9 หนังอาถรรพ์ กับเรื่องลี้ลับหลังกอง

          เพราะอยากเสริมความหลอนเพิ่มความสยองให้กับหนัง ผู้กำกับส่วนใหญ่จึงเลือกใช้เหตุการณ์จริง สถานที่จริง ตำนานจริง มาใช้อ้างอิงเวลาจะสร้างหนังผีหรือหนังสยองขวัญออกมาสักชิ้น และรู้หรือไม่ว่า หนังหลาย ๆ เรื่องไม่ได้น่าสนใจสำหรับคอหนังสายดาร์กเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่กลับดึงดูดให้ \'แขกที่ไม่ได้รับเชิญ\' เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกต่างหาก

          เนื่องในโอกาสที่หนังภูตผีวิญญาณยังคงฮอตฮิตตลอดกาลแบบนี้ กระปุกดอทคอม เลยเรียบเรียงข้อมูลจากเว็บไซต์ TV Over Mind รวบรวมเรื่องเล่าสยองที่เกิดขึ้นจริงในกองถ่ายหนังสยองขวัญรวม 9 เรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างเหตุขัดข้องขณะถ่ายทำ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ที่ทำเอานักแสดงและทีมงานเกือบถึงฆาตอย่างน่าประหลาด

          ถ้าคุณชอบเรื่องลี้ลับหาข้อพิสูจน์ไม่ได้แบบนี้ละก็ ไปดูกันเลยว่ามีหนังเรื่องอะไรบ้างที่ต้องเผชิญหน้ากับความเฮี้ยนของ \'แขกที่ไม่ได้รับเชิญ\' เหล่านั้น !

1. Rosemary\'s Baby (1968)

          แม้หนังคลาสสิกในตำนานเรื่องนี้จะเน้นเล่นบรรยากาศและเรื่องลึกลับชวนหลอนของเรื่องมากกว่าภูตผีวิญญาณ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีเหตุการณ์พิสดารเกิดขึ้นกับทีมงานและนักแสดงมากมาย (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ Ranker)

          • หลังจากปล่อยหนังออกสู่สายตาประชาชน โปรดิวเซอร์ วิลเลียม คาสเซิล (William Castle) ได้รับความเกลียดชังมากมายเพราะผู้คนคิดว่าเขาต้องการปลุกกระแสบูชาซาตานในสังคม วิลเลียมได้รับจดหมายสาปแช่งไม่ต่ำกว่า 50 ฉบับต่อวัน หนึ่งในนั้นเขียนว่า "คนเฮงซวย พวกบ้าที่เชื่อเรื่องแม่มด พวกบูชาลัทธิซาตาน ฉันขอทำนายว่าแกจะค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ ด้วยโรคภัยสุดแสนทรมานที่แกเอาเข้าไปใส่ตัวของแกเอง !" จากนั้นไม่นานร่างกายของวิลเลียมก็ทรุดหนักจากภาวะไตวายเฉียบพลัน โดยมีรายงานว่าเจ้าตัวตะโกนว่า "โรสแมรี่ ! ได้โปรดเถอะพระเจ้า วางมีดลง !" ตลอดเวลาขณะรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน


          • นักแต่งเพลงประกอบ คริสโตฟ โคเมดัม (Krzystof Komedam) พลัดตกหน้าผาสูงแห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิส หลังปิดจ๊อบงานจากหนังสยองเพียงไม่กี่เดือน การตกกระแทกอย่างแรงทำให้สมองของคริสโตฟ เกิดภาวะเลือดคั่งและร่างกายโคม่าจนเสียชีวิตในที่สุด นับเป็นเรื่องสลดที่ชวนประหลาดใจไม่น้อยเมื่อมองย้อนกลับไปในหนัง เพราะตัวละครชื่อ ฮัทช์ เพื่อนของโรสแมรี่ ก็ตกหน้าผาเสียชีวิตเช่นเดียวกัน

          • นอกจากตึกชื่อดัง ดาโกต้า (The Dakota) จะเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังที่ทีมงานเจอเรื่องลึกลับขณะถ่ายทำแล้ว ตึกสไตล์โกธิกเก่าแก่นี้ยังเป็นสถานที่ที่นักร้องระดับโลก จอห์น เลนนอน ถูกฆาตกรรมอีกด้วย แม้จอห์นจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องโดยตรงกับหนัง แต่หนึ่งในนักแสดง มีอา ฟาร์โรว์ (Mia Farrow) เป็นเพื่อนกับจอห์น และหากอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เป็นแรงบันดาลใจของหนัง เมื่อตอนที่ครอบครัวแมนสันลงมือฆ่า ชารอน เทต พวกเขาใช้เลือดสีแดงสดเขียนคำว่า "Helter Skelter" ไว้บนกำแพง ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในเพลงดังของวง The Beatles ที่ จอห์น เลนนอน เป็นสมาชิกอยู่อีกด้วย (คลิก: ครบรอบวันเกิด 70 ปี จอห์น เลนนอน)


2. The Exorcist (1973)

          จากเรื่องจริงที่บันทึกเอาไว้ในหนังสือ The Exorcist โดย วิลเลียม ปีเตอร์ (William Peter) เมื่อปี 1971 สู่ภาพยนตร์สยองขึ้นหิ้งของใครหลายคน อันเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุประหลาดจนใคร ๆ ต่างก็บอกว่าหนังเรื่องนี้โดนคำสาปของจริงเข้าแล้ว (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ The 13th Floor) 


          • ระยะเวลาการถ่ายทำหนังต้องยืดออกไป เนื่องจากเกิดเหตุเพลิงไหม้จนสถานที่ถ่ายทำเป็นจุณ ทำให้ทีมงานต้องลงมือสร้างฉากทั้งหมดขึ้นมาใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าต้นเหตุของเชื้อเพลิงนั้นมาจากไหน แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ฉากห้องนอนของ เรแกน แม็คนีล (Regan MacNiel) เด็กสาวผู้ถูกผีสิง ไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

          • ในช่วงเวลาระหว่างการสร้างหนัง น่าประหลาดที่มีนักแสดงและผู้ใกล้ชิดเสียชีวิตถึง 9 คนด้วยกัน ตั้งแต่หนึ่งในทีมงานกองถ่าย, คุณปู่ของลินดา แบลร์ (Linda Blair), พี่ชายของแม็กซ์ วอน ไซโดว์ (Max Von Sydow) ที่เสียชีวิตในวันที่แม็กซ์เปิดกล้องถ่ายทำวันแรก, แจ็ค แม็คโกว์แรน (Jack MacGowran) และ วาซิลิกี้ มาเลียโรส (Vasiliki Maliaros) ที่เสียชีวิตหลังจากถ่ายทำเสร็จไม่นาน (ตัวละครที่ทั้งคู่รับบทเองก็เสียชีวิตในเรื่องเช่นกัน) รวมถึงเหตุสลดที่ลูกชายของผู้พากย์เสียงปีศาจ เมอเซเดส แม็คแคมบริดจ์ (Mercesar NcCambridge) ฆาตกรรมภรรยาและลูกสาวทั้งสองก่อนฆ่าตัวตายตาม


3. The Omen (1976)


          หนังสยองว่าด้วยเรื่องของทายาทแห่งซาตานและอาถรรพ์หมายเลข 6 ที่ตามออกมาหลอกหลอนเหล่าทีมงานกันถึงนอกจอไม่เว้นวัน สมตำแหน่งหนึ่งในสุดยอดหนังต้องคำสาปจริง ๆ (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ The Silver Screen Critic)

          • เริ่มต้นด้วยเหตุรอดตายปาฏิหาริย์ของเหล่าทีมงานที่รถคว่ำระหว่างเดินทางไปยังกองถ่าย ตามมาด้วยเหตุประหลาดมากมาย เช่น สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์พยศกับผู้ฝึกของตัวเอง และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ Longleat Safari Park ถูกฆาตกรรมปริศนาหลังจากทีมงานสิ้นสุดการถ่ายทำฉากในสวนสัตว์เพียงวันเดียว

          • หลังปิดกล้อง เครื่องบินที่นักแสดง เกรกอรี่ เป็ก (Gregory Peck) ใช้เดินทางกลับลอนดอน ต้องติดอยู่ในสภาพอากาศแปรปรวน ทั้งพายุ และฟ้าผ่า อยู่เป็นเวลานาน ซึ่งน่าแปลกที่หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ เครื่องบินของโปรดิวเซอร์ เมซ นิวเฟลด์ (Mace Neufeld) ก็เจอเหตุน่าหวั่นใจเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน.. เท่านี้ยังไม่พอ เมื่อ เกรกอรี่ พบว่าไฟลต์บินไปอิสราเอลที่ยกเลิกไปนั้น เกิดเหตุระเบิดและร่วงโหม่งโลกโดยไม่มีผู้โดยสารหรือลูกเรือรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว


          • ขณะที่คนอื่นต้องเผชิญกับพายุกลางอากาศ โปรดิวเซอร์ ฮาร์วีย์ เบิร์นฮาร์ด (Harvey Bernhard) ถูกสายฟ้าผ่าเฉียดตัวเขาไปเพียงนิดเดียวในกรุงโรม อิตาลี และหลังจากนั้นไม่นาน โรงแรมที่ผู้กำกับ ริชาร์ด ดอนเนอร์ (Richard Donner) พักอาศัยอยู่ ยังเกิดเหตุก่อการร้ายระเบิดโดยกลุ่มกองกำลังชาวไอริช (I.R.A.) อีกต่างหาก

          • วันที่ 13 สิงหาคม 1976 ดีไซเนอร์ จอห์น ริชาร์ดสัน (John Richardson) ประสบอุบัติเหตุรถชนทำให้เพื่อนร่วมทางสาวเสียชีวิต 1 คน แต่ที่น่าขนลุกยิ่งกว่านั้นคือ อาการบาดเจ็บและท่าทางตอนที่สิ้นลมของเธอนั้นออกมาในลักษณะเดียวกันกับที่จอห์น ออกแบบไว้สำหรับฉากการตายของหนึ่งในตัวละครไม่ผิดเพี้ยน ยิ่งกว่านั้น ป้ายบอกทางที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุยังบอกว่าพวกเขากำลังเดินทางสู่ "เมือง Ommen" ในอีก "6.66 กิโลเมตร" ซึ่งเป็นชื่อและตัวเลขที่พ้องกับหนังโดยตรงอีกด้วย


4. หนังชุด Poltergeist (1982/1986/1988)


          หนังวิญญาณขังสยองที่เชื่อว่าเหล่าทีมงานและนักแสดงต้องจดจำกันไปตลอดชีวิต  (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ Grunge และเว็บไซต์ New York Times) 

          • ในช่วงเวลา 6 ปีที่หนังทั้ง 3 ภาคเข้าฉายและถ่ายทำ มีนักแสดงจากโลกนี้ไปรวม 4 คน หนึ่งในนั้นจากไปพร้อมกับเรื่องราวประหลาดที่สุดหลังปิดกล้องถ่ายทำหนังภาคแรกไม่นาน ซึ่งก็คือ โดมินิก ดันน์ (Dominique Dunne) ผู้รับบท ดาน่า ซึ่งโดนแฟนเก่าของเธอรัดคอจนอาการโคม่า ก่อนเสียชีวิตในอีก 5 วันถัดมา เนื่องจากเครื่องให้ออกซิเจนดับโดยไม่ทราบสาเหตุ แถมฆาตกรยังอ้างว่ามีผีมาสั่งให้เขาปลิดชีพของเธอเพราะไม่อยากให้เธอแสดงหนังเรื่องนี้ ทั้งยังมีข่าวลืออีกว่า เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ระหว่างทั้งคู่มีปากเสียงกันเปิดเพลงประกอบของหนัง Poltergeist เพื่อกลบเสียงทะเลาะของทั้งคู่อีกด้วย

          • จากนั้นในปี 1985 จูเลียน เบ็ก (Julian Back) นักแสดงจากภาค 2 ก็เสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยโรคมะเร็ง ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวหมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำและไม่เคยพบความผิดปกติใดมาก่อน ตามด้วย วิล แซมป์สัน (Will Sampson) ที่เสียชีวิตด้วยภาวะขาดสารอาหารและไตวาย ในปี 1987 ปิดท้ายด้วยนักแสดงเด็ก ฮีเธอร์ โอ เริร์ค (Heather O\'Rourke) ผู้รับบท แครอล แอนน์ ทั้ง 3 ภาค ที่เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่เรื้อรังและภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

          • วันหนึ่งขณะถ่ายทำ นักแสดง โอลิเวอร์ โรบินส์ (Oliver Robins) ถูกหุ่นตัวตลกปีศาจที่ควบคุมโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์บีบเข้าที่ลำคอจริงจนเกือบขาดอากาศหายใจ แต่โชคดีที่โปรดิวเซอร์ สตีเว่น สปีลเบิร์ก สังเกตอาการผิดปกติและรีบดึงตัวเขาออกมาได้ทันเวลาพอดี


          • ริชาร์ด ลอว์สัน (Richard Lawson) เกือบเสียชีวิตเพราะเหตุเครื่องบินตกเมื่อปี 1992 แต่เขากลับเป็น 1 ใน 24 ผู้รอดชีวิตจากผู้โดยสารทั้งหมด 51 คน เนื่องจากริชาร์ดมีโอกาสสลับที่นั่งกับแฟนคลับคนหนึ่งที่มอบที่นั่งของเขาในชั้นเฟิร์สคลาสเป็นของขวัญตอบแทนสำหรับลายเซ็นของนักแสดงหนุ่ม แต่การสลับที่ในครั้งนั้นกลับทำให้แฟนคลับคนนั้นเสียชีวิตแทน เพราะที่นั่งเดิมของริชาร์ด อยู่ในส่วนที่พุ่งชนพื้นเข้าเต็ม ๆ ในขณะที่ที่นั่งใหม่ในชั้นเฟิร์สคลาสตกลงในทะเล และนั่นทำให้มีผู้โดยสารรอดชีวิตเกือบครึ่งลำด้วยกัน

5. The Passion of The Christ (2004)


          อาจไม่ใช่เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหนัง The Passion of The Christ นั้นราวกับต้องคำสาป ทั้งเรื่องอุบัติเหตุเจ็บตัวในกองถ่าย ภัยธรรมชาติสายฟ้าฟาด และชีวิตที่ตกต่ำของนักแสดงนำ จิม คาวีเซล (Jim Caviezel) หลังจากตัดสินใจรับบท พระเยซู ในเรื่องนี้ (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ Looper)

          • ไม่น่าเชื่อว่าเหตุสายฟ้าผ่าคนที่เกิดขึ้นประมาณ 240,000 ครั้งต่อปี กลับเกิดขึ้นในกองถ่ายหนังศาสนาเรื่องนี้ถึง 3 ครั้ง 3 คราด้วยกัน ผู้เคราะห์ร้ายรายแรกคือหนุ่ม จิม คาวีเซล ที่เล่าว่า ทันทีที่โดนฟ้าผ่าในฉากสุดท้ายของการถ่ายทำ ก็มีประกายไฟลุกขึ้นบนหัวของเขาพร้อมกับรู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นสว่างวาบขึ้นมา หลังจากนั้นไม่กี่นาที ผู้ช่วยผู้กำกับ จอน มิคาลินี่ (Jon Mikalini) ที่เดินเข้ามาดูอาการก็ถูกฟ้าผ่าด้วยอีกคน ซึ่งนั่นไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเคยเกิดเหตุฟ้าผ่ากับจอนมาแล้วก่อนหน้านี้ในกองถ่าย แต่ครั้งนั้นสายฟ้าผ่าเข้าที่ปลายร่มและทำให้ปลายนิ้วมือของเขามีรอยไหม้เท่านั้น

          • ใครจะรู้ว่าฉากทรมานโดนแส้หนามฟาดในหนังจะเป็นเรื่องเจ็บตัวจริง.. เมื่อนักแสดงประกอบกะระยะลงแรงแส้ผิดคิว เป็นเหตุให้ลวดหนามนั้นปักเข้าไปกลางหลังของ จิม คาวีเซล เข้าอย่างจัง ขนาดที่นักแสดงหนุ่มอธิบายว่า "มันแรงจนผมไม่สามารถหายใจได้เลย" เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ที่มีเหตุทำให้จิมต้องเจ็บตัวอีกครั้งขณะถ่ายทำฉากแบกกางเขนที่ทีมงานใช้วัสดุหนักราว ๆ 68 กิโลกรัม และการถ่ายทำที่ยาวนานทำให้ร่างกายของจิมทนไม่ไหว จนไหล่หลุดในที่สุด


          • หลังปิดกล้องถ่ายทำนอกเหนือจากอุบัติเหตุข้างต้น จิม คาวีเซล ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพมากมาย ทั้งปอดบวม ปอดติดเชื้อ ปวดศีรษะ ไมเกรนเรื้อรัง รวมถึงอนาคตในวงการฮอลลีวูดที่ดับวูบลง เนื่องจากหนังถูกโจมตีมากมายว่ามีเนื้อหาเหยียดชาวยิว ทำให้จิมถูกโปรดิวเซอร์เชื้อชาติยิวคว่ำบาตรถาวร ทั้งนี้ จิม ไม่เคยเสียใจที่ตัดสินใจรับบทบาทนี้ และเชื่อว่าภาคต่อ The Passion of the Christ 2 จะต้องประสบความสำเร็จและเป็นที่ฮือฮาเช่นเดียวกับภาคแรกอย่างแน่นอน


6. The Innkeepers (2011)


          หนังจากประสบการณ์จริงที่ผู้กำกับ ไท เวสต์ (Ti West) และทีมงานได้รับมาจากโรงแรม Yankee Pedler ที่พวกเขาใช้พักพิง ขณะถ่ายทำหนังอีกเรื่องชื่อ The House of the Devil (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ Indie Wire)

          • ผู้กำกับ ไท เวสต์ เล่าว่า ขณะพักอยู่ที่โรงแรม Yankee Pedler เขาเคยเห็นประตูปิดเองประจำ จอโทรทัศน์ในห้องก็เปิด-ปิดตลอดเวลา แถมห้องพักของเขายังเกือบโดนไฟไหม้อยู่หลายครั้งอีกต่างหาก ส่วนทีมงานคนอื่น ๆ ก็ชอบฝันถึงเรื่องราวที่เหมือนเป็นเรื่องจริงติดต่อกันทุกคืน


          • เมื่อกลับมายังโรงแรมอีกครั้งเพื่อถ่ายทำ The Innkeepers ไท เวสต์ เลือกห้องฮันนีมูนของโรงแรมเป็นจุดเริ่มต้นของเหล่าวิญญาณในภาพยนตร์ เนื่องจากเป็นห้องที่ใหญ่และกว่างพอดีกับการถ่ายทำ แต่นับเป็นเรื่องบังเอิญมากจริง ๆ เมื่อเขามารู้ทีหลังว่า ห้องฮันนีมูน คือห้องที่ขึ้นชื่อว่าเฮี้ยนที่สุดของโรงแรมในเรื่องจริงเช่นกัน


          • ความฝันในวันวานยังตามมาหลอกหลอนทุกคนตั้งแต่วันแรกที่กลับมาพักที่โรงแรมหลอนแห่งนี้ นักแสดง ซาร่า แพ็กซ์ตัน (Sara Paxton) เคยสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกเพราะรู้สึกว่ามีใครบางคนอยู่ในห้องกับเธอ และทีมงานคนอื่นก็ฝันเกี่ยวกับเรื่องประหลาดเช่นกัน

7. The Possession (2012)


          หนังสยองจากเรื่องราวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายหนึ่งที่สั่งซื้อ \'กล่องขังวิญญาณ Dybbuk\' มาจากเว็บไซต์ eBay ก่อนเกิดเรื่องระทึกขวัญมากมายหลังจากนั้น ไม่ต่างอะไรจากทีมงานและนักแสดงในกองถ่ายที่พบกับเรื่องประหลาดเช่นกัน ถึงแม้ว่าหนังจะใช้กล่องขังวิญญาณของปลอมที่สร้างขึ้นมาแล้วก็ตาม (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ The Hollywood Reporter)

          • นักแสดง เจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน (Jeffrey Dean Morgan) ผู้ไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติแม้แต่น้อย เล่าว่าเขาได้รับประสบการณ์ที่เขาไม่เคยได้รับในกองถ่ายหนังเรื่องอื่นมาก่อนในชีวิต นอกจากความรู้สึกที่ไม่ต้องการเข้าใกล้กล่องผีนอกฉากแล้ว เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลาถ่ายฉากสำคัญ ไฟในกองจะระเบิดและบรรยากาศรอบตัวจะเย็นลงทั้ง ๆ ที่สถานที่ถ่ายทำปิดสนิทและไม่ใช่ที่ที่มีลมโกรกเลย


          • เรื่องรุนแรงที่สุดในกองถ่ายเกิดขึ้นหลังจากปิดกล้องถ่ายทำเพียงไม่กี่วัน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ในห้องเก็บอุปกรณ์ ทำลายของประกอบฉากทั้งหมดไม่เหลือชิ้นดี รวมถึงกล่อง Dybbuk ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองอีกด้วย แน่นอนว่าหลังจากนั้นมีการสืบหาสาเหตุทันที แต่ก็น่าแปลกที่เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของการลอบวางเพลิงหรือเหตุขัดข้องทางไฟฟ้าเลยแม้แต่จุดเดียว


          หนังจากนั้นเจ้าของเหตุการณ์จริงเสนอให้ทีมงานนำกล่องไม้ Dybbuk ของจริงไปใช้ได้เผื่อมีการถ่ายซ่อมในวันข้างหน้า แม้จะรู้สึกยินดีแค่ไหน แต่ทีมงานและนักแสดงต่างก็ขอปฏิเสธโดยพร้อมเพรียงกันทันที

8. Conjuring (2013)


          สร้างจากเรื่องชวนขวัญผวาที่ครอบครัวเพอร์รอนต้องเผชิญ สู่หนังของสองสามี-ภรรยานักปราบผี ที่บอกได้เลยว่า เรื่องราวในกองถ่ายนั้นก็ลึกลับน่าขนลุกไม่แพ้กัน (ข้อมูลจาก: เว็บไซต์ Pathros)

          • เมื่อครั้งสองนักเขียน ชาด ฮาเยส (Chad Hayes) และแครีย์ ฮาเยส (Carey Hayes) กำลังคุยเรื่องบทภาพยนตร์กับ ลอร์เรน วอร์เรน จู่ ๆ ก็มีเสียงประหลาดแทรกขึ้นมาพร้อมกับเสียงคลื่นรบกวน ก่อนสัญญาณโทรศัพท์จะตัดหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุไม่กี่นาทีหลังจากนั้น

          • วันหนึ่ง ผู้กำกับ เจมส์ วาน (James Wan) กำลังเขียนบทภาพยนตร์อยู่คนเดียวกลางดึก จู่ ๆ สัตว์เลี้ยงของเขาก็เริ่มจ้องไปยังมุมหนึ่งของห้องแล้วส่งเสียงขู่คำรามอย่างดุดัน ก่อนเริ่มหันมองตามอะไรบางอย่างทั่วห้อง ทั้ง ๆ ที่ตัวของเจมส์ วาน กลับมองไม่เห็นอะไรเลย

          • ทันทีที่สมาชิกครอบครัวเพอร์รอนตัวจริงเดินทางถึงสถานที่ถ่ายทำหนังในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา จู่ ๆ ก็มีลมวูบใหญ่พัดผ่านกองถ่ายไป อาจฟังดูเหมือนเรื่องธรรมดา แต่มันดันไม่ธรรมดาตรงที่ไม่มีใครเห็นต้นไม้แถวนั้นขยับตามลมเลยแม้แต่ต้นเดียว


          • วีรา ฟาร์มิกา (Vera Farmiga) นักแสดงผู้รับบท ลอร์เรน วอร์เรน ก็เจอเหตุการณ์ลึกลับเช่นกัน เมื่อคืนหนึ่ง เธอเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาเพื่ออ่านบทภาพยนตร์ แต่กลับพบว่ามีรอยข่วนของกรงเล็บสัตว์อยู่กลางหน้าจอ "ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายมันยังไง.. ฉันรู้แค่ว่าฉันไม่ได้ทำโน้ตบุ๊กของฉันตก และลูก ๆ ของฉันไม่ได้เหยียบมัน" นักแสดงสาวกล่าว


9. The Ghost of Goodnight Lane (2014)


          สร้างจากเรื่องจริงสุดเฮี้ยนในสตูดิโอของค่ายหนัง Media World ในรัฐเทกซัส ที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์แล้วว่ามีวิญญาณสิงอยู่จริง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้โปรดิวเซอร์ อลิน ไบจาน (Alin Bijan) นำเรื่องราวและคลิปวิดีโอที่ซุ่มบันทึกเหตุการณ์จริงในสตูดิโอทั้งหมดมาบอกเล่าผ่านหนัง The Ghost of Goodnight Lane ในที่สุด (ข้อมูลจากเว็บไซต์: Screen Rant)

          • ในอดีตมีเหตุเสียชีวิตเกิดขึ้นในสตูดิโอแห่งนี้รวม 5 คนด้วยกัน ซึ่งหลังจากนั้นพนักงานรวมถึงแขกผู้เยี่ยมชมก็เริ่มเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งวนเวียนอยู่ในตึกบ่อย ๆ อุปกรณ์การถ่ายทำก็ถูกเคลื่อนย้ายเองทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยสักคน และเหตุการณ์หนักสุดที่เคยเกิดขึ้นคือ ทีมงานคนหนึ่งโดนมือปริศนาที่ไม่มีใครมองเห็นตบเข้าที่หน้าอย่างแรง

          • ในปี 2010 กองถ่ายสุดเฮี้ยนนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีผีสิงจริง อ้างอิงจากผลการพิสูจน์ด้วยวิธีต่าง ๆ และผลจากเครื่องบันทึกเสียงวิญญาณ EVP (Electronix Voice Projection) โดยนักสำรวจเรื่องลี้ลับ


          • หลังจากตัดสินใจนำเรื่องราวทั้งหมดมาสร้างเป็นหนังและใช้สตูดิโอจริงเป็นสถานที่ถ่ายทำ อลินและทีมงานก็ได้สัมผัสพลังงานบางอย่างด้วยตัวเอง เริ่มต้นจากการทักทายเบา ๆ ด้วยการกะพริบของไฟในกองถ่ายอย่างไม่ทราบสาเหตุและไร้เหตุขัดข้องทางไฟฟ้าใด ๆ ก่อนจะค่อย ๆ หนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น ไฟบนเพดานที่ตกลงมาเองระหว่างถ่ายทำ และนักแสดง บิลลี่ เซน (Billy Zane) ได้ยินเสียงแปลก ๆ กระซิบเรียกชื่อของเขาในกองถ่าย