดิดที่มีอายุมากถึง 100 ปี!!!.. แต่ยังคงความโหด มันส์ ฮา ไว้ได้ตลอดมา...
ด้วยความประทับใจ วิลลี่ & หอย จึงขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ และทั้งสองก็ได้รับบท ทดสอบสุดหินในการทำภารกิจแคนดิดแกล้ง 5 ซุป’ตาร์ที่รัก (เพราะถ้าไม่รักเราไม่แกล้ง) วิลลี่ & หอย จึงจัดหนัก โดยการล่อลวงให้ ซุป’ตาร์ทั้งห้า เดินทางมาโดนต้มตุ๋นไกลถึง ประเทศญี่ปุ่น ... เมื่อ ซุป’ตาร์ แต่ละคนจะต้องพบกับสถานการณ์สุดโหด ไม่คาดคิด ไม่มีทางรู้ตัว ที่ สาระแน จัดให้ ภารกิจครั้งนี้ 5 ซุป’ตาร์ที่รัก จะยังรัก รักสาระแน โอเซกไก ไหม ?? และ วิลลี่ & หอย จะบรรลุถึงภารกิจของการฝึกวิชาเพื่อขึ้นเป็นสุดยอดแห่งการแกล้งได้ไหม ??? ต้องติดตามในสาระแน โอเซกไก
ด้วยความประทับใจ วิลลี่ & หอย จึงขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ และทั้งสองก็ได้รับบท ทดสอบสุดหินในการทำภารกิจแคนดิดแกล้ง 5 ซุป’ตาร์ที่รัก (เพราะถ้าไม่รักเราไม่แกล้ง) วิลลี่ & หอย จึงจัดหนัก โดยการล่อลวงให้ ซุป’ตาร์ทั้งห้า เดินทางมาโดนต้มตุ๋นไกลถึง ประเทศญี่ปุ่น ... เมื่อ ซุป’ตาร์ แต่ละคนจะต้องพบกับสถานการณ์สุดโหด ไม่คาดคิด ไม่มีทางรู้ตัว ที่ สาระแน จัดให้ ภารกิจครั้งนี้ 5 ซุป’ตาร์ที่รัก จะยังรัก รักสาระแน โอเซกไก ไหม ?? และ วิลลี่ & หอย จะบรรลุถึงภารกิจของการฝึกวิชาเพื่อขึ้นเป็นสุดยอดแห่งการแกล้งได้ไหม ??? ต้องติดตามในสาระแน โอเซกไก
อันดับ 7 : จันดารา ปฐมบท
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สหมงคลฟิล์ม
ภาพยนตร์เรื่อง : จันดารา ปฐมบท
วันที่เข้าฉาย : 6 กันยายน 2555
รายได้ : 38,986,021 บาท
เรื่องย่อ
เรื่องราวโศกนาฏกรรมชีวิตของ จัน ดารา (มาริโอ้ เมาเร่อ) เริ่มต้นนับตั้งแต่เขาถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ณ บ้านพิจิตรวานิชในปี พ.ศ.2458 เขาเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับความตายของมารดาโดยไม่คาดฝัน นั่นทำให้ คุณหลวงวิสนันท์เดชา (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้เป็นบิดาได้ลงโทษทัณฑ์เขาอย่างทารุณราวกับว่าเขาไม่ใช่ลูก พร้อมเรียกขานเขาว่า ไอ้จัญไร
ที่เรือนเล็กในสวนหลังบ้าน จันเติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของ น้าวาด (บงกช คงมาลัย) ญาติสนิทของมารดาจากเมืองพิจิตร และมี เคน กระทิงทอง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) ลูกชายแม่ครัวในบ้านเป็นสหายสนิทเพียงคนเดียวที่จันสามารถเล่าทุกอย่างให้ฟังได้
ต่อมาน้าวาดได้ตกเป็นภรรยาของคุณหลวง และให้กำเนิดลูกสาวสาวชื่อ คุณแก้ว หรือ วิไลเลข (โช นิชิโนะ) อันเป็นที่รักยิ่งของคุณหลวงซึ่งสอนให้หล่อนเกลียดชังจันตั้งแต่จำความได้
ตัวคุณหลวงเองนั้นก็มักมากในกาม บริวารหญิงแทบทั้งสิ้นในบ้านล้วนตกเป็นเมียลับของเขา ซึ่งเมื่อเขามีอารมณ์ที่จะสังวาสกับหญิงคนใดก็กระทำการอย่างเปิดเผยไม่ว่าจะเป็นเวลาใดหรือมุมใดในบ้านหลังนั้นอย่างเสรี จนทำให้เด็กทุกคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น จัน ดารา, เคน กระทิงทอง หรือ คุณแก้ว ล้วนเติบโตขึ้นมาในบรรยากาศแห่งกามตัณหาอย่างที่ไม่สมควรจะเกิดให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กคนใดก็ตาม
เมื่อจันเติบโตเป็นหนุ่ม เขาได้เรียนรู้ประสบการณ์แห่ง "กามคุณ" กับบ่าวหญิงในบ้าน โดยการชักนำของ เคน กระทิงทอง ก่อนที่จันจะได้พบรักอันบริสุทธิ์เป็นครั้งแรกกับ ไฮซินธ์ (สาวิกา ไชยเดช) เพื่อนหญิงร่วมโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำ จนกระทั่งเมื่อคุณหลวงได้พา คุณบุญเลื่อง (รฐา โพธิ์งาม) คนรักเก่าเข้ามาอยู่บ้าน ทำให้จันเกิดความประทับใจในความสง่างามและความอบอุ่นประดุจมารดา ส่วนตัวคุณบุญเลื่องเองก็ประทับใจในความละเอียดอ่อนลึกซึ้งดุจศิลปินของจัน จนมีความสัมพันธ์ลับอันเกินเลย
และแล้ววันหนึ่ง ชะตากรรมได้พลิกผันทำให้จันล่วงรู้ความจริงบางอย่างอันน่าอดสูเกี่ยวกับตระกูลของเขา นั่นทำให้จันตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต เพราะคุณหลวงนั้นเป็นมนุษย์ฉ้อฉลผู้ใช้ทุกกลวิธีในการคดโกงเพื่อครอบครองทรัพย์สินอันมหาศาลแห่งตระกูลพิจิตรวานิช ทำให้จันต้องเดินทางหนีภัยจากพระนครไปพำนักอยู่กับ คุณท้าวพิจิตรรักษา (รัดเกล้า อามระดิษ) ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร เพื่อรอเวลาชำระแค้นและเอาทุกสิ่งทุกอย่างคืนกลับมาเป็นของเขาให้จงได้
เรื่องราวโศกนาฏกรรมชีวิตของ จัน ดารา (มาริโอ้ เมาเร่อ) เริ่มต้นนับตั้งแต่เขาถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ณ บ้านพิจิตรวานิชในปี พ.ศ.2458 เขาเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับความตายของมารดาโดยไม่คาดฝัน นั่นทำให้ คุณหลวงวิสนันท์เดชา (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้เป็นบิดาได้ลงโทษทัณฑ์เขาอย่างทารุณราวกับว่าเขาไม่ใช่ลูก พร้อมเรียกขานเขาว่า ไอ้จัญไร
ที่เรือนเล็กในสวนหลังบ้าน จันเติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของ น้าวาด (บงกช คงมาลัย) ญาติสนิทของมารดาจากเมืองพิจิตร และมี เคน กระทิงทอง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) ลูกชายแม่ครัวในบ้านเป็นสหายสนิทเพียงคนเดียวที่จันสามารถเล่าทุกอย่างให้ฟังได้
ต่อมาน้าวาดได้ตกเป็นภรรยาของคุณหลวง และให้กำเนิดลูกสาวสาวชื่อ คุณแก้ว หรือ วิไลเลข (โช นิชิโนะ) อันเป็นที่รักยิ่งของคุณหลวงซึ่งสอนให้หล่อนเกลียดชังจันตั้งแต่จำความได้
ตัวคุณหลวงเองนั้นก็มักมากในกาม บริวารหญิงแทบทั้งสิ้นในบ้านล้วนตกเป็นเมียลับของเขา ซึ่งเมื่อเขามีอารมณ์ที่จะสังวาสกับหญิงคนใดก็กระทำการอย่างเปิดเผยไม่ว่าจะเป็นเวลาใดหรือมุมใดในบ้านหลังนั้นอย่างเสรี จนทำให้เด็กทุกคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น จัน ดารา, เคน กระทิงทอง หรือ คุณแก้ว ล้วนเติบโตขึ้นมาในบรรยากาศแห่งกามตัณหาอย่างที่ไม่สมควรจะเกิดให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กคนใดก็ตาม
เมื่อจันเติบโตเป็นหนุ่ม เขาได้เรียนรู้ประสบการณ์แห่ง "กามคุณ" กับบ่าวหญิงในบ้าน โดยการชักนำของ เคน กระทิงทอง ก่อนที่จันจะได้พบรักอันบริสุทธิ์เป็นครั้งแรกกับ ไฮซินธ์ (สาวิกา ไชยเดช) เพื่อนหญิงร่วมโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำ จนกระทั่งเมื่อคุณหลวงได้พา คุณบุญเลื่อง (รฐา โพธิ์งาม) คนรักเก่าเข้ามาอยู่บ้าน ทำให้จันเกิดความประทับใจในความสง่างามและความอบอุ่นประดุจมารดา ส่วนตัวคุณบุญเลื่องเองก็ประทับใจในความละเอียดอ่อนลึกซึ้งดุจศิลปินของจัน จนมีความสัมพันธ์ลับอันเกินเลย
และแล้ววันหนึ่ง ชะตากรรมได้พลิกผันทำให้จันล่วงรู้ความจริงบางอย่างอันน่าอดสูเกี่ยวกับตระกูลของเขา นั่นทำให้จันตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต เพราะคุณหลวงนั้นเป็นมนุษย์ฉ้อฉลผู้ใช้ทุกกลวิธีในการคดโกงเพื่อครอบครองทรัพย์สินอันมหาศาลแห่งตระกูลพิจิตรวานิช ทำให้จันต้องเดินทางหนีภัยจากพระนครไปพำนักอยู่กับ คุณท้าวพิจิตรรักษา (รัดเกล้า อามระดิษ) ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร เพื่อรอเวลาชำระแค้นและเอาทุกสิ่งทุกอย่างคืนกลับมาเป็นของเขาให้จงได้
อันดับ 8 : ตีสาม 3D
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไฟว์สตาร์
ภาพยนตร์เรื่อง : ตีสาม 3D
วันที่เข้าฉาย : 22 พฤศจิกายน 2555
รายได้ : 36,538,739 บาท
เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องล่าสุด ที่ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่นเต็มใจเสนอ ความหลอนประสาทครั้งใหม่ กับเวลาอาถรรพ์ที่เหล่าภูติผีและวิญญาณอาฆาตจะปรากฏร่างได้ชัดเจนที่สุด หลอนที่สุด และใกล้ชิดที่สุด กับภาพยนตร์ 3 เรื่อง 3 รส ผลงานของ 3 ผู้กำกับ และเหล่านักแสดงนำมากฝีมือ อาทิ ชาคริต แย้มนาม, เรย์ แม็คโดนัลด์, โทนี่ รากแก่น, ปีเตอร์ ไนท์, ซัน - ประชากร ปิยะสกุลแก้ว, สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข, เกรซ - กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โฟกัส จีระกุล, ฯลฯ
ตีสาม 3D ตอน เกศสยอง มินท์ (สายป่าน) กับ เมย์ (โฟกัส) สองพี่น้องลูกสาวร้านขายวิกผมที่ไม่ค่อยลงรอยกัน เพราะมินท์ ซึ่งเป็นพี่สาว ไม่สนใจจะช่วยงานของร้าน ปล่อยให้เมย์ทำงานร้านอยู่คนเดียว เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในวันที่พ่อกับแม่เดินทางไปต่างประเทศ ทิ้งให้พวกเธออยู่เฝ้าร้านกันตามลำพัง เมย์รับซื้อเส้นผมโดยไม่รู้ถึงที่มาของเส้นผมสวยงามเหล่านั้น ขณะที่มินท์ชวนเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้กันที่บ้านและนำเส้นผมนั้นมาล้อเล่น
ตีสาม 3D ตอน เรือนหอคนตาย ไมค์ (ปีเตอร์) และ เชอรี่ (เกรซ กาญจน์เกล้า) เป็นหนุ่มสาวที่รักกันมากแต่กลับเสียชีวิตก่อนถึงวันแต่งงานเพียงหนึ่งสัปดาห์ และแม้ทั้งคู่จะตายไปแล้ว แต่พ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่ายตกลงใจที่จะเก็บศพของทั้งคู่ไว้ ประหนึ่งว่าทั้งสองยังมีชีวิตอยู่โดยมี ทศ (โทนี่) บุรุษพยาบาลหนุ่มรับหน้าที่ดูแลร่างของทั้งคู่ให้ดูเหมือนไม่เคยจากโลกนี้ไป แต่ทศกลับตกหลุมรักร่างที่ดูงดงามควรค่าแก่การทะนุถนอมของเชอรี่ และความรู้สึกนี้นำมาซึ่งความหลอนที่ไม่อาจคาดเดาบทสรุปได้
ตีสาม 3D ตอน O.T. (Overtime) กลางดึกขณะที่ทั้งออฟฟิศมีข่าวลือว่าผีดุ เหลือเพียง การัน (ชาคริต) กับ ที (เรย์) เจ้าของบริษัทหรูใจกลางเมือง ที่นอกจากจะไม่กลัวผีแล้ว ยังชอบแกล้งคนอื่นให้ตกใจอยู่เสมอ คืนนั้น บั๊ม (ซัน ประชากร) กับ งิ้ง (เตยหอม)ลูกน้องของการันกับที เข้ามาที่ออฟฟิศกลางดึกเพื่อที่จะเคลียร์งานให้ทันส่งตอนเช้า แต่ก็เจอการันกับทีคอยดักแกล้ง
อันดับ 9 : 407 เที่ยวบินผี
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไฟว์สตาร์
ภาพยนตร์เรื่อง : 407 เที่ยวบินผี
วันที่เข้าฉาย :22 มีนาคม 2555
รายได้ : 34,412,033 บาท
เรื่องย่อ
นิว (มาช่า วัฒนพานิช) หัวหน้าแอร์โฮสเตสของสายการบิน Sunset Airlines ที่จะออกเดินทางจาก กรุงเทพ - ภูเก็ต เธอและผู้โดยสารทั้งลำไม่อาจล่วงรู้เลยว่า เที่ยวบินที่ 407 นี้ มีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังรออยู่บนเครื่อง
นิวต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติทันทีที่เครื่องบินลอยสู่ท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นอาการผีเข้าและความน่ากลัวต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ คร่าชีวิตผู้โดยสารจนเหลือไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็คือ จำรัส (ปลาย - ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) กับ เพ็ญ (เอ - อัญชลี หัสดีวิจิตร) สองสามีภรรยา ในครอบครัวที่ฝ่ายหญิงเป็นใหญ่ กิ๊ฟ (จอย - พัชรี ทับทอง) เด็กเก็บกด หมกมุ่นอยู่กับเกมส์, เวฟ (นะโม ทองกำเหนิด) เด็กหนุ่มชะตาขาดที่ตัดสินใจออกจากบ้านมาตั้งตัวที่ภูเก็ต, แอน (แอปเปิ้ล) หญิงสาวสวยนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง, พระบวชใหม่ ที่ตั้งใจจะสึก (มิค - ราชวัติ ขลิบเงิน) และ ปริ๊นส์ (เอ็กซ์ - ฐิติ เวชบุล) สจ๊วตหนุ่มเกย์แตก ทั้งหมดนี้คือคนที่จะต้อง เผชิญชะตากรรมเดียวกัน...รวมทั้ง แบงค์ (ปีเตอร์ ไนท์) วิศวกรประจำสายการบินผู้หลงรักนิวที่ติดมาในใต้ท้องเครื่องแบบไม่รู้ตัวด้วย
พวกเขาตั้งใจที่จะรอดจากวิญญาณเหล่านั้น แต่เหนือกว่านั้นเขาต้องควบคุมจิตตัวเองไม่ให้คลั่งไปกับความหวาดผวา และยังต้องหาวิธีนำเครื่องลงอย่างปลอดภัย บนความสูง 30,000 ฟุต ในพื้นที่อันจำกัด พวกเขาทั้งหมดจะจัดการยังไงกับความกลัว และสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของแต่ละคน
อันดับ 10 : ยอดมนุษย์เงินเดือน
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สหมงคลฟิล์ม
ภาพยนตร์เรื่อง : ยอดมนุษย์เงินเดือน
วันที่เข้าฉาย : 5 ธันวาคม 2555
รายได้ : 32,165,756 บาท
เรื่องย่อ
พวกเขาคือคนที่มีเงินเต็มกระเป๋าตอนต้นเดือน แต่ใช้ได้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็เกิดอาการกระเป๋าแฟบ เจอเพื่อนร่วมงานมากกว่าคนรัก ทำงานหนักเพื่อแย่งกันไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุด Long Weekend เซ็งกับตรรกะล่มสลายของเจ้านาย แต่ก็ต้องจำยอมปฏิบัติตาม และเมื่อเวลากว่าครึ่งชีวิตของพวกเขาอยู่ในที่ทำงาน จึงทำให้เกิดเรื่องราวหลากหลายรสชาติ... ทั้งจริงจังสุดเว่อร์ เหงาเศร้าเคล้าน้ำตา เฮฮาขบขัน ฝันหวานโรแมนติก ฯลฯ
เรื่องราวชีวิตของเหล่าคนที่ถูกขนานนามว่า "มนุษย์เงินเดือน" ปั้น (ติ๊ก - เจษฎาภรณ์ ผลดี) ผู้อำนวยการหนุ่มหล่อผู้วางแผนชีวิตอย่างรอบคอบ, หวาย (โบ - ณัฐชลัยย์ สุขะมงคล) ผู้ช่วยสาวคนใหม่ผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมาของปั้นตลอดเวลา, นุช (ไนซ์ - จิรภา วงศ์โฆษวรรณ) เลขาสาวของเจ้านายใหญ่ ที่ต้องเหนื่อยกับทั้งชีวิตส่วนตัว และเจ้านายที่ขาดมือไม้อย่างเธอไม่ได้, นัน (ดีเจต้นหอม - ศกุนตลา เทียนไพโรจน์) สาวใหญ่ฝ่ายการเงินผู้มีหนี้ท่วมหัวเพราะใช้จ่ายเกินตัว, จือ (เต๋า AF8 - เศรษฐพงษ์ เพียงพอ) เด็กหนุ่มผู้อยากผ่านโปรฯ เพื่อบรรจุเป็นพนักงานประจำ, ชัย (ซ้ง - ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์) หนุ่มใหญ่ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของบริษัทจนทุกคนหมั่นไส้ความชอบเอาหน้าของเขา พวกเขาต้องมาร่วมหัวจมท้ายกันในสุดยอดโปรเจคท์ที่มี "เงินโบนัส" ของทุกคนเป็นเดิมพัน!!!
ภาพจำลองเรื่องราวของเหล่ามนุษย์เงินเดือนผู้มี ความต้องการ ความหวัง และความฝัน ที่แตกต่างกันไปจะลงตัวและลงเอยเช่นไร เงินใช่เหตุผลเดียว ที่ทำให้พวกเขายังมาทำงาน... จริงหรือ "ยอดมนุษย์เงินเดือน" มีคำตอบเป็น "โบนัสชีวิต" ให้คุณ
อันดับ 11 : คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สหมงคลฟิล์ม
ภาพยนตร์เรื่อง : คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์
วันที่เข้าฉาย : 8 กันยายน 2555
รายได้ : 31,626,899 บาท
เรื่องย่อ
ชวด (รับบทโดย แดน - วรเวช ดานุวงศ์) หนุ่มครีเอทีฟ-โปรดิวเซอร์ประจำรายการ เรียลลิตี้ 24 ชั่วโมง ตามติดชีวิตซุป’ตาร์ "หมาแพนดี้" รายการทีวีที่หวังว่าจะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ชนิดรายการหมีแพนด้าต้องชิดซ้าย ชวดตกหลุมรัก ต้นหลิว (รับบทโดย นุช - นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์) พิธีกรสาวสวยทรงเสน่ห์จากรายการ "ที่ซ่อนผี" ที่ดึงดูดให้หนุ่ม ๆ ทั้งประเทศต้องหยุดที่หน้าจอจนรายการเรตติ้งกระฉูด เขาหลงต้นหลิวอย่างหัวปักหัวปำ จนตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้ขอลองดีสักหน่อย เลยตั้งใจจะจีบต้นหลิวอย่างจริงจัง แต่คนที่แค่เห็นหน้าสาวก็ขาสั่นอย่างชวดครั้งนี้ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก เพ็ญ (รับบทโดย แพทตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวพีอาร์สวยใสหัวใจโชเชียล เพื่อนสนิทซี้ย่ำปึ๊กของต้นหลิว ที่ชวดบังเอิญเจอและตัดสินใจว่านี่แหละคนที่จะมาช่วยเขาตัดถนนสร้างทางด่วนตรงสู่หัวใจ ต้นหลิว
เพ็ญยอมช่วยเหลือชวดด้วยความจำยอมเพราะโดนตื้อไม่หยุด ทางด้านเพ็ญเองก็มีแฟนแล้วคือ ปกป้อง (รับบทโดย บีม - กวี ตันจรารักษ์) คุณหมอหนุ่มสุดเพอร์เฟคทั้งหล่อทั้งรวย ที่ดูแลเพ็ญเป็นอย่างดีสมชื่อปกป้อง จนเหมือน "พ่อ" ซะมากกว่าแฟน คอยคุมทุกอย่างในชีวิตเพ็ญให้เป๊ะ ๆ จนบางครั้งเพ็ญก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกทำให้พวกเขามาพัวพันกัน ที่นำไปสู่การค้นพบคำตอบของ "ความรัก" ผ่านบทพิสูจน์ของหัวใจที่จะเกิดขึ้น ภายใน 3 วัน 2คืน ช่วงเวลาต้องมนต์สั้น ๆ ที่เรียกว่า คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์
อันดับ 12 : อันธพาล
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สหมงคลฟิล์ม
ภาพยนตร์เรื่อง : อันธพาล
วันที่เข้าฉาย : 14 มิถุนายน 2555
รายได้ : 27,133,221 บาท
เรื่องย่อ
ยุคที่ อันธพาล โด่งดังไปทั่วราชอาณาจักรของเมืองไทย เหล่าอันธพาลต่างถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ ผู้คนมากมายต่างนับหน้าถือตาในยุคนั้น ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ประกาศออกกฎหมายซ่องโจร กวาดล้างและปราบปรามอันธพาลครั้งใหญ่ จากฮีโร่กลับกลายเป็นผู้ร้ายหนีคุกทันที บ้างก็ถูกยิงตายข้างถนนอย่างไม่เหลือเกียรติใด ๆ รวมถึงอันธพาลดาวดังที่ชื่อ แดง กับ จ๊อด ก็ยังถูกจับติดคุกอยู่นานถึง 4 ปี มันคือสิ่งที่ถูกกล่าวขานกันมานาน
จากยุคร็อกแอนด์โรล เข้าสู่ยุคฮิปปี้ การกลับมาของอันธพาลรุ่นเก๋า จ๊อด (รับบทโดย กฤษดา สุโกศล แคลปป์)และ แดง (รับบทโดย เต๋า - สมชาย เข็มกลัด) เมื่อเส้นทางแห่งการเป็นนักเลงอันธพาลถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อย แดงชวน จ๊อดร่วมงานกับแก๊งเจ้าพ่อใหญ่
ยุคที่ อันธพาล โด่งดังไปทั่วราชอาณาจักรของเมืองไทย เหล่าอันธพาลต่างถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ ผู้คนมากมายต่างนับหน้าถือตาในยุคนั้น ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ประกาศออกกฎหมายซ่องโจร กวาดล้างและปราบปรามอันธพาลครั้งใหญ่ จากฮีโร่กลับกลายเป็นผู้ร้ายหนีคุกทันที บ้างก็ถูกยิงตายข้างถนนอย่างไม่เหลือเกียรติใด ๆ รวมถึงอันธพาลดาวดังที่ชื่อ แดง กับ จ๊อด ก็ยังถูกจับติดคุกอยู่นานถึง 4 ปี มันคือสิ่งที่ถูกกล่าวขานกันมานาน
จากยุคร็อกแอนด์โรล เข้าสู่ยุคฮิปปี้ การกลับมาของอันธพาลรุ่นเก๋า จ๊อด (รับบทโดย กฤษดา สุโกศล แคลปป์)และ แดง (รับบทโดย เต๋า - สมชาย เข็มกลัด) เมื่อเส้นทางแห่งการเป็นนักเลงอันธพาลถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อย แดงชวน จ๊อดร่วมงานกับแก๊งเจ้าพ่อใหญ่
โดยทำหน้าที่เป็นผู้คุมบาร์และตามเก็บทวงหนี้ จนทำให้ได้รู้จักกับอันธพาลรุ่นน้องสุดห้าว ธง (รับบทโดย สาครินทร์ สุธรรมสมัย) และ เปี๊ยก (รับบทโดย กฤษฎา สุภาพพร้อม) ที่ยกให้ทั้งคู่เป็นฮีโร่รุ่นพี่นักเลงในดวงใจ และฝันไว้สักวันจะต้องเป็นอันธพาลที่มีชื่อเสียงเหมือน แดง กับ จ๊อด ให้ได้
แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อจ๊อดเริ่มเข้าใจและรู้ซึ้งถึงความหมายของวงการนักเลงอันธพาลอย่างถ่องแท้ การใช้กำลังไม่ใช่หนทางที่ทำให้ผู้คนนับถือ ทัศนคติและมุมมองที่ต่างกันของคน 2 วัย กลับเป็นกระจกสะท้อนของกันและกันให้ได้เรียนรู้ถึง "ชีวิตที่ผ่านพ้น" กับ "ชีวิตที่กำลังจะเติบโต" ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและขัดแย้งที่เกิดขึ้น ชะตากรรมของพวกเขาจะเป็นอย่างไร เมื่อพวกเขาเลือกเดินบนเส้นทางที่เรียกว่า อันธพาล
อันดับ 13 : หอแต๋วแตกแหวกมว๊ากมว๊าก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กทางการภาพยนตร์ หอแต๋วแตก
ภาพยนตร์เรื่อง : หอแต๋วแตกแหวกมว๊ากมว๊าก
วันที่เข้าฉาย : 23 ตุลาคม 2555
รายได้ : 26,058,360 บาท
เรื่องย่อ
เจ๊แต๋วได้เปิดหอพักใหม่กลางใจเมือง โดยมีเจ๊มดดำ เจ๊การ์ตูน และอาโคยคอยช่วยเหลือดูแลหอพักเช่นเคย แต่แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ที่ชวนสยอง เมื่อกอฟแฟนสาวของเพชร หนึ่งในผู้เช่าห้องพักของเจ๊แต๋ว เกิดฆ่าตัวตายในห้องพักของแฟนหนุ่ม
อันดับ 14 : Yes Or No 2 อยากรักก็รักเลย
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กทางการภาพยนตร์ Yes or no 2 รักไม่รัก อย่ากั๊กเลย
ภาพยนตร์เรื่อง : Yes Or No 2 อยากรักก็รักเลย
วันที่เข้าฉาย : 16 สิงหาคม 2555
รายได้ : 25,602,638 บาท
เรื่องย่อ
อันดับ 15 : เค้าเรียกผมว่าความรัก
ภาพยนตร์เรื่อง : เค้าเรียกผมว่าความรัก
วันที่เข้าฉาย : 11 ตุลาคม 2555
รายได้ : 23,672,989 บาท
เรื่องย่อ
ตั้งแต่เด็กจนวัยรุ่น คิว (เป้ - อารักษ์) เป็นหนุ่มหล่อ เท่ห์ และป๊อปปูล่าที่สุดในโรงเรียน อยู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงตัวอ้วน ๆ ใส่แว่นตาหนาเตอะข้างบ้านอย่าง เก้อ (โบ - ธัญญะสุภางค์) มาแอบสารภาพรัก เขาจึงล้อเธอและแกล้งเธออย่างไม่ใส่ใจความรู้สึกของเก้อเลยแม้แต่น้อย วินาทีนั้นทำให้เก้อเสียใจมากจนถึงกับประกาศก้องว่า... ถ้าวันใดที่เธอสวย ขึ้นมาเธอจะไม่มีวันรับรักคิวเด็ดขาด ซึ่งคิวก็เชื่อว่าจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน จนเมื่อเก้อโตขึ้นเธอสวยราวกับนางฟ้า หนุ่ม ๆ ต่างรุมล้อมเธอผิดกลับคิวเมื่อโตขึ้นความฮอต ความป๊อปปูล่าที่เคยมีก็กลับหดหาย กลายเป็นแค่หนุ่มเซลล์แมนห่วย ๆ คนหนึ่งในบริษัทฯ ของบิ๊ก เพื่อนเก่าสมัยประถมที่เคยถูกคิวแกล้งจนต้องย้ายโรงเรียนหนี
จนวันหนึ่งที่คิวเผลอคลิกเว็บไซต์หนึ่งเข้าไปแบบไม่ตั้งใจ เขาถูกชักชวนให้เข้าไปประชุมลับกับองค์กรกามเทพ โดยกฎเหล็กขององค์กรนี้มีอยู่ว่า... กามเทพมีหน้าที่ทำให้คนอื่นรักกันเท่านั้น และไม่มีสิทธิ์ที่จะรักกับใครได้เลย อ้าว!! งานเข้าคิวแล้วล่ะซิ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเขาจะรักกับเก้อได้ยังไง!? แล้วกามเทพมือใหม่อย่างคิวจะทำภารกิจต่าง ๆ ได้สำเร็จหรือไม่?? ติดตามคำตอบได้ใน เค้าเรียกผมว่าความรัก ภาพยนตร์รักที่จะมาทำให้หัวใจทุกดวงได้พองโต
ภาพยนตร์เรื่อง : มะหมา 4 ขาครับ ภาค 2
วันที่เข้าฉาย : 5 เมษายน 2555
รายได้ : 22,517,423 บาท
เรื่องย่อ
นับจาก ลุงกาแฟ ลาไปเฝ้าพระอินทร์บนสรวงสวรรค์แบบ ตั๋วไปเที่ยวเดียว (One Way Ticket) เหล่ามะหมา ซึ่งต่างแยกย้ายกันไปดำเนินชีวิตของตนเอง ก็จะมารวมตัวกันปีละครั้ง เพื่อรำลึกถึง ลุงกาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคำสอนที่ก้องอยู่ในหัวใจของ เหล่ามะหมาคือ "ต้องรู้จักรัก และสามัคคี เพื่อนต้องช่วยเพื่อน"
วันนี้ พิกุล ได้รับเลือกขึ้นมาเป็นจ่าฝูงแทนลุงกาแฟ ส่วน เปี๊ยก เก่ง เซ็กซี่ ก็ยังคอยติดต่อถามสารทุกข์สุกดิบกันเนือง ๆ ในวันดังกล่าว มะหมาทั้งสี่ ได้พบกับ เจ๋อ ที่กำลังตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีลักพาลูกชายเจ้านายคือ น้องว่าน ทั้งที่ความจริงแล้ว เจ๋อ เป็นฝ่ายพยายามจะปกป้องน้องว่านจากวายร้าย องอาจ ที่มีอาการทางประสาทเนื่องจาก สมองได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของเหล่ามะหมาเมื่อภาคก่อน ขณะเดียวกัน องอาจ ได้หลบหนีจากโรงพยาบาลบ้า และเป็นคนลักพาน้องว่านไป
ขณะเดียวกับที่มะหมาทั้งสี่ได้ถูกจับตัวไปโดยแก๊งล่าสุนัข เจ๋อ ได้เข้าช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เหล่ามะหมาจึงตอบแทนบุญคุณ เจ๋อ โดยการช่วยกันออกตามหา น้องว่าน วีรกรรมของ กลุ่มมะหมา และ เจ๋อ ที่จะต้องหนีตายจากการไล่ล่าของชาวบ้านที่เข้าใจผิดว่า เจ๋อ เป็นหมาที่ทำร้ายเด็ก จนตั้งฉายาว่า "เจ๋อ สุนัขปีศาจ" มะหมา ภาค 2 นี้จะวัดความสามัคคีของคำว่าเพื่อน ได้อีกหรือไม่
เมื่อสังคมถูกครอบงำด้วยเทคโนโลยีอย่าง Social Network อะไรจะเกิดขึ้น (ใกล้ตัวผู้ชมล่ะคร๊าบ!) บอกได้แต่เพียงว่าครั้งนี้ "จา พนม" จะอายเมื่อมาเจอ ลีลา "เจ๋อ พนม" พร้อมแก๊งมะหมาตื่นเต้นจนเผลอเหยียบเบรคลุ้นกันตัวโก่ง เรียกว่า ฮาไป..ลุ้นไป..น้ำหูน้ำตาไหล ประทับใจไม่แพ้ภาคที่แล้ว
อันดับ 17 : ปัญญาเรณู ภาค 2
ภาพยนตร์เรื่อง : ปัญญาเรณู ภาค 2
วันที่เข้าฉาย : 26 มกราคม 2555
รายได้ : 19,466,154 บาท
เรื่องย่อ
หลังเหตุการณ์ทั้งดีและร้ายในภาคแรกได้ผ่านพ้นไป และถึงแม้ "วงโปงลางหนหวย" ที่ "ปัญญา" (โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี) และ "เรณู" (สุธิดา หงษา) เป็นสมาชิกอยู่จะไม่ได้เข้าแข่งขันในระดับจังหวัดก็ตาม แต่ทั้งคู่และหมู่เพื่อนก็กลับมาใช้ชีวิตในวัยเด็ก ณ หมู่บ้านโคกสะอาด อย่างสนุกสนานเช่นเคย
แต่เรื่องรักวุ่น ๆ ของรุ่นเล็กก็ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อเรณูอยากจะใกล้ชิดกับปัญญาให้มากขึ้น...อีกนิดนึง แผนการเอาชนะใจปัญญาจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมี "อภัสรา" (ตุ๊กกี้ สามช่า) อดีตสาวรำวงผู้มั่นใจในความสวยของตนเอง มาเป็นกุนซือคอยช่วยเหลือทุกจังหวะ "ตื๊อสุดติ่งชิงใจเธอ" ไม่ว่าปัญญาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เรณูและอภัสราจะต้องเข้าไปสร้างความปั่นป่วนกวนใจปัญญาทุกครั้งไป
ด้านปัญญานั้นก็มี "บักจอบ" (บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว) เพื่อนสนิทช่างจ้อ และ "พี่กิ๋ง " (หม่ำ จ๊กมก) หนุ่มรุ่นพี่ปากร้ายใจดีมาเป็นตัวช่วยกันท่าเว้นวรรคสองสาวให้ห่างจากปัญญาเช่นกัน
จากเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้อภัสราได้พบกับพี่กิ๋งอยู่บ่อย ๆ แต่ด้วยความไม่กินเส้นทำให้ต้องปะทะคารมกันทุกครั้งที่เจอ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตลอดเวลา แต่นานวันเข้าจังหวะหัวใจกลับเต้นไม่เหมือนเดิม เอาล่ะสิ จังซี่มันต้องถอน...
เรื่องรักวุ่น ๆ ที่บ้านนาดูเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี ก็ดันมีเหตุให้ว้าวุ่นหัวใจเมื่อ "มิว" (ธฤศวรรณ กาหาวงษ์)และ "กี่" (พงษ์สิทธิ์ นาเวียง) เพื่อนจากเมืองกรุงที่เคยช่วยปัญญาและเรณูไว้ ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากปัญญาและเรณูให้เข้าร่วมแข่งขันร้องเพลงที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน งานนี้ทำเอาเรณูเกิดอาการหวงปัญญาขึ้นมาทันควัน เมื่อเห็นมิวกับปัญญาสนิทกันเกินหน้าเกินตา
เมื่อปัญญาและเรณูพร้อมหมู่เพื่อนตกลงปลงใจจะเข้าร่วมการแข่งขัน ทุกคนต่างก็ตั้งใจฝึกซ้อมโดยมีอภัสราผู้มากทักษะทางการเต้นคอยช่วยฝึกซ้อมอย่างเต็มที่
และแล้วเวลาสำคัญก็มาถึง เมื่อทีมของปัญญาและเรณูเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปแข่งขัน แต่ระหว่างทางปัญญาเกิดหายตัวไปอย่างไม่คาดฝัน ทำให้ทั้งทีมต้องกังวลกับการหายตัวไปของปัญญา โดยเฉพาะเรณูที่เอาแต่เป็นห่วงปัญญาจนไม่มีสมาธิในการแข่งขันครั้งนี้แล้ว...
เรื่องราวจะจบลงเช่นไร อภัสราและเรณูจะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไง ปัญญาจะกลับมาทันการแข่งขันหรือไม่ รักวุ่น ๆ ของรุ่นเล็กจะอลเวงแค่ไหน... เอาใจช่วยปัญญากับเรณูพร้อมหมู่เพื่อนด้วยเด้อจ้า
อันดับ 18 : ชัมบาลา
ภาพยนตร์เรื่อง : ชัมบาลา
วันที่เข้าฉาย : 23 สิงหาคม 2555
รายได้ : 18,458,366 บาท
เรื่องย่อ
วุฒิ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ชายหนุ่มสุดเซอร์ผู้ที่ยึดมั่นในความรักมากกว่าสิ่งใด และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ น้ำ (ฝน - นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล) แฟนสาวผู้ที่ฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เธอจะเดินทางไปถึง ชัมบาลา ดินแดนที่ผู้คนเชื่อกันว่า เป็นประตูของโลกที่อยู่ในจุดที่ใกล้กับสวรรค์มากที่สุด
แต่เมื่อร่างกายที่ไม่อำนวยเธอจึงยกความฝันนั้นให้แก่วุฒิ ไปเยือนชัมบาลาแทนเธอ วุฒิแบกความหวังของน้ำโดยหวังที่จะเติมเต็มความฝันครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป เดินทางสู่ชัมบาลา พร้อมกับ ทิน (อนันดา เอเวอริงแฮม) พี่ชายสุดกาก แถม ไม่กินเส้น ที่อาสาเดินทางไปเป็นเพื่อนถ่ายภาพ ช่วยเก็บหลักฐานการเยือนทิเบตของวุฒิ และ สักครั้งที่เขาทั้งคู่จะไปถึงชัมบาลา
ทินเดินทางสู่ชัมบาลา พร้อมการแบกความหลังของความผิดหวังจาก เจน (โอซา แวง) หญิงสาวที่เขารัก ฉากหน้าเขาเลือกที่จะเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งนี้ เพียงเพื่อเป็นตัวป่วนน้องชาย แต่ส่วนลึกในใจ เขาไปเพื่อลืมบางอย่างในก้นบึ้งหัวใจของเขา
อาการหนาว ความเหนื่อย แรงกดอากาศสูง และ ออกซิเจนที่น้อยเกินไป กลายเป็นคำถามในใจของพี่น้องคู่นี้ ว่า เส้นทางที่พวกเขาเดินไป จะใช่เส้นทางสู่สวรรค์อย่าง ชัมบาลา แน่หรือ หาคำตอบได้
แต่เมื่อร่างกายที่ไม่อำนวยเธอจึงยกความฝันนั้นให้แก่วุฒิ ไปเยือนชัมบาลาแทนเธอ วุฒิแบกความหวังของน้ำโดยหวังที่จะเติมเต็มความฝันครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป เดินทางสู่ชัมบาลา พร้อมกับ ทิน (อนันดา เอเวอริงแฮม) พี่ชายสุดกาก แถม ไม่กินเส้น ที่อาสาเดินทางไปเป็นเพื่อนถ่ายภาพ ช่วยเก็บหลักฐานการเยือนทิเบตของวุฒิ และ สักครั้งที่เขาทั้งคู่จะไปถึงชัมบาลา
ทินเดินทางสู่ชัมบาลา พร้อมการแบกความหลังของความผิดหวังจาก เจน (โอซา แวง) หญิงสาวที่เขารัก ฉากหน้าเขาเลือกที่จะเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งนี้ เพียงเพื่อเป็นตัวป่วนน้องชาย แต่ส่วนลึกในใจ เขาไปเพื่อลืมบางอย่างในก้นบึ้งหัวใจของเขา
อาการหนาว ความเหนื่อย แรงกดอากาศสูง และ ออกซิเจนที่น้อยเกินไป กลายเป็นคำถามในใจของพี่น้องคู่นี้ ว่า เส้นทางที่พวกเขาเดินไป จะใช่เส้นทางสู่สวรรค์อย่าง ชัมบาลา แน่หรือ หาคำตอบได้
อันดับ 19 : Echo จิ๋วก้องโลก
ภาพยนตร์เรื่อง : Echo จิ๋วก้องโลก
วันที่เข้าฉาย : 2 กันยายน 2555
รายได้ : 16,747,697 บาท
เรื่องย่อ
เรื่องราวการผจญภัยของ จ่อเป และ หน่อวา สองพี่น้องชาวกะเหรี่ยง ผู้เดินทางจากหมู่บ้านกลางป่าลึกทางภาคเหนือของไทย สู่มหานครอันแสนวุ่นวาย เพื่อช่วยโลกจากภัยพิบัติที่ไม่มีใครคาดถึง
จ่อเป เป็นเด็กน้อยที่มีความสามารถพิเศษในการพูดคุยกับธรรมชาติ หน่อวา เป็นเด็กสาวผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร และศิลปะการต่อสู้แบบกะเหรี่ยง ทั้งสองได้พบกับ แซม ลูกชายประธานาธิบดีแห่ง Capital State ซึ่งมาเข้าค่ายลูกเสือโลกที่เมืองไทย และเกิดพลัดหลงเข้าไปในป่าหมอก เมื่อ จ่อเป และ หน่อวา ได้ช่วยเขาไว้ มิตรภาพของเด็กทั้งสามก็เริ่มต้นขึ้น
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ภาวะโลกร้อนที่ขึ้นสูงเกินพิกัดได้ก่อให้เกิด ปีศาจความร้อน BUCT มันขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และสร้างความเสียหายมหาศาล ด้วยการดูดกินพลังงานทั่วโลก เพื่อแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ บรรดาผู้นำโลกตัดสินใจใช้อาวุธที่รู้จักกันในนาม Cool Bomb เข้าจัดการกับปีศาจความร้อน
มีแต่เพียงจ่อเป หน่อวา และแซมเท่านั้นที่รู้ว่า นั่นไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง Cool Bomb จะสร้างผลร้ายตามมา จนทำให้มนุษยชาติต้องสูญสิ้นไปตลอดกาล! ทางเดียวที่จะช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากมหันตภัย คือการหยุดใช้พลังงานทุกอย่าง
อันดับ 20 : ความรัก ความสุข ความทรงจำ (Home)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สหมงคลฟิล์ม
ภาพยนตร์เรื่อง : ความรัก ความสุข ความทรงจำ (Home)
วันที่เข้าฉาย : 19 เมษายน 2555
รายได้ : 16,264,951 บาท
เรื่องย่อ
คืนสุดท้ายก่อนจบจากโรงเรียน เน (จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล) เลือกใช้วันสุดท้ายของชีวิต นักเรียน ม.6 เก็บทุกเรื่องราวความทรงจำลงบนภาพถ่าย โดยไม่ได้คิดว่าจะมีใครยังอยู่ที่โรงเรียน จนกระทั่งเขาได้พบกับรุ่นน้อง ม.3 จอมกวนบีม (กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) นักกีฬาบาสของโรงเรียน ที่ย่องมาขอภาพถ่ายสาวสวยในฝันที่ตัวเองแอบชอบจากช่างกล้องมือหนึ่งในโรงเรียนอย่างเขา มิตรภาพของรุ่นพี่-รุ่นน้องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนสุดท้ายก่อนจบการศึกษาในสถานที่ที่เป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของเด็กทุกคน กับบทสนทนาเรื่องราวต่างๆของช่วงชีวิตที่ผ่านมาในอดีต ทำให้มีอะไรบางอย่างที่เชื่อมถึงกันเกิดขึ้น
ในวันที่ บัวจัน (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ต้องสูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ ทุกสิ่งในบ้านเธอจึงต้องกลายเป็นผู้ดูแลทุกอย่าง ทั้งบ้าน คนงาน หนี้สิน รวมถึงความรักของหลาน 2 คน เหว่า (ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์) กับ ชมภู่ (ทิพปภา แซ่โง้ว) และกระดาษแผ่นเล็กๆที่สามีเขียนไว้ดูต่างหน้า กับความทรงจำดีๆที่ยังอยู่ คำสัญญาที่ให้กันไว้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ยิ่งเสมือนเป็นสิ่งตอกย้ำตลอดเวลา บัวจันจะผ่านพ้นและลืมรักครั้งนี้ได้อย่างไร
ก่อนงานวิวาห์จะเริ่มต้นระหว่าง เสี่ยเล้ง (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) นักธุรกิจหนุ่มชาวใต้ และ ปรียา (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ว่าที่เจ้าสาว ที่กลับมาจัดงานแต่งงานที่เชียงใหม่ เพื่อเติมเต็มความฝันให้สวยหรูสมใจ ณ บ้านเกิด โดยมีน้องชาย เลี่ยม (วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล) และ น้าอร (พุทธชาด พงศ์สุชาติ) อาสาเป็นผู้เนรมิตงานแต่งให้สมดังใจของเธอ แต่การกลับมาบ้านครั้งนี้ ทำให้ปรียาได้พบกับ พี่เป๊ก (สุพจน์ จันทร์เรือง) อดีตคนรักครั้งแรกของเธอ ที่เขามาพร้อมกับการทวงถามสัญญาและความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน เมื่อความรัก ความทรงจำย้อนกลับมาอีกครั้ง ปรียาจะตัดสินใจเลือกรักและมีความสุขกับใครก่อนวันแต่งงานของเธอครั้งนี้
ทั้งนี้ ในปี 2555 มีภาพยนตร์ไทยเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่สามารถทำเงินทะลุ 100 ล้านบาท นั่นคือ ATM เออรัก เออเร่อ ของค่าย GTH ส่วนภาพยนตร์ที่ทำรายได้น้อยที่สุด ได้แก่ เด็กสาว จากค่าย Bloom ซึ่งทำเงินเพียง 5 หมื่นบาทเท่านั้น
ส่วนในปีหน้าจะมีภาพยนตร์ใหม่เรื่องไหนที่ทำรายได้สูงสุด และทำรายได้น้อยสุดนั้น ทีมงานกระปุกดอทคอมก็จะเกาะติดข่าวและนำมารายงานให้ทราบกันแน่นอนค่ะ