ชื่อของ Avengers : Age of Ultron หยิบยืมจากหนังสือการ์ตูนชุด Age Of Ultron ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2013 อย่างไรก็เนื้อหาของทั้งคู่ไม่เกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย
ด้วยลักษณะของหุ่นยนต์ อัลตรอน ที่ถูกบรรยายว่ามีความสูงราว 8-9 ฟุต เป็นเหตุให้ เจมส์ สเปเดอร์ (James Spader) ต้องเสริมเส้นลวดที่สูงเหนือศีรษะราว 3 ฟุต ซึ่งมีลูกบอลสีแดง 2 ลูกติดอยู่บนนั้น โดยลูกบอลสีแดงใช้แทนดวงตาของอัลตรอนในความสูงที่ควรจะเป็น เพื่อให้ดาราที่ร่วมฉากวางสายตาในองศาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามหนึ่งในทีมนักแสดงนำอย่าง อลิซาเบธ โอลเซ่น (Elizabeth Olsen) เล่าว่าการแสดงอันเข้มข้นของ เจมส์ สเปเดอร์ ดึงดูดให้เธอมองไปที่ดวงตาของเขาแทนที่จะเป็นลูกบอลสีแดง เมื่อใดก็ตามที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพื่อนนักแสดงคนอื่น ๆ อาทิ แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน (Aaron Taylor-Johnson) จะตะโกนให้เธอรู้สึกตัวว่า "ลิซซี่ ! บอลสีแดง ! มองไปที่ลูกบอล !"
เจมส์ สเปเดอร์ คือตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวที่ผู้กำกับ จอส วีดอน (Joss Whedon) วางตัวให้รับบท อัลตรอน เนื่องจากเสียงอันทรงพลังที่มีอำนาจในการสะกดจิต สงบและน่าสนใจ ในขณะเดียวกันยังมีความเป็นมนุษย์และมีอารมณ์ขันไม่แพ้กัน
ในวันแรกของการเข้าฉาก เจมส์ สเปเดอร์ สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนักแสดงอย่างมาก เขาได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ทันทีถ่ายทำเทคแรกเสร็จสิ้น
การปรากฏตัวของ ควิกซิลเวอร์ ในหนังเรื่อง X-Men : Days of Future Past (2014) ทำให้เขาถูกจับตาว่าอาจกลับมาอีกครั้งใน Age of Ultron อันที่จริงการมีส่วนร่วมของควิกซิลเวอร์ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ X-Men : The Last Stand (2006) และ The Avengers (2012) แต่ความซับซ้อนด้านลิขสิทธิ์ทำให้เขาพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามในเดือนพฤษภาคม 2013 ค่าย Marvel และ Fox Studios ประกาศหาทางออกให้ข้อจำกัดทางกฎหมายดังกล่าว เปิดโอกาสให้ควิกซิลเวอร์สามารถปรากฏตัวใน Avengers : Age of Ultron รวมถึงหนังภาคต่อของ X-Men ภายใต้เงื่อนไขว่า หากเขาร่วมแสดงในหนัง Avengers ต้องไม่มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ X-Men หรือ แม็กนีโต้ (ซึ่งเป็นพ่อของเขา) ในทางกลับกันหากควิกซิลเวอร์ร่วมแสดงในหนัง X-Men ก็ห้ามกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแก๊ง Avengers ด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเงื่อนไขอีกอย่างยังระบุถึงขนาดว่า หนังทุกเรื่องของ Marvel ห้ามกล่าวถึงควิกซิลเวอร์ในฐานะมนุษย์กลายพันธุ์
บริษัท Industrial Light & Magic ออกแบบระบบโมชั่นแคปเจอร์แบบใหม่ที่เรียกว่า Muse สำหรับ ฮัลค์ และอัลตรอนโดยเฉพาะ โดยมีการปรับปรุงระบบตรวจจับใบหน้าและการเคลื่อนไหวของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ในโอกาสนี้เจ้าพ่อโมชั่นแคปเจอร์ แอนดี้ เซอร์คิส (Andy Serkis) ถูกทาบทามให้ร่วมพัฒนาระบบดังกล่าว
ภาพจาก Marvel.com
แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน ถูกขอร้องให้ลดน้ำหนัก (อันที่จริงคือมวลกล้ามเนื้อมากกว่า) เพราะร่างกายของเขาดูแข็งแรงเกินกว่าจะรับบท ควิกซิลเวอร์ ที่ควรจะดูผอมกว่านี้
เครื่องแต่งกายใหม่ของ ฮอว์คอาย คือการผสมผสานระหว่างชุดดั้งเดิมในหนังสือการ์ตูน ชุดจากภาคก่อน และชุดที่แสดงความเป็นตัวตนภายใต้นามแฝง โรนิน
ในตอนแรก ธานอส ถูกวางตัวเป็นวายร้ายในหนังเรื่องถัดไปของ Avengers แต่ผู้กำกับ จอส วีดอน ตัดสินใจปฏิเสธเพราะหลงใหลหุ่นยนต์ อัลตรอน โดยเขาให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ทำให้จักรวาลของ Marvel ใกล้เคียงความเป็นจริงคือการเล่าเรื่องแบบพื้น ๆ เข้าไว้ แต่อำนาจของธานอสกลายเป็นศาสดาของเหล่าวายร้ายและโลกมืดไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขาจะมีบทบาทสำคัญใน Avengers : Infinity War Part 1 และ 2
เพื่อให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างลับสุดยอด กองถ่าย Avengers : Age of Ultron ใช้นามแฝงว่า After Party
ส่วนเนื้อหาต่อจากนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของ Avengers : Age of Ultron หากใครไม่อยากหมดสนุกก่อนชมก็สามารถข้ามไปได้เลย
หนังทุกเรื่องของ Marvel นับตั้งแต่ Iron Man (2008) จะพูดถึงการตายของตัวละครสำคัญอยู่เสมอ โดยในเรื่อง Iron Man ถูกคาดการณ์ว่าเสียชีวิตในช่วงท้ายของเรื่อง ก่อนผู้ชมจะโล่งอกเมื่อเห็นเขามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง หรือในหนังเรื่อง Guardians in Guardians of the Galaxy (2014) ที่เช่าถึงชะตากรรมของตัวละครที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด มาคราวนี้โปรดิวเซอร์ เควิน ไฟกี (Kevin Feige) กล่าวถึงการตายของใครสักคนใน Age of Ultron ซึ่งเขาคนนั้นคือ ควิกซิลเวอร์
ภาพจาก Marvel.com
นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวละครหลักในหนังของ Marvel เสียชีวิตลงอย่างถาวร ที่ผ่านมาชะตาของพวกเขามีทั้งการรอดชีวิต การเฉียดตาย หรือถูกช่วยเหลือได้ทันเวลา
ร่างกายของ อัลตรอน ประกอบไปด้วยชุดเกราะหลายส่วนจากไอรอนแมน การออกแบบดังกล่าวเป็นการระลึกถึงชุดเกราะของ โทนี่ สตาร์ค ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน ชุดซึ่งกลายเป็นหอกข้างแคร่ และย้อนกลับมาเอาชีวิตผู้สวมใส่เข้าจนได้ ช่างบังเอิญเหลือเกินที่หลังจากนั้นไม่นาน อัลตรอนได้ออกแบบหุ่นยนต์ที่ชื่อว่า โจคาสต้า ซึ่งกลายเป็นกบฏและย้อนกลับมาทำร้ายเขาในที่สุด อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์โจคาสต้ากลายเป็นสมาชิกอเวนเจอร์และเครื่องจักรข้างกายของไอรอนแมน โดยเธอถูกควบคุมโดยฝีมือของอัลตรอนอยู่เสมอ
จอส วีดอน อธิบายภารกิจของอัลตรอนว่า "อัลตรอนมองเห็นภาพรวม และตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโดยใช้ความน่ากลัว และรุนแรง จุดประสงค์ทั้งหมดคือการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น แท้จริงแล้วเขาอยากช่วยพวกเรา"
ย้ำกันอีกครั้งว่า Avengers : Age of Ultron รอคุณพิสูจน์ความตื่นตาแล้วทุกโรงภาพยนตร์ ใครที่รู้ตัวว่าเป็นแฟนคลับของเหล่าฮีโร่ทั้งหลายห้ามพลาดเป็นอันขาด