
เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2554 ครบรอบวันเกิด 100 ปี คุโรซาวะ อากิระ

คุโรซาวะ อากิระ
เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2554 "ครบรอบวันเกิด 100 ปี คุโรซาวะ อากิระ"
เจแปน ฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ และ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย จับมือกับ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า โรงภาพยนตร์สุดล้ำ ศูนย์กลางเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ที่พร้อมรองรับและจัดฉายภาพยนตร์คุณภาพทั้งในและนอกกระแสให้แฟนหนังชาวไทย ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดศักราชใหม่กับสีสันของโลกภาพยนตร์คุณภาพด้วย "เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2554 ครบรอบวันเกิด 100 ปี คุโรซาวะ อากิระ" ระหว่างวันที่ 6 ถึง 19 มกราคม 2554 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์
คุโรซาวะ อากิระ
เจแปนฟาวน์เดชั่นสำนักงาน ใหญ่ ได้จัดเทศกาลภาพยนตร์วันครบรอบวันเกิด 100 ปี ของคุโรซาวะ อากิระ ที่เจแปน ฟาวน์เดชั่น ทั่วโลก โดยจัดฉายภาพยนตร์คลาสสิค 25 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดนับเป็นผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับคนดังทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้ชมนานาชาติ รวมทั้งผู้ชมชาวไทยได้รับชม และร่วมรำลึกถึงคุโรซาวะ เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิด 100 ปี ของเขาในปี 2553 นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมพูดคุยกับผู้กำกับไฟแรงของไทยเกี่ยวกับคุโรซาวะ เกี่ยวกับผลงานของเขา และอิทธิพลที่เขามีต่อผู้กำกับยุคหลังๆ พร้อมนิทรรศการกาลการกำกับภาพยนตร์ของ "คุโรซาวะ อากิระ" และกิจกรรมต่าง ๆ ในเทศกาลดังกล่าวอีกด้วย
คอหนังที่สนใจสามารถเข้าชมได้ "ฟรี" โดยรับตั๋ว 1 ใบ ต่อ 1 ท่าน ครึ่งชั่วโมงก่อนเวลาฉายภาพยนตร์แต่ละเรื่องได้ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ชั้น 7 โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02–268 8888 หรือ www.sfcinemacity.com และ เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพ 02-260-8560-3 หรือ www.jfbkk.or.th
วันฉาย
วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม ถึง วันพุธที่ 19 มกราคม 2554
โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิร์ดพลาซา
(พิธีเปิดในวันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม 2554 เวลา 19.00 น.)
รอบฉาย
Date | Time | Film |
วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม 2554 | 20.00 | Rashomon (88 นาที) (รอบเปิด) 羅生門 (Rashomon) |
วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2554 | 19.00 | The Quiet Duel (95 นาที) 静かなる決闘(Shizukanaru Ketto) |
วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2554 | 11.00 13.20 15.40 18.00 | Sanshiro Sugata (81 นาที) 姿三四郎 (Sugata Sanshiro) The Most Beautiful (85 นาที) 一番美しく (Ichiban Utsukushiku) Sanshiro Sugata II (82 นาที) 続・姿三四郎 (Zoku Sugata Sanshiro) The Idiot (166 นาที) 白痴 (Hakuchi) |
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554 | 11.00 13.40 16.20 19.00 | No Regrets for Our Youth (110 นาที) わが青春に悔なし (Waga Seishun ni Kuinashi) One Wonderful Sunday (108 นาที) 素晴らしき日曜日 (Subarashiki Nichiyoubi) Drunken Angel (98 นาที) 酔いどれ天使 (Yoidore Tenshi) Scandal (104 นาที) 醜聞-スキャンダル(Shubun) |
วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2554 | 19.00 | Stray Dog (122 นาที) 野良犬 (Nora Inu) |
วันอังคารที่ 11 มกราคม 2554 | 19.00 | Those Who Step on the Tail of the Tiger 虎の尾を踏む男たち (Tora no O wo Fumu Otokotachi) (59 นาที) |
วันพุธที่ 12 มกราคม 2554 | 19.00 | Ikiru (143 นาที) 生きる (Ikiru) |
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554 | 19.00 | Seven Samurai (207 นาที) 七人の侍 (Shichinin no Samurai) |
วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 | 19.00 | I Live In Fear (113 นาที) 生きものの記録 (Ikimono no Kiroku) |
วันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2554 | 11.00 13.40 16.30 18.30 | Throne Of Blood (110 นาที) 蜘蛛巣城 (Kumonosu-jo) The Lower Depths (125 นาที) どん底 (Donzoko) The Hidden Fortress (139 นาที) 隠し砦の三悪人 (Kukushi-Toride no San-Akunin) Talk on Kurosawa: Life, Works and Inspiration พูดคุยเกี่ยวกับคุโรซาวะ – ชีวิต ผลงาน และแรงบันดาลใจ |
วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554 | 11.00 14.20 17.00 19.30 | The Bad Sleep Well (151 นาที) 悪い奴ほどよく眠る (Warui Yatsu Hodo Yoku Nemuru) Yojimbo (110 นาที) 用心棒 (Yojimbo) Sunjuro (96 นาที) 椿三十郎 (Tsubaki Sanjuro) Madadayo (134 นาที) まあだだよ (Madadayo) |
วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2554 | 19.00 | High and Low (143 นาที) 天国と地獄 (Tengoku to Jigoku) |
วันอังคารที่ 18 มกราคม 2554 | 19.00 | Red Beard (185 นาที) 赤ひげ (Akahige) |
วันพุธที่ 19 มกราคม 2554 | 19.00 | Dodes\'ka-den (140 นาที) どですかでん (Dodes’kaden) |
** ภาพยนตร์ทุกเรื่องมีคำบรรยายภาษาอังกฤษ
วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม 2554

Rashomon (รอบเปิด)
羅生門 (Rashomon)
B&W / 1950 / 88 นาที
ภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์เรื่องนี้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์เวนิสในปี 1951 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์ญี่ปุ่นได้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซ้ำยังชนะรางวัล Grand Prix และยังได้รางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีตุ๊กตาทองของสหรัฐ อีกด้วย ทำให้ชื่อของคุโรซาวะโด่งดังไปทั่วโลก
羅生門 (Rashomon)
B&W / 1950 / 88 นาที
ภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์เรื่องนี้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์เวนิสในปี 1951 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์ญี่ปุ่นได้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซ้ำยังชนะรางวัล Grand Prix และยังได้รางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีตุ๊กตาทองของสหรัฐ อีกด้วย ทำให้ชื่อของคุโรซาวะโด่งดังไปทั่วโลก
วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2554

Quiet Duel
静かなる決闘(Shizukanaru Ketto)
B&W / 1949 / 95 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ดัดแปลงมาจากละครเวทีของ คิคุตะ คาสุโอะ ตัวเอกของเรื่อง ซึ่งเป็นนายแพทย์ทหาร ติดเชื้อซิฟิลิสโดยไม่ตั้งใจจากอุบัติเหตุเล็กๆ ระหว่างการรักษาผู้ป่วย เมื่อกลับมาที่ญี่ปุ่น เขาก็เลิกกับคนรัก และตั้งมั่นพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งการต่อสู้กับโรคร้ายคือ "ต่อสู้อย่างเงียบๆ" ที่ตัวเอกของเรื่องต้องเผชิญนั่นเอง
静かなる決闘(Shizukanaru Ketto)
B&W / 1949 / 95 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ดัดแปลงมาจากละครเวทีของ คิคุตะ คาสุโอะ ตัวเอกของเรื่อง ซึ่งเป็นนายแพทย์ทหาร ติดเชื้อซิฟิลิสโดยไม่ตั้งใจจากอุบัติเหตุเล็กๆ ระหว่างการรักษาผู้ป่วย เมื่อกลับมาที่ญี่ปุ่น เขาก็เลิกกับคนรัก และตั้งมั่นพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งการต่อสู้กับโรคร้ายคือ "ต่อสู้อย่างเงียบๆ" ที่ตัวเอกของเรื่องต้องเผชิญนั่นเอง
วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2554

Sanshiro Sugata
姿三四郎 (Sugata Sanshiro)
B&W / 1943 / 81 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่คุโรซาวะ รับหน้าที่กำกับเต็มตัว ซึ่งความจริงตอนที่ยังเป็นเพียงผู้ช่วยผู้กำกับ คุโรซาวะก็ทำหน้าที่กำกับการแสดงแล้ว แม้จะเป็นเพียงบางส่วนของภาพยนตร์ จากประสบการณ์เช่นนั้น คุโรซาวะจึงมีความรู้เพียงพอเมื่อเขากำกับภาพยนตร์ของตัวเองทั้งที่ยังเป็น ผู้กำกับหน้าใหม่
姿三四郎 (Sugata Sanshiro)
B&W / 1943 / 81 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่คุโรซาวะ รับหน้าที่กำกับเต็มตัว ซึ่งความจริงตอนที่ยังเป็นเพียงผู้ช่วยผู้กำกับ คุโรซาวะก็ทำหน้าที่กำกับการแสดงแล้ว แม้จะเป็นเพียงบางส่วนของภาพยนตร์ จากประสบการณ์เช่นนั้น คุโรซาวะจึงมีความรู้เพียงพอเมื่อเขากำกับภาพยนตร์ของตัวเองทั้งที่ยังเป็น ผู้กำกับหน้าใหม่

The Most Beautiful
一番美しく (Ichiban Utsukushiku)
B&W / 1944 / 85 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สอง ของคุโรซาวะ ซึ่งดูเผินๆ อาจจะเหมือนภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อทั่วไปในในสมัยนั้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นพิเศษที่มีอยู่ในผลงานต่อๆ มาของเขาด้วยเช่นกัน
一番美しく (Ichiban Utsukushiku)
B&W / 1944 / 85 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สอง ของคุโรซาวะ ซึ่งดูเผินๆ อาจจะเหมือนภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อทั่วไปในในสมัยนั้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นพิเศษที่มีอยู่ในผลงานต่อๆ มาของเขาด้วยเช่นกัน

Sanshiro Sugata II
続・姿三四郎 (Zoku Sugata Sanshiro)
B&W / 1945 /82 นาที
สร้างจากนวนิยายของทซึเนโอะ โทมิตะ เรื่อง Judo Saga Part II นี้ถ่ายทำในช่วงต้นปี 1945 ในญี่ปุ่นต่อเนื่องจนถึงเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองจบลง ในช่วงศตวรรษที่ 1880 นักเรียนยูโดคนหนึ่งต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อเป็นสุดยอดยูโดต่อจากปรมาจารย์ผู้ก่อ ตั้ง
続・姿三四郎 (Zoku Sugata Sanshiro)
B&W / 1945 /82 นาที
สร้างจากนวนิยายของทซึเนโอะ โทมิตะ เรื่อง Judo Saga Part II นี้ถ่ายทำในช่วงต้นปี 1945 ในญี่ปุ่นต่อเนื่องจนถึงเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองจบลง ในช่วงศตวรรษที่ 1880 นักเรียนยูโดคนหนึ่งต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อเป็นสุดยอดยูโดต่อจากปรมาจารย์ผู้ก่อ ตั้ง

The Idiot
白痴 (Hakuchi)
B & W / 1951 / 166 นาที
ด้วยความนับถือต่อผลงานต้นฉบับของ ฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี คุโรซาวะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ตรงตามบทประพันธ์โดยไม่ดัดแปลง "บุคคลที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาเช่นนั้น มีชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉลนี้ได้อย่างไรหนอ" คุโรซาวะตอบคำถามนี้ด้วยการจับภาพที่สื่อความหมายถึงประโยคดังกล่าว และได้พัฒนาลักษณะการแสดงออกทางจิตวิญญาณที่นับเป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับ การผลิตภาพยนตร์ของญี่ปุ่น
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554

No Regrets for Our Youth
わが青春に悔なし
(Waga Seishun ni Kuinashi)
B&W / 1946 / 110 นาที
ตัวเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจาก เรื่องอื่น ๆ ของคุโรซาวะเพราะเป็นผู้หญิง และยังเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องแรก ที่บอกเล่าอัตตาของผู้หญิงอย่างทรงพลัง ฮาระ เซทซึโกะ รับบทตัวเอกได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่จะแสดงเรื่องนี้คนดูมักจะคุ้นเคยกับเธอในบทนางเอกสาวที่เฉลียวฉลาด
ตัวเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจาก เรื่องอื่น ๆ ของคุโรซาวะเพราะเป็นผู้หญิง และยังเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องแรก ที่บอกเล่าอัตตาของผู้หญิงอย่างทรงพลัง ฮาระ เซทซึโกะ รับบทตัวเอกได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่จะแสดงเรื่องนี้คนดูมักจะคุ้นเคยกับเธอในบทนางเอกสาวที่เฉลียวฉลาด

One Wonderful Sunday
素晴らしき日曜日
(Subarashiki Nichiyoubi)
B&W / 1947 / 108 นาที
คุโรซาวะใช้เรื่องราววันหนึ่งในชีวิตของคู่ รักที่ยากจน แสดงให้เห็นสภาพยับเยินของประเทศหลังสงคราม แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีแต่ความสลดหดหู่ของมันด้วยการจับเอาแนวความคิด แบบเสรีที่เกิดขึ้นเมื่อสงครามเลิก คำว่า Wonderful ในชื่อเรื่องนั้น มีนัยแฝงถึงแนวความคิดแบบเสรีนี้เอง
คุโรซาวะใช้เรื่องราววันหนึ่งในชีวิตของคู่ รักที่ยากจน แสดงให้เห็นสภาพยับเยินของประเทศหลังสงคราม แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีแต่ความสลดหดหู่ของมันด้วยการจับเอาแนวความคิด แบบเสรีที่เกิดขึ้นเมื่อสงครามเลิก คำว่า Wonderful ในชื่อเรื่องนั้น มีนัยแฝงถึงแนวความคิดแบบเสรีนี้เอง

Drunken Angel
酔いどれ天使 (Yoidore Tenshi)
B&W / 1948 / 98 นาที
คุโรซาวะสร้างรูปแบบเฉพาะที่มีชีวิตชีวาจาก การแสดงออกอันทรงพลัง โดยยังคงไว้ซึ่งความรู้สึกรักเพื่อนมนุษย์และความยุติธรรม เขาจับภาพความวุ่นวายของประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามได้อย่างแจ่มชัดด้วยฉากตลาด มืดในภาพยนตร์เรื่องนี้ อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องแรกที่มิฟุเนะ โตชิโรในวัยหนุ่มร่วมงานกับคุโรซาวะ มิฟุเนะแสดงได้อย่างเยี่ยมยอด และได้รับความสนใจในฐานะนักแสดงหน้าใหม่มากความสามารถทันทีที่ภาพยนตร์ออก ฉาย
คุโรซาวะสร้างรูปแบบเฉพาะที่มีชีวิตชีวาจาก การแสดงออกอันทรงพลัง โดยยังคงไว้ซึ่งความรู้สึกรักเพื่อนมนุษย์และความยุติธรรม เขาจับภาพความวุ่นวายของประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามได้อย่างแจ่มชัดด้วยฉากตลาด มืดในภาพยนตร์เรื่องนี้ อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องแรกที่มิฟุเนะ โตชิโรในวัยหนุ่มร่วมงานกับคุโรซาวะ มิฟุเนะแสดงได้อย่างเยี่ยมยอด และได้รับความสนใจในฐานะนักแสดงหน้าใหม่มากความสามารถทันทีที่ภาพยนตร์ออก ฉาย

Scandal
醜聞-スキャンダル(Shubun)
B & W / 1950 / 104 นาที
เมื่อนักร้องสาวสวยคนดังถูกถ่ายรูปคู่กับ ศิลปินหนุ่มดาวรุ่ง เรื่องอื้อฉาวต่างๆ ก็ถูกนั่งเทียนเขียนตามมา เหตุการณ์เช่นนี้ยังเกิดขึ้นแม้ในปัจจุบัน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุโรซาวะถ่ายทอดความขึ้งโกรธของเขาที่มีต่อความอยุติธรรมทางสังคมด้วยการบอก เล่าอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อนักร้องสาวสวยคนดังถูกถ่ายรูปคู่กับ ศิลปินหนุ่มดาวรุ่ง เรื่องอื้อฉาวต่างๆ ก็ถูกนั่งเทียนเขียนตามมา เหตุการณ์เช่นนี้ยังเกิดขึ้นแม้ในปัจจุบัน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุโรซาวะถ่ายทอดความขึ้งโกรธของเขาที่มีต่อความอยุติธรรมทางสังคมด้วยการบอก เล่าอย่างตรงไปตรงมา
วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2554

Stray Dog
野良犬 (Nora Inu)
B&W / 1949 / 122 นาที
เมื่อตำรวจหนุ่มมือใหม่โดนขโมยปืนที่บรรจุ กระสุนเต็ม 7 นัดไป และถูกนำไปใช้ทำร้ายและฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ เขาพยายามอย่างเต็มที่จนจับตัวมือปืนได้ในที่สุด คุโรซาวะใช้การถ่ายทำรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการถ่ายลำดับเหตุการณ์ต่อเนื่องในเวลาเดียวกันด้วยกล้องหลายตัว รวมถึงการใช้เลนส์เทเลสโคปด้วย ซึ่งการถ่ายแบบนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง และกลายเป็นเทคนิคการถ่ายทำที่เขาใช้บ่อยในเวลาต่อมา
วันอังคารที่ 11 มกราคม 2554
เมื่อตำรวจหนุ่มมือใหม่โดนขโมยปืนที่บรรจุ กระสุนเต็ม 7 นัดไป และถูกนำไปใช้ทำร้ายและฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ เขาพยายามอย่างเต็มที่จนจับตัวมือปืนได้ในที่สุด คุโรซาวะใช้การถ่ายทำรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการถ่ายลำดับเหตุการณ์ต่อเนื่องในเวลาเดียวกันด้วยกล้องหลายตัว รวมถึงการใช้เลนส์เทเลสโคปด้วย ซึ่งการถ่ายแบบนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง และกลายเป็นเทคนิคการถ่ายทำที่เขาใช้บ่อยในเวลาต่อมา
วันอังคารที่ 11 มกราคม 2554

Those Who Step on the Tail of the Tiger
虎の尾を踏む男たち
(Tora no O wo Fumu Otokotachi)
B&W / 1945 / 58 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเค้าโครงมาจากบทมินาโม โตะ โนะ โยชิซึเนะเดินทางข้ามด่านอาทากะ ซึ่งมีการนำมาแสดงเป็นละครโนห์ เรียกว่าบท "อาทากะ" และเป็นละครคาบุกิเรื่อง "คันจินโจ" แต่เมื่อถ่ายทำเสร็จในช่วงเดือนกันยายน 1945 กลับถูกห้ามฉายจากกองกำลังสัมพันธมิตรที่ปกครองญี่ปุ่นขณะนั้น กว่าจะได้ออกฉายคือในปี 1952 เมื่อญี่ปุ่นเป็นอิสระจากภาวะการถูกปกครองหลังสงคราม
ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเค้าโครงมาจากบทมินาโม โตะ โนะ โยชิซึเนะเดินทางข้ามด่านอาทากะ ซึ่งมีการนำมาแสดงเป็นละครโนห์ เรียกว่าบท "อาทากะ" และเป็นละครคาบุกิเรื่อง "คันจินโจ" แต่เมื่อถ่ายทำเสร็จในช่วงเดือนกันยายน 1945 กลับถูกห้ามฉายจากกองกำลังสัมพันธมิตรที่ปกครองญี่ปุ่นขณะนั้น กว่าจะได้ออกฉายคือในปี 1952 เมื่อญี่ปุ่นเป็นอิสระจากภาวะการถูกปกครองหลังสงคราม
วันพุธที่ 12 มกราคม 2554

Ikiru
生きる (Ikiru)
B&W / 1952 / 143 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงลูกจ้างที่ขยันขัน แข็งของสำนักงานเทศบาลที่ไม่เคยลาหยุดเลยตลอด 30 ปี แต่เมื่อได้รู้ว่าเป็นมะเร็งกระเพาะ และเหลือเวลาบนโลกนี้อีกไม่นาน เขาก็เริ่ม "ใช้ชีวิต" อย่างแท้จริงโดยอุทิศตนเพื่อประชาชนและสังคม ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นตัวแทนของผลงานชิ้นเอกของคุโรซาวะซึ่งได้รับเสียง ชมเชยมากมาย
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554
生きる (Ikiru)
B&W / 1952 / 143 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงลูกจ้างที่ขยันขัน แข็งของสำนักงานเทศบาลที่ไม่เคยลาหยุดเลยตลอด 30 ปี แต่เมื่อได้รู้ว่าเป็นมะเร็งกระเพาะ และเหลือเวลาบนโลกนี้อีกไม่นาน เขาก็เริ่ม "ใช้ชีวิต" อย่างแท้จริงโดยอุทิศตนเพื่อประชาชนและสังคม ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นตัวแทนของผลงานชิ้นเอกของคุโรซาวะซึ่งได้รับเสียง ชมเชยมากมาย
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554

Seven Samurai
七人の侍 (Shichinin no Samurai)
B&W / 1954 / 207 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่คุ โรซาวะได้แสดงความสามารถอันทรงพลังและพรสวรรค์ได้สูงสุด เรื่องราวแบ่งออกเป็นช่วงๆ เริ่มตั้งแต่การที่ชาวบ้านตัดสินใจจ้างซามูไรมาคุ้มกัน โดยจ้างคัมเบอินักรบผู้จัดเจนเป็นคนแรก จากนั้นเขาออกเดินทางรวบรวมซามูไรคนอื่นๆ ที่มีความสามารถพิเศษและนิสัยแตกต่างกัน ทำให้เรื่องราวสนุกสนานน่าติดตามอย่างมาก
七人の侍 (Shichinin no Samurai)
B&W / 1954 / 207 นาที
ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่คุ โรซาวะได้แสดงความสามารถอันทรงพลังและพรสวรรค์ได้สูงสุด เรื่องราวแบ่งออกเป็นช่วงๆ เริ่มตั้งแต่การที่ชาวบ้านตัดสินใจจ้างซามูไรมาคุ้มกัน โดยจ้างคัมเบอินักรบผู้จัดเจนเป็นคนแรก จากนั้นเขาออกเดินทางรวบรวมซามูไรคนอื่นๆ ที่มีความสามารถพิเศษและนิสัยแตกต่างกัน ทำให้เรื่องราวสนุกสนานน่าติดตามอย่างมาก
วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554

I Live in Fear
生きものの記録 (Ikimono no Kiroku)
B&W / 1955 / 113 นาที
ในปี 1954 ซึ่งเป็นปีที่คุโรซาวะสร้าง "Seven Samurai" เรือประมงของญี่ปุ่นโดนกัมมันตภาพรังสีจากการทดลองระเบิดไฮโดรเจนที่เกาะบิ กินิ ลูกเรือคนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น ข่าวนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คุโรซาวะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับความหวาดกลัวอาวุธ นิวเคลียร์
生きものの記録 (Ikimono no Kiroku)
B&W / 1955 / 113 นาที
ในปี 1954 ซึ่งเป็นปีที่คุโรซาวะสร้าง "Seven Samurai" เรือประมงของญี่ปุ่นโดนกัมมันตภาพรังสีจากการทดลองระเบิดไฮโดรเจนที่เกาะบิ กินิ ลูกเรือคนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น ข่าวนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คุโรซาวะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับความหวาดกลัวอาวุธ นิวเคลียร์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย, jfbkk.or.th, kurosawa-drawings.com