เทศกาลคริสต์มาสคือช่วงเวลาแห่งความเบิกบานที่ใคร ๆ ต่างหลงรัก โดยเฉพาะค่ายหนังต่าง ๆ ที่มักปล่อยหนังออกมาเอาใจแฟนพันธุ์แท้ของเทศกาลนี้อยู่เสมอ ซึ่งที่ผ่านมามีหนังคริสต์มาสหลายเรื่องที่ไปได้สวยกับการเข้าฉายในเทศกาลนี้ ดังเช่นที่เว็บไซต์ Box Office Mojo ได้จัดอันดับหนังคริสต์มาส 15 เรื่องที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลายเรื่องก็คว้าใจผู้ชมจากทั่วโลกไปไม่น้อยเหมือนกัน โดยรายชื่อของผู้ชนะทั้งหมดมีดังนี้
เรื่องราวของ เดอะ กริ๊นช์ ตัวร้ายสีเขียวที่เชื่อกันว่าเป็นผู้ทำลายวันคริสต์มาส ถูกนำมาถ่ายทอดในรูปแบบหนังสุดฮาที่นำแสดงโดย จิม แคร์รี่ และสามารถครองใจผู้ชมด้วยการขึ้นแท่นอันดับ 1 หนังคริสต์มาสทำเงินสูงสุดตลอดกาล โดยทำรายได้รวมตลอดการเข้าฉาย 260 ล้านเหรียญสหรัฐ และกลายเป็นหนังเรื่องโปรดประจำเทศกาลแห่งความสุขไปแล้ว
• 2. The Polar Express (2004)
ความสนุกสนานของหนังเรื่อง The Polar Express อยู่ที่การผจญภัยของเด็กชายผู้ไม่เคยเชื่อว่าซานตาคลอสมีอยู่จริง แต่ในคืนวันคริสต์มาสอีฟเขากลับได้ยินเสียงของรถไฟสาย Polar Express และได้เดินทางไปกับรถไฟขบวนนี้ โดยจุดหมายปลายทางของผู้โดยสารทุกคนอยู่ที่ขั้วโลกเหนือและบ้านขงซานตาคลอส ซึ่งความแฟนตาซีเหนือจินตนาการเหล่านี้ส่งผลให้กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 183 ล้านเหรียญสหรัฐ
• 3. Elf (2003)
บัดดี้ (วิล เฟอร์เรล) เอลฟ์ไซส์มนุษย์ที่พบว่าตัวเองต่างจากเอลฟ์ทั่วไป เขาจึงเดินทางออกจากขั้วโลกเหนือมายังนิวยอร์กเพื่อตามหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง จนกระทั่งได้พบกับพ่อแท้ ๆ แม่คนใหม่ และน้องชายที่ไม่เชื่อเรื่องวันคริสต์มาสเอาเสียเลย โดยบัดดี้พยายามทำให้ครอบครัวนี้กลับมาใส่ใจกับวันคริสต์มาสอีกครั้งให้ได้ ซึ่งดูเหมือนความพยายามของเขาจะชนะใจคนดูจนกวาดรายได้รวมสวย ๆ 173 ล้านเหรียญสหรัฐ
• 4. The Santa Clause (1994)
รายได้รวม 144 ล้านเหรียญสหรัฐ คือเครื่องการันตีความสำเร็จของ The Santa Clause ที่เล่าความป่วนของ สก็อต (ทิม เอลเลน) ชายที่จำยอมสวมชุดซานตาคลอสเพราะบังเอิญทำซานต้าตัวจริงตกหลังคาโดยไม่ตั้งใจ โดยไม่รู้เลยว่าการทำแบบนี้คือการยอมรับการเป็นซานตาคลอสไปโดยปริยาย ผลที่ตามมาคือร่างกายของเขาค่อย ๆ อ้วนขึ้น แถมมีหนวดเคราด้วยอีกต่างหาก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือสายตาของคนรอบข้างที่มองว่าเขาเป็นคนบ้า มีเพียงลูก ๆ เท่านั้นที่เชื่อว่าเขาคือซานตาคลอสจริง ๆ
• 5. The Santa Clause 2 (2002)
จากความสำเร็จอย่างงดงามในภาคที่แล้ว The Santa Clause 2 กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวของ สก็อต ที่ทำหน้าที่ซานต้ามาได้ 8 ปี แต่ความสุขเหล่านั้นกำลังจะหมดลงเมื่อจู่ ๆ มีข้อบัญญัติว่า หากเขาไม่แต่งงานก่อนคืนวันคริสต์มาสอีฟที่กำลังจะมาถึง เขาจะพ้นจากหน้าที่นี้ไปตลอดกาล เอาเป็นว่าหนังภาคนี้ปิดบัญชีที่ตัวเลข 139 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็แล้วกัน
• 6. A Christmas Carol (2009)
แอนิเมชั่นเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ เอเบนีเซอร์ สครูจ (จิม แคร์รี่) นายธนาคารผู้เลือดเย็นที่ได้รับคำเตือนจากวิญญาณของเพื่อนเก่าว่า มีวิญญาณแห่งเทศกาลคริสต์มาส 3 ตน กำลังจะมาหาเขาในอีกไม่ช้า ได้แก่ วิญญาณคริสต์มาสแห่งอดีต วิญญาณคริสต์มาสแห่งปัจจุบัน และวิญญาณคริสต์มาสแห่งอนาคต ซึ่งแต่ละตนจะสะท้อนให้เห็นชีวิตของ เอเบนีเซอร์ สครูจ ที่ค่อย ๆ ทวีความเลือดเย็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เขาต้องปรับปรุงตัวเพื่อหลีกเลี่ยงอนาคตอันน่ากลัวที่อาจกลายเป็นจริง ส่วนรายได้รวมของหนังเรื่องนี้ก็ทำได้ทั้งสิ้น 137 ล้านเหรียญสหรัฐ
ความวุ่นวายของเรื่อง Four Christmases เริ่มต้นจากคู่สามีภรรยา เคต (รีส วิทเธอร์สปูน) และเบรต (วินซ์ วอห์น) ที่ต่างมีพ่อแม่หย่าร้างและแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่ครบทุกคน ซึ่งนั่นให้พวกเขาต้องแบ่งเวลาไปร่วมงานคริสต์มาสถึง 4 งานภายในวันเดียวกัน โดยรายได้รวมของหนังเรื่องนี้หยุดอยู่ที่ 120 ล้านเหรียญสหรัฐ
• 8. The Santa Clause 3 : The Escape Clause (2006)
เรียกว่าฆ่าไม่ตายจริง ๆ สำหรับหนังชุด The Santa Clause ที่กลับมาอีกครั้งเป็นภาคที่ 3 พร้อมรายรับ 84 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งภาคนี้เล่าภารกิจครั้งใหม่ของซานต้า สก็อต ที่ต้องพิทักษ์อาณาจักรนอร์ทโพลและเทศกาลคริสต์มาสให้พ้นจากวายร้าย แจ็ค ฟรอส (มาร์ติน ชอร์ท) โดยในขณะเดียวกันเขาก็ต้องดูแลภรรยาใกล้คลอด และต้อนรับครอบครัวสุดป่วนที่กำลังจะมาเยือนในอีกไม่ช้า
• 9. Tim Burton\'s The Nightmare Before Christmas (1993)
นี่คือผลงานจากปลายปากกาของ ทิม เบอร์ตัน ที่เล่าความเชื่อส่วนตัวว่าแต่ละเทศกาลจะมีเมืองเป็นของตัวเอง โดยคราวนี้ถึงทีของ แจ็ค หัวหน้าเมืองฮาโลวีนที่เริ่มเบื่อหน่ายกับเทศกาลของตัวเอง และพยายามยึดเทศกาลคริสต์มาสมาจากานตาคลอสหลังจากสัมผัสความรื่นเริงในเมืองแห่งใหม่ ซึ่งผลที่ออกมาก็คือบรรยากาศของวันคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยความหลอนของเทศกาลฮาโลวีน และท้ายที่สุดแอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็โกยเงินได้ทั้งสิ้น 75 ล้านเหรียญสหรัฐ
• 10. Christmas with the Kranks (2004)
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อชายผู้ไม่สนใจเทศกาลคริสต์มาสอย่าง ลูเธอร์ แครงค์ (ทิม อัลเลน) ตัดสินใจออกไปพักผ่อนกับภรรยา (เจมี่ ลี เคอร์ติส) โดยไม่รู้เลยว่าลูกสาวของตัวเองกำลังจะมาเยี่ยมที่บ้าน ความอลเวงทั้งหมดจึงเริ่มขึ้นเมื่อพวกเขาต้องจัดงานคริสต์มาสภายใต้เวลาอันน้อยนิด เพื่อต้อนรับลูกสาวสุดที่รักได้ทันเวลา ซึ่งถือว่ารายได้ 73 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็ดูเป็นตัวเลขที่สมน้ำสมเนื้อกับความสนุกของหนังเรื่องนี้มากทีเดียว
เฟรด ครอส (วินซ์ วอห์น) น้องชายไม่เอาไหนของซานตาคลอส (พอล จีอามาติ) ถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาประจำเทศกาลคริสต์มาสมาแต่ไหนแต่ไร โดยในครั้งนี้ชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนเมื่อถูกบังคับให้ไปอยู่ขั้วโลกเหนือซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของบรรดาซานต้า กล่าวโดยสรุปคือผลงานชิ้นนี้ทำเงินทั้งสิ้น 72 ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลงานสุดคลาสสิกแห่งปี 1989 สร้างเสียงหัวเราะจากเรื่องราวสุดป่วนของครอบครัวกริสวอลล์ ที่แหวกธรรมเนียมด้วยการฉลองวันหยุดคริสต์มาสที่บ้าน โดยพวกเขาต้องจัดงานต้อนรับบรรดาญาติมิตรสุดแสบที่ยกโขยงมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งความอลเวงเหล่านี้นำไปสู่หายนะที่เรียกเสียงฮาได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยหนังเรื่องนี้กลายเป็นขวัญใจของคนดูชาวอเมริกันที่ชื่นชอบเทศกาลคริสต์มาส สอดคล้องกับรายรับรวม 71 ล้านเหรียญสหรัฐ
• 13. The Best Man Holiday (2013)
เหตุผลที่ทำให้หนังเรื่องนี้ทำเงินได้ดีถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ น่าจะเป็นความอิ่มเอมของเนื้อหาที่ว่าด้วยการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนเก่าในรอบ 15 ปี โดยเมื่อทุกคนมาพบกันในช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างวันคริสต์มาส เรื่องราวเก่า ๆ ก็ค่อย ๆ กระตุ้นความทรงจำอันสวยงามของพวกเขาอีกครั้ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Best Man Holiday
• 14. Jingle All the Way (1996)
พระเอกคนเหล็ก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ขอพิสูจน์ฝีมือในผลงานแนวตลกด้วยการรับบทเป็น โฮวาร์ด คุณพ่อสุดน่ารักที่ออกตามหาของขวัญวันคริสต์มาสชิ้นสุดท้ายให้ลูกชาย แต่อย่างไรก็ตามภารกิจครั้งนี้กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อมีคุณพ่ออีกคนหนึ่งที่กำลังตามหาของขวัญชิ้นนี้เหมือนกัน บรรยากาศที่เกิดขึ้นจึงเต็มไปด้วยความฮาที่เข้ากับเทศกาลนี้แบบสุด ๆ และไม่ลืมโกยเงินเข้ากระเป๋าไปทั้งหมด 60.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
• 15. Scrooged (1988)
ปิดท้ายผลงานทำเงินลำดับที่ 15 ด้วยเรื่องราวของ แฟรงค์ ครอส (บิล เมอร์เรย์) เจ้าของสถานีโทรทัศน์ผู้เห็นแก่ตัว ถูกวิญญาณร้ายตามหลอกหลอนในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งประสบการณ์ชวนหลอนครั้งนี้ทำให้เขาทบทวนตัวเองให้กลายเป็นคนใหม่ เรียกได้ว่ารายได้ 60.3 ล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็นตัวเลขเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับความสุขที่ผู้ชมได้รับ
เห็นด้วยหรือเปล่าว่าหนังเหล่านี้ช่างเหมาะกับช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนรอคอยจริง ๆ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะทำอะไรในช่วงวันคริสต์มาสก็ลองเก็บรายชื่อด้านบนเอาไว้พิจารณาก็แล้วกันนะ หรือจะเอาไว้ดูจนถึงเทศกาลปีใหม่ก็ไม่ว่ากัน