เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.screenrant.com
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการถ่ายทำภาพยนตร์ หรือละครแต่ละเรื่อง ทุกฉากจะต้องมีเหตุการณ์ที่เหนือการควบคุม ทำให้นักแสดงต้องแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าให้ดีที่สุด จนบางครั้งก็เกิดเหตุให้ต้องเล่นนอกบทแบบเนียน ๆ เอาตัวรอดกันไปจนได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้คนดูอย่างเราก็คงไม่รู้กันหรอกใช่ไหมคะ หรืออย่างมากก็แค่สงสัยว่าฉากนี้มันดูแถ ๆ ยังไงไม่รู้ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอนำเสนอเรื่องราวฉากหลุด ๆ แบบที่คุณเองก็คาดไม่ถึงจากเว็บไซต์ screenrant.com ซึ่งเขาได้รวบรวม 32 ฉากภาพยนตร์ ที่นักแสดงเล่นนอกบทได้เนียนสุด ๆ มาฝากกัน แต่ขออนุญาตคัดมานำเสนอแค่ 15 เรื่องก่อน ส่วนใครที่สนใจอยากรู้เรื่องราวที่เหลือ ก็เข้าไปดูกันได้เลยจ้า
1. Zoolander (2001)
กำกับโดย เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller)
ฉากนี้ในภาพยนตร์ตลกสุดฮา ว่าด้วยการพูดคุยถึงเรื่องอุตสาหกรรมแฟชั่นที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารผู้นำประเทศมาร่วม 100 ปี โดย เจพี พรีวิท อดีตนายแบบแถวหน้าต้องอธิบายถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ให้นายแบบหนุ่มสุดทึ่ม ดีเรค ซูแลนเดอร์ ที่นำแสดงโดย เบน สติลเลอร์ฟัง จากนั้นก็ถึงคิวที่เบนต้องถามเจพีว่า "ทำไมต้องเป็นนายแบบผู้ชาย" ซึ่งเจพีก็ได้ร่ายยาวอธิบายให้ซูแลนเดอร์ฟังจนจบ แต่เรื่องก็มาสะดุดตรงที่เบนลืมบท แล้วถามคำถาม "ทำไมต้องเป็นนายแบบผู้ชาย" ขึ้นมาอีกครั้ง เจพี ซึ่งรับบทโดย David Duchovny ก็เลยต้องแก้สถานการณ์ด้วยการพูดว่า "คุณล้อผมเล่นใช่ไหม ก็ผมเพิ่งอธิบายให้ฟังไปเมื่อกี้นี้เอง" ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่ได้มีในบท แต่ก็พากันรอดมาได้ และถือว่าฉากนี้เป็นฉากที่ฮาที่สุดฉากหนึ่งในเรื่องเลยก็ว่าได้ค่ะ
2. The Godfather (1972)
กำกับโดย ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา (Francis Ford Coppola)
เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ดังในปี 1972 หากใครจำฉากที่ วิโต โคเรโอเน่ (Vito Corleone) มาเฟียชาวอิตาลีผู้ไร้ซึ่งความเมตตา ต้องสั่งทำโทษชายคนหนึ่งอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่บนตักก็มีลูกแมวตัวน้อยนอนออดอ้อนให้เขาลูบเนื้อตัวมันเบา ๆ สำหรับฉากนี้ในบทจริง ๆ แล้วไม่มีแมวเป็นตัวประกอบอย่างที่ปรากฏในภาพยนตร์แต่อย่างใด โดยได้มีรายงานว่า อาจจะเป็นเพราะน้องเหมียวตัวน้อยกระโดดขึ้นมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อบนตักของมาลอน แบรนโด ก่อนเข้าฉากแค่ไม่กี่วินาที หรือบ้างก็ลือว่า แบรนโดเห็นเจ้าเหมียวเดินเตร็ดเตร่อยู่แถว ๆ นั้น ก็เลยจับเข้าฉากซะเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใด เจ้าเหมียวสี่ขาก็กลายเป็นดาราในชั่วพริบตาเลยแหละเนอะ
3. The Fugitive (1993)
กำกับโดย แอนดรูว์ เดวิส (Andrew Davis)
ฉากนี้เป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่อง The Fugitive โดยนักแสดงที่เขาฉากก็คือ แฮร์ริสัน ฟอร์ด ซึ่งรับบทเป็นนายแพทย์ริชาร์ด คิมเบิล ผู้ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการสังหารภรรยาตัวเอง และทอมมี่ ลี โจนส์ ที่รับบทเป็นนายพลซามูเอล เจอร์ราร์ด ตามบทแล้วทั้งสองต้องเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด โดยคิมเบิลต้องกระโดดคร่อมเจอร์ราร์ดแทนที่จะยิงต่อสู้พร้อมกับปฏิเสธลั่นว่าไม่ได้ฆ่าภรรยาตัวเอง และเจอร์ราร์ดต้องทำแค่เพียงมองหน้าคิมเบิลนิ่ง ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการคาดคั้น แต่ทอมมี่ โจนส์กลับนอกบท พูดตอบคิมเบิลไปว่า "ฉันไม่สน" ซึ่งเป็นการบอกกับคิมเบิลเป็นนัย ๆ ว่าไม่ว่าคิมเบิลจะได้กระทำผิดหรือไม่ เขาก็ไม่สน เพราะถึงยังไงคิมเบิลก็ต้องเสร็จเขาแน่ ๆ ซึ่งนับว่าเป็นการนอกบทที่ทำให้ฉากนี้ดูสมบูรณ์ขึ้นมากเลยทีเดียว
4. The Dark Knight (2008)
กำกับโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan)
บทโจ๊กเกอร์ในเรื่อง The Dark Knight ที่แสดงโดย ฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) ตามบทแล้วในฉากนี้เขาต้องนั่งรออย่างสงบเสงี่ยมคนเดียวในคุกหลังจากถูกจับกุมโดย จิม กอร์ดอน รับบทโดย แกรี โอลด์แมน (Gary Oldman) และนายกเทศมนตรีการ์เซีย รับบทโดย เนสเตอร์ คาร์โบเนลล์ (Nestor Carbonell) และผลงานในครั้งนี้ของกอร์ดอน จะทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นอธิบดีในไม่ช้า โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ได้ยินประกาศนี้ก็พากันปรบมือแสดง ความยินดีกันถ้วนหน้า และที่เด็ดสุดคือ ฮีธ เลดเจอร์ ก็เล่นนอกบทด้วยการปรบมือช้า ๆ ด้วยสีหน้านิ่ง ๆ เหมือนเป็นการแสดงความยินดีแบบเสียดสีอยู่ลึก ๆ ร่วมด้วย แหม เป็นการนอกบทแบบที่ผู้ร่วมแสดงตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ก็ทำให้ฉากนี้ผ่านไปได้อย่างสวยงามอยู่ไม่น้อยเลย
5. RoboCop (1987)
กำกับโดย พอล เวอร์โฮเว่น (Paul Verhoeven)
เป็นฉากในโรงพัก ที่นักแสดงประกอบในเรื่องนี้เล่นนอกบทด้วยการถ่มเลือดลงบนเอกสารบนโต๊ะทำงานของจ่านายหนึ่ง แล้วตะโกนสั่งนายตำรวจให้นำโทรศัพท์ของเขาคืนมาอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งในบทแล้วเขาต้องถูกจับกุมโดยโรโบคอป และทำแค่พูดขอโทรศัพท์คืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น แหม.. คงจะอินกับบทตัวร้ายน่าดูเลยนะ
6. Pretty Woman (1990)
กำกับโดย แกร์รี มาร์แชล (Garry Marshall)
ฉากน่าประทับใจนี้อยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Pretty Woman และเป็นฉากที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ในเรื่อง ริชาร์ด เกียร์ ผู้ซึ่งรับบทเป็น เอ็ดเวิร์ด ลูอิส และจูเลีย โรเบิร์ต ผู้ที่รับบทเป็น วิเวียน วอร์ด ตามบทแล้ว เอ็ดเวิร์ดจะต้องนำสร้อยเพชรที่สวยงาม และมีราคาค่อนข้างแพง มามอบเป็นของขวัญให้กับสาววิเวียน และทันทีที่สาวเจ้าเอื้อมมือไปสัมผัสกับสร้อยเพชร พ่อพระเอกตัวดีก็เกิดปิ๊งไอเดีย เล่นนอกบทด้วยการปิดกล่องสร้อยเพชรทันที ทำให้จูเลีย โรเบิร์ต หลุดหัวเราะออกมาเต็มเสียงอย่างเป็นธรรมชาติสุด ๆ ส่งผลให้ฉากนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และอบอวลไปด้วยบรรยากาศน่ารัก ๆ จนผู้กำกับไม่สั่งคัท และให้ฉากนี้ดำเนินต่อไป จนออกมาปรากฏสู่สายตาคนดูทั่วโลก
7. The Dark Knight (2008)
กำกับโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan)
ฉากนี้ก็มาจากภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight อีกเช่นกัน โดยตามบทแล้วโจ๊กเกอร์ ซึ่งรับบทโดย ฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) จะต้องเดินมาตามถนนช้า ๆ ในขณะที่เกิดระเบิดขึ้นที่โรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของเขา และเมื่อเดินมาถึงจุดที่ทีมงานกำหนด ก็จะมีรสบัสโฉบเข้ามารับ และขับพาเขาออกจากสถานที่นี้ช้า ๆ แต่ก็เกิดเหตุขึ้น เมื่อเขาเดินมาจนถึงจุดที่กำหนดแล้ว แต่ระเบิดกลับไม่ยอมทำงาน ทำให้เขาเริ่มมองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวง นับเป็นการผิดคิวที่อันตรายไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ
8. Aliens (1986)
กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน (James Cameron)
ฉากนี้เป็นฉากที่ทุกอย่างกำลังชุลมุน ทุกคนตกอยู่ในความงุนงง และไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับโลก เนื่องจากเอเลี่ยนเพิ่งบุกจู่โจมโลกเป็นครั้งแรก และได้ฆ่าผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งไพรเวท ฮัดสัน ที่แสดงโดย บิล แพกซ์ตัน (Bill Paxton) ได้หลุดปากพูดออกมาว่า "That\'s it man, game over man, game over! What are we going to do now?" ซึ่งจริง ๆ แล้วในบทไม่มีคำว่า game over แม้แต่นิดเดียว ฉากใหญ่อย่างนี้นักแสดงลืมบทเล็ก ๆ น้อย ๆ ผู้กำกับก็ต้องปล่อยผ่านล่ะเนอะ
9. Saving Private Ryan (1998)
กำกับโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg)
เป็นฉากพักในระหว่างรบของสองนาวิกโยธินหนุ่มซึ่งก็คือ กัปตันมิลเลอร์ รับบทโดย ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) และนาวิกโยธินไพรเวท ไรอัน รับบทโดย แม็ตต์ เดมอน (Matt Damon) ที่กำลังแลกเปลี่ยนเล่าเรื่องต่าง ๆ ของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง จนเหมือนได้กลับไประลึกถึงความทรงจำที่บ้านอีกครั้ง ซึ่งเรื่องที่ แม็ตต์ เดมอน เล่าเกี่ยวกับโรงสีและพี่น้องของเขา เป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาเองสด ๆ ระหว่างถ่ายทำเดี๋ยวนั้น เนียนสมเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทจริง ๆ เลยว่าไหม?
10. Jaws (1975)
กำกับโดย - สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg)
เหตุการณ์นี้ในภาพยนตร์เรื่อง Jaws รอย ชไนเดอร์ (Roy Scheider) นักแสดงหนุ่มใหญ่ที่ต้องเข้าฉากกับปลาฉลามขาวตัวมหึมา และในบทก็ต้องประเมินปลาฉลามตัวนี้อย่างจริงจัง ว่าจะมีน้ำหนักสักเท่าไร แต่เขากลับทำตาโต สะดุ้งตกใจ และลุกทะลึ่งพรวด พร้อมกับพูดกับ Orca Captain Quint ซึ่งรับบทโดย Robert Shaw ว่า "คุณต้องใช้เรือลำใหญ่กว่านี้แล้วล่ะ" ซึ่งทำให้ประโยคนี้ฮิตอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว นับเป็นการนอกบทที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้
11. Star Wars Episode V: The Empire Strikes Back (1980)
กำกับโดย เออร์วิน เคิร์ชเนอร์ (Irvin Kershner)
ฉากสารภาพรักฉากนี้แทนที่จะโรแมนติกได้อย่างใจของผู้กำกับ กลับต้องโรแมนติกผสมความฮาเล็ก ๆ เพราะพระเอกของเรื่องที่อุตส่าห์ลักลอบเข้ามาในพระราชวัง เพื่อที่จะฟังคำสารภาพรักของเจ้าหญิงเลอาผู้เลอโฉม ที่รับบทโดย แครรี่ ฟิชเชอร์ (Carrie Fisher) กลับเล่นนอกบท โดยตามบทแล้ว เจ้าหญิงเลอาต้องเป็นฝ่ายพูดสารภาพรักกับ ฮาน โซโล ซึ่งแสดงโดย แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) ก่อน และฮานจะต้องตอบกลับมาว่า "ผมรักคุณเช่นกัน" แต่ฟอร์ดกลับเลือกที่จะพูดว่า "ผมรู้" แทนซะอย่างนั้น แหม.. ไม่ฟินเลยนะจ๊ะพ่อหนุ่ม
12. The Shining (1980)
กำกับโดย สแตนลีย์ คูบริก (Stanley Kubrick)
เป็นฉากที่ เวนดี้ ทอร์เลนซ์ ซึ่งรับบทโดย เชลเล่ ดูวอล (Shelley Duval) และแดนนี่ ลูกชายของเขา ซึ่งรับบทโดย แดนนี่ ลอยด์ (Danny Lloyd) กำลังซ่อนตัวจากแจ็ค ทอร์เลนซ์ นักประพันธ์สุดเพี้ยน ซึ่งรับบทโดย แจ็ค นิโคสัน (Jack Nicholson) ในห้องน้ำของโรงแรม และในขณะที่แจ็คใช้ถังดับเพลิงพังประตูจนเป็นช่องโหว่ พอที่จะลอดหน้าเข้าไปได้ เขาก็ได้ตะโกนประโยคสุดฮิตจากเกมโชว์ The Tonight Show starring Johnny Carson ที่ดำเนินรายการโดย จอห์นนี คาร์สัน ขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง ว่า "Here\'s Johnny!" เป็นการนอกบทของนิโคสัน แบบที่ผู้ร่วมแสดงแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่เลยทีเดียว
13. The Silence of the Lambs (1991)
กับโดย โจนาธาน เดมมี (Jonathan Demme)
เสียง "hssssss" (ฮึส์) ของ ดร. ฮันนิบาล เล็คเตอร์ ที่รับบทโดย แอนโทนี ฮ็อปกินส์ (Anthony Hopkins) ในขณะที่เขากินตับกับถั่วปากอ้าในภาพยนตร์เรื่อง The Silence of the Lambs ก็เป็นฟิลลิ่งจริงล้วน ๆ ที่ไม่ได้อยู่บทเช่นกัน ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่ารสชาติของอาหารที่เขากินอยู่นี้มันสุดจะทนจริง ๆ ก็ได้เนอะ
14. Dumb and Dumber (1994)
กับโดย ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่ และ บ็อบบี้ ฟาร์เรลลี่ (Peter and Bobby Farrelly)
ฉากสุดฮาโดยไม่ได้ตั้งใจนี้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Dumb and Dumber ที่สองเพื่อนซี้ ลอยด์ คริสมาสต์ รับบทโดย จิม แคร์รี่ย์ (Jim Carrey) และแฮรี่ ดัน รับบทโดย เจฟฟ์ เดเนี่ยล (Jeff Daniels) กำลังคุยกันในหัวข้อว่า อะไรที่สร้างความรำคาญและความน่าเบื่อให้พวกเขาได้มากที่สุด และทั้งคู่ก็สามัคคีตอบกันเป็นเสียงเดียวว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งในฉากนั้น พวกเขากำลังขับรถยนต์กันอยู่ และฉากนี้ก็สร้างความขบขันให้คนดูอย่างสุด ๆ ไปเลยด้วย
15. Knocked Up (2007)
กำกับโดย จู้ด แอ็พพาโทว์ (Judd Apatow)
การนอกบทของนักแสดงส่วนมากก็จะนำมาซึ่งความฮาให้ภาพยนตร์ แต่เรื่อง Knocked Up นี้ ทั้งพีท รับบทโดย พอล รัดด์ (Paul Rudd) และ Ben รับบทโดย เซธ โรเกน (Seth Rogen) ก็สามารถยืดระยะเวลาให้ภาพยนตร์ยาวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยตามบทแล้ว ฉากนี้ต้องเป็นฉากที่เขาทั้งสองขับรถกันไปคุยกันไป และมีกำหนดเวลาอยู่ที่ 2 นาทีเท่านั้น แต่ด้วยการนอกบทที่ทั้งฮาและเพลิดเพลินสุดกู่ของทั้งคู่ ทำให้ฉากนี้ยืดเวลาเป็น 6 นาทีได้ในที่สุด ช่างเป็นการนอกบทที่คุ้มค่ากับคนดูไม่น้อยเลยนะเนี่ย
หลาย ๆ เหตุการณ์เฉพาะหน้าในภาพยนตร์ ที่นักแสดงและผู้กำกับต้องแก้ไขกันไป บางครั้งก็นำมาซึ่งผลดีอย่าง ความฮา หรือความน่ารักกุ๊กกิ๊ก แต่บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าอันตรายต่อชีวิตของนักแสดงและทีมงานอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม เราซึ่งเป็นผู้บริโภคก็ได้รับความสนุกสนานกันไปเต็ม ๆ ดังนั้นเราก็ควรให้กำลังใจพวกเขา ด้วยการดูภาพยนตร์อย่างถูกกฎหมาย และไม่สนับสนุนเทปผี ซีดีเถื่อนกันนะคะ