เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก The Purge, เฟซบุ๊ก Dead Man Down, เฟซบุ๊ก A Haunted House, เฟซบุ๊ก Texas Chainsaw 3D, เฟซบุ๊ก The Internship, เฟซบุ๊ก Jurassic Park 3D, เฟซบุ๊ก Star Trek into darkness, เฟซบุ๊ก Oblivion, เฟซบุ๊ก The place beyond the pines, เฟซบุ๊ก Monster University, เฟซบุ๊ก This is the end, เฟซบุ๊ก Warm Bodies, เฟซบุีก Spring Breakers, เฟซบุ๊ก Before Midnight, เฟซบุ๊ก Iron Man 3
ไม่ทันรู้ตัว ปี 2013 ก็ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว และช่วงเวลาที่ผ่านมานับแต่ต้นปี ก็มีหนังเข้ามาฉายมาแล้วกว่า 100 เรื่อง ซึ่งก็ใช่ว่าทุกเรื่องจะดีไปซะหมด มีทั้งเรื่องที่คุ้มค่ากับการดู และเรื่องที่ทำให้เราเสียดายเวลาแทบแย่ด้วยเหมือนกัน ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมได้นำ 10 หนังเด่น 5 หนังแย่ ประจำต้นปี 2013 ซึ่งจัดอันดับโดยเว็บไซต์ Chicago Now มาฝากกัน ลองมาดูกันสิว่าหนังเรื่องโปรดของคุณจะอยู่ในยอดเยี่ยมหรือยอดแย่กันแน่ และคุณเห็นด้วยกับชาร์ตนี้หรือเปล่า
หนังยอดแย่
1. The Purge
คอนเซ็ปต์หนังที่ว่าโลกอนาคต เมื่อรัฐบาลอนุมัติให้คนก่ออาชญากรรมได้เป็นเวลา 12 ชั่วโมงในคืนใดคืนหนึ่งทุก ๆ ปีโดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยอันตราย โดยที่เราไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากตำรวจได้ ก็ดูน่าสนใจอยู่หรอก แต่พอดูหนังจริง ๆ กลับแป้กไม่เป็นท่า เพราะทำออกมาแล้วทุกอย่างช่างขัดตา ไม่สมจริงเลยสักนิด
แม้จะมีดารานำชื่อดังอย่าง คอลิน ฟาร์เรล (Colin Farrell) และ นูมิ ราเพซ (Noomi Rapace) ก็ไม่สามารถช่วยเข็นให้หนังที่มีพลอตเรื่องเดิม ๆ เมื่อหนุ่มสาวสุดฮอตร่วมมือกันต่อสู้เรื่องนี้น่าสนใจขึ้นได้เลย เพราะหนังขายดาราเรื่องนี้ ยังคงน่าเบื่อและไร้จุดดึงดูดโดยสิ้นเชิง
หนังล้อเลียน Paranormal Activity และ The Devil Inside บอกเล่าเรื่องราวของ 2 สามีภรรยาที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ แต่ต้องพบกับความจริงที่ว่าในบ้านหลังนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้น และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือปีศาจร้ายที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้เข้าสิงร่างภรรยา สามีจึงต้องลงมือจ้างทั้งบาทหลวง ไปจนถึงมือปราบผีสมัยใหม่ ให้มาไล่ผีตนนี้ออกไปจากร่างของเธอ ซึ่งดำเนินเรื่องไปพร้อมด้วยมุกฝืด ๆ ที่ปล่อยมาไม่ยั้ง..ตลกตรงไหนเนี่ย
เรื่องราวชวนขนหัวลุก เมื่อหญิงสาวได้รับมรดกเป็นบ้านหลังโตจากญาติของเธอ แต่กลับไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันจะมาพร้อมความอันตราย เมื่อภายในบ้านหลังนั้นมีฆาตกรคลั่งอยู่ด้วย ซึ่งตอนแรกก็นึกว่าระบบ 3 มิติจะช่วยให้ดูมันและสมจริงยิ่งขึ้น แต่มันกลับดูเป็นหนังสยองขวัญธรรมดาทั่วไป ที่เน้นฉากชวนคลื่นไส้มากเกินเท่านั้นเอง
หนังเรื่องนี้เหมือนกับเป็นการโฆษณาเว็บไซต์ Google ที่ทั้งตลกฝืด แถมยังน่าขายหน้าสุด ๆ อีกต่างหาก ซึ่งไม่ได้จับจุดสนใจสไตล์ตัวป่วนงานได้เลยสักนิด เมื่อพนักงานขาย 2 คนได้เข้าไปทำงานเป็นเด็กฝึกงานที่ Google และต้องแข่งขันกับคนรุ่นใหม่ที่เด็กกว่า แถมยังมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมากกว่า
หนังยอดเยี่ยม
1. Jurassic Park 3D
อาจจะดูเหมือนไม่ใช่หนังปีนี้ซะเดียว แต่จากการที่ Jurassic Park 3D เข้าฉายในปีนี้ก็ทำให้มันเป็นหนังที่สมควรได้อันดับ 1 อยู่หรอก ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำให้เราตกหลุมรักอีกครั้ง ว่าหนังเก่าคลาสสิกเรื่องนี้ดีสมราคาคุยที่ทำให้มันเป็นหนังอมตะมาถึงยุคปัจจุบันจริง ๆ แม้มันจะไม่ได้มี CG อลังการเหมือนหนังยุคนี้ แต่การเรียบเรียง การแสดงของตัวละครนั้นทำให้เรื่องดูสมจริงจนเราสัมผัสได้ จนลืมไปเลยว่าการแพร่พันธุ์ไดโนเสาร์จะเป็นเรื่องไกลเกินตัว
ผู้กำกับ เจ.เจเอบรัมส์ (J.J. Abrams) มีเอกลักษณ์ในการถ่ายทอดอารมณ์ภาพยนตร์ทำให้เราอินได้อยู่แล้ว และภาคนี้ของ Star Trek ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยจริง ๆ เพราะมันดีพอ ๆ กับภาคที่แล้ว เผลอ ๆ จะดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าคุณเป็นแฟนหนังไซไฟที่ยังลังเลอยู่ว่าควรดูเรื่องนี้หรือไม่ เราขอแนะนำว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
หนังไซไฟซึ่งนำแสดงโดย ทอม ครูซ (Tom Cruise) เรื่องนี้ นับว่าทำได้ออกมาดีมากจริง ๆ เพราะมีครบทุกอย่างที่หนังไซไฟควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นชวนติดตาม ฉากและเอฟเฟกต์ที่สมจริง รวมไปถึงการแสดงที่สมบทบาทด้วย ทำให้หนังเรื่องนี้ลงตัวไปเสียทุกอย่าง และเป็นหนังที่คอหนังไซไฟไม่ควรพลาดเด็ดขาด
เว็บไซต์ Chicagonow ถึงกับระบุไว้เลยว่า มีแค่หนังเรื่องนี้ และ Before Midnight เท่านั้น ที่เป็นหนังติดอันดับยอดเยี่ยมและมีลุ้นชิงรางวัลออสการ์ด้วย โดย ดีเร็ก เซียนฟรานซ์ (Derek Cianfrance) ผู้กำกับของเรื่องเผยว่าเขาตั้งใจทำหนังเรื่องนี้เพื่อต้องการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก สิ่งที่อยู่นอกเหนือความรัก ความห่วงใย คือการสืบทอดความคิดหรืออุดมการณ์จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง ทำออกมาได้ดีจนคนดูอินไปตาม ๆ กัน
กลับมาอีกครั้ง สำหรับแอนิเมชั่นที่ครองใจหลาย ๆ คนมาแล้ว ซึ่งในภาคนี้เราได้มาจับตาดูชีวิตสมัยเป็นนักศึกษาของ ไมค์ วาซาวสกี้ และ ซัลลี่ กันบ้าง และ Pixar ก็ยังคงกลิ่นอายของเรื่องเดิมไว้ได้ รวมถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครด้วย ทำให้คนที่เคยตกหลุมรักกับ Monster Inc. มาก่อน ไม่ผิดหวังกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย
6. This is the end
ไม่ได้ดูหนังตลกแบบนี้มานานแล้ว เพราะหนังตลกที่ออกมาช่วงนี้ ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกมุกแป้กหรือแสดงโอเวอร์เกินเหตุทั้งนั้น แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ที่นักแสดงทุกคนเล่นเป็นตัวเอง ทำให้ยิ่งฮาขึ้นอีก โดยเฉพาะ แดนนี แม็คไบรด์ (Danny McBride) และ เจมส์ ฟรังโก (James Franco) ยิ่งประชันความฮาใส่กันจนหมดภาพพระเอกหล่อไปเลย
7. Warm Bodies
ไม่เสียทีที่ นิโคลัส ฮอลท์ (Nicholas Hoult) ตัดสินใจแสดงเรื่องนี้ เพราะทำให้เขาได้แฟนคลับสาว ๆ มาเพิ่มอีกเพียบ จนกลายเป็นขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่จากเรื่องนี้แล้ว ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย เพราะบทซอมบี้ผู้มั่นคงในความรัก ในหนังรักคอมเมดี้โรแมนติกเรื่องนี้ หวานแหววถูกใจสาว ๆ นักล่ะ แถมมุกตลกที่แทรกมายังทำให้มันไม่น่าเบื่ออีกด้วยนะ
8. Spring Breakers
หนังที่ดูเหมือนจะเป็นหนังขายดาราธรรมดาด้วยการมีหนุ่มหล่อสาวสวยครบถ้วนเรื่องนี้ มาพร้อมความมันเกินคาด โดยมันไม่ใช่หนังที่ขายแต่ความเซ็กซี่และเรื่องของยาเสพย์ติดอย่างที่หลายคนตั้งแง่เอาไว้ แต่มีการสอดแทรกมุกตลก และความมันเข้าไปด้วย จนกลายเป็นหนังที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง
ทันทีที่ดูหนังเรื่องนี้จบ คุณจะพบว่ามันส่งผลต่อจิตใจของคุณอย่างมากเลยล่ะ เพราะมันสะท้อนชีวิตคู่ได้อย่างลึก ซึ้ง โดยเฉพาะฉากในโรงแรม ที่นักแสดงถ่ายทอดได้ดี และมีการเขียนบทที่ยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ เหมือนเป็นการชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ไม่สวยงามเหมือนความฝันของความสัมพันธ์ อย่างที่หนังเรื่องอื่นไม่กล้าทำมาก่อนก็ว่าได้
ด้วยความที่เป็นหนังซึ่งทุกคนตั้งตาคอย ทำให้มันต้องเผชิญความกดดันสูงตั้งแต่ก่อนเริ่มฉาย อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ดูแล้ว ต้องบอกว่ามันไม่ทำให้เราผิดหวังเลยสักนิด เพราะ Iron Man 3 ยังคงอรรถรสความมันไว้ได้ไม่แพ้ภาคก่อน ๆ และการแสดงอันยอดเยี่ยมของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Junior) พร้อมมาดที่ทั้งกวนทั้งเท่ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดเราให้จดจ่อหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากแล้ว
เป็นอย่างไรบ้างคะ ชาร์ตจากเว็บไซต์ Chicagonow นี้ตรงกับใจของคุณบ้างหรือเปล่า หรือว่ามีหนังเรื่องไหนที่ไม่ควรอยู่ในยอดแย่และยอดเยี่ยมนี้บ้าง รวมทั้งมีเรื่องไหนตกสำรวจไปด้วยหรือเปล่า อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นกันนะคะ