เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Transformersthailand, michaelbay.com
หลังจากที่หนังรถยนต์แปลงร่างยอดฮิตระเบิดความมันส์ครั้งล่าสุดไปเมื่อปี 2011 และปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยอยู่หลายปี แต่ในวันนี้การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อ Transformers : Age of Extinction เข้าฉายอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยในภาคนี้แฟนหนังจะได้ยลโฉมกองทัพหุ่นยนต์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่เข้ามาสร้างสีสันกันอย่างคับคั่ง และเพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการชม เรามาทำความรู้จักกับเหล่าหุ่นยนต์ทั้งหลายด้วยข้อมูลจากเว็บไซต์ Screenrant กันหน่อยดีกว่า แต่ขอเตือนไว้เลยว่า.. ข้อมูลบางส่วนต่อจากนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของหนังอย่างแน่นอน
ฝ่ายออโต้บอท (Autobots)
ออพติมัส ไพร์ม (Optimus Prime)
ให้เสียงโดย ปีเตอร์ คัลเลน (Peter Cullen)
ออพติมัส ไพร์ม คือผู้นำแห่งฝ่ายออโต้บอทที่มีบุคลิกชาญฉาดและน่าเกรงขาม เขานำผองเพื่อนหุ่นยนต์มาช่วยปกป้องมนุษย์จากการโจมตีของฝ่ายดีเซปติคอนส์ อย่างไรก็ตาม เมื่อมนุษย์เป็นฝ่ายหนังหลังให้กับเหล่าทรานส์ฟอร์เมอร์ส พวกเขาจึงจำเป็นต้องซ่อนตัว ทั้งนี้ รูปลักษณ์ของไพร์มในหนัง 4 ภาคแรกก็ดูไม่สวยงามเท่าใดนัก จนในภายหลังเขาถูกแปลงโฉมเป็นรถบรรทุก Western Star 4900 สุดเท่ ครั้งหนึ่งเขาเคยปราบหุ่นยนต์กริมล็อค แห่งฝ่ายไดโนบอทมาแล้ว และเป้าหมายต่อไปคือการต่อสู้กับฝ่ายเซปติคอนส์ และศัตรูใหม่ให้สยบราบคาบ
บัมเบิ้ลบี (Bumblebee)
บัมเบิ้ลบีคือหุ่นยนต์ที่จงรักภักดีต่อออพติมัส และสาบานว่าจะร่วมกันปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ ถึงแม้ว่าระบบการพูดของเขาจะเสียหายเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ แต่บัมเบิ้ลบียังคงสามารถสื่อสารได้ โดยการเล่นเพลงต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายจากคลื่นวิทยุเพื่อใช้ในการสื่อสารนั่นเอง โดยบัมเบิ้ลบีปรากฏตัวครั้งแรกในมาของรถยนต์ Chevrolet Camaro 1967 และถูกเปลี่ยนแปลงในภายหลังเป็น Chevrolet Camaro 2014
ภาพจาก transformers.wikia.com
แรทเชท (Ratchet)
ให้เสียงโดย โรเบิร์ต ฟ็อกซ์เวิร์ธ (Robert Foxworth)
แรทเชทมีบทบาทสำคัญในฐานะแพทย์ประจำฝ่ายออโต้บอท จึงทำให้เขาไม่มีทักษะการต่อสู้โดยธรรมชาติ สาเหตุที่ทำให้เขาเลือกภักดีกับฝ่ายนี้เป็นเพราะเขาเชื่อว่าออโต้บอทคือหุ่นยนต์ฝ่ายเดียวที่จะนำสันติภาพมาสู่โลกนี้ และสันติภาพคือสิ่งเดียวที่เขาสนใจ ส่วนรูปลักษณ์ของเขาถูกดัดแปลงมาจากรถพยาบาล Hummer H2 รุ่นปี 2004
ฮาวด์ (Hound)
ให้เสียงโดย จอห์น กู้ดแมน (John Goodman)
ฮาวด์คือหุ่นยนต์ตัวใหม่ที่ปรากฏตัวในหนังภาคนี้เป็นครั้งแรก โดยบุคลิกของฮาวด์ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนและแอนิเมชั่นคือหุ่นยนต์ที่รักโลกและเรียกโลกว่าเป็นบ้านของเขา นอกจากนี้ เขายังชอบออกไปสำรวจสถานที่สวย ๆ บนโลกอยู่บ่อย ๆ สำหรับรูปร่างของฮาวด์ในเวอร์ชั่นหนังถูกดัดแปลงมาจากรถจิ๊ปทหาร Mitsubishi J59 แต่ในภายหลังถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นรถบรรทุกรุ่น Oshkosh Defense MTV โดยจุดเด่นของเขาคือเคราที่หนาดกแถมยังชอบสูบซิการ์ (ที่ทำจากกระสุน) เป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย
ครอสแฮร์ส (Crosshair)
ให้เสียงโดย จอห์น ดีมาจโจ้ (John DiMaggio)
แต่เดิมครอสแฮร์สมีร่างเป็นรถยนต์ Chevrolet C7 Corvette Stingray ปี 2014 เป็นต้นแบบ โดยหน้าที่ของเขาเปรียบเสมือนหัวหอกทางด้านอาวุธแห่งฝ่ายออโต้บอทแทนที่ ไอรอน ไฮด์ (Iron Hide) ซึ่งถูกฆ่าตายไปก่อนหน้านี้ (ภาค 3) สำหรับตัวครอสแฮร์สเองไม่ชื่นชอบบรรยากาศบนพื้นโลกเท่าใดนัก และพร้อมจะจากไปทุกเมื่อที่เขาต้องการ
ดริฟท์ (Drift)
ให้เสียงโดย เคน วาตานาเบ้ (Ken Watanabe)
ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน หุ่นยนต์ดริฟท์เคยสังกัดฝ่ายดีเซปติคอนส์มาก่อนและมีปัญหากัน เขาจึงย้ายมาอยู่กับออโต้บอทในภายหลัง สำหรับจุดเด่นของเขาอยู่ที่ทักษะความเป็นซามูไรที่มาพร้อมกับดาบพิฆาตซึ่งยากที่จะหาใครมาเทียบ ทั้งนี้นอกจากร่างแปลงที่เป็นรถยนต์ Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse ปี 2013 แล้ว ดริฟท์ยังสามารถแปลงร่างเป็นเฮลิคอปเตอร์จู่โจมขนาดเล็กได้อีกด้วย
เบรนส์ (Brains)
ให้เสียงโดย เรโน วิลสัน (Reno Wilson)
สำหรับปูมหลังของเบรนส์คือหุ่นยนต์ที่เคยอยู่ในสังกัดดีเซปติคอนส์ ซึ่งในหนังภาคนี้เบรนส์ต้องตกเป็นเชลยของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่พยายามจะแกะรหัสพันธุ์กรรมของหุ่นยนต์ทรานสฟอร์เมอร์ทั้งนี้ เขาสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปเมื่อไรก็ได้
ฝ่ายดีเซปติคอนส์ (Decepticons)
กัลวาทรอน (Galvatron)
ให้เสียงโดย แฟรงค์ เวลเกอร์ (Frank Welker)
สิ่งที่ทำให้กัลวาทรอนแตกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไปคือมันไม่ได้มีต้นกำเนิดจากดาวไซเบอร์ตรอน โดยแท้จริงแล้วมันถูกสร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของมนุษย์ที่ต้องการสร้างหุ่นยนต์มาแทนที่เหล่าออโต้บอท ส่วนจุดแข็งของเขาคืออาวุธที่กล้าแกร่งและทัศนคติที่มุ่งมั่น สำหรับร่างเดิมของหุ่นยนต์ตัวนี้คือรถบรรทุก Freightliner Argosy ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ดูคล้ายกับออพติมัส ไพร์มอยู่เหมือนกัน
สติงเจอร์ (Stinger)
สติงเจอร์ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์เช่นเดียวกับกัลวาทรอน โดยเขาถูกจับตามองในฐานะคู่แข่งของบัมเบิ้ลบีและพร้อมถล่มเหล่าไดโนบอทได้ทุกเมื่อ ส่วนร่างที่เขาใช้เดินทางไปบทขยี้เหล่าออโต้บอทคือรถยนต์ Pagani Huayra
จังค์ฮีพ (Junkheap)
จังค์ฮีพเป็นทหารประจำฝ่ายดีเซปติคอนส์ และถูกตั้งโปรแกรมให้ต่อสู่กับฝ่ายออโต้บอทด้วยกรงเล็บอันแข็งแกร่งของเขา โดยในหนังภาคนี้เขาแปลงกายเป็นรถบรรทุกขยะของบริษัท Waste Management
กองทัพเวฮิคอน (Vehicons)
เวฮิคอนคือเหล่ากองทัพทรานส์ฟอร์เมี่ยม หุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ มีหลากหลายรูปแบบ หลากสี จำนวนทั้งสิ้น 50 ตัว มีต้นแบบเป็นรถยนต์ Chevy Trax โดยเป้าหมายในการโจมตีของเขาคือมนุษย์และหุ่นยนต์ฝ่ายออกโต้บอท
ล็อคดาวน์ (Lockdown)
ให้เสียงโดย มาร์ค ไรอัน (Mark Ryan)
ล็อคดาวน์นักล่าค่าหัวคู่ปรับใหม่ตัวฉกาจของออพติมัส ไพร์ม ล็อคดาวน์ไม่ได้สังกัดอยู่ในฝ่ายไหนทั้งนั้น ซึ่งจุดประสงค์ของการเดินทางมายังโลกเพื่อมากวาดล้างเหล่าออโต้บอทตามคำสั่งของ "ผู้สร้าง" ซึ่งเขาจะได้รับ "ของที่ระลึก" เป็นการตอบแทน โดยล็อคดาวน์มีร่างแปลงเป็น Lamborghini Aventador LP 700-4 รุ่นปี 2013
ฝ่ายไดโนบอท (Dinobots)
กริมล็อค (Grimlock)
กริมล็อคคือผู้นำของฝ่ายไดโนบอท เขาไม่ชอบเสวนากับใครให้เสียอารมณ์โดยเฉพาะกับออพติมัส ไพร์ม สิ่งเดียวที่กริมล็อคเกลียดคือดีเซปติคอนส์ รองลงมาคือการถูกบงการ เมื่อใดก็ตามที่เขาไม่ได้อยู่ในร่างของหุ่นยนต์ กริมล็อคจะเปลี่ยนตัวเองเป็นไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัส (T-Rex) ซึ่งมีร่างกายเป็นเหล็ก
สคอร์น (Scorn)
หุ่นยนต์ไดโนบอทตัวนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติในการทำลายล้าง ซึ่งเข้ากับบุคลิกของมัน ที่ชื่นชอบในการทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้า ทำให้สคอร์นเปรียบเสมือนหัวหอกแห่งความหายนะประจำทีม โดยรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามของมันมีรากเดิมเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์สไปโนซอรัส (Spinosaurus) และเป็นไดโนบอทคู่หูของครอสแฮร์ส
สลัค (Slug)
ในบรรดาหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ทั้งหมด สลัคถูกสร้างมาให้มีความแข็งแกร่งเป็นรองเพียงแค่กริมล็อค โดยหุ่นยนต์ตัวนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติในพ่นไฟออกจากปากและลำตัวที่ใหญ่โต จึงทำให้มันขึ้นแท่นเป็นนักสู้แถวหน้าประจำฝ่ายไดโนบอท โดยสายพันธุ์ที่แท้จริงของเจ้าสลัคคือไดโนเสาร์ไทรเซอราทอปส์ (Triceratops) และเป็นไดโนบอทคู่หูของดริฟท์
สเตรฟ (Strafe)
ไดโนเสาร์พันธุ์เทอราโนดอน (Pteranodon) สุดโหดที่เป็นหน่วยจู่โจมของกลุ่ม เขาชอบที่จะจู่โจมมาจากท้องฟ้า ด้วยพละกำลังที่เหลือล้น กลไกเครื่องจักกลสุดเจ๋ง หัวสองหัว หาง 2 หาง พร้อมปีกที่ทำจากเหล็ก และเป็นไดโนบอทคู่หูของบัมเบิ้ลบี
ยานพาหนะอื่น ๆ
นอกจากเหล่าหุ่นยนต์ที่พาเหรดกันมาสร้างความมันส์ในครั้งนี้แล้ว ยานพาหนะต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่องก็เป็นส่วนประกอบที่น่าสนใจอีกเช่นกัน โดยผู้ชมจะได้เห็นทั้งรถยนต์และเครื่องบินแบบต่าง ๆ อย่างจุใจและนี่เป็นรายชื่อของยานพาหนะที่ปรากฏโฉมในหนังภาคนี้
รถยนต์ Aston Martin DBS V12 สีขาว
รถยนต์ Chevy Sonic RS สีขาว
รถยนต์ Aston Martin DBS V12 สีส้ม
รถยนต์ Trumpchi E-jet สีเงิน
รถยนต์ Lamborghini Gallardos จำนวน 3 คัน
รถยนต์ Chevy Camaro สีขาว
รถยนต์ Ferrari 430 Spider สีดำ
รถแข่งแรลลี่สีดำอีกจำนวนหนึ่ง
จะเห็นได้ว่ากองทัพหุ่นยนต์ที่ปรากฏในหนังภาคนี้ต่างก็มีจุดแข็งในตัวที่แตกต่างกันออกไป และหากใครได้ชมหนังเรื่องนี้ก็คงจะพูดเป็นเสียงเป็นเสียงเดียวกันว่าของเขาดีจริง ๆ ส่วนใครที่ยังไม่ได้สัมผัสความมันส์ใน Transformers : Age of Extinction กระปุกดอทคอมก็ขอแนะนำให้ออกไปจองตั๋วกันแบบด่วนจี๋เลย จะได้เม้าท์กับคนอื่นได้ทันเวลา
