
งานประกาศผลรางวัลออสการ์ 2017 ผ่านพ้นไปแล้วท่ามกลางความยินดีและความตกตะลึง เพราะนอกจากการแสดงความยินดีกับผู้ชนะในสาขาต่าง ๆ แล้ว ฉากจบของงานได้สร้างประวัติศาสตร์ที่คนทั้งโลกจะต้องจดจำ และเพื่อเป็นการส่งท้ายงานประกาศรางวัลครั้งที่ 89 กระปุกดอทคอมอยากเก็บตกเรื่องราวบนเวทีออสการ์ 2017 ว่ามีเรื่องไหนโดดเด่นน่าสนใจบ้าง โดยเรารวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ Variety มารวมเป็น 10 เรื่องจากงานประกาศผลรางวัลออสการ์ 2017 ที่คุณจะต้องจดจำไปอีกนาน

ภาพจาก KEVIN WINTER / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP
2. การประกาศรายชื่อผู้ชนะผิดคนบนเวทีออสการ์ เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 1964 โดยครั้งนั้น แซมมี่ เดวิส จูเนียร์ (Sammy Davis Jr.) ประกาศว่า จอห์น แอดดิสัน (John Addison) จากเรื่อง Tom Jones คือผู้ชนะในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทั้งที่ จอห์น แอดดิสัน ไม่มีชื่อเข้าชิงในสาขานี้เลยด้วยซ้ำ โดยผู้ชนะตัวจริงคือ อังเดร เพรวิน (Andre Previn) จากเรื่อง Irma La Douce ซึ่งความผิดพลาดดังกล่าวถูกแก้ไขภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ส่วนสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดจาก แซมมี่ เดวิส จูเนียร์ ได้รับซองผลรางวัลผิด อย่างไรก็ตามในปี 1985 ความผิดพลาดครั้งใหญ่เกือบเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ ลอเรนซ์ โอลิเวียร์ (Laurence Olivier) ประกาศให้ Amadeus ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยกระดาษที่เขาอ่านเป็นเพียงรายชื่อผู้เข้าชิงที่เรียงตามลำดับตัวอักษร ไม่ใช่ผลรางวัลของจริง แต่ถือว่าโชคยังเข้าข้างเพราะ Amadeus คือผู้ชนะรางวัลตัวจริงอยู่แล้ว
3. การประกาศรางวัลผิดในช่วงท้ายรายการ ไม่ใช่ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวบนเวทีออสการ์ 2017 เพราะใน VTR รำลึกถึงคนในวงการที่เสียชีวิตในรอบปีที่ผ่านมา มีการนำภาพของโปรดิวเซอร์ชาวออสเตรเลียน แจน แชปแมน (Jan Chapman) ซึ่งยังไม่เสียชีวิตใส่ลงไปด้วย โดยภาพของเธอถูกนำไปใช้ประกอบชื่อของ แจเน็ต แพตเตอร์สัน (Janet Patterson) นักออกแบบเครื่องแต่งกายชาวออสเตรเลียน เพื่อนร่วมงานของเธอซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015
4. ชัยชนะของผู้กำกับวัย 32 อย่าง เดเมียน ชาเซลล์ (Damien Chazelle) ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก La La Land ทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับที่อายุน้อยที่สุดที่เคยได้รับรางวัลในสาขานี้

5. เดนเซล วอชิงตัน (Denzel Washington) ถูกมองว่าเป็นตัวเก็งสาขานักแสดงนำชาย จากผลงานอันยอดเยี่ยมในหนังดราม่าเรื่อง Fences แต่ท้ายที่สุดเขากลับต้องผิดหวังเมื่อรางวัลตกเป็นของ เคซีย์ แอฟเฟล็ค (Casey Affleck) จากเรื่อง Manchester by the Sea

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fences Movie
6. Lion, Hidden Figures และ Hell or High Water มีชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และมีลุ้นในรางวัลย่อยอีกหลายสาขา (Lion เข้าชิง 6 รางวัล, Hidden Figures เข้าชิง 4 รางวัล และ Hell or High Water เข้าชิง 3 รางวัล) แต่น่าเสียดายที่ทั้งสามเรื่องต้องกลับบ้านมือเปล่า
7. Fantastic Beasts and Where to Find Them ชนะรางวัลในสาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม โดยถือเป็นหนังเรื่องแรกของแฟรนไชส์ Harry Potter ที่คว้ารางวัลออสการ์มาครองได้สำเร็จ
8. แม้ถูกนักวิจารณ์ตราหน้าว่าเป็นหนังยอดแย่ แต่หนังรวมดาวร้าย Suicide Squad จากค่าย Warner Bros. และ DC Comics ก็คว้ารางวัลในสาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม เข้าสู่ทำเนียบหน้าที่มีรางวัลออสการ์การันตี

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Suicide Squad

10. อัสการ์ ฟาร์ฮาดี (Asghar Farhadi) ผู้กำกับชาวอิหร่านจากเรื่อง The Salesman ซึ่งคว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ไม่สามารถมารับรางวัลด้วยตัวเองได้ เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ประกาศห้ามประชาชนจากชาติมุสลิม 7 ประเทศ ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซีเรีย เยเมน และซูดาน เดินทางเข้าสหรัฐฯ และถึงแม้ภายหลังเขาจะได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ แต่เขาตัดสินใจไม่มาร่วมงานเพื่อเป็นการประท้วง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mongkol Major
หากไม่นับเรื่องดราม่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ หลายคนคงเห็นตรงกันว่าผู้ชนะในสาขาต่าง ๆ นั้นถือว่าเหมาะสม ปีหน้ามารอดูกันใหม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก