เราทุกคนต่างมีความเป็นซูเปอร์ฮีโร่อยู่ในตัวของเรา มันก็แค่ต้องใช้มนตร์วิเศษสักหน่อยเพื่อที่จะดึงมันออกมา ในกรณีของ บิลลี่ แบทสัน เด็กกำพร้าวัย 14 ปี ที่ต้องเอาตัวรอดในเมืองใหญ่นั้น ดึงมันออกมาโดยการตะโกนคำว่า Shazam! แล้วจากนั้นเขาก็จะกลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่วัยผู้ใหญ่ ชาแซม ซึ่งพลังพิเศษนี้ได้รับการสืบทอดมาจากพ่อมดชราคนหนึ่ง เขายังคงความเป็นเด็กน้อยด้วยหัวใจที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายดั่งพระเจ้า ชาแซม จะได้สนุกสนานไปกับตัวของเขาในเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ ด้วยการทำในสิ่งที่วัยรุ่นคนไหน ๆ ก็อยากจะทำด้วยพลังพิเศษต่าง ๆ แค่สนุกไปกับพวกมัน ! เขาบินได้มั้ย ? เขามีความสามารถในการ X-ray หรือเปล่า ? เขาสามารถปล่อยลำแสงออกมาจากมือได้หรือไม่ ? เขาจะก้าวข้ามบทเรียนทางสังคมของเขาไปเลยได้มั้ย ? ชาแซมมุ่งมั่นที่จะทดสอบขีดความสามารถของเขา ด้วยความบ้าระห่ำอันแสนสุขของเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เขาก็ต้องการที่จะเชี่ยวชาญการใช้พลังเหล่านี้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะไปต่อกรกับพลังอำนาจอันร้ายกาจที่ถูกควบคุมโดย ดร.แธดิอุส ซิวานา 8. กองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง SHAZAM! ต้องใช้รถบัสหลายแบบต่างกันไป เพื่อถ่ายทำฉากที่ชาแซมต้องเข้าไปช่วยรถบัสที่กำลังจะตกจากสะพานและมีผู้โดยสารเต็มรถ ซึ่งมีรถคันหนึ่งที่ห้อยอยู่ตรงขอบสะพาน และรถอีกคันหนึ่งหักครึ่งคัน 9. สิ่งที่สร้างความท้าทายให้ทีมงานด้านเสื้อผ้าของเรื่อง SHAZAM! ที่นำทีมโดยดีไซเนอร์ ลีอาห์ บัตเลอร์ คือเรื่องปกติทั่วไปที่พบในหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่างเรื่องรูปร่างของนักแสดงที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ บัตเลอร์เล่าว่า ต้องขอบคุณการไดเอตและการออกกำลังกาย รูปร่างของนักแสดงจะเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยระหว่างการถ่ายทำ ฉะนั้นชุดซูเปอร์ฮีโร่อาจต้องมีการแก้ไขตลอดเวลา 10. ฝ่ายเตรียมอุปกรณ์ประกอบฉากภาพยนตร์เรื่อง SHAZAM! ต้องใช้พนักงานถึง 4 คนในการประดิษฐ์ตัวละครพ่อมดที่รับบทโดยไจมอน ฮอนซู ที่เขาต้องถ่ายทอดพลังสู่บิลลี่ แบทสัน
แสดงความคิดเห็น