ไม่พูดถึงไม่ได้เลยจริง ๆ สำหรับการจัดอันดับภาพยนตร์ประจำปีโดยนิตยสารชั้นนำ TIME ที่ก่อนหน้านี้เราได้หยิบ 10 อันดับหนังยอดแย่ประจำปี 2017 มาฝากทุกคนกันไปแล้ว (คลิกอ่าน: 10 หนังยอดแย่ประจำปี 2017 โดยนิตยสาร TIME) ตอนนี้ก็ถึงคราวเปิดรายชื่อของฝั่งหนังยอดเยี่ยมกันบ้าง และเราขอบอกได้คำเดียวเลยว่าแฟน ๆ ผู้รักหนังต้องลุ้นกันแบบจิกหมอนจนขาดกันไปข้างเลยทีเดียว เพราะบรรดาหนังทั้งหมดที่ค่ายผู้สร้างน้อยใหญ่ปล่อยออกมาตลอดปีต่างก็มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ และยอดเยี่ยมกันทั้งนั้น !
10. Girls Trip
เขาว่ากันว่า ใครมีอารมณ์ดีก็เป็นศรีแก่ตัว.. และ Girls Trip หนังคอมเมดี้จากผู้กำกับ มัลคอล์ม ดี. ลี (Malcolm D. Lee) คือเซอร์ไพรส์ที่หอมหวานที่สุดในซัมเมอร์นี้ ตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดงอย่าง ควีน ลาติฟาห์ (Queen Latifah) และ ทิฟฟานี่ แฮดดิช (Tiffany Haddish) มานำทีมพากลุ่มเพื่อนเก่าเพื่อนแก่มั่วสุมมึนเมาแบบเอาให้ล้มหงายกันไปข้าง ซึ่งก็น่าแปลกที่สิ่งที่คนดูได้รับจากหนังคือความฟินและความสุขสุดบันเทิง และไม่รู้สึกอึดอัดใจจากมุกตลกทะลึ่งหยาบคายที่แทรกอยู่ในหนังเลยแม้แต่น้อย
9. Get Out
ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับ จอร์แดน พีเล (Jordan Peele) เล่าเรื่องราวพิศวงของชายหนุ่มผิวสีผู้ได้รับการต้อนรับ \'อย่างดี\' จากครอบครัวของแฟนสาวผิวขาว ที่ จอร์แดน พีเล สร้างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในจุดที่ผู้กำกับคนอื่น ๆ ทำไม่ได้ ด้วยการสอดแทรกมุมมองเรื่องความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนผิวขาวและคนผิวสีในสังคมสู่ผลงานที่ทำให้คุณทั้งรู้สึกสยองขวัญและหัวเราะไปกับมุกตลกร้ายของหนังทุกครั้งที่คุณนึกถึง..
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Get Out
8. Faces Places
ภาพยนตร์สารคดีของผู้ทำหนังชาวเบลเยียมวัย 89 ปี แอคเนส เวอร์ด้า (Agnès Varda) และศิลปินหนุ่มชาวฝรั่งเศส เจอาร์ (JR) บอกเล่าประสบการณ์การเดินทางผจญภัยรอบประเทศฝรั่งเศส ด้วยรถบรรทุกเล็ก ๆ หนึ่งคันที่พวกเขาตั้งใจทำให้เป็นสตูดิโอถ่ายรูปขนาดย่อมเพื่อเก็บภาพผู้คนที่เจอ ก่อนจะพิมพ์รูปสีหน้ายิ้มแย้มของคนเหล่านั้นมาตบแต่งตามสถานที่ที่พวกเขาอาศัยผูกพันอย่างมีศิลปะ และทำให้เราเข้าใจได้ว่า ศิลปินที่แท้จริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน.. ไม่ว่าสถานที่จะเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์ใจได้เสมอ
ภาพจาก เว็บไซต์ Faces Places
7. Dunkirk
จากเหตุการณ์จริงในสงคราม ยุทธการที่ดันเคิร์ก สู่ภาพยนตร์สงครามโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ที่เล่าความตึงเครียดของเหล่าทหารออกมาได้อย่างสวยงามตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับภาพงานศิลปะโทนหม่นที่ค่อย ๆ แต่งแต้มประกายสีสันของประวัติศาสตร์เข้าไปทีละเล็กละน้อย เสร็จออกมาเป็นภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมที่ใช้ทุนสร้างออกมาได้อย่างคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ขนาดที่ฮอลลีวูดจะไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว
6. Call Me By Your Name
เรื่องราวธรรมดา ๆ ระหว่างเด็กหนุ่มวัย 17 ปีและชายชาวอเมริกันที่พิเศษขึ้นมาทันทีเมื่อมาอยู่ในมือของ ลูกา กัวดานีโน (Luca Guadagnino) ผู้กำกับที่สร้างหนังราวกับใช้เวทมนตร์สะกดจิตแล้วดึงคนดูให้เข้าไปสู่โลกแห่งความฝันที่ผสมผสานความสดใสของฤดูร้อนและความเย้ายวนของชีวิตรักวัยรุ่นออกมาได้อย่างนุ่มนวล ลงตัว และครบรสครบทุกอารมณ์จริง ๆ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Call Me By Your Name
หนังสารคดีจากผู้กำกับ เจด้า โทรุน (Ceyda Torun) ที่เลือกเสนอภาพ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ผ่านมุมมองของเหล่าแมวจรทั้งหลายรอบเมือง ถือเป็นไอเดียแปลกใหม่แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า หนังสามารถพาเราลัดเลาะไปยังทุกซอกทุกมุม จนทุกคนจะต้องเผลอหลงเสน่ห์บรรยากาศความวุ่นวายและความมีชีวิตชีวาของเมืองใหญ่กันโดยไม่รู้ตัว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kedi
4. Personal Shopper
ภาพยนตร์ลึกลับสยองขวัญนำแสดงโดย คริสเตน สจ๊วต (Kristen Stewart) ในบทบาทสาวอเมริกันผู้เบื่อหน่ายกับชีวิตการงานในปารีสและเหนื่อยล้าหมดพลังชีวิตกับการที่ต้องติดต่อสื่อสารกับวิญญาณของน้องชายฝาแฝด เรื่องราวอาจฟังดูธรรมดาเหมือนหนังผีเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป แต่หนังกลับเล่นประเด็นความโศกเศร้าเสียใจที่เป็นกุญแจไขประตูระหว่างโลกคนเป็นและโลกคนตายของสองพี่น้องได้อย่างมีศิลปะและสามารถสะกดคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Personal Shopper
3. The Lost City of Z
จากหนังสือขายดีแห่งปี 2009 ของนักเขียน เดวิด แกรนน์ (David Grann) โดยผู้กำกับ เจมส์ เกรย์ (James Gray) เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตจริงของนักสำรวจหนุ่มชาวอังกฤษ เพอร์ซีย์ ฟอว์เซตต์ (แสดงโดย ชาร์ลี ฮันแนม) ผู้อุทิศชีวิตให้กับนครลับที่สาบสูญในป่าอเมซอน ที่สร้างออกมาได้งดงามชวนฝันจากภาพฉากและโทนของหนัง ทั้งยังเล่าเรื่องของมนุษย์ที่ถูกด้านมืดของจิตใจครอบงำออกมาได้อย่างทรงพลังและน่าอัศจรรย์ใจมากทีเดียว
2. Lady Bird
ภาพยนตร์จากผู้กำกับเกรต้า เกอร์วิก (Greta Gerwig) ที่เล่าเรื่องสะท้อนชีวิตของ คริสตีน (รับบทโดย เซียร์ชา โรแนน) เด็กสาวในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องเติบโตในครอบครัวยากจนพร้อมมารดาแสนจุกจิกจู้จี้ (รับบทโดย ลอรีย์ เมทคาล์ฟ) ออกมาได้อย่างแปลกใหม่ ชาญฉลาด และละมุนละไม ชวนให้ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนทั้งเปิดใจทั้งเข้าใจมากขึ้นว่า เด็กวัยรุ่นไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบที่พ่อแม่วางไว้ให้เสมอไป และการให้อิสระแก่พวกเขาในบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
1. The Post
ภาพยนตร์น้ำดีจากฝีมือการกำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) เกี่ยวกับเหตุการณ์ เอกสารลับเพนตากอน ในปี 1971 เอกสารที่จะเปิดโปงเบื้องหลังด้านมืดรัฐบาลสหรัฐฯ ของสำนักพิมพ์ชื่อดัง Washington Post นำแสดงโดยสองนักแสดงมากคุณภาพแห่งวงการฮอลลีวูด เมอรีล สตรีป (Meryl Steep) และ ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) ที่โชว์ฝีมือการทำภารกิจครั้งใหญ่ได้เข้มข้นและยอดเยี่ยมจนทำให้คนดูเข้าใจเลยว่า อำนาจในมือของสำนักพิมพ์และวงการสื่อมวลชนนั้นมีพลังขนาดพลิกประวัติศาสตร์ได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Post
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 อันดับหนังยอดเยี่ยมประจำปี 2017 จากความคิดเห็นของนิตยสารไทม์ ? หากหนังในดวงใจของคุณติดโผรายชื่อนี้อยู่ด้วยเราก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ถ้าไม่มี.. ก็อย่าลืมแสดงความเห็นและแชร์ความประทับใจต่อหนังในดวงใจของคุณให้กระปุกดอทคอมฟังบ้างนะ !
