เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก hollywood.com
การเป็นดาราตั้งแต่ในวัยเด็ก อาจเป็นเหมือนความฝันอันหอมหวานสำหรับใครหลายคน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นฝันร้ายได้เหมือนกัน เพราะถ้าไม่โด่งดังเปรี้ยงปร้างไปเลย บางคนก็อาจหายหน้าหายตาถูกลืมเลือนไปในเวลาสั้น ๆ หรือกลายเป็นเด็กมีปัญหาติดยาเสพติดหรือเหล้าขนาดหนัก เพราะต้องรับมือกับแสงสีที่มากมายจนปวดหัวตั้งแต่เด็กก็ได้
ทำให้มีทั้งพ่อแม่ที่คัดค้านหัวชนฝา หรือสนับสนุนลูกเต็มที่ด้วยการพาไปตระเวนประกวดด้วยเหมือนกัน ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมได้คัดเอา 15 ดาราจาก 30 คนดังในวัยเด็กจากเว็บไซต์ hollywood.com มาฝากกัน ลองมาดูกันซิว่า คุณยังจำพวกเขาได้หรือไม่ และตอนนี้เด็กที่คุณเคยชื่นชมเอ็นดูเหล่านี้ เขามีชีวิตปัจจุบันอย่างไรกันบ้าง
1. บาร์เร็ต โอลิเวอร์ (Barret Oliver) - The NeverEnding Story
เมื่อปี 1984 บทบาทของเด็กน้อยที่หลุดเข้าไปในนิทานแฟนตาซีเรื่อง The NeverEnding Story ได้ทำให้หลาย ๆ คนประทับใจกันมาแล้ว ซึ่งเขาเลือกเดินทางที่หลุดออกไปจากวงการมายาอย่างสิ้นเชิง โดยเข้าร่วมบริษัทเกี่ยวกับการวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์เมื่อปี 1989 และแต่งงาน จากนั้นก็หย่ากับภรรยาในวัยเพียง 19 ปี ส่วนปัจจุบันเขาได้กลับมาวนเวียนกับวงการหนังสือไม่ต่างจากหนังแจ้งเกิดของตัวเอง เมื่อเขากลายเป็นนักเขียนให้กับหนังสือเรื่อง A History of the Woodburytype
2. แคร์รีย์ เฮนน์ (Carrie Henn) - Aliens
หนูน้อยที่เคยคว้ารางวัล Saturn Award มาแล้ว จากผลงานเรื่อง Aliens เมื่อปี 1986 ตัดสินใจให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่เธอแสดงเท่านั้น เมื่อเธอยุติอาชีพนักแสดงลงทันที เพราะพ่อของเธอถูกย้ายงานให้ไปทำงานกับกองทัพอากาศนอกรัฐลอสแองเจลิส ส่วนปัจจุบันแคร์รีย์ได้ยึดอาชีพเป็นครูสาวใจดีของเด็ก ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
3. เอเรียนา ริชาร์ดส (Ariana Richards) - Jurassic Park
หลังจากแจ้งเกิดใน Jurassic Park กับบทบาทพี่สาวคนเก่งแล้ว สาวเอเรียนาปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอเพลง Brick ของวง Ben Folds Five รวมทั้งมีผลงานการแสดงมากมาย ก่อนจะเกิดตกหลุมรักวงการศิลปะเข้าอย่างจัง จนผันตัวมาเป็นศิลปินขายรูปพิมพ์ให้กับ Universal Studio และแม้แต่ สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ที่เคยร่วมงานกันมาก่อน ก็มีภาพเขียนของเธอประดับสำนักงานอยู่ด้วยเหมือนกัน อย่างไรก็ดี เธอยังไม่ละทิ้งการแสดงเสียทีเดียว แต่ยังคงทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป โดยปีนี้เธอมีผลงานทีวีซีรีส์เรื่อง Battledogs รวมอยู่ด้วย
4. โจเซฟ มาซเซลโล (Joseph Mazzello) - Jurassic Park
นอกจากเอเรียนาแล้ว โจเซฟก็เป็นอีกคนที่ฉายแววดาราแต่เด็กด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งพอโตขึ้นเป็นหนุ่มหล่อเต็มตัว เขาก็ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ดังเรื่อง Social Network และเข้าศึกษาที่ University of Southern California (USC) สาขาภาพยนตร์และผลิตรายการโทรทัศน์ ส่วนปีนี้เขามีผลงาน 2 เรื่องรออยู่ ซึ่งก็คือภาพยนตร์ G.I. Joe: Retaliation และทีวีซีรีส์ Justified นั่นเอง
5. แอมเบอร์ สก็อต (Amber Scott) - Hook
แม้แต่ในวัยเด็ก แอมเบอร์ก็ฉายแววความสวยมาตลอด จากบทบาทลูกสาวของ ปีเตอร์ แพน ในเรื่อง Hook โดยเฉพาะตอนที่เธอร้องเพลงด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสานั้น ยิ่งสะกดคนดูได้อยู่หมัดเลยทีเดียว แต่เรื่องราวของเธอนั้นลึกลับพอ ๆ กับเมือง Neverland ในหนังแจ้งเกิดของเธอเชียวล่ะ เพราะนอกจากข้อมูลว่าเธอศึกษาอยู่ที่ Trinity College เราก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสาวคนนี้เลย
6. แดนนี คุกซี (Danny Cooksey) - Terminator 2
แม้ว่าเขาเพียงแค่รับบทเป็นเพื่อนของตัวเอก จอห์น คอนเนอร์ เท่านั้น แต่ใคร ๆ ก็ประทับใจหนุ่มน้อยคนนี้ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็มีผลงานเรื่องอื่น ๆ ออกมาให้เราได้ชมกันอีก ไม่ว่าจะเป็น Salute Your Shorts รวมถึง Diff\'rent Strokes และแม้ว่าปัจจุบันเราจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเขาสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังคุ้นเคยกับงานของเขาเป็นอย่างดี เพราะตอนนี้เขาได้หันมาพากย์เสียงให้แอนิเมชั่นเช่น The Lorax แล้ว
7. Bradley Pierce (แบรดลีย์ เพียซ) - Jumanji
หนุ่มน้อยน่ารักที่เรารู้จักกันดีจากภาพยนตร์เรื่อง Jumanji อีกทั้งยังเป็นคนพากย์เสียงของเด็กที่ถูกสาปให้เป็นถ้วยน้ำชาใน Beauty and the beast คนนี้ ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Down to You เมื่อปี 2000 ก่อนจะอุทิศตัวเลี้ยงลูกทั้ง 2 คน และทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ รวมถึงทำงานร่วมกับมูลนิธิมากมายด้วยเช่นกัน
8. รอส แบ็กลีย์ (Ross Bagley) - Independence Day
แม้ว่าบทบาทลูกชายของ วิลล์ สมิธ (Will Smith) เมื่อปี 1996 ในเรื่อง Independence Day จะทำให้หลาย ๆ คนเอ็นดูเด็กคนนี้ แต่ดูท่าอาชีพด้านการแสดงของเขาจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากนั้นเขาก็หายหน้าหายตาจากวงการไปเลย ก่อนจะมีโอกาสได้โชว์ตัวในทีวีซีรีส์เรื่อง Judging Amy ในปี 2004 ส่วนปัจจุบัน รอสกำลังศึกษาด้านการแสดงอยู่ที่ California State University
9. ลีเซล แมทธิวส์ (Liesel Matthews) - Air Force One
สาวน้อยคนนี้มีผลงานการแสดงเพียงแค่ 2 เรื่องเท่านั้น ซึ่งก็คือ Air Force One และ The Little Princess แต่ไม่ต้องห่วงว่าเธอจะขัดสนเรื่องการเงินเลย เพราะเธอทำเงินได้มากกว่าการเล่นหนังในฮอลลีวูดเป็นไหน ๆ ในเมื่อเธอเป็นผู้รับมรดกตระกูลไฮแอท แถมยังได้รับเงิน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6 หมื่นล้านบาท) จากการฟ้องร้องภายในครอบครัวอีกต่างหาก
10. จอร์จิโอ คานตารินี่ (Giorgio Cantarini) - Life Is Beautiful
นอกจากเรื่อง Life Is Beautiful เมื่อปี 1997 แล้ว ผลงานอีกเรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กันของเขาก็คือ Gladiator ที่คว้ารางวัล Academy Award มาแล้วนั่นเอง แต่ผลงานเรื่องอื่น ๆ ของเขาดูจะเงียบอยู่สักหน่อย นอกจากนี้หนุ่มจอร์จิโอก็มีไปปรากฏตัวในรายการทีวี Dancing With the Stars ด้วยเหมือนกัน
11. เจค ลอยด์ (Jake Lloyd) - The Phantom Menace
ด้วยใบหน้าที่ดูน่ารักเหมือนตุ๊กตา ทำให้คนพากันตกหลุมรักทั่วบ้านทั่วเมือง จากบทอนาคินตัวน้อยใน Star Wars: Episode I - The Phantom Menace แต่ชื่อเสียงไม่ได้มาพร้อมกับความสุขเสมอไป เพราะการเป็นดาราชื่อดังแต่เด็ก ทำให้เขาถูกเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนอิจฉาเสียจนรุมกลั่นแกล้ง ถึงขั้นเป็นเหตุให้หนุ่มน้อยขวัญเสียจนถอนตัวออกจากวงการบันเทิงเลยทีเดียว
12. เดเวห์ เชส (Daveigh Chase) - The Ring
คุณอาจเคยกลัวเธอจนถึงขนาดเก็บไปฝันร้ายอยู่หลายคืน จากบทซามาร่าห์ในเรื่อง The Ring แต่ถ้าหนุ่ม ๆ ได้มาเห็นเธอตอนนี้ล่ะก็ นอกจากจะไม่กลัวแล้ว ยังอยากเดินเข้าไปจีบเสียด้วยซ้ำ เพราะเธอโตขึ้นมาเป็นสาวสวยเต็มตัว และยังคงสานฝันการเป็นนักแสดงต่อไป โดยมีผลงานอย่าง Transference ที่อยู่ระหว่างการสร้างในขณะนี้ด้วย
13. โอลิเวีย โอลเซน (Olivia Olson) - Love Actually
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย ที่พลังเสียงเกินวัยของเธอ จะทำให้ผลงานเรื่อง Love Actually กลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้เธอได้อย่างง่ายดาย หลังจากเธอได้ร้องเพลง All I Want For Christmas Is You อย่างไพเราะไม่แพ้นักร้องมืออาชีพ แม้จะอยู่ในวัยเพียงแค่ 10 ขวบก็ตาม โดยเธอมีผลงานการพากย์เสียงมากมาย รวมไปถึงเรื่อง Phineas and Ferb ที่ได้กลับมาทำงานร่วมกับดาราคู่ขวัญจาก Love Actually อย่าง โทมัส โบรดี้ แซงสเตอร์ ด้วย
14. โทมัส โบรดี้ แซงสเตอร์ (Thomas Brodie-Sangster) - Love Actually
พูดถึงสาวโอลิเวียกันไปแล้ว จะขาดหนุ่มน้อยที่เล่นคู่กันอย่างโทมัสไปได้อย่างไร ซึ่งเขาเองก็ทำงานพากย์เสียงเหมือนกับโอลีเวียเช่นกัน ในขณะที่รับงานแสดงอื่น ๆ เช่น Doctor Who และ Nowhere Boy ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีงานแสดงในทีวีซีรีส์ชื่อดังเรื่อง Game of Thrones ในบทบาท จอร์เจน รี้ด อีกด้วย เรียกได้ว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงไม่น้อยเลยล่ะ
15. เฟรดดี้ ไฮมอร์ (Freddie Highmore) - Finding Neverland
เด็กคนนี้เคยร่วมงานกับหนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆ อย่าง จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) มาแล้ว ทั้งใน Finding Neverland และ Charlie and the Chocolate Factory รวมทั้งมีผลงานเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นหนังแฟนตาซีชื่อดังเรื่อง The Spiderwick Chronicles และปัจจุบันหนุ่มน้อยคนนี้กำลังเป็นนักแสดงนำให้กับทีวีซีรีส์ลึกลับสยองขวัญเรื่อง Bates Motel ที่ทำให้ภาพลักษณ์หนุ่มใสไร้เดียงสาหายไปอย่างสิ้นเชิง
เท่าที่เห็นดูเหมือนว่าจะมีดาราไม่น้อยเลย ที่ประสบความสำเร็จและยังคงมุ่งมั่นเป็นนักแสดงอยู่เช่นเดิม ในขณะที่มีหลายคน เพิ่งมาค้นพบความฝันของตัวเองจนตัดสินใจเลือกเปลี่ยนเส้นทางเอาตอนโตด้วยเหมือนกัน ทำให้เห็นได้ชัดว่า เส้นทางการเป็นนักแสดง อาจไม่ใช่อาชีพในฝันของทุกคนเสมอไป