รวมรายชื่อหนังดัง 20 เรื่องที่ควรค่าแก่การสร้างภาคต่อ หลายเรื่องยังไม่ฟันธง ขณะที่หลายเรื่องพับโครงการสร้างไปเสียเฉย ๆ

แม้หนังหลายเรื่องจะได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จด้านรายได้ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ยอมสร้างหนังภาคต่อตามคำเรียกร้องของผู้ชม สตูดิโอหลายแห่งให้เหตุผลว่าการสร้างหนังภาคต่อมีความเสี่ยงด้านรายได้ ขณะที่หลายแห่งต้องการให้หนังของตัวเองเป็นตำนาน ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมขอรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ Screen Rant ที่จะพาคุณไปพบกับหนัง 20 เรื่องที่สมควรสร้างภาคต่อได้แล้ว ไปดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรเข้าตาบ้าง
1. Zombieland (2009)
แม้สตูดิโอ Amazon จะสร้างซีรีส์ออกมาสานต่อความฮิต แต่ถึงอย่างนั้น Zombieland ยังเป็นหนังที่ควรค่าแก่การสร้างภาคต่อด้วยหลายเหตุผล ประการแรกคือ เรื่องของซอมบี้ยังเป็นที่นิยม อยู่เสมอ ประการที่สองคือ กลุ่มนักแสดงนำอย่าง วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน (Woody Harrelson), เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก (Jesse Eisenberg), เอ็มม่า สโตน (Emma Stone), อาบีเกล เบรสลิน (Abigail Breslin) ยังสามารถขายได้ อย่างไรก็ตามในปี 2014 เคยมีข่าวเรื่องการพัฒนาภาคต่อจาก Zombieland แต่จนถึงบัดนี้กลับยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
2. Wanted (2008)
อันที่จริงเคยมีข่าวว่า Wanted 2 จะตามมาหลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จด้านรายได้ โดยในปี 2011 มีข่าวว่า เจมส์ แม็คอวอย (James McAvoy) จะกลับมารับบทนำร่วมกับนักแสดงคนใหม่ หลังจาก แองเจลินา โจลี (Angelina Jolie) ประกาศชัดเจนว่าจะกลับมาแน่นอน แต่ไม่รู้ทำไมจนถึงบัดนี้เรายังไม่เห็น เจมส์ แม็คอวอย กลับมาเลยแม้แต่เงา
3. Unbreakable (2000)
ผลงานเรื่องนี้ของผู้กำกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) กวาดรายได้และคำวิจารณ์ในระดับน่าพอใจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เพียงพอว่าทำไม ถึงสมควรสร้างภาคต่อ โดยในเดือนกรกฎาคม 2015 ผู้กำกับคนเก่งเปิดใจว่า อยากสร้าง Unbreakable 2 ด้วยไอเดียที่ต่างจากภาคแรก ซึ่งอาจทำให้หนังหลุดจากความเป็นภาคต่อไปเลย
4. Tron: Legacy (2010)
ด้วยรายได้จากทั่วโลกกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้โครงการสร้างภาคต่อ Tron: Legacy ถูกพูดถึงเพียงไม่นานหลังจากฉาย โดยค่าย Disney วางตัวนักแสดงชุดเดิมอย่าง โอลิเวีย ไวลด์ (Olivia Wilde) และ การ์เร็ต เฮดลันด์ (Garrett Hedlund) กลับมารับบทนำ แต่ท้ายที่สุด Disney กลับยกเลิกแผนการสร้างในช่วงกลางปี 2015 โดยสาเหตุอาจมาจากความล้มเหลวของ Tomorrowland แถมสตูดิโอยังมีโปรเจคท์อื่นต่อคิวอยู่อีกเพียบ แม้หนังเรื่องนี้จะไม่มีเนื้อหาสมบูรณ์แบบ แต่องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งการออกแบบฉาก ดนตรี หรือเทคโนโลยีสุดล้ำ ก็ควรค่าแก่การที่ Disney จะหยิบแผนการสร้างภาคต่อขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง
5. The Simpsons Movie (2007)
จากทีวีซีรีส์ที่ออกอากาศยาวนานกว่า 26 ปี สู่ผลงานบนจอเงินที่คงความชุลมุนตามสไตล์ครอบครัวซิมป์สัน และถ้าหากพิจารณาคำชื่นชมและรายได้จากทั่วโลกที่สูงถึง 527 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงไม้ต้องแปลกใจหาก 20th Century Fox เคยร้องขอให้โปรดิวเซอร์ เจมส์ แอล. บรู๊คส์ (James L. Brooks) และทีมสร้างสรรค์สร้างภาคต่อตามมาไว ๆ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีท่าทีสนใจโครงการนี้
6. The Incredible Hulk (2008)
ก่อนหน้ายุครุ่งเรืองของ The Avengers และ Captain America ต้องยอมรับว่า Iron Man และ The Incredible Hulk คือหนังรุ่นบุกเบิกความสำเร็จของ Marvel อย่างแท้จริง แต่ถึงอย่างนั้นหนังเดี่ยวของมนุษย์ยักษ์ตัวเขียวกลับไม่ได้รับการสานต่อจนถึงปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะปัญหาการถือครองลิขสิทธิ์ระหว่าง Universal Pictures กับ Disney และ Marvel แต่ถึงอย่างนั้นเราอาจได้เห็นพัฒนาการของ ฮัลค์ ในหนังเรื่อง Thor: Ragnarok และ Avengers: Infinity War ที่กำลังจะมาถึง
7. Stargate (1994)
แม้ผลงานของผู้กำกับ โรแลนด์ เอมเมอริค (Roland Emmerich) และนักเขียนบทคู่ใจ ดีน เดฟลิน (Dean Devlin) จะยังไม่มีภาคต่อตามมา แต่หนังเรื่องนี้กลับประสบความสำเร็จในรูปแบบซีรีส์และหนังออกฉายทางโทรทัศน์ ซึ่งตอนนี้ โรแลนด์ เอมเมอริค เตรียมส่งหนังภาคต่อ Independence Day: Resurgence เข้าฉายในเดือนมิถุนายน 2016 หลังจากนั้นเราอาจได้ลุ้นว่าเขาจะนำ Stargate กลับมาปัดฝุ่นใหม่หรือเปล่า
8. Robin Hood (2010)
ตำนานวีรบุรุษ โรบินฮู้ด ถูกดัดแปลงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่หนึ่งในเวอร์ชั่นที่น่าจดจำที่สุดเห็นจะเป็นหนัง Robin Hood ฉบับของผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ (Ridley Scott) ที่เต็มไปด้วยความดราม่าและฉากแอ็คชั่นอันสมจริง ซึ่งถ้าหากได้พระเอกมาดเท่อย่าง รัสเซล โครว์ (Russell Crowe) กลับมาสวมบท โรบินฮู้ด อีกครั้งในภาคต่อก็คงจะเยี่ยมไม่น้อย
9. Real Steel (2011)
นำแสดงโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ในบทนักมวยตกอับที่สร้างหุ่นยนต์บ้าน ๆ ให้กลายเป็นที่ 1 บนสังเวียนมวยหุ่นยนต์ หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย และได้คะแนนจากผู้ชมทั่วโลกเป็นรายได้กว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ อันเป็นคุณสมบัติที่เหมาะเจาะเหลือเกินสำหรับการสร้างเป็นภาคต่อ
10. Pacific Rim (2013)
ในบรรดาหนังทุกเรื่องที่เราพูดถึง เชื่อได้เลยว่า Pacific Rim คือหนังที่มีอนาคตคลุมเครือที่สุด แม้ปัจจุบัน Universal Pictures จะถอดกำหนดเข้าฉาย Pacific Rim 2 ออกจากตารางไปแล้ว แต่ผู้กำกับ กิลเลอร์โม เดล โตโร (Guillermo del Toro) ยังยืนยันว่าหนังภาค 2 ยังไม่ตายไปเสียทีเดียว โดยล่าสุด Legendary Pictures และบริษัทจากประเทศจีนอย่าง Wanda อาจคว้าสิทธิ์หนังเรื่องนี้มาสร้างด้วยตัวเอง เนื่องจากภาคแรกของ Pacific Rim ประสบความสำเร็จในประเทศจีนอย่างสูง
11. Mystery Men (1999)
Mystery Men หรือ ฮีโร่พลังแสบรวมพลพิทักษ์โลก คือหนังซูเปอร์ฮีโร่แนวตลกที่นำแสดงโดย เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller) ผู้มาพร้อมกับกองทัพยอดมนุษย์และพลังพิเศษอันน่าปวดหัว แม้หนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้เมื่อครั้งออกฉาย แต่การสร้างภาคต่อในอนาคตก็ถือเป็น โอกาสดีสำหรับการแก้ตัว หากหนังเพี้ยนอย่าง Zoolander กลับมาสร้างภาคต่อได้ แล้วทำไม Mystery Men จะมีภาคต่อเป็นของตัวเองบ้างไม่ได้
12. Mr.& Mrs. Smith (2005)
แม้การพบกันของ 2 ซูเปอร์สตาร์ แบรด พิตต์ (Brad Pitt) และแองเจลินา โจลี (Angelina Jolie) จะทำให้การถ่ายทำประสบปัญหา เช่น ความเห็นที่ไม่ลงรอยระหว่างดาราสาวกับผู้กำกับ ไปจนถึงการที่ แบรด พิตต์ ต้องปลีกเวลาเพื่อไปถ่ายทำ Ocean’s Twelve แต่ถึงอย่างนั้น Mr. and Mrs. Smith ก็กลายเป็นหนังที่ดูสนุกและสมควรสร้างภาคต่ออยู่ดี ซึ่งความสามารถของสองดารานำที่เป็นได้ทั้งนักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ ก็น่าจะช่วยให้หนังภาคต่อน่าสนใจขึ้นอีกเยอะ
13. Kill Bill (2003-2004)
แม้หลายคนรู้จัก Kill Bill ว่าประกอบไปด้วย Vol.1 และ Vol.2 แต่เอาเข้าจริงนี่คือหนังที่ถูกแบ่งเป็น 2 ตอนมากกว่าจะเป็นภาคต่อ หลายคนยังรอคอยให้ Kill Bill ภาค 2 หรือ Vol.3 ตามมาเสียที โดยผู้กำกับ เควนติน ทารันติโน่ (Quentin Tarantino) ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนธันวาคม 2015 ว่าเขาอยากทำหนังอีก 2 เรื่อง ไม่รู้เหมือนกันว่าหนึ่งในนั้นมีภาคต่อ Kill Bill รวมอยู่ด้วยหรือเปล่า
14. John Carter (2012)
เป็นที่ทราบกันดีว่า John Carter คือหนังที่ค่าย Disney ลงทุนไปมหาศาลแต่กลับขาดทุนย่อยยับ จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าทำไม John Carter 2 และ 3 ที่ชื่อว่า Gods of Mars และ Warlords of Mars ถึงกลายเป็นหมันมาจนถึงปัจจุบัน แต่ถ้าหากคิดดูดี ๆ กลับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ความอลังการขนาดนี้ ทีมงานระดับนี้ และนักแสดงระดับนี้ ต้องพลาดเพราะการทำการตลาดที่ไม่แข็งแกร่งหรือปัจจัยอื่น ๆ ดังนั้น John Carter จึงเป็นหนังอีกเรื่องที่หลายคนเอาใจช่วยให้สร้างภาคต่อ
15. Inception (2010)
นอกเหนือจากหนังตระกูล Batman เราไม่เคยเห็น คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) กำกับหนังภาคต่อเรื่องไหนอีกเลย ไม่เว้นแม้แต่หนังที่ประสบความสำเร็จอย่าง Inception ที่มีเพียงแผนสร้างวิดีโอเกมออกมาเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไรความหวังที่เราจะได้ชม Inception 2 ยังไม่ดับลงเสียทีเดียว เพราะหนึ่งในทีมนักแสดงอย่าง ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) เคยให้สัมภาษณ์ในปี 2011 ว่าทีมนักแสดงได้เซ็นสัญญาล่วงหน้าสำหรับหนังภาค 2 ไว้เรียบร้อยแล้ว
16. I Am Legend (2007)
บทบาทของ วิล สมิธ (Will Smith) ในมาดมนุษย์คนสุดท้ายของโลกที่รอดชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะ ส่งให้เขาได้รับคำชื่นชมอย่างท่วมท้น และมีแรงสนับสนุนให้สตูดิโอสร้างภาคต่อตามมาได้แล้ว โดยโปรดิวเซอร์และผู้เขียนบทอย่าง อคิวา โกลด์สแมน (Akiva Goldsman) เปิดเผยเมื่อปี 2014 ว่าเขาเขียนบทสำหรับภาคต่อและภาคปฐมบทของ I Am Legend เอาไว้เรียบร้อย แต่ยังไม่ได้รับไฟเขียวจากสตูดิโอจนถึงปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะ Warner Bros. มีหนังเรื่องอื่นที่เนื้อหาคล้ายกันไว้อยู่แล้ว
17. Hancock (2008)
ก่อนที่ค่าย Marvel และ DC จะปลุกกระแสหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่างเช่นทุกวันนี้ หนังเรื่อง Hancock นำเทรนด์ฮีโร่จอมทำลายล้างจนติดตลาดก่อนใครเพื่อน และในเมื่อหนังกวาดรายได้จากทั่วโลกกว่า 624 จากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หลายคนจึงแปลกใจว่าทำไมยังไม่มีภาค ต่อ Hancock ตามมาเสียที โดยผู้กำกับของเรื่องอย่าง ปีเตอร์ เบิร์ก (Peter Berg) เคยให้สัมภาษณ์ว่า วิล สมิธ (Will Smith) สนใจไอเดียสร้างภาคต่อเมื่อปี 2012 แต่จนถึงบัดนี้เรื่องก็ยังเงียบฉี่
18. Galaxy Quest (1999)
ด้วยเรื่องราวของอดีตทีมนักแสดงละครโทรทัศน์แนวไซไฟที่ต้องสวมบทของตัวเองในชีวิตจริง หลังเอเลี่ยนจากนอกโลกต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา ทำให้หนังไซไฟเบาสมองอย่าง Galaxy Quest เป็นที่ชื่นชอบทั้งกลุ่มผู้ชม และนักวิจารณ์ โดยเมื่อเดือนเมษายน 2015 มีข่าวว่า Paramount Pictures วางแผนดัดแปลง Galaxy Quest ในรูปแบบทีวีซีรีส์ ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
19. Eragon (2006)
ผู้กำกับ สตีเฟน แฟงไมเออร์ (Stefen Fangmeier) เคยให้สัมภาษณ์ว่า 20th Century Fox ค่อนข้างพอใจกับรายได้จากทั่วโลกเกือบ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทุกวันนี้เรายังไม่เคยได้ยินแผนการสร้างภาคต่อ Eragon 2 เล็ดลอดออกมาแม้แต่นิดเดียว และในเมื่อเราอยู่ในยุคที่หนังสไตล์ The Hobbit และซีรีส์ Game of Thrones กำลังได้รับความนิยม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่หนังภาคต่อ Eragon ต้องกลับมา
20. District 9 (2009)
ไม่ต้องอธิบายให้มากก็รู้ว่าทำไม District 9 จึงควรสร้างภาคต่อได้แล้ว หนังเรื่องนี้เกิดจากไอเดียผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ็คสัน (Peter Jackson) และ นีลล์ บลอมแคมป์ (Neill Blomkamp) ที่อยากนำเสนอหนังไซไฟในรูปแบบฟุตเทจวิดีโอ ปรากฏว่าหนังเรื่องนี้โด่งดังเป็นพลุแตกและกลายเป็นผลงานแจ้งเกิดผู้กำกับ นีลล์ บลอมแคมป์ อย่างแท้จริง
ในจำนวน 20 เรื่องที่เราคัดเลือกมา มีหลายเรื่องเหมือนกันที่มีลุ้นว่าจะสร้างภาคต่อตามมาจริง ๆ เห็นทีเราคงต้องจับตากันต่อไปว่า โปรเจคท์ไหนจะไปถึงฝั่งฝันก่อนเพื่อน

แม้หนังหลายเรื่องจะได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จด้านรายได้ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ยอมสร้างหนังภาคต่อตามคำเรียกร้องของผู้ชม สตูดิโอหลายแห่งให้เหตุผลว่าการสร้างหนังภาคต่อมีความเสี่ยงด้านรายได้ ขณะที่หลายแห่งต้องการให้หนังของตัวเองเป็นตำนาน ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมขอรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ Screen Rant ที่จะพาคุณไปพบกับหนัง 20 เรื่องที่สมควรสร้างภาคต่อได้แล้ว ไปดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรเข้าตาบ้าง
แม้สตูดิโอ Amazon จะสร้างซีรีส์ออกมาสานต่อความฮิต แต่ถึงอย่างนั้น Zombieland ยังเป็นหนังที่ควรค่าแก่การสร้างภาคต่อด้วยหลายเหตุผล ประการแรกคือ เรื่องของซอมบี้ยังเป็นที่นิยม อยู่เสมอ ประการที่สองคือ กลุ่มนักแสดงนำอย่าง วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน (Woody Harrelson), เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก (Jesse Eisenberg), เอ็มม่า สโตน (Emma Stone), อาบีเกล เบรสลิน (Abigail Breslin) ยังสามารถขายได้ อย่างไรก็ตามในปี 2014 เคยมีข่าวเรื่องการพัฒนาภาคต่อจาก Zombieland แต่จนถึงบัดนี้กลับยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Zombieland
2. Wanted (2008)
อันที่จริงเคยมีข่าวว่า Wanted 2 จะตามมาหลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จด้านรายได้ โดยในปี 2011 มีข่าวว่า เจมส์ แม็คอวอย (James McAvoy) จะกลับมารับบทนำร่วมกับนักแสดงคนใหม่ หลังจาก แองเจลินา โจลี (Angelina Jolie) ประกาศชัดเจนว่าจะกลับมาแน่นอน แต่ไม่รู้ทำไมจนถึงบัดนี้เรายังไม่เห็น เจมส์ แม็คอวอย กลับมาเลยแม้แต่เงา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wanted
3. Unbreakable (2000)
ผลงานเรื่องนี้ของผู้กำกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) กวาดรายได้และคำวิจารณ์ในระดับน่าพอใจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เพียงพอว่าทำไม ถึงสมควรสร้างภาคต่อ โดยในเดือนกรกฎาคม 2015 ผู้กำกับคนเก่งเปิดใจว่า อยากสร้าง Unbreakable 2 ด้วยไอเดียที่ต่างจากภาคแรก ซึ่งอาจทำให้หนังหลุดจากความเป็นภาคต่อไปเลย

4. Tron: Legacy (2010)
ด้วยรายได้จากทั่วโลกกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้โครงการสร้างภาคต่อ Tron: Legacy ถูกพูดถึงเพียงไม่นานหลังจากฉาย โดยค่าย Disney วางตัวนักแสดงชุดเดิมอย่าง โอลิเวีย ไวลด์ (Olivia Wilde) และ การ์เร็ต เฮดลันด์ (Garrett Hedlund) กลับมารับบทนำ แต่ท้ายที่สุด Disney กลับยกเลิกแผนการสร้างในช่วงกลางปี 2015 โดยสาเหตุอาจมาจากความล้มเหลวของ Tomorrowland แถมสตูดิโอยังมีโปรเจคท์อื่นต่อคิวอยู่อีกเพียบ แม้หนังเรื่องนี้จะไม่มีเนื้อหาสมบูรณ์แบบ แต่องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งการออกแบบฉาก ดนตรี หรือเทคโนโลยีสุดล้ำ ก็ควรค่าแก่การที่ Disney จะหยิบแผนการสร้างภาคต่อขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Tron
5. The Simpsons Movie (2007)
จากทีวีซีรีส์ที่ออกอากาศยาวนานกว่า 26 ปี สู่ผลงานบนจอเงินที่คงความชุลมุนตามสไตล์ครอบครัวซิมป์สัน และถ้าหากพิจารณาคำชื่นชมและรายได้จากทั่วโลกที่สูงถึง 527 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงไม้ต้องแปลกใจหาก 20th Century Fox เคยร้องขอให้โปรดิวเซอร์ เจมส์ แอล. บรู๊คส์ (James L. Brooks) และทีมสร้างสรรค์สร้างภาคต่อตามมาไว ๆ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีท่าทีสนใจโครงการนี้

ภาพจาก FoxConnect
6. The Incredible Hulk (2008)
ก่อนหน้ายุครุ่งเรืองของ The Avengers และ Captain America ต้องยอมรับว่า Iron Man และ The Incredible Hulk คือหนังรุ่นบุกเบิกความสำเร็จของ Marvel อย่างแท้จริง แต่ถึงอย่างนั้นหนังเดี่ยวของมนุษย์ยักษ์ตัวเขียวกลับไม่ได้รับการสานต่อจนถึงปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะปัญหาการถือครองลิขสิทธิ์ระหว่าง Universal Pictures กับ Disney และ Marvel แต่ถึงอย่างนั้นเราอาจได้เห็นพัฒนาการของ ฮัลค์ ในหนังเรื่อง Thor: Ragnarok และ Avengers: Infinity War ที่กำลังจะมาถึง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Incredible Hulk
7. Stargate (1994)
แม้ผลงานของผู้กำกับ โรแลนด์ เอมเมอริค (Roland Emmerich) และนักเขียนบทคู่ใจ ดีน เดฟลิน (Dean Devlin) จะยังไม่มีภาคต่อตามมา แต่หนังเรื่องนี้กลับประสบความสำเร็จในรูปแบบซีรีส์และหนังออกฉายทางโทรทัศน์ ซึ่งตอนนี้ โรแลนด์ เอมเมอริค เตรียมส่งหนังภาคต่อ Independence Day: Resurgence เข้าฉายในเดือนมิถุนายน 2016 หลังจากนั้นเราอาจได้ลุ้นว่าเขาจะนำ Stargate กลับมาปัดฝุ่นใหม่หรือเปล่า

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Stargate
8. Robin Hood (2010)
ตำนานวีรบุรุษ โรบินฮู้ด ถูกดัดแปลงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่หนึ่งในเวอร์ชั่นที่น่าจดจำที่สุดเห็นจะเป็นหนัง Robin Hood ฉบับของผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ (Ridley Scott) ที่เต็มไปด้วยความดราม่าและฉากแอ็คชั่นอันสมจริง ซึ่งถ้าหากได้พระเอกมาดเท่อย่าง รัสเซล โครว์ (Russell Crowe) กลับมาสวมบท โรบินฮู้ด อีกครั้งในภาคต่อก็คงจะเยี่ยมไม่น้อย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Robin Hood
9. Real Steel (2011)
นำแสดงโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ในบทนักมวยตกอับที่สร้างหุ่นยนต์บ้าน ๆ ให้กลายเป็นที่ 1 บนสังเวียนมวยหุ่นยนต์ หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย และได้คะแนนจากผู้ชมทั่วโลกเป็นรายได้กว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ อันเป็นคุณสมบัติที่เหมาะเจาะเหลือเกินสำหรับการสร้างเป็นภาคต่อ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Real Steel
ในบรรดาหนังทุกเรื่องที่เราพูดถึง เชื่อได้เลยว่า Pacific Rim คือหนังที่มีอนาคตคลุมเครือที่สุด แม้ปัจจุบัน Universal Pictures จะถอดกำหนดเข้าฉาย Pacific Rim 2 ออกจากตารางไปแล้ว แต่ผู้กำกับ กิลเลอร์โม เดล โตโร (Guillermo del Toro) ยังยืนยันว่าหนังภาค 2 ยังไม่ตายไปเสียทีเดียว โดยล่าสุด Legendary Pictures และบริษัทจากประเทศจีนอย่าง Wanda อาจคว้าสิทธิ์หนังเรื่องนี้มาสร้างด้วยตัวเอง เนื่องจากภาคแรกของ Pacific Rim ประสบความสำเร็จในประเทศจีนอย่างสูง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pacific Rim
11. Mystery Men (1999)
Mystery Men หรือ ฮีโร่พลังแสบรวมพลพิทักษ์โลก คือหนังซูเปอร์ฮีโร่แนวตลกที่นำแสดงโดย เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller) ผู้มาพร้อมกับกองทัพยอดมนุษย์และพลังพิเศษอันน่าปวดหัว แม้หนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้เมื่อครั้งออกฉาย แต่การสร้างภาคต่อในอนาคตก็ถือเป็น โอกาสดีสำหรับการแก้ตัว หากหนังเพี้ยนอย่าง Zoolander กลับมาสร้างภาคต่อได้ แล้วทำไม Mystery Men จะมีภาคต่อเป็นของตัวเองบ้างไม่ได้

12. Mr.& Mrs. Smith (2005)
แม้การพบกันของ 2 ซูเปอร์สตาร์ แบรด พิตต์ (Brad Pitt) และแองเจลินา โจลี (Angelina Jolie) จะทำให้การถ่ายทำประสบปัญหา เช่น ความเห็นที่ไม่ลงรอยระหว่างดาราสาวกับผู้กำกับ ไปจนถึงการที่ แบรด พิตต์ ต้องปลีกเวลาเพื่อไปถ่ายทำ Ocean’s Twelve แต่ถึงอย่างนั้น Mr. and Mrs. Smith ก็กลายเป็นหนังที่ดูสนุกและสมควรสร้างภาคต่ออยู่ดี ซึ่งความสามารถของสองดารานำที่เป็นได้ทั้งนักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ ก็น่าจะช่วยให้หนังภาคต่อน่าสนใจขึ้นอีกเยอะ

13. Kill Bill (2003-2004)
แม้หลายคนรู้จัก Kill Bill ว่าประกอบไปด้วย Vol.1 และ Vol.2 แต่เอาเข้าจริงนี่คือหนังที่ถูกแบ่งเป็น 2 ตอนมากกว่าจะเป็นภาคต่อ หลายคนยังรอคอยให้ Kill Bill ภาค 2 หรือ Vol.3 ตามมาเสียที โดยผู้กำกับ เควนติน ทารันติโน่ (Quentin Tarantino) ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนธันวาคม 2015 ว่าเขาอยากทำหนังอีก 2 เรื่อง ไม่รู้เหมือนกันว่าหนึ่งในนั้นมีภาคต่อ Kill Bill รวมอยู่ด้วยหรือเปล่า

14. John Carter (2012)
เป็นที่ทราบกันดีว่า John Carter คือหนังที่ค่าย Disney ลงทุนไปมหาศาลแต่กลับขาดทุนย่อยยับ จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าทำไม John Carter 2 และ 3 ที่ชื่อว่า Gods of Mars และ Warlords of Mars ถึงกลายเป็นหมันมาจนถึงปัจจุบัน แต่ถ้าหากคิดดูดี ๆ กลับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ความอลังการขนาดนี้ ทีมงานระดับนี้ และนักแสดงระดับนี้ ต้องพลาดเพราะการทำการตลาดที่ไม่แข็งแกร่งหรือปัจจัยอื่น ๆ ดังนั้น John Carter จึงเป็นหนังอีกเรื่องที่หลายคนเอาใจช่วยให้สร้างภาคต่อ

15. Inception (2010)
นอกเหนือจากหนังตระกูล Batman เราไม่เคยเห็น คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) กำกับหนังภาคต่อเรื่องไหนอีกเลย ไม่เว้นแม้แต่หนังที่ประสบความสำเร็จอย่าง Inception ที่มีเพียงแผนสร้างวิดีโอเกมออกมาเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไรความหวังที่เราจะได้ชม Inception 2 ยังไม่ดับลงเสียทีเดียว เพราะหนึ่งในทีมนักแสดงอย่าง ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) เคยให้สัมภาษณ์ในปี 2011 ว่าทีมนักแสดงได้เซ็นสัญญาล่วงหน้าสำหรับหนังภาค 2 ไว้เรียบร้อยแล้ว

16. I Am Legend (2007)
บทบาทของ วิล สมิธ (Will Smith) ในมาดมนุษย์คนสุดท้ายของโลกที่รอดชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะ ส่งให้เขาได้รับคำชื่นชมอย่างท่วมท้น และมีแรงสนับสนุนให้สตูดิโอสร้างภาคต่อตามมาได้แล้ว โดยโปรดิวเซอร์และผู้เขียนบทอย่าง อคิวา โกลด์สแมน (Akiva Goldsman) เปิดเผยเมื่อปี 2014 ว่าเขาเขียนบทสำหรับภาคต่อและภาคปฐมบทของ I Am Legend เอาไว้เรียบร้อย แต่ยังไม่ได้รับไฟเขียวจากสตูดิโอจนถึงปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะ Warner Bros. มีหนังเรื่องอื่นที่เนื้อหาคล้ายกันไว้อยู่แล้ว

17. Hancock (2008)
ก่อนที่ค่าย Marvel และ DC จะปลุกกระแสหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่างเช่นทุกวันนี้ หนังเรื่อง Hancock นำเทรนด์ฮีโร่จอมทำลายล้างจนติดตลาดก่อนใครเพื่อน และในเมื่อหนังกวาดรายได้จากทั่วโลกกว่า 624 จากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หลายคนจึงแปลกใจว่าทำไมยังไม่มีภาค ต่อ Hancock ตามมาเสียที โดยผู้กำกับของเรื่องอย่าง ปีเตอร์ เบิร์ก (Peter Berg) เคยให้สัมภาษณ์ว่า วิล สมิธ (Will Smith) สนใจไอเดียสร้างภาคต่อเมื่อปี 2012 แต่จนถึงบัดนี้เรื่องก็ยังเงียบฉี่

18. Galaxy Quest (1999)
ด้วยเรื่องราวของอดีตทีมนักแสดงละครโทรทัศน์แนวไซไฟที่ต้องสวมบทของตัวเองในชีวิตจริง หลังเอเลี่ยนจากนอกโลกต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา ทำให้หนังไซไฟเบาสมองอย่าง Galaxy Quest เป็นที่ชื่นชอบทั้งกลุ่มผู้ชม และนักวิจารณ์ โดยเมื่อเดือนเมษายน 2015 มีข่าวว่า Paramount Pictures วางแผนดัดแปลง Galaxy Quest ในรูปแบบทีวีซีรีส์ ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

19. Eragon (2006)
ผู้กำกับ สตีเฟน แฟงไมเออร์ (Stefen Fangmeier) เคยให้สัมภาษณ์ว่า 20th Century Fox ค่อนข้างพอใจกับรายได้จากทั่วโลกเกือบ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทุกวันนี้เรายังไม่เคยได้ยินแผนการสร้างภาคต่อ Eragon 2 เล็ดลอดออกมาแม้แต่นิดเดียว และในเมื่อเราอยู่ในยุคที่หนังสไตล์ The Hobbit และซีรีส์ Game of Thrones กำลังได้รับความนิยม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่หนังภาคต่อ Eragon ต้องกลับมา

20. District 9 (2009)
ไม่ต้องอธิบายให้มากก็รู้ว่าทำไม District 9 จึงควรสร้างภาคต่อได้แล้ว หนังเรื่องนี้เกิดจากไอเดียผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ็คสัน (Peter Jackson) และ นีลล์ บลอมแคมป์ (Neill Blomkamp) ที่อยากนำเสนอหนังไซไฟในรูปแบบฟุตเทจวิดีโอ ปรากฏว่าหนังเรื่องนี้โด่งดังเป็นพลุแตกและกลายเป็นผลงานแจ้งเกิดผู้กำกับ นีลล์ บลอมแคมป์ อย่างแท้จริง

ในจำนวน 20 เรื่องที่เราคัดเลือกมา มีหลายเรื่องเหมือนกันที่มีลุ้นว่าจะสร้างภาคต่อตามมาจริง ๆ เห็นทีเราคงต้องจับตากันต่อไปว่า โปรเจคท์ไหนจะไปถึงฝั่งฝันก่อนเพื่อน