เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Transformersthailand, michaelbay.com
แฟนหนังทั้งหลายพร้อมหรือยังที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ความมันส์อีกครั้งในหนังหุ่นยนต์รถซิ่งภาคใหม่ Transformers : Age of Extinction โดยการกลับมาของเหล่ากองทัพหุ่นยนต์ในภาคนี้มาพร้อมกับลุคใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยขึ้นกว่าเดิม แถมยังมีตัวละครใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาด้วยอีกต่างหาก และก่อนที่จะไปเต็มอิ่มกับความเร้าใจในหนังเรื่องนี้เรามาอุ่นเครื่องด้วยข้อมูลที่น่าสนใจกันหน่อยดีกว่า โดยเว็บไซต์ IMDb ได้รวบรวม 25 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Transformers: Age of Extinction มาให้เราได้ทราบกันครับ
1. เรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้น 4 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Transformers : Dark of the Moon (2011) ซึ่งเกิดการปะทะกันที่ชิคาโก
2. ร่างเดิมก่อนแปลงกายของหุ่นยนต์ Bumblebee ในหนังภาคนี้คือรถยนต์ Chevrolet Camaro SS รุ่นปี 1967 โดยหุ่น Bumblebee ได้รับการออกแบบให้ดูแข็งแรงยิ่งขึ้น แถมยังเพิ่มเสาสไตล์สปอร์ตเข้ามาแทนที่เสาอากาศแบบเดิมอีกด้วย3. ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) เคยถูกทาบให้รับบท เคด ยีเกอร์ (Cade Yeager) แต่เนื่องจากคิวงานที่ไม่ลงตัวในระหว่างถ่ายหนังเรื่อง Hercules ทำให้เขาต้องปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป 4. มาร์ค วอลเบิร์ก (Mark Wahlberg) เคยเอ่ยปากขอให้ลูกทั้ง 4 คนมาร่วมแสดงด้วย เพราะพวกเขาเป็นแฟนตัวยงของหนังชุด Transformers
ภาพของเล่น Optimus Prime จาก transformers.wikia.com
5. ร่างก่อนแปลงกายของหุ่นยนต์ Optimus Prime ถูกออกแบบให้คล้ายกับรถบรรทุก Western Star 4900 SB truck ส่วนลำตัวที่เป็นห้องคนขับถูกทำให้คล้ายกับ Optimus Prime ของเดิมในการ์ตูน Transformer (1984)6. โรแลนด์ เอ็มเมอริค (Roland Emmerich), โจ จอนห์สตัน (Joe Johnston), จอน เทอร์เทิลท็อบ (Jon Turteltaub), สตีเฟ่น ซอมเมอร์ส (Stephen Sommers), ลูอิส เลทเทอเยร์ (Louis Leterrier) และ เดวิด เยทส์ (David Yates) ล้วนเคยถูกจับตาว่าจะเป็นผู้กำกับในภาคนี้ ก่อนที่ ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) จะตัดสินใจกลับมารับหน้าที่ดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
7. รูปลักษณ์ดังเดิมของหุ่นยนต์ Drift คือรถสปอร์ตคาร์นิสสันรุ่น Silvia 615 แต่ในภายหลังถูกเปลี่ยนเป็นรถสปอร์ตคาร์ Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse ยิ่งไปกว่านั้น หุ่นยนต์ตัวนี้ยังสวมชุดเกราะซามูไรสีดำเช่นเดียวกับที่หุ่นยนต์ Prowl เคยสวมใน Transformers เวอร์ชั่นการ์ตูนเมื่อปี 20078. หุ่นยนต์ในภาคนี้จะมีดีไซน์ไม่ซับซ้อน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูน Transformers ของสำนักพิมพ์ IDW และแอนิเมชั่น Transformers Prime (2010)9. ในระหว่างการถ่ายทำฉากแอ็คชั่นที่พิพิธภัณฑ์การรถไฟรัฐอิลลินอยส์ มาร์ค วอลเบิร์ก ได้บริจาคเงินจำนวน 40,000 เหรียญสหรัฐให้แก่พิพิธภัณฑ์ ส่วนผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ ได้ซื้อเครนอายุเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในทศวรรษ 1930 มาจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เช่นกัน โดยเขาจะนำเครนตัวดังกล่าวไปติดตั้งที่ฟาร์มในรัฐมอนทาน่า
10. รูปลักษณ์ดั้งเดิมของหุ่นยนต์ Lockdown ในการ์ตูน Transformers : Animated (2007) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ Muscle car แต่ในภายหลังถูกออกแบบใหม่โดยใช้รถยนต์ Lamborghini รุ่น Aventador LP700-4 เป็นต้นแบบ โดยสิ่งเดิมที่ยังคงไว้คือเลื่อยสังหารที่ติดอยู่บริเวณแขน
11. ร่างเดิมของหุ่นยนต์ Hound ในการ์ตูน Transformers (1984) คือรถจิ๊ปทหาร Mitsubishi J59 แต่ในภายหลังถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นรถบรรทุกรุ่น Oshkosh Defense MTV ซึ งจะว่าไปแล้วก็มีรูปลักคล้ายกับหุ่นยนต์ Bulkhead ในการ์ตูน Transformers : Animated (2007) และ Transformers Prime (2010) อยู่เหมือนกัน12. หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานการแสดงลำดับที่ 4 ของ จอห์น กู้ดแมน (John Goodman) ที่ถูกดัดแปลงจากซีรีส์การ์ตูนชื่อดังถัดจาก The Flintstones (1994), The Adventures of Rocky & Bullwinkle (2000) และ Speed Racer (2008)
13. หุ่นยนต์ Crosshairs ถูกออกแบบมาในร่างของรถบรรทุกไซเบอร์ตรอน ( Cybertronian) จนกระทั่งถูกปรับโฉมโดยใช้รถยนต์ Chevrolet Corvette C7 Stingray รุ่นปี 2014 เป็นต้นแบบ 14. ผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ กล่าวว่า Transformers ภาคนี้จะมีความยาวมากที่สุด 
15. หุ่นยนต์ตัวร้าย Stinger ที่เปลี่ยนตัวเองเป็นรถยนต์ Pagani Huayra รุ่นปี 2013 แท้จริงแล้วถูกต่อยอดมาจากหุ่นยนต์ตัวร้าย Wasp ใน Transformers : Animated (2007) โดยหุ่นตัวดังกล่าวเป็นศัตรูของ Bumblebee16. มาร์ค เวเบอร์ (Mark Weber) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาตราสินค้าสากลของหนัง Transformer เผยว่าหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ Dinobot เคยถูกตั้งชื่อว่า Swoop มาก่อน และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Strafe อันเนื่องมาความเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น17. ค่าย Paramount Pictures ได้ทำข้อตกลงร่วมกับค่ายหนังสัญชาติจีน China Movie Channel และ Jiaflix Enterprises ให้เป็นผู้ครอบครองสิทธิการจัดจำหน่ายในประเทศจีน
18. ผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ ใช้เทคนิคการถ่ายภาพมุมสูงด้วยกล้องไอแม็กซ์เพื่อเก็บภาพลงในระบบไอแม็กซ์ และใช้เทคนิคการถ่ายภาพ 3 มิติในการถ่ายทำฉากแอ็คชั่นความไวสูง 
19. ก่อนที่บทเทสซ่า (Tessa) จะตกเป็นของ นิโคลา เพลท์ซ (Nicola Peltz) ผู้ที่เคยเข้าออดิชั่นในบทนี้ได้แก่ อิซาเบลล่า คอร์นิช (Isabelle Cornish), มาร์กาเร็ต ควาลลีย์ (Margaret Qualley) และ กาเบรียลล่า ไวลด์ (Gabriella Wilde) 
20. แลนดอน ลิบอยรอน (Landon Liboiron), ลูค กริเมส (Luke Grimes), ลูค มิทเชล (Luke Mitchell), ฮันเตอร์ พาร์ริช (Hunter Parrish) และ เบรนตัน ทเวทส์ (Brenton Thwaitesg) ต่างเคยเข้าออดิชั่นเพื่อรับบทเชน (Shane) ก่อนที่บทนี้จะตกเป็นของ แจ็ค เรย์เนอร์ (Jack Reynor) ในที่สุด21. ชื่อเล่นของตัวละครลูคัส ( Lucas) รับบทโดย ทีเจ มิลเลอร์ คือ Lucas the Doofus
22. ในระหว่างการถ่ายทำเป็นที่ทราบกันดีว่าป้ายสัญลักษณ์ E7 คือสถานที่ที่ Grimlock, Slag และ Sludge ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเหล่าหุ่นยนต์ Autobots
ส่วนข้อมูลต่อจากนี้จะเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของเรื่อง หากไม่อยากเสียอรรถรสในการชมก็ข้ามไปได้เลยนะครับ __scaled_600.jpg "25 เรื่องน่ารู้ก่อนดู Transformers : Age of Extinction")
23. หุ่นยนต์ Galvatron เวอร์ชั่นนี้เป็นผลผลิตจากการนำหุ่นยนต์ Nemesis Prime ในการ์ตูน Transformers Prime (2010) และคาแรคเตอร์ดังเดิมของ Galvatron ใน The Transformers : The Movie (1986) มารวมเข้าไว้ด้วยกัน24. ยานของหุ่นยนต์ Lockdown ในหนังภาคนี้จะมีบทบาทสำคัญต่อภาพรวมของหนังอย่างยิ่ง แถมยังเป็นยานที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่สามารถใช้ปูพื้นไปยังภาคต่อไปได้ไม่ยาก 
25. ไมเคิล เบย์ เปิดเผยว่าหุ่นยนต์ Lockdown คือตัวละครที่น่าสนใจที่สุดในเรื่อง เพราะหุ่นยนต์ตัวนี้มาจากต่างดาวและทำงานให้กับเอเลี่ยนเพียงตัวเดียว ดังนั้น เขาจึงไม่ตกเป็นทาสของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นอกจากนี้เขายังเป็นผู้บุกเบิกให้อาณาจักรแห่งสายพันธุ์ของ Transformer แผ่ขยายกว้างไกลยิ่งขึ้นเป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเกร็ดน่ารู้ที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าใครที่กำลังรอคอยหนังเรื่องนี้อยู่น่าจะถูกอกถูกใจกันไม่ น้อย สำหรับ Transformers : Age of Extinction นำแสดงโดย มาร์ค วอห์ลเบิร์ก (Mark Wahlberg), แจ็ค เรย์นอร์ (Jack Reynor), นิโคล่า เพลท์ซ (Nicola Peltz), สแตนลีย์ ทุชชี (Stanley Tucci), โซเฟีย ไมล์ส (Sophia Myles), ปีเตอร์ คัลเลน (Peter Cullen), เกลนน์ มอร์โชเวอร์ (Glenn Morshower) และ เคสลีย์ แกรมเมอร์ (Kelsey Grammer) โดยมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทย 26 มิถุนายน 2014
